ตอนเดิม
ตอนที่ 23
บ่ายวันนั้น เนตรนภิสลงไปรับช่อชบาจากโรงพยาบาลขึ้นมานอนพักในห้องตัวเอง หญิงสาวนอนพักในห้องตามลำพังจนถึงเย็น พี่สาวที่เคารพถึงตามขึ้นมา ห้องของเนตรนภิสกับห้องช่อชบาอยู่ติดกัน กั้นกลางห้องอีกฟากด้วยโถงกลาง แบ่งพื้นที่เป็นโซนเอ็นเตอร์เทน และห้องครัวอันทันสมัย ส่วนหนึ่งของห้องโถงตั้งโต๊ะรับประทานอาหารขนาดยี่สิบที่ มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ถัดไปจึงจะเป็นห้องพักที่เรียงรายอยู่อีกฟากของตัวตึก ซึ่งเนตรนภิสเล่าให้ฟังว่าเป็นห้องพักของศรศิลป์และห้องรับรองแขกเหรื่อ ที่นาน ๆ ถึงจะได้ใช้งานสักทีหนึ่ง
เนตรนภิสนำเอกสารสัญญาการว่าจ้างทำงานพิเศษมาให้ช่อชบาอ่าน ในสัญญาระบุว่าเธอจะมีพันธะทำงานพิเศษนี้เป็นเวลาหนึ่งปี ส่วนหน้าที่เลขาฯส่วนตัวของศรศิลป์ก็แยกมาทำเป็นสัญญาอีกชุดหนึ่งต่างหาก เงินค่าจ้างทำงานพิเศษจำนวนหนึ่งล้านบาทจะจ่ายให้เมื่อครบสัญญา ส่วนค่าจ้างงานเลขาฯ จะจ่ายให้เป็นรายเดือนตามปกติ
สองสาวนั่งคุยกันอยู่บนเตียงของช่อชบา เนตรนภิสบอกเพิ่มเติมกับเธอว่า
“ช่อเริ่มงานเลขาของศรได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยนะ หายดีแล้วใช่ไหมล่ะ พี่จะให้ฝ่ายการเงินตั้งเงินเดือนให้ช่อใหม่ เงินเดือนเก่าเดือนนี้ถึงจะไม่สิ้นเดือนดีก็รับเอาไปเลยนะ ศรเขายกให้”
หล่อนพิจารณาดูใบหน้าของสาวรุ่นน้อง เห็นว่าดูสดชื่นแจ่มใสดี จึงสอบถามถึงความพร้อมจะลงไปทำงาน
“หายดีแล้วค่ะ ช่อเป็นลมจนชิน ขอบคุณค่ะพี่เนตร”
ช่อชบาที่เลื้อยตัวเองลงนอนคว่ำหน้าอ่านเอกสารอยู่ เงยหน้าขึ้นยิ้มให้
“มาขอบคุณพี่ทำไม ไปขอบคุณบอสใหญ่โน่นสิจ๊ะ เขาเป็นคนยกเงินเดือนให้ช่อนะ นี่...พี่จัดโต๊ะทำงานไว้ในห้องของศรให้แล้ว ทำงานดี ๆ ล่ะ แสดงฝีมือทำงานพิเศษให้เต็มที่ ถ้าทำให้นลินียกเลิกการหมั้นกับศรได้ ศรเค้าจะมีโบนัสให้อีกต่างหาก”
“ต้องขอบคุณพี่เนตรสิคะ คุณศรเขาได้ประโยชน์จากช่อนี่ ไม่ต้องขอบคุณเขาก็ได้” งึมงำโต้ตอบรุ่นพี่ไปอย่างไม่ยอมลดราวาศอก
“อย่าอคติกับศรให้มากนักเลยจ้ะ เขาฝากพี่มาขอโทษช่อด้วยนะ ที่ทำไม่ดีด้วยวันนี้ ความจริงศรไม่ได้ตั้งใจจะว่าช่อหรอก พอดีเขาหงุดหงิดมาจากที่บ้านน่ะ”
