สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
ตอนที่ขับรถวิ่งงานเซลล์ ผมวิ่งสายเหนือขึ้นลงเขากลางคืนดึกๆหลายเส้นที่เขาลือๆกัน
ขับมาเป็นปีๆผมไม่เคยเจออะไรลึกลับระหว่างขับรถเลยนะครับ
ส่วนใหญ่ที่จะเจออะไรแปลกๆคือตามห้องพักรายวัน โรงแรม หรือจุดพักรถของทางหลวงนี่แหละ
แต่ที่เจอนี่คือไม่ได้เห็นตัวเป็นๆนะ จะเจอเป็นเสียงหรือเหตุการณ์แปลกๆมากกว่า ถ้าให้เล่าคงยาวเกิน
แต่ที่เจอแปลกๆคือจุดพักรถของกรมทางหลวง ไม่ขอบอกพิกัดนะ บอกแค่เส้นทางสายเหนือนี่แหละครับ
โดนตอนกลางวันแสกๆเลยด้วย ไปจอดงีบเอาแรงกับเพื่อนบัดดี้ นอนๆอยู่ครึ่งหลับครึ่งตื่น
ก็ได้ยินเสียงอะไรหนักๆใหญ่เหมือนคนกระโดดใส่ฝากระโปรงท้ายรถ จนรถมันยวบลงไปแล้วเด้งขึ้นตามแรงโช๊คอัพ
ผมกับเพื่อนก็สะดุ้ง เฮ้ย อะไรหล่นใส่รถวะ ก็รีบลงมาดูปรากฎว่าไม่มีไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ว่างเปล่า
ใกล้ๆรถไม่มีคน สิ่งมีชีวิต หรือวัตถุใดๆที่มีขนาดและน้ำหนักพอจะกดให้รถเด้งได้ เอาล่ะสิ เพื่อนเริ่มหน้าถอดสี
เรามองหน้ากันก็พอเข้าใจว่าเขาอาจจะไม่อยากให้เรามาจอดรถนอนตรงนี้มั้ง ก็เลยขับออกมาไปหาที่งีบที่ปั๊มน้ำมัน
พูดถึงเส้นทางเฮี้ยนๆ ผมขอส่งถนน แม่วะ-บ้านเกาะหัวช้าง ก็แล้วกันเป็นถนนเล็กๆชาวบ้านใช้สัญจร
ยาวแค่ราวๆ4กิโลเมตร แต่สองข้างทางเป็นป่าละเมาะมีจุดพีคตรงที่ตัดผ่าป่าช้าเชิงตะกอนที่ชาวบ้านใช้เผาศพ
คนพื้นที่ไม่เจออะไร กลางวันคนก็ใช้ถนนกันปกติ แต่คนต่างถิ่นหลายคนโดนจัดหนักจัดเต็มในตอนกลางคืน
เส้นนี้กลางคืนจะมืดและเปลี่ยวมาก ถ้ามีงานศพก็ไม่เท่าไหร่ยังมีคนเฝ้าศพบ้าง แต่ถ้าไม่มีงานศพ
ไม่มีใครอยากเหลียวเข้าไปมองครับ
เล่าให้ฟังเรื่องนึง เป็นเรื่องของกลุ่มเพื่อนพี่ชายที่มาแวะเที่ยวบ้านพวกเราที่แม่พริกเมื่อ12ปีก่อน ตอนสองทุ่มก็คอแห้ง
ก็เลยขึ้นรถกระบะไป 7-11กัน ซึ่งสาขาที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ ปตท.เถิน ไปกัน4คน ขาไปไม่มีอะไร
ขากลับพี่ผมก็พากลับเข้าบ้านโดยใช้ถนนเส้นนี้แหละครับ ตามประสาคนพื้นที่เคยชินและไม่เคยเจออะไร
พอขับมาถึงจุดพีคช่วงผ่านเชิงตะกอน เพื่อนพี่คนนึงที่นั่งกินลมอยู่บนกระบะท้ายรถ ก็หันมาทุบกระจกหลังรัวๆ
แล้วบอกไปๆๆๆๆๆ โว๊ยๆๆๆ ตะโกนดังมาก พี่ผมขับเลยมาอีกนิดตรงเสาไฟใหญ่ตรงนี้มีแสงไฟก็จอดลงไปดูเพื่อน
สภาพเพื่อนพี่ตอนนั้น นั่งก้มหน้ากอดเข่าตัวสั่น พูดอย่างเดียวว่าไปๆกลับบ้านก่อนกูไม่ไหวแล้ว เพื่อนในรถอีกคน
