ความสัมพันธ์กับแม่เเย่มาก เราทิ้งแม่ เราเนรคุณไหมคะ

ชีวิตหรือละคร
ตามนั้นเเหละค่ะ ยาวสักหน่อย เรามีความทุกข์เกี่ยวกับแม่มาก และเราก็ไม่อยากจะเป็นแบบนี้ แม่คือความทุกข์ทางใจแสนสาหัสของเรา
 เราจำความได้ตั้งแต่เด็กๆ แม่จะทุบตีเรา และเอาเราเป็นเครื่องมือต่อรองกับพ่อเสมอ จนวันนึงตอนเราเด็กๆ พ่อทิ้งแม่ไปมีภรรยาใหม่ (แม่ก็แอบคบผู้ชายใหม่ไปด้วย เเม่เห็นว่าเราเด็กเลยพาเราไปหาผู้ชายด้วยหลายครั้ง แต่เราจำได้ แม่คิดว่าไม่มีใครรู้เลยประโคมด่าพ่อให้สังคมประนาม)

ด้วยความที่ตอนนั้นเด็กเราก็ไม่รู้อะไรมาก รู้แค่ชีวิตที่มีพ่อกับแม่อยู่ด้วยกันเห็นแต่ภาพทะเลาะกันทุกวัน จนพ่อมีภรรยาใหม่ ชีวิตพ่อดูมีความสุขมาก ลูกทุกคนอยู่กับพ่อ ครอบครัวมีความสุขดี หลังจากแม่ออกไป คนมาตามทวงหนี้ที่แม่ก่อไว้จากพ่อมากมายเหลือเกิน พ่อก็ตามใช้หนี้จนหมด 
 หลังจากนั้นชีวิตครอบครัวก็มีความสุขดี จนวันที่เปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล ช่วงปิดเทอม พ่อถามลูกๆว่าใครอยากไปเที่ยวกทม หาแม่บ้างไหม (บ้านเราอยู่ ตจว)  พี่สาวกับน้องสาวเราไม่ไป (แม่เคยทำร้ายร่างกายเค้า เคยเอาหัวพี่สาวโขกบันได) และโทรมาก่อกวนที่บ้านด้วยคำพูดหยาบคาย ด่าเเช่งพ่อ ทุกคนเลยเลี่ยงการเจอแม่ แต่เราในช่วง ป5 เราสงสารแม่ กลัวเหงา เรากับน้องชายจึงตัดสินใจไปเยี่ยมแม่ ช่วงปิดเทอม ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่พลาด เพราะ แม่ไม่ให้เรากลับมาหาพ่ออีกเลย 

 แต่ด้วยความที่ยังเด็ก เราก็ดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆแล้วแต่ผู้ใหญ่จะนำพา เราเรียน รร ในหมู่บ้าน แม่บังคับให้เราโทรขอเงินพ่อ ให้โกหก ต่างๆนาๆ ว่าบ้านหลังคารั่วบ้าง อะไรบ้าง ถ้าไม่ทำก็จะโดนตี พี่สาวบอกเราว่า พ่อนั่งร้องไห้ตลอดเลย ตั้งแต่เราไม่ได้กลับมา พ่อมาหาเราหน้า รร บ่อยๆ  เอาเงินมาให้เรา เด็กนักเรียนประถม แต่กระเป๋ากระโปรงตุงมาก เพราะพ่อคอยเอาเงินมาให้ทีละเป็นปึก แต่ห้ามให้เเม่รู้ สุดท้ายถึงบ้านทีไรโดนแม่จับได้ทุกทีแม่ก็ตีเราเพื่อเอาเงินไป พ่อก็เอาเงินมาฝากครู ฝากข้างบ้าน ฝากคนรอบข้าง ให้คอยซื้อนมให้เรา พ่อมาหาเราแต่ละครั้งซื้อของให้เยอะมาก บอกเลยว่าเรารักพ่อมากๆๆ
ผ่านไปไม่นานแม่เริ่มมีแฟนใหม่อีกคน และพามาอยู่บ้าน และแฟนใหม่แม่ก็เริ่มตั้งกฎให้เรากินข้าวทีหลังและห้ามขึ้นนอนบนบ้านชั้นสอง ให้แบ่งแยก แม่เราก็ใช้ชีวิตกับผู้ชายนิสัยไม่ดีคนนี้ ทะเลาะกันบ่อย ทะเลาะกันทีผู้ชายโยนของในบ้านออกไปเต็มถนน  จนอยู่ๆลูกเมียเค้าโผล่มา และแม่รู้มาตลอด จนสุดท้ายเค้ากับแม่เราก็มีปัญหากันเเละเลิกกันไปเองในที่สุด (แต่แม่ก็ยังคอยด่าพ่อเราให้คนอื่นฟังอยู่ทุกวันเรื่องมีเมียน้อยทั้งที่ตัวเองก็ไปยุ่งลูกเมียคนอื่น)

