หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิวร้าน "ย่างงาย" ยากินิคุเนื้อวากิวราคาประหยัดเริ่มต้นแค่ถาดละ 39 บาท อยู่บนถนนราชพฤกษ์-ตลิ่งชัน~
กระทู้รีวิว
อาหารคาว
อาหารปิ้งย่าง
อาหารญี่ปุ่น
ร้านอาหาร
อาหารจานเดียว
หากนึกถึงร้านยากินิคุสไตล์ญี่ปุ่นที่เสิร์ฟเนื้อวากิวคุณภาพสูงหลายๆคนคงคิดว่าต้องเป็นร้านสุดหรูราคาแพงตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่วันนี้เราพามาร้านที่ฉีกกฎนิยามเดิมๆเหล่านั้นด้วยเนื้อวากิว A3 ราคาเริ่มต้นแค่ถาดละ 39 บาท ชื่อร้านว่า "ย่างงาย" ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ช่วงแขวงบางเชือกหนัก-เขตตลิ่งชัน ถ้าใครขับรถบนถนนเส้นนี้บ่อยๆมักจะคุ้นกับร้าน "แพนนา" บุฟเฟ่ต์เนื้อย่างกระทะร้อนและอาหารอีสานซึ่งได้ปิดกิจการไปแล้วแต่มีร้านนี้มาเปิดใหม่แทนจุดเดิม วิธีการเดินทางหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวให้ปักหมุดมาตามแผนที่บนมือถือสามารถจอดรถได้ที่ริมถนนหน้าร้านยาวตลอดทั้งแนว ถ้าเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะจะนั่ง BTS หรือ MRT ก็ได้มาลงสถานีบางหว้าแล้วเรียกรถเข้ามาที่ร้านอีกประมาณ 5 กิโลเมตร จุดสังเกตเป็นป้ายสีขาวขนาดใหญ่และรูปน้องวัวจมูกโตนั่งขมวดคิ้วอยู่หน้าเตาถ่านแบบนี้แสดงว่ามาถึงแล้วครับ สำหรับใครที่เป็นลูกค้าเก่าร้านแพนนาที่คุ้นกับรูปปั้นวัวหน้าร้านก็ไม่ได้หายไปไหนแต่ถูกย้ายตำแหน่ง-ทาสีใหม่ทำให้ดูดีกว่าเดิมขึ้นหลายเท่า ตอนนี้ร้านเพิ่งเปิดเข้าไปด้านในกันเลยครับ
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์ Loft พื้นปูนเปลือย-ผนังไม้-หลังคาเห็นโครงสร้างผสมกับ Vintage ย้อนยุคด้วยของตกแต่ง-กระจกสี-ไฟกลมสีส้ม โดยรักษาโครงร้านเก่าเอาไว้เกือบ 80% และขยายโต๊ะ-เก้าอี้นั่งให้เต็มพื้นที่มากยิ่งขึ้น โซนแรกเป็นแบบ Outdoor เปิดโล่งรับลมธรรมชาตินั่งชิลล์ๆมองท้องฟ้าและรถยนต์วิ่งบนถนนราชพฤกษ์ผ่านไป-มา (หากใครอยากนั่งตรงนี้ต้องรีบมาหน่อยเพราะมีแค่ 4 โต๊ะ) โซนที่สองคือด้านในหลังคาขนาดใหญ่สามารถรองรับลูกค้าได้กลุ่มใหญ่กว่าด้านนอก ส่วนระบบระบายอากาศของร้านนี้เป็นแบบเปิดพัดลมยักษ์เพื่อให้ควันและกลิ่นออกไปทางหลังร้านไม่ได้มีระบบท่อดูดอาจต้องทำใจเรื่องกลิ่นและควันติดหัวหน่อย อุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นต่อการทานปิ้งย่างถูกวางเอาไว้บนโต๊ะทั้งกรรไกร-ที่คีบ-ถ้วยน้ำจิ้ม-จาน-ตะเกียบไม้จิ้มฟัน-ใบสั่งอาหารและผ้าให้ทำความสะอาดบนโต๊ะด้วยตัวเอง มาถึงก็ขอดูเมนูของที่ร้านก่อนเลยว่ามีอะไรให้เราสั่งบ้างมาดูไปด้วยกันครับ
