รบกวนช่วยตอบหน่อยคะว่าเราผิดไหม

เข้าเรื่องเลยคือ ย่าเราเงินหาย(จำนวนเงินที่เยอะ) เราไม่ขอเล่ารายละเอียดมากนะคะ แต่ย่าเช็คเงินแล้ว รู้ตลอดว่ามีเท่าไหร่ พอออกจากบ้านไปกลับเข้ามาก็บอกว่าเงินหาย ไม่ทันไรก็บอกว่าน้องเราขโมย เราก็ตื่นออกมาดู เลยบอกใจเย็นๆ ย่าเราตอนนั้นเหมือนสติแตกไม่ฟังอะไรเลย บอกเราเข้าข้างนอก เราก็บอกต่อว่าตอนนี้ไม่มีหลักฐานอะไร อาจจะทำตกในบ้านก็ได้ แต่น่าก็บอกว่าไม่ต้องเลย ย่าไม่เอาน้องแล้ว เลยไล่ออกจากบ้าน ไม่ให้อยู่เเล้ว เราก็บอกใจเย็นๆ ย่าบอกว่าถ้าเข้าข้างมันกูก็จะไล่ออกไปด้วย หลังจากที่ย่าออกปากไล่น้องไปแล้วพ่อก็เรื่องให้น้องไปอยู่ด้วยก่อน เราก็พยายามที่จะตามหาเงินนะคะว่ามันตกอยู่ไหน อยู่ที่บ้านหรือเปล่า เรื่องเกิดมาได้หลายเดือนแล้วค่ะ ปัจจุบันน้องเราหลุดออกจากการดูแลไปแล้ว เราไม่แน่ใจว่าขโมยจริงหรือไม่ ไม่ได้ปักใจเชื่อ แต่ถ้าให้เชื่อเราอยากจะเชื่อว่าไม่ขโมย เราไม่อยากจะคิดเลยว่าจะขโมยจริงๆ (ขอบอกก่อนเลยว่าถ้าขโมยจริงๆคือเป็นอะไรที่ไม่เนียนสุด เป็นจำนวนเงินที่เยอะมากในกระเป๋า) 

นั่นแหละค่ะ สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแย่มากกว่าการที่ครอบครัวเจอปัญหาคือ การที่เราตัดสินใจไม่ลงข้างไหน ไม่ได้เข้าข้างใครกลับกลายเป็นว่าเราผิดและยังโดนเหมารวม แม้ว่าเรื่องจะผ่านไปแล้ว แต่ย่าเรายังคิดอยู่ว่าน้องขโมย และถ้าเราพูดว่าไม่รู้ก็จะบอกว่ายังคิดว่ามันไม่ขโมยอยู่อีกหรอ ย่าชอบเอาเรื่องนี้ไปพูดให้คนนู้นคนนี้ฟัง และยังเล่าถึงเรื่องของเราที่ทำท่าเข้าข้างนอกบอกถ้าเข้าข้างจะไล่ออกไปด้วย  เราคิดว่านี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น การที่เราไม่ตัดสินใจลงข้างใครแล้วบอกให้ใจเย็น เหนื่อยจริงๆค่ะ มันค่อนข้าง toxicสำหรับเรามากๆ เหตุการณ์ตอนนั้นมันรุนแรงสำหรับเราแต่เราพยายามให้เย็นลง เพราะการที่จะมาตวาด ด่าน้องเราที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเราว่ามันจะสร้างบาดแผลให้กับเด็ก แม้ว่าน่าก็จะรู้สึกแย่ที่คิดว่าโดนคนในบ้านขโมยเช่นกัน เราเข้าใจที่เขาจะโกรธเพราะย่าคิดว่านี่คือครอบครัว ไม่รู้สิคะ ปัจจุบันเรากลายเป็นคนที่ไม่ออกความคิดเห็นอะไรกับผู้ใหญ่ไปแล้ว เราเลี่ยงที่จะคุยท็อปปิคอะไรที่ต้องการความเห็น

กระทู้นี้ถ้าอ่านยากหรือมีคำผิดยังไงก็ขออภัยด้วยค่ะ ไม่รู้จะได้รับความเห็นอย่างไรหรือมีคนเข้ามาเห็นไหม แต่ยังไงก็ได้ระบายแล้ว ใครกดเข้ามาอ่านขอให้มีวันที่ดีนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่