จบคนนี้แม่มีสามีใหม่อายุน้อยกว่า20ปี ตัวเราในตอนนั้นอายุ12 ปี กับแฟนใหม่แม่อายุ25 (ผู้ชายมีเมียเเล้ว) แม่พาเค้าเข้ามาอยู่บ้าน ลูกเมียมายืนร้องไห้ตะโกนด่าหน้าบ้าน เราเริ่มเข้าใจสถานการณ์ความเลวร้ายในสิ่งที่แม่เราทำมากขึ้น และสิ่งที่เดาไม่ยากก็เกิดขึ้น ผู้ชายของแม่พยายามจะข่มขืนเราที่เป็นเด็ก ม.1 มันลวนลามเราอยู่หลายครั้ง เราอาบน้ำมันก็จะพังประตูห้องน้ำให้ได้ เราต้องรอจนแม่มาถึงออกจากห้องน้ำ ตอนนั้นน้องชายยังเล็กมาก เราตื่นตอนกลางคืนมาเข้าห้องน้ำ ก็ต้องเห็นผู้ชายนอนแก้ผ้าอยู่ในห้องเดียวกัน(ห้องนอนรวม) เราพยายามบอกแม่หลายครั้ง แม่ไม่เชื่อ เราต้องพาเพื่อนผู้ชายที่เรียนอยุ่ห้องเดียวกันเข้ามาบ้าน มาอยู่ด้วยจนแม่เสร็จงาน ค่อยให้กลับ เพราะเราไม่กล้าอยุ่บ้านกับมันสองคน  แม่ก็ด่าเราว่าแรด มีเเฟนเร็ว เราคิดว่าก็ดีกว่าพลาดผู้ชายของเเม่แต่มันก็เเค่กันเราได้ระดับนึง เพราะมันก็หาโอกาสเสมอ เรายังโชคดีที่มันทำได้เเค่ลวนลามเเต่ไม่เคยมีโอกาสให้ข่มขืนเรา

จนวันนึงวันที่มันมาลวนลามเราในครัว และแม่มาเห็นกับตา เห็นคาหนังคาเขา แม่ทะเลาะกับมันรุนเเรงมาก เราคิดว่ามาเห็นสักทีก็ดี จะได้เชื่อเราสักที เราไปยืนฟังแม่ทะเลาะกับมัน แม่ด่ามัน คำพูดของแม่ที่ติดอยู่ในใจเราถึงวันนี้คือ "ไหนว่าจะไม่นอกใจเค้าไง" นี่คือคำพูดของคนเป็นแม่หรอ จริงๆหรอ เราร้องไห้ วิ่งไปร้องไห้อยู่สนามบาสของโรงเรียนจนดึก และก็ได้เเต่กลับมาบ้านยอมรับความจริงว่า"แม่เลือกผู้ชาย "

 แม่เอาบ้านซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่เข้าธนาคาร เพื่อเปย์ผุ้ชายคนนั้น และแม่หมดตัว ติดหนี้นอกระบบ หมวกกันน้อคมาเต็มบ้าน มาปาก้อนหิน แม่พาเรากับน้องหนีหัวซุกหัวซุนเป็นหนี้นอกระบบ พาเราไปนอนตามบ้านคนอื่นเรื่อยๆ เราก็ต้องออกจาก รร ไปด้วย ไปนั่งขายผลไม้ตามตลาดนัด ในขณะที่พี่สาวกับน้องสาวเราเรียนโรงเรียนดีๆ สังคมดีๆ ค่าเทอมเเพงๆ แต่เราไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เรียน ตอนนั้นเราควรอยู่ ม3 