เมนูของที่ร้านมีให้สั่งไม่เยอะมากและขายราคาไม่แรงนักเริ่มจากหน้าแรกเป็นเนื้อบริสเกตวากิว A4 ถาดละ 49 บาท/Outside flat หรือเนื้อพับนอกวากิว A3 ราคาถาดละ 39 บาท/เนื้อวัวนำเข้าจาก U.S.A. ตรงส่วนท้องราคาถาดละ 39 บาท/ลิ้นวัวอาร์เจนติน่าราคาถาดละ 39 บาท/เนื้อส่วนโหนกจากโคขุนไทยราคาถาดละ 39 บาท/เนื้อวัวส่วนริปอายโคขุนราคาถาดละ 39 บาท หน้าต่อไปเป็นหมูคุโรบูตะ/เบคอนรมควัน/หมูสามชั้น/สันนอกหมู/สันคอหมูราคาถาดละ 39 บาท ซีฟู๊ดมีทั้งหอยเชลล์/ปลาหมึก/หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์และกุ้งสดราคาถาดละ 39 บาท เครื่องเคียงต่างๆราคา 19-59 บาท อาหารทานเล่นเริ่มต้นที่ 49-129 บาท เครื่องดื่มต่างๆเริ่มต้นที่ 15 บาท สุดท้ายเป็นของหวานมีแค่ 2 เมนูราคา 29 และ 79 บาท อยากทานอะไรก็เขียนจำนวนลงในใบสั่งแล้วยื่นให้พนักงานได้เลยครับ
ก่อนอาหารจะมาเสิร์ฟน้องพนักงานก็เอาผ้าแช่เย็นกลิ่นหอมนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมาให้เช็ดมือ-เช็ดหน้าก่อนจะนำน้ำจิ้มสูตรต่างๆมาวางให้บนโต๊ะประกอบไปด้วย น้ำจิ้มยากินิคุสไตล์ญี่ปุ่นสูตรทำเองของทางร้าน/น้ำจิ้มแจ่ว/น้ำจิ้มซีฟู๊ดพร้อมพริกสด-กระเทียมให้ปรุงรสเองได้ตามใจ นอกจากนี้บนโต๊ะยังมีเกลือสีชมพู (หิมาลายัน) และพริกไทยดำให้บิดลงบนเนื้อต่างๆได้ด้วยตัวเอง ส่วนเตาย่างของที่นี่ใช้ถ่านไม้ก้อนเล็กกลมจึงทำให้ไฟแรงทั่วถึงทั้งหน้าเตาวางลงบนกระถางใจกลางโต๊ะตามมาด้วยวัตถุดิบต่างๆที่เราสั่งไป จะคุณภาพดีแค่ไหนมาดูไปพร้อมๆกันเลยครับผม
ถาดแรกเป็น "เนื้อ U.S.A" ราคาถาดละ 39 บาท เป็นส่วนท้องที่แทรกไขมันเหมือนเบคอนเนื้อวัวรสชาติเข้มข้นกลิ่นหอมตามแบบฉบับเนื้ออเมริกา "เนื้อบริสเกตวากิว A4" ราคาถาดละ 49 บาท เป็นส่วนเสือร้องไห้ปกติจะค่อนข้างเหนียวแต่ด้วยความเป็นวากิวจึงมีความนุ่มและหอมละมุนกว่าปกติสมกับเป็นวัตถุดิบที่พรีเมี่ยมสุดในร้าน "เนื้อส่วน Outside Flat A3" ราคาถาดละ 39 บาท เป็นเนื้อวัวส่วนพับนอกที่ปกติจะมีไขมันน้อยรสชาติเข้มข้นแต่ด้วยความเป็นวัววากิวจึงทำให้มีมันแทรกละเอียดเคี้ยวนุ่มขึ้นไปอีกขั้น โดยเนื้อวากิวทั้งหมดที่ใช้ในร้านเป็นเลือดผสมจากพ่อพันธุ์ญี่ปุ่นขนสีดำและแม่พันธุ์ไทยโพนยางคำจึงทำให้ได้ข้อดีของแต่ละสายพันธุ์คงอยู่ในรสชาติและไขมันของเนื้ออย่างครบถ้วน ถาดต่อมาเป็นเนื้อไทยโคขุนอย่าง "เนื้อโหนก" ราคาถาดละ 39 บาท ดูในรูปเหมือนจะไขมันน้อยแต่ของจริงถือว่าแทรกไขมันสวยงามและมีกลิ่นหอมตามแบบฉบับเนื้อไทยและความนุ่มไม่แพ้วากิวของทางร้านเลยครับ
