สวัสดีค่ะ เราไม่มั่นใจว่าเรื่องที่เราจะมาพูดมันจะดูเล็กน้อยหรือไร้สาระไปมั้ย แต่เราค่อนข้างเสียใจกับเรื่องนี้นิดหน่อย คือเราอาศัยอยู่กับครอบครัวที่มีคุณปู่และคุณย่าค่ะ ตอนนี้เราอายุเพียงแค่ 22 ปี ก่อนน่านี้เมื่อประมาณปีก่อนได้ ลูกพี่ลูกน้องของเราที่เรามองเป็นน้องสาวไปอาศัยอยู่กับแฟนค่ะ จนปีนี้เรากับครอบครัวเพิ่งมารู้ว่าน้องท้องและคลอดน้องตัวน้อยเลยตัดสินใจให้กลับมาอยู่บ้านด้วยกันน่ะค่ะ เราคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีเลยที่น้องที่เคยอยู่ด้วยกันสมัยเด็กๆจะกลับมาและได้กินอิ่มนอนหลับสบายกว่าตอนอยู่บ้านแฟนนะ แต่ว่าอาจจะด้วยอายุและความห่างของวัยเราเลยดูจะไม่ได้สนิทกันนักเพราะน้องแค่ 17 ปีน่ะค่ะ
เราจะติดนอนช่วงหัวค่ำเนื่องด้วยต้องรักษาสุขภาพจิตใจ และน้องกับแฟนค่อนข้างจะนอนดึกกว่าเรา เรื่องนั้นเราก็พอเข้าใจได้เพราะยังเด็กวัยรุ่นอยู่ แต่หลายๆครั้งพวกเขาส่งเสียงดังเพราะห้องนอนติดกันเลยทำให้เราสุขภาพจิตค่อนข้างเสียแต่เราก็ทน แฟนน้องสูบบุหรี่ในห้องแล้วห้องนอนบ้านเราไม่มีเพดานกั้น มีแค่กำแพงและหลังคามุงเอาไว้เลยไม่ได้กั้นกลิ่นที่ลอยเข้ามา เราก็ไม่พูดอะไรเพราะเข้าใจว่าบางทีมันก็ยากที่จะห้าม มันมีปัญหาเล็กๆน้อยๆที่ทนมาเรื่อยๆ และทุกครั้งที่เรานอนดึก อาจจะด้วยงาน หรือบางครั้งก็เรียนออนไลน์ เล่นคอมเล่นเน็ต แต่เราก็ใส่หูฟังตลอด น้องก็จะพูดค่อนข้างหยาบคายเวลาที่เรานอนดึกกว่าเขา เราก็คิดว่าเราควรจะเงียบลงหรือทนๆไปอย่างที่คุณย่าเขาคอยบอกเรา แต่มันอดรู้สึกแย่ไม่ได้จริงๆที่เราคอยคิดถึงแต่ความรู้สึกน้องแต่น้องไม่คิดถึงเราบ้างเลย เราไม่อยากมีปัญหากับเรื่องแค่นี้จริงๆค่ะ แต่ทุกครั้งที่โดนน้องพูดแรงๆใส่เรากลับทำได้แค่เงียบและทนไปแบบนี้
มีวิธีจัดการความคิดไม่ให้คิดลบกับตัวเองมั้ยคะ หรือไม่ก็ขอกำลังใจได้มั้ยคะ หรือเราอาจจะอ่อนแอไม่เข้มแข็งพออย่างที่คุณย่าพูดเอาไว้จริงๆ ถ้าเรื่องนี้ทำให้คนอื่นรู้สึกรำคาญใจต้องขอโทษจริงๆนะคะ เราจะมาลบกระทู้ภายหลังนะคะ
เราควรจัดการตัวเองยังไงดีคะ เราไม่อยากทะเลาะกับคนในครอบครัวด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ
เราจะติดนอนช่วงหัวค่ำเนื่องด้วยต้องรักษาสุขภาพจิตใจ และน้องกับแฟนค่อนข้างจะนอนดึกกว่าเรา เรื่องนั้นเราก็พอเข้าใจได้เพราะยังเด็กวัยรุ่นอยู่ แต่หลายๆครั้งพวกเขาส่งเสียงดังเพราะห้องนอนติดกันเลยทำให้เราสุขภาพจิตค่อนข้างเสียแต่เราก็ทน แฟนน้องสูบบุหรี่ในห้องแล้วห้องนอนบ้านเราไม่มีเพดานกั้น มีแค่กำแพงและหลังคามุงเอาไว้เลยไม่ได้กั้นกลิ่นที่ลอยเข้ามา เราก็ไม่พูดอะไรเพราะเข้าใจว่าบางทีมันก็ยากที่จะห้าม มันมีปัญหาเล็กๆน้อยๆที่ทนมาเรื่อยๆ และทุกครั้งที่เรานอนดึก อาจจะด้วยงาน หรือบางครั้งก็เรียนออนไลน์ เล่นคอมเล่นเน็ต แต่เราก็ใส่หูฟังตลอด น้องก็จะพูดค่อนข้างหยาบคายเวลาที่เรานอนดึกกว่าเขา เราก็คิดว่าเราควรจะเงียบลงหรือทนๆไปอย่างที่คุณย่าเขาคอยบอกเรา แต่มันอดรู้สึกแย่ไม่ได้จริงๆที่เราคอยคิดถึงแต่ความรู้สึกน้องแต่น้องไม่คิดถึงเราบ้างเลย เราไม่อยากมีปัญหากับเรื่องแค่นี้จริงๆค่ะ แต่ทุกครั้งที่โดนน้องพูดแรงๆใส่เรากลับทำได้แค่เงียบและทนไปแบบนี้
มีวิธีจัดการความคิดไม่ให้คิดลบกับตัวเองมั้ยคะ หรือไม่ก็ขอกำลังใจได้มั้ยคะ หรือเราอาจจะอ่อนแอไม่เข้มแข็งพออย่างที่คุณย่าพูดเอาไว้จริงๆ ถ้าเรื่องนี้ทำให้คนอื่นรู้สึกรำคาญใจต้องขอโทษจริงๆนะคะ เราจะมาลบกระทู้ภายหลังนะคะ