เลยขึ้นมานั่งท้ายรถเป็นเพื่อนคอยปลอบ พอกลับถึงบ้านเพื่อนพี่มันเริ่มดีขึ้น ย่าก็เลยพาไปสวดมนต์ไหว้พระบนบ้าน
ตอนนั้นไม่มีอารมณ์ตั้งวงกันแล้วครับ ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำดูทีวีเข้านอน ส่วนเพื่อนพี่คนนั้นนอนหน้าโต๊ะพระ
มีพี่ผมนอนเป็นเพื่อนด้วยคืนนั้นก็ไม่มีอะไร
เช้ามาตั้งวงกินข้าวเช้ากัน เพื่อนพี่มันปกติละ มันก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนตอนที่นั่งรถอยู่ท้ายกระบะ
แรกๆมันก็ไม่มีอะไรมืดมันก็ไม่กลัว แต่พอกำลังจะผ่านที่เผาศพมันเห็นว่ารถแซงผู้ชายคนนึงตรงข้างทางไป
แว่บนั้นเพื่อนพี่มันบอกว่า ขนลุก ตัวชา ขาแข็ง สัญชาติญาณบอกทันทีว่านั่นไม่ใช่คน!!
จะใช่ได้ไง ดวงตาเบิกโพลงเหมือนหลุดออกมานอกเบ้าแถมยังส่องแสงแดงจ้า จ้องหน้าเขม็งมาที่เพื่อนพี่
มันก็เลยตะโกนสุดเสียงตบกระจกรถรัวๆ สติแตก แถมยังได้ยินเสียง เห เห~ ดังแว่วตามหลังมาอีก
พวกเราทุกคนนิ่งเงียบกริบ กินข้าวกันแบบพูดไม่ออก ย่าที่นั่งฟังอยู่ก็บอกเดี๋ยวย่ามานะแล้วย่าก็ปั่นจักรยาน
หายไปไหนไม่รู้ร่วมๆชั่วโมงนึง แล้วก็กลับมาพร้อมชาวบ้านอีกสองคน
แล้วย่าก็บอกนี่ใช่ป่าวผีที่เอ็งเจอเมื่อคืน ห๊ะ! ย่า ยังไงอะไร พี่ชายผมก็ถาม แล้วน้าโตผู้ชายร่างกำยำ
ก็ทักไอ้หนุ่ม เมื่อคืนจะร้องทำไมฉันตกใจหมด เอาล่ะเว้ย งง เงิบ กันทั้งคณะ เกิดอะไรขึ้นวะ
แล้วย่าก็เฉลยว่าเมื่อคืนเขามีงานศพ แล้วน้าโตออกมายืนรอเพื่อนแกเอากระติกน้ำแข็งมาส่งให้
เพราะน้าแกกับพรรคพวกจะอยู่ตีรัมมี่กันถึงดึกๆนู่น แล้วพอดีพวกเราขับรถผ่าน น้าแกก็ยืนตรงนั้นมืดๆ
แล้วน้าแกใส่แว่นตาใหญ่ๆ พอเลนส์แว่นมันสะท้อนไฟท้ายรถมันก็เลยหลอกตา ไอ้เพื่อนพี่ดันหลอน
เลยตะโกนสุดเสียง น้าแกก็ตกใจร้องเหวอตามไปด้วยแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปหาเพื่อน
สรุปคือไอ้บอมเพื่อนพี่มันหลอนคิดไปเองจนเกือบจับไข้หัวโกร๋น เห็นคนนึกว่าผีหลอก
นี่รูปที่เกิดเหตุ ผมว่ากลางคืนมืดๆถ้าเห็นใครมายืนก็คงหลอนครับ
ขับมาเป็นปีๆผมไม่เคยเจออะไรลึกลับระหว่างขับรถเลยนะครับ
ส่วนใหญ่ที่จะเจออะไรแปลกๆคือตามห้องพักรายวัน โรงแรม หรือจุดพักรถของทางหลวงนี่แหละ
แต่ที่เจอนี่คือไม่ได้เห็นตัวเป็นๆนะ จะเจอเป็นเสียงหรือเหตุการณ์แปลกๆมากกว่า ถ้าให้เล่าคงยาวเกิน
แต่ที่เจอแปลกๆคือจุดพักรถของกรมทางหลวง ไม่ขอบอกพิกัดนะ บอกแค่เส้นทางสายเหนือนี่แหละครับ
โดนตอนกลางวันแสกๆเลยด้วย ไปจอดงีบเอาแรงกับเพื่อนบัดดี้ นอนๆอยู่ครึ่งหลับครึ่งตื่น