ถาดต่อมาเป็นเนื้อจากอาเจนติน่าอย่าง "ลิ้นวัว" ราคาถาดละ 39 บาท ค่อนข้างจะมีกลิ่นเฉพาะตัวที่รุนแรงหากคนไม่เคยทานมาก่อนหรือฝึกทานเนื้อวัวใหม่ๆอาจจะไม่ค่อยชอบแต่แทรกไขมันละเอียด-เคี้ยวกรุบกรอบสู้ฟันดีครับ "เนื้อริปอาย" ราคาถาดละ 39 บาท เป็นเนื้อส่วนด้านในท้องติดกับซี่โครงมีไขมันน้อยแต่รสชาติเข้มข้น/น้ำเนื้อชุ่มฉ่ำเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานเนื้อวัวที่มีชั้นไขมันมากนัก เมนูต่อไปเป็น "สันคอหมู" และ "เบคอนรมควัน" ราคาถาดละ 39 บาท ดูด้วยสายตาถือว่าสีสวยงาม-มีชั้นไขมันแทรกคุณภาพดีถึงแม้จะเป็นร้านที่เน้นเฉพาะเมนูเนื้อย่างก็ตาม
ถาดต่อมาเป็น "หมูสามชั้น" ราคาถาดละ 39 บาท ทางร้านนำไปม้วนเป็นวงกลมก่อนจะนำมาสไลด์ลงถาดมีชั้นไขมันเยอะกว่าเนื้อและไม่ติดหนังแข็งย่างเกรียมๆอร่อยเด็ดเลยครับ "หมูสันนอก" ราคาถาดละ 39 บาท ไขมันน้อยแต่ไม่เหนียวมีความชุ่มฉ่ำของเนื้ออยู่ "หมูคุโรบูตะ" ราคาถาดละ 39 บาท เสิร์ฟมาแค่ 2 แผ่นแต่มีชั้นไขมันสวยงามกว่าสันคอหมูปกติและความนุ่มก็บอกได้เลยว่าคนละเรื่องเลยครับ สำหรับซีฟู๊ดวันนี้ปลาหมึกหมดเลยสั่งมา 3 เมนูก็คือ "หายเชลล์" ราคาถาดละ 39 บาท เป็นหอยเชลล์จากทะเลไทยไซส์ขนาดกลางๆวางบนเปลือกราดด้วยซอสสูตรเฉพาะของทางร้านพร้อมกับเนยสดก้อนเล็กๆและโรยต้นหอมพร้อมย่างออกมาเป็นเมนูหอยเชลล์อบเนยได้ทันทีครับ
ตามมาด้วย "หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์" ราคาถาดละ 39 บาท เสิร์ฟมา 2 ตัวใหญ่เนื้อแน่นเต็มฝาราดซอสพร้อมย่างได้ทันที วัตถุดิบสดอย่างสุดท้าย "กุ้งสด" ราคาถาดละ 39 บาท เป็นกุ้งแก้วเนื้อเด้งกรุบกรอบๆขนาดเล็ก 5 ตัว เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไปแล้วส่วนตัวถือว่ารับได้อยู่ นำไปย่างบนเตาถ่านพอสุกทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดที่เต็มไปด้วยพริกเขียวกระเทียมรสเปรี้ยวเค็มอมหวานนิดๆเรียกได้ว่าแซ่บ หรือจะจิ้มกับเนื้อเป็น "เนื้อมะนาว" ก็อร่อยไปอีกแบบครับ
ส่วนเนื้อวัวต่างๆของที่ร้านนี้บอกได้เลยว่าดีสมกับคำร่ำลือในกลุ่มชมรมคนรักเนื้ออย่างแท้จริง ท้ั้งความหอมนุ่มชุ่มฉ่ำไขมันและเตาถ่าน ทานกับน้ำจิ้มยากินิคุสูตรทำเองของทางร้านที่มีรสชาติหวานนำเค็มตามพอกลมกล่อมหอมกลิ่นโชยุผสมน้ำมันงาและขิงอ่อนๆอย่างลงตัว เพิ่มความเผ็ดแซ่บสไตล์ไทยด้วยพริกสด-กระเทียมตัดเปรี้ยวสดชื่นด้วยน้ำมะนาวอีกหน่อย (สามารถขอเพิ่มจากพนักงานได้) ช่วยลดความเลี่ยนของไขมันทำให้ทานได้เรื่อยๆไม่มีสะดุด