จนวันนึงเราบอกแม่ว่า เราอยากเรียนหนังสือ แม่โกรธเรามาก แม่โยนเงินให้เรา7 บาท โยนลงถนน ให้เราเก็บ แล้วพูดว่า ไปเลยนะ แล้วอย่ากลับมาอีก เราตัดสินใจโทรหาพ่อ เอาเหรียญทั้งหมดที่มี ไปหยอดตู้แล้วบอกพ่อว่า เราไม่ไหวแล้ว ร้องไห้  อยากกลับไปหาพ่อ พ่อบอกว่า ให้มาเจอที่เซนทรัลลาดพร้าว จะให้แม่เลี้ยงมารับแม่เลี้ยงมาธุระ กทม พอดี (บ้านพ่ออยู่ตจว) แล้วเหรียญก็หมด โทรเข้ามือถือเหรียญกินเร็วมาก เราตัดสินใจเดินไปเซนทรัลลาดพร้าว(จาก ตลาดแถว ม เกษตร) แล้วไปยืนรอแบบไม่ได้นัดหมายสถานที่เเละเวลาชัดเจน สุดท้ายเจอแม่เลี้ยงตอน1 ทุ่ม เราดีใจมาก แม่เลี้ยงพานั่งรถไฟกลับมาหาพ่อ ได้เจอพ่อ ได้อยู่กับพ่ออีกครั้ง(แต่ไม่ได้พาน้องชายมา) พ่อน้ำตาไหล เมื่อได้ฟังเรื่องราวของเรา 

พ่อพาเราไปสมัครเรียนทันที  จนเราอยู่กับพ่อได้2-3 วัน มีคนมาอาละวาดหน้าบ้าน (แม่มาจ้า) มาอาละวาดทวงลูกคืน ยืนทวงถามถึงเวลาที่ผ่านมาว่าเราไม่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันหรอ มาเรียกร้อง มาเอาเราคืน (จำได้ว่าน้องชายตอนนั้นร้องไห้หนักที่เห็นความวุ่นวายของผู้ใหญ่ ที่พ่อแม่ด่ากัน แล้วน้องชายวิ่งหนีไปนั่งร้องไห้หัวมุมตลาดร้าง) สงสารน้องมาก แม่ทิ้งเราเอง แล้วมาตามเรากลับทำไม มาด่าแม่เลี้ยงหยาบคาย มาอาละวาด มาเรียกร้องทำไม มาทำให้ชีวิตใหม่เรามีปัญหาทำไม จนสุดท้ายแม่ก็มาสร้างความอึดอัดใจมากมายให้ครอบครัวพ่อ จนเรารู้สึกว่าเราเป็นตัวปัญหา ตอนไม่มีเรา เค้ามีความสุขดี พอเรากลับมา แม่ก็มาวุ่นวายกับครอบครัวพ่อ มากระโดดถีบกระจกบ้าน ทำลายข้าวของ แม่ย้ายกลับไปอยู่ ตจว ด้วย ไปเช่าบ้านอยู่ไม่ไกลกัน กลายเป็นเราดันเป็นคนพาแม่กลับไปสร้างความอึดอัดใจให้คนทั้งบ้าน 

ในที่สุดเราเลยขอออกมาทำงาน ที่ กทม เอง ตอน อายุ16 เราไม่อยากเป็นเครื่องมือให้เเม่ไปหาเรื่องพ่ออีก เรายอมดูเป็นเด็กใจแตกไม่ยอมเรียน ออกมาจากบ้านด้วยตัวเอง มาทำงาน กทม ด้วยความยากลำบาก และเรียน กศน 

จนแม่เลิกกับผู้ชายคนนั้นเพราะมันขี่มอเตอไซต์คว่ำตาย งานศพมัน มีลูกเมียโผล่มาอีกเพียบ และอีกไม่นานแม่ก็มีแฟนใหม่อีก (และเขามีเมียแล้ว) 

เรามาถึง กทม ทำงานสู้ชีวิต ไม่ขอเงินที่บ้านแม้จะไม่มีข้าวกิน  ลำบากมาก เพราะไม่อยากให้เค้าพาเรากลับไป ไม่อยากเป็นสาเหตุให้เเม่ไปก่อกวนอีก เราสู้ชีวิตมาก ผ่านมาหลายปี  แม่เลิกกับผู้ชายคนล่าสุดอีก และแม่ก็ย้ายจังหวัดไปอยู่คนละภาคเลย ไปทำงานตัวคนเดียว (เดาว่าหนีหนี้ไป) 

ทุกคนที่แม่เราคบคือมีเมียเเล้ว ในขณะที่แม่เรายังไม่เลิกด่าพ่อว่ามีเมียน้อย มันขัดเเย้งกันมาก เราว่าตรรกกะเเม่เราป่วย และเราจะอ้วกที่แม่เราพยายามคุยกะพวกสเเกมเมอร์ทางเฟสบุ้ค