ก็ได้ยินเสียงอะไรหนักๆใหญ่เหมือนคนกระโดดใส่ฝากระโปรงท้ายรถ จนรถมันยวบลงไปแล้วเด้งขึ้นตามแรงโช๊คอัพ
ผมกับเพื่อนก็สะดุ้ง เฮ้ย อะไรหล่นใส่รถวะ ก็รีบลงมาดูปรากฎว่าไม่มีไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ว่างเปล่า
ใกล้ๆรถไม่มีคน สิ่งมีชีวิต หรือวัตถุใดๆที่มีขนาดและน้ำหนักพอจะกดให้รถเด้งได้ เอาล่ะสิ เพื่อนเริ่มหน้าถอดสี
เรามองหน้ากันก็พอเข้าใจว่าเขาอาจจะไม่อยากให้เรามาจอดรถนอนตรงนี้มั้ง ก็เลยขับออกมาไปหาที่งีบที่ปั๊มน้ำมัน
พูดถึงเส้นทางเฮี้ยนๆ ผมขอส่งถนน แม่วะ-บ้านเกาะหัวช้าง ก็แล้วกันเป็นถนนเล็กๆชาวบ้านใช้สัญจร
ยาวแค่ราวๆ4กิโลเมตร แต่สองข้างทางเป็นป่าละเมาะมีจุดพีคตรงที่ตัดผ่าป่าช้าเชิงตะกอนที่ชาวบ้านใช้เผาศพ
คนพื้นที่ไม่เจออะไร กลางวันคนก็ใช้ถนนกันปกติ แต่คนต่างถิ่นหลายคนโดนจัดหนักจัดเต็มในตอนกลางคืน
เส้นนี้กลางคืนจะมืดและเปลี่ยวมาก ถ้ามีงานศพก็ไม่เท่าไหร่ยังมีคนเฝ้าศพบ้าง แต่ถ้าไม่มีงานศพ
ไม่มีใครอยากเหลียวเข้าไปมองครับ
เล่าให้ฟังเรื่องนึง เป็นเรื่องของกลุ่มเพื่อนพี่ชายที่มาแวะเที่ยวบ้านพวกเราที่แม่พริกเมื่อ12ปีก่อน ตอนสองทุ่มก็คอแห้ง
ก็เลยขึ้นรถกระบะไป 7-11กัน ซึ่งสาขาที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ ปตท.เถิน ไปกัน4คน ขาไปไม่มีอะไร
ขากลับพี่ผมก็พากลับเข้าบ้านโดยใช้ถนนเส้นนี้แหละครับ ตามประสาคนพื้นที่เคยชินและไม่เคยเจออะไร
พอขับมาถึงจุดพีคช่วงผ่านเชิงตะกอน เพื่อนพี่คนนึงที่นั่งกินลมอยู่บนกระบะท้ายรถ ก็หันมาทุบกระจกหลังรัวๆ
แล้วบอกไปๆๆๆๆๆ โว๊ยๆๆๆ ตะโกนดังมาก พี่ผมขับเลยมาอีกนิดตรงเสาไฟใหญ่ตรงนี้มีแสงไฟก็จอดลงไปดูเพื่อน
สภาพเพื่อนพี่ตอนนั้น นั่งก้มหน้ากอดเข่าตัวสั่น พูดอย่างเดียวว่าไปๆกลับบ้านก่อนกูไม่ไหวแล้ว เพื่อนในรถอีกคน
เลยขึ้นมานั่งท้ายรถเป็นเพื่อนคอยปลอบ พอกลับถึงบ้านเพื่อนพี่มันเริ่มดีขึ้น ย่าก็เลยพาไปสวดมนต์ไหว้พระบนบ้าน
ตอนนั้นไม่มีอารมณ์ตั้งวงกันแล้วครับ ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำดูทีวีเข้านอน ส่วนเพื่อนพี่คนนั้นนอนหน้าโต๊ะพระ
มีพี่ผมนอนเป็นเพื่อนด้วยคืนนั้นก็ไม่มีอะไร
เช้ามาตั้งวงกินข้าวเช้ากัน เพื่อนพี่มันปกติละ มันก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนตอนที่นั่งรถอยู่ท้ายกระบะ
แรกๆมันก็ไม่มีอะไรมืดมันก็ไม่กลัว แต่พอกำลังจะผ่านที่เผาศพมันเห็นว่ารถแซงผู้ชายคนนึงตรงข้างทางไป
แว่บนั้นเพื่อนพี่มันบอกว่า ขนลุก ตัวชา ขาแข็ง สัญชาติญาณบอกทันทีว่านั่นไม่ใช่คน!!