หากใครไม่ถนัดสไตล์ญี่ปุ่นก็ทานกับน้ำจิ้มแจ่วแบบไทยรสชาติเค็ม-เปรี้ยวอมหวานหอมน้ำมะขามเปียกผสมกับพริกป่นและข้าวคั่วได้ความเป็นเนื้อย่างสไตล์อีสานขึ้นมาทันที สายซีเรียสอยากได้รสของเนื้อที่แท้จริงก็โรยแค่เกลือหิมาลายันกับพริกไทยและคีบเข้าปากสไตล์สเต็กเนื้อก็ดีงาม ส่วนลิ้นวัวอาเจนติน่าแนะนำว่าให้ย่างเกรียมหน่อยช่วยเพิ่มความกรุบกรอบและลดกลิ่นเฉพาะตัวแค่บีบน้ำมะนาวลงไปอีกนิดช่วยเพิ่มความหอมสดชื่นทานได้อีกหลายถาด เสียดายที่ร้านนี้ไม่มีซัมจังเกาหลีให้ห่อกับผักแต่สามารถสั่ง "ผักกาดหอม" ราคา 19 บาท มาทานคู่กันได้อีกแบบนึง
ทานเนื้อย่างไปนานๆก็ยากซดซุปร้อนๆเลยสั่งมา 2 เมนูคือ "ซุปมิโสะ" ราคา 29 บาท เป็นผงซุปแบบสำเร็จรูปเอามาเสิร์ฟให้รสชาติกลางๆซดร้อนๆได้อารมณ์ญี่ปุ่นดี "ซุปกิมจิ" ราคา 59 บาท อันนี้ถือว่าเด็ดเพราะเผ็ดร้อนอมเปรี้ยวกิมจิใส่เครื่องอื่นๆลงไปทั้งเต้าหู้/เห็ดเข็มทองและไข่ไก่ต้มสุกพอเยิ้มๆละลายลงไปในน้ำซุปช่วยเพิ่มความอูมามิ แนะนำว่าถ้าใครเป็นสายดื่มนั่งลากยาวๆแล้วรู้สึกไม่ค่อยสดชื่นให้สั่งเมนูนี้มาซดคั่นเวลารับรองว่าตื่นแน่นอนครับ
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ *******
ชื่อสินค้า:
ย่างงาย ถนนราชพฤกษ์-ตลิ่งชัน
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
BufFeast Review :"Nari Buffet" ร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นที่ใครมาชลบุรี ต้องแวะ @ถ.พระยาสัจจา
ช่วงวันหยุดได้พาแฟนไปเที่ยวเขาเขียวพอถึงวันกลับเลยแวะหาของกิน ผมก็ได้ยินมาว่า มีร้านอยู่ในโซนใกล้ๆนั้นอยู่ เป็นร้านแนวญี่ปุ่นที่มีชื่อพอสมควร นามว่า Nari Buffet ตั้งอยู่ที่ริม ถนนพระยาสัจจา ในจังหวัด
TheHeatBufFeast
== First Time ตี๋น้อย โกลด์ ==
สารภาพก่อน ไม่เคยกินตี๋น้อยมาก่อน เคยอยากลองกิน #สุกี้ตี๋น้อย เจ้าดัง ที่เขย่าบรรลังค MK สะเทือน มาแล้ว แต่เคยไป แล้วคิวรอ 2 ชม ยอมแพ้ ไม่ได้กิน ตอนหลัง มีจองใน Queq แต่ยังไม่ได้ฤกษ์ไปทาน ตอนนี้ต
-=Jfk=-
พาชิม "ข้าวเหนียวปลาทอด"
เช้านี้แวะตลาดใกล้บ้าน ได้กลิ่นอาหารทอดหอมยั่วมาแต่ไกล ถาดบน : เครื่องในทอด เอ็นไก่ทอด หมูสามชั้นทอด หมูทอด ถาดล่าง : หมูกระเทียมทอด เนื้อปลาทอด หมูหวานทอด จขกท. ซื้อข้าวเหนียวปลาทอด ผสมกับ หมูทอด
จินดาหรา
ชอบกินเมนู "ผัดกระเพรา" แบบผัดแห้งๆ หรือเปียกๆ ครับ ?