เราในวันที่เรามีครอบครัวแล้ว  มีลูก เมื่อเรารู้ว่าแม่ โดนรถชน  เราตัดสินใจพาแม่กลับมาอยู่ด้วย เราหวังว่า เวลา20กว่าปีนี้ แม่จะได้เรียนรู้อะไรมากมาย และเห็นความสำคัญจากการได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่นี้ แม่จะรักษามันให้ดี จะไม่ทำลายครอบครัวอีก แม่จะมาแก้ไขรอยแผลในใจให้เรา 

แต่เราคิดผิดค่ะ  ประเด็นคือตอนนี้เเม่มาอยู่กับเราแค่10เดือน เราเป็นทุกข์มาก แม่ไม่เปลี่ยนเลย แม่หนักกว่าเดิม ความอายุมากขึ้นและการไปอยู่คนเดียวมานานยิ่งเอาแต่ใจหนัก มีความเป็นมนุษย์ป้าหนัก เหมือนไม่มีสังคมมานาน แม่มีนิสัยปะหลาด การรับประทานอาหาร ผิดแผกแปลกมนุษย์มาก เช่นเห็นเเกงถุงเอาช้อนตักกินในถุงเลยไม่เทใส่ชามแล้วก็ตั้งไว้ไม่เก็บไม่รัดถุง วางถุงให้แกงมันหกน้ำราดเต็มโต๊ะ ทำแบบนี้ประจำ  หรือ เอาช้อนตักข้าวในจานคนอื่นทานไปหมด แล้วด่าๆๆว่าไม่อร่อย ทำท่าตำหนิอาหารคนอื่น มารยาทในการทาน=0 และชอบเอาของที่คายออกจากปากใส่กลับไปในจานอาหารส่วนรวม คือเรามีครอบครัวสามีอยู่ด้วยน่ะค่ะ มีแม่สามี ทุกคน พยายามบอกเค้าก็ไม่เปลี่ยน เข้าห้องน้ำก็ไม่ปิดประตู เวลาใครถามเรื่องอาหารชอบพูดแนวเหยียดว่าไม่ชอบ กินไม่ได้ แต่ ตี1ตี2 จะออกมาขนอาหารเข้าไปทานในห้อง เศษอาหารแห้งติดจานแอบกองจานสุมไว้ใต้เตียง คืองงมาก แม่เถียงเก่ง ทวงบุญคุณได้ทั้งวัน และ แช่งลูกเก่งสุด

 และที่เราไม่ชอบมากคือ แม่วันๆเอาแต่โทรนินทาคนอื่น  ชอบบุลลี่คน  พอเราไม่อยู่ก็โทรนินทาเราให้คนอื่นฟัง ด่าเราไม่ดีสารพัด  มาแสดงอิทฤทธิ์ความเป็นแม่ ทวงบุญคุณ ตะคอกให้คนทำนู่นทำนี่ให้ มาทะเลาะกับแม่ผัวเรา สร้างปัญหาให้ครอบครัวเรา แม่บ้านก็ยังลาออก เราต้องทะเลาะกับแม่ทุกวัน ลูกเราสามขวบ กลายเป็นมาเห็นแม่ทะเลาะกับยายทุกวัน ครอบครัวเปลี่ยนไป เราไม่อยากให้เป็นงี้เลย เรากลัวลูกจำ และในท้องเรามีลูกอีกคน สภาพจิตใจเราไม่โอเคเลย เราคิดผิดจริงๆ เราเหนื่อยมากๆ เราเป็นแม่คนเราก็ไม่อยากให้ลูกเห็นเราในมุมนี้ 

แม่อยู่เราก็ทุกข์  เราขอให้เขากลับไปที่เดิม เขาก็โทรไปเล่าให้คนฟังไปทั่วว่าเราไล่เขา ให้คนด่าเรามากๆ แม่ชอบ แม่ชอบการเป็นนางเอก และให้คนด่าลูก แต่เราไม่ไหวแล้ว ทนไม่ไหวอีกแล้ว 
แม่ชอบเอาชนะ และคิดว่าการทวงบุญคุณคือความชนะ ตั้งแต่เราอยู่กับแม่เราทะเลาะกับแม่ทุกวัน เรารุ้สึกบาปหนัก แต่เราก็ไม่ไหว เรารู้สึกชีวิตเราตกต่ำมากเพราะเราเถียงแม่ทุกวัน และมันเเรงขึ้น แม่ก็เเช่งๆๆเรา  เรารู้สึกว่าแม่คือวิบากกรรมของเราคือเจ้ากรรมนายเวรของเรา เราเป็นทุกข์เราโดนทั้งขึ้นทั้งร่อง เพราะคำว่าแม่!!!!(แม่ยังโทรด่าพ่อ เม้าเรื่องพ่ออยู่เลยทั้งที่ผ่านมา20 กว่าปีแล้ว ตัวเองมีสามีไปหลายคนแล้ว) เวลาเราได้ยินแม่ด่าพ่อ เราก็จะด่าแม่ตลอด เพราะเรารับไม่ได้ เราโคตรเข้าใจพ่อเลยทำไมถึงมีเมียใหม่ พ่อไม่ผิดเลย แม่ต่างหากอยู่กับใครไม่ได้สักคนเดียว ที่สำคัญวันนี้ยังเข้าข้างตัวเอง และไม่ยอมรับผิดเลย 