เป็นเจ้านายประสาอะไร หงุดหงิดมาจากไหนทำไมต้องมาลงกับคนอื่นด้วย เห็นลูกจ้างเป็นที่ระบายอารมณ์หรือไง มันใช้ได้ที่ไหนกัน แต่ก็ยังดีที่รู้จักขอโทษ หวังว่าพี่เนตรคงไม่ได้ช่วยพูดให้เพื่อนดูดีขึ้นหรอกนะ ความจริงไม่ต้องช่วยพูดก็ได้ เพราะตัวเธอเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นแล้ว ขอแค่พอเสร็จงานจ่ายค่าแรงให้ไวหน่อยก็แล้วกัน...ช่อชบาแม้ยอมรับฟัง แต่ในใจลึก ๆ ยังอดตั้งแง่กับศรศิลป์อยู่ไม่ได้
“ช่อทำงานพิเศษให้ศรมันก็ดีกับทั้งตัวช่อเอง และดีกับทั้งศรและพี่ด้วย เพราะหากมีการหมั้นกัน นลินีจะได้ตึกนี้ไปเป็นของขวัญวันหมั้น แล้วถ้าหล่อนได้ตึกนี้ไปจริง รับรองว่าหล่อนไม่เอาบริษัทเราไว้แน่”
เนตรนภิสยิ้มอ่อน เผยความในใจให้รุ่นน้องสาวฟัง
“ช่อยังไม่แน่ใจหรอกค่ะว่าจะช่วยพี่กับคุณศรได้แค่ไหน แต่เอาที่เฉพาะหน้า ช่อคิดว่า แม่นั่นคงไม่อยากมาที่นี่แล้วล่ะ ความจริงแค่ให้ช่อช่วยกันท่านลินีก็พอ ไม่เห็นต้องมาเปลืองเงินจ้างช่อไปเป็นแฟนปลอม ๆ ของคุณศรก็ได้”
“ช่อยังรู้จักนลินีน้อยไป เคยมีผู้หญิงหลายคนมาทำท่าว่าชอบศร แต่ฝ่าด่านนลินีไปไม่ได้สักคน หล่อนหน้าด้านพอจะตามด่าตามประจานให้ผู้หญิงคนอื่นอาย จนหายหน้าไปทีละคน ไม่มีใครกล้ามาทำท่าสนิทสนมกับศรอีก ที่สำคัญ หล่อนมีพ่อของศรหนุนหลังอยู่ เออ...นลินีเอาเรื่องวันนี้ไปบอกพ่อของศรแล้วนะ เตรียมตัวให้ดีล่ะ อีกไม่นานช่อคงต้องไปเจอกับคุณอาสุข”
“ตายแล้ว...ช่อจะต้องทำยังไงมั่งคะ พี่เนตร”
ช่อชบาพอรู้ก็อุทานเสียงดัง ถามเอาจากพี่สาวที่เคารพด้วยท่าทางหนักใจ ตอนตกลงเรื่องค่าแรงน่ะมันง่าย แต่พอจะลงมือทำงานจริง ถึงค่อยมาคิดเรื่องรายละเอียดของเนื้องาน ที่ไม่น่าจะง่ายเลย
“ทำตัวเป็นแฟนกับศรให้เนียน ๆ ไปสิจ๊ะ ไม่รู้สินะ บางทีช่ออาจต้องทำเป็นอยู่กินกับศรด้วยก็ได้ ถ้าเกิดจะให้มันสมจริงจนคุณอาเชื่อ”
“ว้าย! ไม่เอาหรอกค่ะพี่เนตร ช่อไม่รับทำขนาดนั้นนะคะ แค่เป็นแฟนปลอม ๆ ก็เสียหายจะแย่”
โวยวายออกมาทันที รู้สึกเขินอายจนใบหน้าร้อนซู่ไปหมด แก้มนวลออกสีแดงเรื่อเมื่อนึกถึงสภาพของตัวเองเวลาต้องทำตัวเป็นภรรยาเจ้านาย
“ไม่ได้ไปโพนทะนาให้ใครรู้นี่ ช่อพักที่นี่อยู่แล้ว ถ้าต้องทำถึงขนาดนั้นจริง ศรก็แค่ย้ายจากคอนโดที่เค้าอยู่มาที่นี่ พักคนละห้อง ไม่มีใครตามเข้ามาดูถึงในห้องของพวกเราหรอก”
จริงของพี่เนตร...ตึกนี้มันก็คือที่อยู่ของเขาเหมือนกันนี่นา ช่อชบาทำคอย่น แต่ก็รับฟังเหตุผลของคนที่โตกว่า หลับหูหลับตาทำไปเถอะน่า แค่ปีเดียวเอง เดี๋ยวก็ได้เป็นอิสระแล้ว อาจต้องยอมเล่นละครให้สมบทบาทมากขึ้นอีกนิด นลินีจะได้ล้มเลิกความตั้งใจจะจับศรศิลป์มาเป็นแฟนไว ๆ บางทีอาจไม่ถึงปีก็ได้นะ ถ้าเธอพยายามลงมือทำ คิดสรตะแล้วก็เลยงึมงำบอกตกลงกับพี่สาวไป