ไม่ว่าจะเป็นผัดกระเพราหมูสับ หมูชิ้น, ไก่, เนื้อ, ทะเล, รวมมิตร ต่างๆ ใดๆ ชอบทานแบบผัดแห้งหรือเปียกๆ กันครับ? ส่วนผมชอบแบบผัดแห้งๆ ครับ จะรู้สึกว่าน่าทาน และโดยมากจะรสชาติดีครับ โดยเฉพาะกระเพราหมูสับช
ขออนุญาตสอบถามครับ
กะเพราวุ้นเส้น + .....
กะเพราวุ้นเส้น + ..... เพิ่งเคยเห็นและได้ลองเมนูนี้เลยฮะ กะเพราวุ้นเส้น ถ้าปกติร้านจะใส่เป็นหมูสับ แต่มาร้านหมูย่างซีอิ๊วขึ้นชื่อ ก็สั่งเป็นกะเพราวุ้นเส้น + หมูย่าง เป็นผัดกะเพราที่หอม และเผ็ด เพรา
Topyutt
BufFeast Review : ชาบูคู่บุญเมืองนนท์ กับขนมหวานผลไม้คับคั่ง "ฆังฆัง หม้ออร่อย" @ถนน สนามบินน้ำ
ผมได้นัดเพื่อนที่ทำงานเก่ามาหาอะไรกิน แต่พอถึงวันนัดเพื่อนดันเลิกงานเร็วแล้วอยากกิน เลยต้องหา ร้านที่เปิดเร็วๆกว่าชาวบ้านเขาหน่อย ซึ่งก็ได้ร้านชาบูแถวๆบ้านผมอย่าง ฆังฆัง หม้ออร่อย มาสนองความต้องการของ
TheHeatBufFeast
MK Premium Buffet ต่างจาก MK Gold Buffet เดิมยังไง? กินแล้วรู้สึกยังไงบ้าง
ช่วงนี้เห็นหลายคนไปลอง MK Premium Buffet กันเยอะแล้ว ผมเองก็เคยติดใจ MK Gold Buffet ของเดิมอยู่ เลยอยากมาเล่าให้ฟังว่า 2 แบบนี้ต่างกันยังไง เผื่อใครที่ยังลังเลว่าจะลองดีไหมครับ 🍲 📌 ราคา & เวล
SarinPoom
โคอาล่าพาชิม : บ้านสุริยน (ศรีราชา)
ไถๆ ปัดๆ ในติกตอก ก็จะเจอพี่ๆรีวิวร้านนี้กัน เลยแอบเล็งมาอยู่สักพัก โชคดี หัวหน้าบอกให้หาร้านอาหาร เอ้า เข้าทางพอดี 55555 โคอาล่าพามาร้านที่มีชื่อว่า "บ้านสุริยน" บรรยากาศร้านสวย ตกแต่งดี อ
โคอาล่าพาชิม
รีวิว : Uni Mensa ร้านอาหารเยอรมันแท้ ๆ ย่านบางเขน 🍖🍝🥨
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวพันทิป 🙏 วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์การไปลองร้านอาหารเยอรมันที่ชื่อว่า Uni Mensa บอกเลยว่าใครที่ชอบกินอาหารยุโรปหรืออยากลองของใหม่ ๆ ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ “ขาห
สมาชิกหมายเลข 9054912
รีวิว : Uni Mensa ร้านอาหารเยอรมันแท้ ๆ ย่านบางเขน 🍖🍝🥨
สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิป วันนี้อยากมาเล่าประสบการณ์ไปกินอาหารเยอรมันแท้ๆ ที่ร้าน Uni Mensa ย่านบางเขน ร้านนี้ไม่ใช่ร้านใหญ่โตหรูหรา แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของรสชาติที่ “จริงใจและตั้งใจทำ” ผม
สมาชิกหมายเลข 9054912
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารคาว
อาหารปิ้งย่าง
อาหารญี่ปุ่น
ร้านอาหาร
อาหารจานเดียว