ตอนนี้เราทะเลาะกับแม่หนักมากที่สุด แม่ก็ถามคำเดิมว่าเค้าทำอะไรผิด ทำเหมือนไม่เคยทำอะไรไม่ดี เราโคตรเกลียดการทำตัวเหมือนเป็นคนดีถูกทำร้ายของเค้ามาก ทั้งที่เค้าทำร้ายทุกคน เค้าเข้าข้างตัวเองมาตลอดและไม่เคยรู้สึกผิดในสิ่งที่เกิดขึ้นเลย แต่มันฝังใจเราจนอยากจะตายจากโลกเพื่อลืมเรื่องเหล่านี้เลย

วันนี้เราเลยพูดความในใจ ทั้งหมดทุกอย่างออกมาตอนทะเลาะ ว่าเค้าสร้างแผลอะไรให้เราบ้าง และเค้าก็ทำหน้างง ว่าเค้าเคยทำแบบนั้นหรอ เค้าจำไม่ได้ จำไม่ได้สักเรื่อง (สร้างแผลในใจคนเป็นลูกขนาดนี้แต่จำไม่ได้เลยหรอ)เจ็บปวดชะมัด และเล่นบทโดนทำร้ายต่อ บอกเราอาฆาต เคียดแค้น และขุดเรื่องเก่า แต่แม่ไม่เคยรู้สึกผิดแม้แต่นิดและยังทำร้ายชีวิตเราอยู่เลย 
เราจะปล่อยแม่ไปค่ะ ปล่อยเค้าไปใช้ชีวิตคนเดียว  และเราสภาพจิตใจแย่มาก ตอนนี้ตั้งครรภ์ เราร้องไห้เรื่องแม่ทุกวัน 
คนเดียวที่ทำให้เราดีขึ้นคือ พ่อของเรา ตอนนี้พ่อเราเพิ่งเสียไป ปกติไม่สบายใจแบบนี้ โทรหาพ่อก็จะดีขึ้น แต่ตอนนี้ ไม่มีพ่ออีกแล้ว ไม่มีเเล้ว....เราเสียดายเวลาชีวิตที่เราควรมีกับพ่อมาก เราถูกขัดขวาง ทำให้เราไม่ได้อยู่กับพ่อเท่าที่ควร 

สุดท้ายนี้เราจะปล่อยมือแม่เราแล้วนะ เรากลัวลูกเรามีปมด้อย  คำว่าแม่ค้ำคอเราอยู่ทำให้เราไม่ว่าจะเลือกทางใดก็ผิด แต่เราจะเลือกที่ดีที่สุดกับครอบครัวของเราลูกของเราที่สุด  เค้ากระหน่ำโทรบอกคนรอบตัวว่าเราเลว เราไล่เค้า เราไม่ดี เราจะไม่แคร์ เราจะเดินหน้า เราควรรู้สึกผิดมั้ยคะ เรากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เราควรทำไง เพราะทำอะไรก็เลว!!!!!!!!! 
คือปรึกษาใครก็ไม่ได้ ไม่มีใครเข้าใจหรอก และการจะให้ใครเข้าใจคือต้องเล่าเรื่องแม่ให้เค้าฟังก็เหมือนเอาแม่ไปประจานซึ่งก็ไม่ได้อยากทำ การที่จะไปแก้ตัวกับใครๆ ก็ต้องเอาเรื่องแม่ไปเล่าให้คนอื่น มันก็เหมือนพูดให้ร้ายแม่ ประจานแม่ เราก็ไม่ได้อยากเล่า สังคมไทย พูดแค่ แม่คือแม่ ไม่มีแม่คนไหนไม่รักลูก แต่มันคงใช้กับทุกคนไม่ได้ แย่ที่สุดคือต้องมาพิมพ์เรื่องแม่ในขณะที่ตั้งครรภ์ เจ็บปวดจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่