JJNY : หมอธีระชี้มี4ข้อถึงเปิดปท.│โต้สว.ไม่ให้เกียรติปชช.│ปลัดอ.หญิงป่วยดับหลังหายป่วย│ชี้เร่งเปิดปท.ไม่ช่วยฟื้นศก.ปีนี้

หมอธีระ ชี้ ต้องมี 4 ข้อ ถึงเปิดประเทศได้ วัคซีนต้องประสิทธิภาพสูง ขอทบทวนก่อนเจอภาวะหนัก
https://www.matichon.co.th/local/news_2780261
 
 
หมอธีระ ชี้ จะเปิดประเทศได้ ปชช.ต้องฉีดวัคซีนประสิทธิภาพสูง วอนทบทวนก่อนเจอภาวะหนัก
 
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ถึงองค์ประกอบของการจะเปิดประเทศ โดยระบุว่า
 
“บทเรียนของประเทศที่เปิดได้นั้น มักต้องมีองค์ประกอบต่อไปนี้อย่างครบถ้วนก่อน
 
หนึ่ง คุมการระบาดได้อย่างดี…คุมไม่ใช่ไล่ตาม คุมได้ไม่ใช่ติดหลายพันคงที่อย่างต่อเนื่อง
 
สอง ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย
 
สาม ระบบการตรวจคัดกรองโรคมีศักยภาพ ทำได้มาก ต่อเนื่อง ครอบคลุม คนสามารถเข้ารับการตรวจได้ง่ายและไม่มีค่าใช้จ่าย
 
สี่ ใช้ความรู้วิชาการที่ถูกต้องเพื่อสร้างนโยบายต่างๆ
 
หลายแสนที่ติด…พันกว่าชีวิตที่สูญเสีย…โปรดทบทวนเถิดครับ เพื่อไม่ให้เจอกับภาวะที่มากกว่านี้ในอนาคต”
 
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10222646003171234
 

 
โต้กลับ สว. หลังประกาศเท แก้ รธน. ไม่ให้เกียรติประชาชน ฝ่ายค้านถาม กลัวอะไร?
https://www.khaosod.co.th/politics/news_6458128

สุทิน ถาม ส.ว.กลัวอะไร หลังบอกรับแต่ร่าง พปชร. ชี้ไม่ให้เกียรติประชาชน ไม่ยึดหลักการ แต่ยึดหน้าคน แนะควรรับหลักการวาระแรก ก่อนลงประชามติ
   
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีส.ว.บางคนออกมาระบุว่าจะรับพิจารณาเฉพาะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมของพรรคพลังประชารัฐว่า ตนต้องถามกลับไปที่ส.ว.ว่าคิดทบทวนดีหรือยัง และเหตุผลคืออะไรช่วยอธิบายสังคมด้วย เพราะร่างของพรรคพลังประชารัฐและร่างของฝ่ายค้านมีข้อเหมือนกันเกือบทุกอย่าง
 
โดยเฉพาะระบบเลือกตั้ง รวมถึงหมวดสิทธิเสรีภาพของประชาชนก็มีเหมือนกัน ถามว่าเมื่อเหมือนกันแล้วแยกไปรับร่างของพรรคพลังประชารัฐมีเหตุผลอะไร แสดงว่าไม่ได้ยึดหลักการแต่ยึดหน้าคนและยึดฝ่าย เพราะเป็นเรื่องเดียวกันแต่เลือกที่จะรับ
 
ส่วนร่างหนึ่งของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่แตกต่างจากพรรคพลังประชารัฐคือเสนอการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. และร่างนี้เป็นร่างเดิมจากที่เคยยื่นครั้งที่ผ่านมา ซึ่งส.ว. และส.ส.ฝ่ายรัฐบาลก็เคยรับหลักการร่างนี้ที่เราร่วมคิดกันมา คือเมื่อรับหลักการแล้วในชั้นแปรญัตติทางส.ว.ก็ร่วมแปรญัตติและเห็นชอบในวาระที่ 2 เรียบร้อย วันนี้พรรคฝ่ายค้านจึงนำสาระของวาระที่ 2 นั้นมายื่นอกีครั้ง ซึ่งท่านเคยเห็นชอบมาก่อนแล้ววันนี้ไม่เห็นชอบ ขอให้ตอบสังคมด้วยว่าเพราะอะไร
 