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 119
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิวร้าน "ย่างงาย" ยากินิคุเนื้อวากิวราคาประหยัดเริ่มต้นแค่ถาดละ 39 บาท อยู่บนถนนราชพฤกษ์-ตลิ่งชัน~
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์ Loft พื้นปูนเปลือย-ผนังไม้-หลังคาเห็นโครงสร้างผสมกับ Vintage ย้อนยุคด้วยของตกแต่ง-กระจกสี-ไฟกลมสีส้ม โดยรักษาโครงร้านเก่าเอาไว้เกือบ 80% และขยายโต๊ะ-เก้าอี้นั่งให้เต็มพื้นที่มากยิ่งขึ้น โซนแรกเป็นแบบ Outdoor เปิดโล่งรับลมธรรมชาตินั่งชิลล์ๆมองท้องฟ้าและรถยนต์วิ่งบนถนนราชพฤกษ์ผ่านไป-มา (หากใครอยากนั่งตรงนี้ต้องรีบมาหน่อยเพราะมีแค่ 4 โต๊ะ) โซนที่สองคือด้านในหลังคาขนาดใหญ่สามารถรองรับลูกค้าได้กลุ่มใหญ่กว่าด้านนอก ส่วนระบบระบายอากาศของร้านนี้เป็นแบบเปิดพัดลมยักษ์เพื่อให้ควันและกลิ่นออกไปทางหลังร้านไม่ได้มีระบบท่อดูดอาจต้องทำใจเรื่องกลิ่นและควันติดหัวหน่อย อุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นต่อการทานปิ้งย่างถูกวางเอาไว้บนโต๊ะทั้งกรรไกร-ที่คีบ-ถ้วยน้ำจิ้ม-จาน-ตะเกียบไม้จิ้มฟัน-ใบสั่งอาหารและผ้าให้ทำความสะอาดบนโต๊ะด้วยตัวเอง มาถึงก็ขอดูเมนูของที่ร้านก่อนเลยว่ามีอะไรให้เราสั่งบ้างมาดูไปด้วยกันครับ
เมนูของที่ร้านมีให้สั่งไม่เยอะมากและขายราคาไม่แรงนักเริ่มจากหน้าแรกเป็นเนื้อบริสเกตวากิว A4 ถาดละ 49 บาท/Outside flat หรือเนื้อพับนอกวากิว A3 ราคาถาดละ 39 บาท/เนื้อวัวนำเข้าจาก U.S.A. ตรงส่วนท้องราคาถาดละ 39 บาท/ลิ้นวัวอาร์เจนติน่าราคาถาดละ 39 บาท/เนื้อส่วนโหนกจากโคขุนไทยราคาถาดละ 39 บาท/เนื้อวัวส่วนริปอายโคขุนราคาถาดละ 39 บาท หน้าต่อไปเป็นหมูคุโรบูตะ/เบคอนรมควัน/หมูสามชั้น/สันนอกหมู/สันคอหมูราคาถาดละ 39 บาท ซีฟู๊ดมีทั้งหอยเชลล์/ปลาหมึก/หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์และกุ้งสดราคาถาดละ 39 บาท เครื่องเคียงต่างๆราคา 19-59 บาท อาหารทานเล่นเริ่มต้นที่ 49-129 บาท เครื่องดื่มต่างๆเริ่มต้นที่ 15 บาท สุดท้ายเป็นของหวานมีแค่ 2 เมนูราคา 29 และ 79 บาท อยากทานอะไรก็เขียนจำนวนลงในใบสั่งแล้วยื่นให้พนักงานได้เลยครับ
ก่อนอาหารจะมาเสิร์ฟน้องพนักงานก็เอาผ้าแช่เย็นกลิ่นหอมนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมาให้เช็ดมือ-เช็ดหน้าก่อนจะนำน้ำจิ้มสูตรต่างๆมาวางให้บนโต๊ะประกอบไปด้วย น้ำจิ้มยากินิคุสไตล์ญี่ปุ่นสูตรทำเองของทางร้าน/น้ำจิ้มแจ่ว/น้ำจิ้มซีฟู๊ดพร้อมพริกสด-กระเทียมให้ปรุงรสเองได้ตามใจ นอกจากนี้บนโต๊ะยังมีเกลือสีชมพู (หิมาลายัน) และพริกไทยดำให้บิดลงบนเนื้อต่างๆได้ด้วยตัวเอง ส่วนเตาย่างของที่นี่ใช้ถ่านไม้ก้อนเล็กกลมจึงทำให้ไฟแรงทั่วถึงทั้งหน้าเตาวางลงบนกระถางใจกลางโต๊ะตามมาด้วยวัตถุดิบต่างๆที่เราสั่งไป จะคุณภาพดีแค่ไหนมาดูไปพร้อมๆกันเลยครับผม