“ทำก็ทำค่ะ แต่พี่เนตรต้องคอยช่วยช่อด้วยนะคะ แม่นลินีมีรังสีอำมหิต ช่อสัมผัสได้”
“ชัวร์อยู่แล้ว พี่ไม่ปล่อยให้ช่อชนกับนลินีตามลำพังหรอกจ้า สบายใจได้ อยู่ในบริษัทเราจะต้องไปกลัวอะไร”
เนตรนภิสหัวเราะ ยีผมบนศีรษะรุ่นน้องสาวเล่นด้วยความเอ็นดู
“แล้วคุณศรเขาจะมีค่ามัดจำล่วงหน้าให้ช่อไหมคะพี่เนตร”
ไม่วายถามถึงค่าแรง งานพิลึกแบบนี้มันก็ต้องมีการเรียกร้องเอาค่ามัดจำติดปลายนวมหน่อย เพราะถ้าเธอไม่ตกลงทำงานให้ คุณศรศิลป์จะไปหาใครมาทำให้ได้ ให้มันรู้เสียมั่งว่าไผเป็นไผ
“พรุ่งนี้ก็ถามเขาเอาเองสิจ๊ะ นั่งทำงานอยู่ในห้องเดียวกันแล้วนี่”
เนตรนภิสบอกอย่างอารมณ์ดีที่ตัวเองทำธุระให้เพื่อนสำเร็จ เก็บสัญญาส่วนของบริษัทเข้าแฟ้มให้เรียบร้อย อยู่คุยด้วยกับรุ่นน้องอีกนิดหน่อย เธอก็ขอตัวกลับห้องของตัวเอง ทิ้งให้ช่อชบานอนเขลงเล่นอยู่บนเตียง พลางคิดหาวิธีทำงานพิเศษให้สัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว จะได้ไม่ต้องเปลืองตัวไปกับงานนี้ให้มากกว่าที่เป็นอยู่
(มีต่อ)
ตำนานพื้นบ้าน พระลอตามไก่ มาเป็นนวนิยาย 'อลเวงรักสองภพ' ตอนที่ 23
บ่ายวันนั้น เนตรนภิสลงไปรับช่อชบาจากโรงพยาบาลขึ้นมานอนพักในห้องตัวเอง หญิงสาวนอนพักในห้องตามลำพังจนถึงเย็น พี่สาวที่เคารพถึงตามขึ้นมา ห้องของเนตรนภิสกับห้องช่อชบาอยู่ติดกัน กั้นกลางห้องอีกฟากด้วยโถงกลาง แบ่งพื้นที่เป็นโซนเอ็นเตอร์เทน และห้องครัวอันทันสมัย ส่วนหนึ่งของห้องโถงตั้งโต๊ะรับประทานอาหารขนาดยี่สิบที่ มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ถัดไปจึงจะเป็นห้องพักที่เรียงรายอยู่อีกฟากของตัวตึก ซึ่งเนตรนภิสเล่าให้ฟังว่าเป็นห้องพักของศรศิลป์และห้องรับรองแขกเหรื่อ ที่นาน ๆ ถึงจะได้ใช้งานสักทีหนึ่ง
เนตรนภิสนำเอกสารสัญญาการว่าจ้างทำงานพิเศษมาให้ช่อชบาอ่าน ในสัญญาระบุว่าเธอจะมีพันธะทำงานพิเศษนี้เป็นเวลาหนึ่งปี ส่วนหน้าที่เลขาฯส่วนตัวของศรศิลป์ก็แยกมาทำเป็นสัญญาอีกชุดหนึ่งต่างหาก เงินค่าจ้างทำงานพิเศษจำนวนหนึ่งล้านบาทจะจ่ายให้เมื่อครบสัญญา ส่วนค่าจ้างงานเลขาฯ จะจ่ายให้เป็นรายเดือนตามปกติ
สองสาวนั่งคุยกันอยู่บนเตียงของช่อชบา เนตรนภิสบอกเพิ่มเติมกับเธอว่า