นายสุทิน กล่าวต่อว่า วันนั้นส.ว.บอกเองว่าถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับก็ต้องไปทำประชามติและตำหนิเราว่าไม่ถามประชาชนก่อน ดังนั้นวันนี้เรากำลังเข้าสู่กระบวนการถามประชาชนนั้นคือการเสนอร่างเข้าสภาฯในชั้นรับหลักการวาระที่ 1 จากนั้นก็จะไปทำประชามติตามที่ส.ว. รัฐบาล และศาลแนะนำ ดังนั้นจะมาปฏิเสธก่อนถามประชาชนได้อย่างไร ทำไมไม่ปล่อยให้ร่างนี้ให้ประชาชนได้ลงประชามติว่าจะแก้ไขหรือไม่ ถ้าท่านไม่รับหลักการก็ถือว่าปิดโอกาสประชาชน
ซึ่งขอให้รับหลักการก่อนแล้วส่งไปให้ประชาชนตัดสิน หรือส.ว.กลัวเสียงประชาธิปไตย เพราะถ้าประชาชนไม่ให้ผ่านมันก็ไม่ได้แก้ แสดงว่าท่านกลัวประชาชน แต่ถ้าไม่กลัวก็ขอให้รับและทำประชามติ ส่วนร่างอื่นๆที่เสนอก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างอำนาจส.ว. และมีดีกับประชาชนทั้งนั้น ยืนยันว่าเราไม่ได้แก้เพื่อตัวเอง หากส.ว.มีธงในใจแล้วก็บอกมาตรงๆ และการพูดแบบนี้เกรงใจไม่ให้เกียรติประชาชน คนเราต้องมีความอายระดับหนึ่ง

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เข้าใจว่าคนที่พูดเป็นส.ว.คนหนึ่งที่มีวิธีคิดแบบนั้น ไม่ใช่แนวคิดของส.ว.ทั้งหมด 250 คน ส่วนเขาจะมีอำนาจบารมีหรือไม่ตนไม่รู้ แต่ส่วนตัวยังมั่นใจลึกๆว่า ส.ว.หลายคนที่มาจากการสรรหา จะตัดสินใจอะไรต้องยึดความต้องการของประชาชนเป็นหลัก เพราะพวกท่านถือเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยเหมือนกัน
 
ดังนั้น โอกาสที่จะผ่านความเห็นชอบทั้ง 14 ร่าง คงต้องดูข้อเท็จจริงว่าเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองหรือไม่ ทั้งนี้ตนยังมั่นใจด้วยว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 จะได้รับโอกาส ขอแค่รัฐสภามีมติเห็นควรให้เอาไปทำประชามติถามประชาชนก่อน เท่านี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
 
“หลายเรื่องที่เราเสนอไม่กระทบส.ว. และการที่เราจะเรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามภายใต้รัฐธรรมนูญเดิม เราจะยังหนีวงจรอุบาทว์ไม่พ้น ดังนั้นอะไรที่ไม่ดีในรัฐธรรมนูญนี้ ถ้าแก้ได้ก็ควรต้องแก้” นพ.ชลน่าน กล่าว
 

 
สสจ.ประจวบฯ มึน รายแรกของไทย! ปลัดอำเภอหญิงป่วยดับ หลังหายป่วยโควิดโดยไม่แสดงอาการ
https://www.matichon.co.th/region/news_2780697

สสจ.ประจวบฯ มึน รายแรกของไทย! ปลัดอำเภอหญิงป่วยดับ หลังติดโควิด รักษาหายโดยไม่แสดงอาการ
 