ถาดแรกเป็น "เนื้อ U.S.A" ราคาถาดละ 39 บาท เป็นส่วนท้องที่แทรกไขมันเหมือนเบคอนเนื้อวัวรสชาติเข้มข้นกลิ่นหอมตามแบบฉบับเนื้ออเมริกา "เนื้อบริสเกตวากิว A4" ราคาถาดละ 49 บาท เป็นส่วนเสือร้องไห้ปกติจะค่อนข้างเหนียวแต่ด้วยความเป็นวากิวจึงมีความนุ่มและหอมละมุนกว่าปกติสมกับเป็นวัตถุดิบที่พรีเมี่ยมสุดในร้าน "เนื้อส่วน Outside Flat A3" ราคาถาดละ 39 บาท เป็นเนื้อวัวส่วนพับนอกที่ปกติจะมีไขมันน้อยรสชาติเข้มข้นแต่ด้วยความเป็นวัววากิวจึงทำให้มีมันแทรกละเอียดเคี้ยวนุ่มขึ้นไปอีกขั้น โดยเนื้อวากิวทั้งหมดที่ใช้ในร้านเป็นเลือดผสมจากพ่อพันธุ์ญี่ปุ่นขนสีดำและแม่พันธุ์ไทยโพนยางคำจึงทำให้ได้ข้อดีของแต่ละสายพันธุ์คงอยู่ในรสชาติและไขมันของเนื้ออย่างครบถ้วน ถาดต่อมาเป็นเนื้อไทยโคขุนอย่าง "เนื้อโหนก" ราคาถาดละ 39 บาท ดูในรูปเหมือนจะไขมันน้อยแต่ของจริงถือว่าแทรกไขมันสวยงามและมีกลิ่นหอมตามแบบฉบับเนื้อไทยและความนุ่มไม่แพ้วากิวของทางร้านเลยครับ
ถาดต่อมาเป็นเนื้อจากอาเจนติน่าอย่าง "ลิ้นวัว" ราคาถาดละ 39 บาท ค่อนข้างจะมีกลิ่นเฉพาะตัวที่รุนแรงหากคนไม่เคยทานมาก่อนหรือฝึกทานเนื้อวัวใหม่ๆอาจจะไม่ค่อยชอบแต่แทรกไขมันละเอียด-เคี้ยวกรุบกรอบสู้ฟันดีครับ "เนื้อริปอาย" ราคาถาดละ 39 บาท เป็นเนื้อส่วนด้านในท้องติดกับซี่โครงมีไขมันน้อยแต่รสชาติเข้มข้น/น้ำเนื้อชุ่มฉ่ำเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานเนื้อวัวที่มีชั้นไขมันมากนัก เมนูต่อไปเป็น "สันคอหมู" และ "เบคอนรมควัน" ราคาถาดละ 39 บาท ดูด้วยสายตาถือว่าสีสวยงาม-มีชั้นไขมันแทรกคุณภาพดีถึงแม้จะเป็นร้านที่เน้นเฉพาะเมนูเนื้อย่างก็ตาม
ถาดต่อมาเป็น "หมูสามชั้น" ราคาถาดละ 39 บาท ทางร้านนำไปม้วนเป็นวงกลมก่อนจะนำมาสไลด์ลงถาดมีชั้นไขมันเยอะกว่าเนื้อและไม่ติดหนังแข็งย่างเกรียมๆอร่อยเด็ดเลยครับ "หมูสันนอก" ราคาถาดละ 39 บาท ไขมันน้อยแต่ไม่เหนียวมีความชุ่มฉ่ำของเนื้ออยู่ "หมูคุโรบูตะ" ราคาถาดละ 39 บาท เสิร์ฟมาแค่ 2 แผ่นแต่มีชั้นไขมันสวยงามกว่าสันคอหมูปกติและความนุ่มก็บอกได้เลยว่าคนละเรื่องเลยครับ สำหรับซีฟู๊ดวันนี้ปลาหมึกหมดเลยสั่งมา 3 เมนูก็คือ "หายเชลล์" ราคาถาดละ 39 บาท เป็นหอยเชลล์จากทะเลไทยไซส์ขนาดกลางๆวางบนเปลือกราดด้วยซอสสูตรเฉพาะของทางร้านพร้อมกับเนยสดก้อนเล็กๆและโรยต้นหอมพร้อมย่างออกมาเป็นเมนูหอยเชลล์อบเนยได้ทันทีครับ