“ช่อเริ่มงานเลขาของศรได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยนะ หายดีแล้วใช่ไหมล่ะ พี่จะให้ฝ่ายการเงินตั้งเงินเดือนให้ช่อใหม่ เงินเดือนเก่าเดือนนี้ถึงจะไม่สิ้นเดือนดีก็รับเอาไปเลยนะ ศรเขายกให้”
หล่อนพิจารณาดูใบหน้าของสาวรุ่นน้อง เห็นว่าดูสดชื่นแจ่มใสดี จึงสอบถามถึงความพร้อมจะลงไปทำงาน
“หายดีแล้วค่ะ ช่อเป็นลมจนชิน ขอบคุณค่ะพี่เนตร”
ช่อชบาที่เลื้อยตัวเองลงนอนคว่ำหน้าอ่านเอกสารอยู่ เงยหน้าขึ้นยิ้มให้
“มาขอบคุณพี่ทำไม ไปขอบคุณบอสใหญ่โน่นสิจ๊ะ เขาเป็นคนยกเงินเดือนให้ช่อนะ นี่...พี่จัดโต๊ะทำงานไว้ในห้องของศรให้แล้ว ทำงานดี ๆ ล่ะ แสดงฝีมือทำงานพิเศษให้เต็มที่ ถ้าทำให้นลินียกเลิกการหมั้นกับศรได้ ศรเค้าจะมีโบนัสให้อีกต่างหาก”
“ต้องขอบคุณพี่เนตรสิคะ คุณศรเขาได้ประโยชน์จากช่อนี่ ไม่ต้องขอบคุณเขาก็ได้” งึมงำโต้ตอบรุ่นพี่ไปอย่างไม่ยอมลดราวาศอก
“อย่าอคติกับศรให้มากนักเลยจ้ะ เขาฝากพี่มาขอโทษช่อด้วยนะ ที่ทำไม่ดีด้วยวันนี้ ความจริงศรไม่ได้ตั้งใจจะว่าช่อหรอก พอดีเขาหงุดหงิดมาจากที่บ้านน่ะ”
เป็นเจ้านายประสาอะไร หงุดหงิดมาจากไหนทำไมต้องมาลงกับคนอื่นด้วย เห็นลูกจ้างเป็นที่ระบายอารมณ์หรือไง มันใช้ได้ที่ไหนกัน แต่ก็ยังดีที่รู้จักขอโทษ หวังว่าพี่เนตรคงไม่ได้ช่วยพูดให้เพื่อนดูดีขึ้นหรอกนะ ความจริงไม่ต้องช่วยพูดก็ได้ เพราะตัวเธอเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นแล้ว ขอแค่พอเสร็จงานจ่ายค่าแรงให้ไวหน่อยก็แล้วกัน...ช่อชบาแม้ยอมรับฟัง แต่ในใจลึก ๆ ยังอดตั้งแง่กับศรศิลป์อยู่ไม่ได้
“ช่อทำงานพิเศษให้ศรมันก็ดีกับทั้งตัวช่อเอง และดีกับทั้งศรและพี่ด้วย เพราะหากมีการหมั้นกัน นลินีจะได้ตึกนี้ไปเป็นของขวัญวันหมั้น แล้วถ้าหล่อนได้ตึกนี้ไปจริง รับรองว่าหล่อนไม่เอาบริษัทเราไว้แน่”
เนตรนภิสยิ้มอ่อน เผยความในใจให้รุ่นน้องสาวฟัง
“ช่อยังไม่แน่ใจหรอกค่ะว่าจะช่วยพี่กับคุณศรได้แค่ไหน แต่เอาที่เฉพาะหน้า ช่อคิดว่า แม่นั่นคงไม่อยากมาที่นี่แล้วล่ะ ความจริงแค่ให้ช่อช่วยกันท่านลินีก็พอ ไม่เห็นต้องมาเปลืองเงินจ้างช่อไปเป็นแฟนปลอม ๆ ของคุณศรก็ได้”
“ช่อยังรู้จักนลินีน้อยไป เคยมีผู้หญิงหลายคนมาทำท่าว่าชอบศร แต่ฝ่าด่านนลินีไปไม่ได้สักคน หล่อนหน้าด้านพอจะตามด่าตามประจานให้ผู้หญิงคนอื่นอาย จนหายหน้าไปทีละคน ไม่มีใครกล้ามาทำท่าสนิทสนมกับศรอีก ที่สำคัญ หล่อนมีพ่อของศรหนุนหลังอยู่ เออ...นลินีเอาเรื่องวันนี้ไปบอกพ่อของศรแล้วนะ เตรียมตัวให้ดีล่ะ อีกไม่นานช่อคงต้องไปเจอกับคุณอาสุข”