จะใช่ได้ไง ดวงตาเบิกโพลงเหมือนหลุดออกมานอกเบ้าแถมยังส่องแสงแดงจ้า จ้องหน้าเขม็งมาที่เพื่อนพี่
มันก็เลยตะโกนสุดเสียงตบกระจกรถรัวๆ สติแตก แถมยังได้ยินเสียง เห เห~ ดังแว่วตามหลังมาอีก
พวกเราทุกคนนิ่งเงียบกริบ กินข้าวกันแบบพูดไม่ออก ย่าที่นั่งฟังอยู่ก็บอกเดี๋ยวย่ามานะแล้วย่าก็ปั่นจักรยาน
หายไปไหนไม่รู้ร่วมๆชั่วโมงนึง แล้วก็กลับมาพร้อมชาวบ้านอีกสองคน
แล้วย่าก็บอกนี่ใช่ป่าวผีที่เอ็งเจอเมื่อคืน ห๊ะ! ย่า ยังไงอะไร พี่ชายผมก็ถาม แล้วน้าโตผู้ชายร่างกำยำ
ก็ทักไอ้หนุ่ม เมื่อคืนจะร้องทำไมฉันตกใจหมด เอาล่ะเว้ย งง เงิบ กันทั้งคณะ เกิดอะไรขึ้นวะ
แล้วย่าก็เฉลยว่าเมื่อคืนเขามีงานศพ แล้วน้าโตออกมายืนรอเพื่อนแกเอากระติกน้ำแข็งมาส่งให้
เพราะน้าแกกับพรรคพวกจะอยู่ตีรัมมี่กันถึงดึกๆนู่น แล้วพอดีพวกเราขับรถผ่าน น้าแกก็ยืนตรงนั้นมืดๆ
แล้วน้าแกใส่แว่นตาใหญ่ๆ พอเลนส์แว่นมันสะท้อนไฟท้ายรถมันก็เลยหลอกตา ไอ้เพื่อนพี่ดันหลอน
เลยตะโกนสุดเสียง น้าแกก็ตกใจร้องเหวอตามไปด้วยแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปหาเพื่อน
สรุปคือไอ้บอมเพื่อนพี่มันหลอนคิดไปเองจนเกือบจับไข้หัวโกร๋น เห็นคนนึกว่าผีหลอก
นี่รูปที่เกิดเหตุ ผมว่ากลางคืนมืดๆถ้าเห็นใครมายืนก็คงหลอนครับ

แสดงความคิดเห็น
มีถนนเส้นไหนที่ไม่น่าขับผ่านหลังพระอาทิตย์ตกบ้างครับ หรือ ถนนที่เขาว่าน่ากลัวๆ
เคยขับรถลงเขาตอน 6 โมงจะทุ่มนึงครับ
ทั้งเส้นมีแค่รถเราคันเดียว ข้างทางมีแต่ป่า
ไม่มีไฟ แม้แต่ซักดวง กับมีต้นไม้แขวนผ้าไทย ชุดไทย มีศาลเป็นระยะ
บรรยากาศยามโพล้เพล้ ได้อารมณ์หลอนดีครับ
ที่จริง กลัวคนมากกว่าอีก ...
ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทุกภาค มีที่ไหนอีกบ้าง
ได้ยินว่า แถวๆ อ่างทอง ขึ้นเหนือก็น่ากลัว
แต่ไม่เคยผ่านกับเขาซักที ก็เลยไม่รู้น่ากลัวยังไงเนี่ย