ตามมาด้วย "หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์" ราคาถาดละ 39 บาท เสิร์ฟมา 2 ตัวใหญ่เนื้อแน่นเต็มฝาราดซอสพร้อมย่างได้ทันที วัตถุดิบสดอย่างสุดท้าย "กุ้งสด" ราคาถาดละ 39 บาท เป็นกุ้งแก้วเนื้อเด้งกรุบกรอบๆขนาดเล็ก 5 ตัว เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไปแล้วส่วนตัวถือว่ารับได้อยู่ นำไปย่างบนเตาถ่านพอสุกทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดที่เต็มไปด้วยพริกเขียวกระเทียมรสเปรี้ยวเค็มอมหวานนิดๆเรียกได้ว่าแซ่บ หรือจะจิ้มกับเนื้อเป็น "เนื้อมะนาว" ก็อร่อยไปอีกแบบครับ
ส่วนเนื้อวัวต่างๆของที่ร้านนี้บอกได้เลยว่าดีสมกับคำร่ำลือในกลุ่มชมรมคนรักเนื้ออย่างแท้จริง ท้ั้งความหอมนุ่มชุ่มฉ่ำไขมันและเตาถ่าน ทานกับน้ำจิ้มยากินิคุสูตรทำเองของทางร้านที่มีรสชาติหวานนำเค็มตามพอกลมกล่อมหอมกลิ่นโชยุผสมน้ำมันงาและขิงอ่อนๆอย่างลงตัว เพิ่มความเผ็ดแซ่บสไตล์ไทยด้วยพริกสด-กระเทียมตัดเปรี้ยวสดชื่นด้วยน้ำมะนาวอีกหน่อย (สามารถขอเพิ่มจากพนักงานได้) ช่วยลดความเลี่ยนของไขมันทำให้ทานได้เรื่อยๆไม่มีสะดุด
หากใครไม่ถนัดสไตล์ญี่ปุ่นก็ทานกับน้ำจิ้มแจ่วแบบไทยรสชาติเค็ม-เปรี้ยวอมหวานหอมน้ำมะขามเปียกผสมกับพริกป่นและข้าวคั่วได้ความเป็นเนื้อย่างสไตล์อีสานขึ้นมาทันที สายซีเรียสอยากได้รสของเนื้อที่แท้จริงก็โรยแค่เกลือหิมาลายันกับพริกไทยและคีบเข้าปากสไตล์สเต็กเนื้อก็ดีงาม ส่วนลิ้นวัวอาเจนติน่าแนะนำว่าให้ย่างเกรียมหน่อยช่วยเพิ่มความกรุบกรอบและลดกลิ่นเฉพาะตัวแค่บีบน้ำมะนาวลงไปอีกนิดช่วยเพิ่มความหอมสดชื่นทานได้อีกหลายถาด เสียดายที่ร้านนี้ไม่มีซัมจังเกาหลีให้ห่อกับผักแต่สามารถสั่ง "ผักกาดหอม" ราคา 19 บาท มาทานคู่กันได้อีกแบบนึง
ทานเนื้อย่างไปนานๆก็ยากซดซุปร้อนๆเลยสั่งมา 2 เมนูคือ "ซุปมิโสะ" ราคา 29 บาท เป็นผงซุปแบบสำเร็จรูปเอามาเสิร์ฟให้รสชาติกลางๆซดร้อนๆได้อารมณ์ญี่ปุ่นดี "ซุปกิมจิ" ราคา 59 บาท อันนี้ถือว่าเด็ดเพราะเผ็ดร้อนอมเปรี้ยวกิมจิใส่เครื่องอื่นๆลงไปทั้งเต้าหู้/เห็ดเข็มทองและไข่ไก่ต้มสุกพอเยิ้มๆละลายลงไปในน้ำซุปช่วยเพิ่มความอูมามิ แนะนำว่าถ้าใครเป็นสายดื่มนั่งลากยาวๆแล้วรู้สึกไม่ค่อยสดชื่นให้สั่งเมนูนี้มาซดคั่นเวลารับรองว่าตื่นแน่นอนครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น