“ตายแล้ว...ช่อจะต้องทำยังไงมั่งคะ พี่เนตร”
ช่อชบาพอรู้ก็อุทานเสียงดัง ถามเอาจากพี่สาวที่เคารพด้วยท่าทางหนักใจ ตอนตกลงเรื่องค่าแรงน่ะมันง่าย แต่พอจะลงมือทำงานจริง ถึงค่อยมาคิดเรื่องรายละเอียดของเนื้องาน ที่ไม่น่าจะง่ายเลย
“ทำตัวเป็นแฟนกับศรให้เนียน ๆ ไปสิจ๊ะ ไม่รู้สินะ บางทีช่ออาจต้องทำเป็นอยู่กินกับศรด้วยก็ได้ ถ้าเกิดจะให้มันสมจริงจนคุณอาเชื่อ”
“ว้าย! ไม่เอาหรอกค่ะพี่เนตร ช่อไม่รับทำขนาดนั้นนะคะ แค่เป็นแฟนปลอม ๆ ก็เสียหายจะแย่”
โวยวายออกมาทันที รู้สึกเขินอายจนใบหน้าร้อนซู่ไปหมด แก้มนวลออกสีแดงเรื่อเมื่อนึกถึงสภาพของตัวเองเวลาต้องทำตัวเป็นภรรยาเจ้านาย
“ไม่ได้ไปโพนทะนาให้ใครรู้นี่ ช่อพักที่นี่อยู่แล้ว ถ้าต้องทำถึงขนาดนั้นจริง ศรก็แค่ย้ายจากคอนโดที่เค้าอยู่มาที่นี่ พักคนละห้อง ไม่มีใครตามเข้ามาดูถึงในห้องของพวกเราหรอก”
จริงของพี่เนตร...ตึกนี้มันก็คือที่อยู่ของเขาเหมือนกันนี่นา ช่อชบาทำคอย่น แต่ก็รับฟังเหตุผลของคนที่โตกว่า หลับหูหลับตาทำไปเถอะน่า แค่ปีเดียวเอง เดี๋ยวก็ได้เป็นอิสระแล้ว อาจต้องยอมเล่นละครให้สมบทบาทมากขึ้นอีกนิด นลินีจะได้ล้มเลิกความตั้งใจจะจับศรศิลป์มาเป็นแฟนไว ๆ บางทีอาจไม่ถึงปีก็ได้นะ ถ้าเธอพยายามลงมือทำ คิดสรตะแล้วก็เลยงึมงำบอกตกลงกับพี่สาวไป
“ทำก็ทำค่ะ แต่พี่เนตรต้องคอยช่วยช่อด้วยนะคะ แม่นลินีมีรังสีอำมหิต ช่อสัมผัสได้”
“ชัวร์อยู่แล้ว พี่ไม่ปล่อยให้ช่อชนกับนลินีตามลำพังหรอกจ้า สบายใจได้ อยู่ในบริษัทเราจะต้องไปกลัวอะไร”
เนตรนภิสหัวเราะ ยีผมบนศีรษะรุ่นน้องสาวเล่นด้วยความเอ็นดู
“แล้วคุณศรเขาจะมีค่ามัดจำล่วงหน้าให้ช่อไหมคะพี่เนตร”
ไม่วายถามถึงค่าแรง งานพิลึกแบบนี้มันก็ต้องมีการเรียกร้องเอาค่ามัดจำติดปลายนวมหน่อย เพราะถ้าเธอไม่ตกลงทำงานให้ คุณศรศิลป์จะไปหาใครมาทำให้ได้ ให้มันรู้เสียมั่งว่าไผเป็นไผ
“พรุ่งนี้ก็ถามเขาเอาเองสิจ๊ะ นั่งทำงานอยู่ในห้องเดียวกันแล้วนี่”
เนตรนภิสบอกอย่างอารมณ์ดีที่ตัวเองทำธุระให้เพื่อนสำเร็จ เก็บสัญญาส่วนของบริษัทเข้าแฟ้มให้เรียบร้อย อยู่คุยด้วยกับรุ่นน้องอีกนิดหน่อย เธอก็ขอตัวกลับห้องของตัวเอง ทิ้งให้ช่อชบานอนเขลงเล่นอยู่บนเตียง พลางคิดหาวิธีทำงานพิเศษให้สัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว จะได้ไม่ต้องเปลืองตัวไปกับงานนี้ให้มากกว่าที่เป็นอยู่
(มีต่อ)