วันที่ 17 มิถุนายน นายศราวุธ จิระพิทักษ์กุล นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก รพ.ประจวบคีรีขันธ์ว่า น.ส.วรรณี คงทอง  อายุ 58 ปี ชาวจ.สุราษฎร์ธานี ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน ที่ว่าการอำเภอเมือง เสียชีวิตหลังรักษาตัวนานกว่า 1 สัปดาห์ จากอาการปอดติดเชื้อรุนแรง ปอด 2 ข้างได้รับความเสียหายเหลือเพียง 20% ทำให้ป่วยหนัก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะรักษาตัวก่อนหน้านี้เพื่อนร่วมงานได้บริจาคเลือดกรุ๊ป เอ เพื่อช่วยเหลือ ขณะที่ น.ส.วรรณี มีประวัติติดเชื้อโควิด-19 แต่รักษาหายแล้วกลับมาทำงาน
 
“หลังจากมาทำงานที่อำเภอได้ประมาณ 1 สัปดาห์ มีอาการเหนื่อยหายใจติดขัด ทำงานไม่ไหว จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลประจวบ แต่ไม่พบเชื้อโควิด ผลตรวจเอ็กซเรย์พบปอดมีฝ้าขาว ทำให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานสงสัยว่าขณะ น.ส.วรรณี พักรักษาตัวจากการติดเชื้อโควิดในโรงพยาบาลสนามที่โรงแรมประจวบสามอ่าว ไม่มีอาการเจ็บป่วย แต่เมื่อออกจากโรงพยาบาลพบว่าปอดได้รับความเสียหาย” นายศราวุธกล่าว
 
นายศราวุธกล่าวอีกว่า ก่อนติดเชื้อโควิด น.ส.วรรณี พร้อมลูกจ้างในหน่วยงาน ลงพื้นที่ไปพบชาวบ้านเพื่อบริการทำบัตรประชาชนให้ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุให้ได้รับสิทธิเงินเยียวยาจากรัฐบาล ต่อมาพบว่า น.ส.วรรณีและลูกจ้าง 2 คนในโครงการแผนกงานทะเบียนติดเชื้อโควิด เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกระทั่งรักษาหายตรวจไม่พบเชื้อ จึงได้สั่งให้กักตัวเองที่บ้าน 14 วัน ก่อนจะมาทำงาน จากนั้นล้มป่วยและเสียชีวิต
 
นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรณีการเสียชีวิตของปลัดอำเภอหญิงเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจทางการแพทย์ และญาตินำไปบำเพ็ญกุศลได้ตามปกติ เพราะไม่ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด ขณะที่เดิมมีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง ต่อมาติดเชื้อโควิดเข้ารักษาระหว่างวันที่ 14-30 เมษายน 2564 จากนั้นหายป่วยกลับบ้านโดยไม่มีอาการ ต่อมาวันที่ 27 พฤษภาคม มีอาการหายใจไม่สะดวก จุกแน่นใต้ลิ้นปี่ ไม่มีอาการไอ หรือเสมหะ ไม่เจ็บคอรับประทานอาหารได้ ไม่มีอาการอาเจียนหรือถ่ายเหลว แต่มีไข้ ตรวจพบไม่เจอเชื้อโควิด นอนรักษาที่ตึกอายุรกรรม 2 จากอาการปอดอักเสบรุนแรง
 
“ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น จึงใส่ท่อช่วยหายใจ ให้ยาฆ่าเชื้อ พบว่ามีการติดเชื้อในกระแสเลือด ระบบหายใจล้มเหลว ไตวายเฉียบพลัน ก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ได้ตรวจหาเชื้อโควิดแต่ไม่เจอ ถ้าสงสัยว่าเป็นปัญหามาจาการติดเชื้อโควิดรอบแรกหรือไม่ ขอเรียนว่าไม่มีรายงานแบบนี้ในประเทศไทยว่าหายแล้วยังติดเชื้ออีก และการติดเชื้อรอบแรกไม่มีอาการบ่งชี้ทำให้ปอดเสื่อม หากญาติจะทราบข้อมูล จะต้องนำชิ้นเนื้อไปตรวจสอบ เพื่อหาผลข้างเคียงจากพยาธิสภาพที่ รพ.จุฬาหรือ รพ.ศิริราชเพื่อตรวจว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการติดเชื้อโควิดหรือไม่” นายแพทย์สุริยะกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่