☁️/มาลาริน/โล่งใจ! ป่วยโควิดใหม่ 4 ราย มาจากนอก สธ.เตือนจีนไร้โควิด 55 วันยังมีรอบ2 ก้าวไกลไร้สำนึกปลุกปชช.ต้านพ.ร.ก.ฯ

กระทู้คำถาม

การเมือง รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)

ศบค.แถลงพบผู้ป่วย‘โควิด’ใหม่ 4 ราย กลับมาจาก‘ซูดาน-ยูเออี

วันศุกร์ ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 11.39 น.

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 26 มิถุนายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น  4 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,162  ราย  หายป่วยสะสม 3,040 ราย ซึ่งไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดสะสมคงที่ 58 ราย และไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกัน 32 วัน
สำหรับผู้ป่วย 2 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 22 และ 27 ปี เดินทางมาจากประเทศซูดาน  เข้าพักสถานที่กักตัวของรัฐจ.สมุทรปราการ  เดินทางมาถึงประเทศไทยวันที่ 24 มิ.ย. ตรวจพบเชื้อในวันที่ 24 มิ.ย. โดยรายแรกพบว่ามีอาการไข้ และอีกรายมีอาการจมูกไม่ได้รับกลิ่น ไอ และเจ็บคอ

ส่วนรายที่ 3 และ 4 อายุ 32 ปีและ 53 ปี เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  อาชีพพนักงานนวด เดินทางมาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. เข้าพักสถานที่กักตัวของรัฐในพื้นที่กทม. ตรวจพบเชื้อในวันที่ 24 มิ.ย.แต่ไม่มีอาการ สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 9,710,205 ราย และเสียชีวิต 491,783 ราย

ส่วนคนไทยที่ตกค้างในต่างประเทศและจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันเดียวกันนี้  3 เที่ยวบิน จำนวน 852 ราย ในวันที่ 27 มิ.ย. มี 2 เที่ยวบิน จำนวน 284 ราย

https://www.naewna.com/local/501628

สธ.เตือนคนไทยอย่าประมาทการ์ดตกป้องกันตัวเอง ยกจีนเป็นอุทาหรณ์

วันศุกร์ ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 15.24 น.

สธ.เตือนคนไทยอย่าประมาทการ์ดตกป้องกันตัวเอง ยกสถานการณ์จีนเป็นอุทาหรณ์ ไร้ผู้ป่วย55วันยังมีรอบ2 ชี้มาตรการปชช.ป้องกันโควิดทำให้ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่และโรคปอดอักเสบ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ลดน้อยกว่าค่าเฉลี่ยและอยู่ในระดับต่ำหลายสัปดาห์ต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 26 มิถุนายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยว่า กล่าวว่า ตั้งข้อสังเกตสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ หากปีใดมีผู้ป่วยที่มีอาการคลายไข้หวัดใหญ่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ แสดงถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อทางเดินหายใจภายในประเทศมีปัญหา แต่จากว่าพบว่าข้อมูลผู้ป่วยในปีนี้มีระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเมื่อเทียบกับสถิติข้อมูลปีที่ผ่านมา ตลอดจนค่ามัธยฐาน(ค่าเฉลี่ยปกติ) ทั้งนี้ เป็นผลพลอยได้มาจากการที่คนไทยป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 โดยใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และอื่นๆ ส่งผลทำให้จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ต่ำกว่าค่ามัธยฐานต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสัปดาห์ตามไปด้วย

นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลโรคปอดอักเสบมีจำนวนผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน สะท้อนว่าการรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันตัวเองจากโรคโควิด-19 เป็นมาตรการป้องกันโรคได้จริงไม่เฉพาะป้องกันโรคโควิดเท่านั้น แต่รวมถึงโรคไข้หวัดใหญ่และโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้มีผู้ติดเชื้อของประเทศไทยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่และไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกันมา 30 วันแล้ว หากพิจารณาสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในประเทศอื่นๆยังน่าเป็นห่วง นอกจากนี้ สถานการณ์ในประเทศจีนเป็นตัวอย่างที่หลังจากไม่มีผู้ป่วยติดต่อกันนาน 55 วัน แต่ก็ยังปรากฏว่าพบผู้ป่วยได้ ดังนั้น ประชาชนคนไทยจะประมาทการ์ดตกไม่ได้ยังคงต้องระมัดระวังในการป้องกันตนเองใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และอื่นๆ ต่อไป

ขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ในนิวยอร์ค ช่วงระหว่างวันลที่ 1 มีนาคม - 2 พฤษภาคม พบว่ามีผู้เสียชีวิต 32,107 คน ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติในปีที่ผ่านมา 24,172 คน มีสาเหตุเสียชีวิตมาจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 19,079 คน และคาดว่าสาเหตุเสียชีวิตที่เป็นผลกระทบทางอ้อมจากโรคติดเชื้อไวรัสจำนวน 5,293 คน เนื่องมาจากการให้บริการทางการแพทย์มุ่งเน้นรักษาโควิด-19 จึงทำให้ผู้ป่วยโรคติดต่อเรื้อรังอื่นๆเสียชีวิตเพราะได้รับบริการไม่ทันเวลา

ดังนั้น มาตรการสาธารณสุขที่ค้นหาผู้ป่วย ป้องกัน และควบคุม จึงเป็นมาตรการที่กระทบต่อเศรษฐกิจน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับมาตรการอื่น ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงยังคงตรวจหาผู้ติดเชื้อไม่ได้ลดน้อยลงไปและดำเนินต่อเนื่องต่อไป

ต่อข้อถามสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในประเทศไม่มีต่อเนื่องหลายวัน จะสามารถจัดงานวิ่งและการกุศลต่างๆ ได้หรือไม่ นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ศบค.ยังไม่มีประกาศอนุญาต รวมถึงประกาศอื่นๆ ในเรื่องนี้ ต้องขอให้อดใจรอต่อไปก่อน

https://www.naewna.com/local/501680

สมช.เคาะแล้ว ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ถึง 31 ก.ค.63 เตรียมชงเข้า ศบค.พิจารณา

วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการ สมช. เปิดเผยถึงแนวโน้มการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า ผลการประชุมมีมติให้ต่ออายุการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปอีก 1 เดือน ถึงวันที่ 31 ก.ค.63

https://www.amarintv.com/news/detail/36168

"พรรคก้าวไกล"ปลุกประชาชนต้านรัฐต่ออายุ"พรก.ฉุกเฉิน"

ก้าวไกล’ ชวนประชาชนต่อต้านการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ย้ำเปิดช่องให้รัฐควบคุมประชาชน-ไม่เยียวยาผลกระทบ ศก.

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อม ส.ส. พรรค แถลงข่าวถึง กรณีที่ประชุม ศบค. ชุดเล็กเสนอต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือนจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 มาจนถึงวันนี้รวมเวลา 3 เดือนแล้ว ช่วงการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ประชาชนยอมรับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและให้ความร่วมมือกับมาตรการต่างๆ ของรัฐเป็นอย่างดีจงส่งผลให้สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้

อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติแถลงว่าจะเสนอให้มีการขยายการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีกเป็นเวลา 1 เดือนโดยอ้างว่าเพื่อรองรับการคลายล็อกระยะที่ 5 ซึ่งพรรคก้าวไกลเห็นว่าขณะนี้ไม่พบผู้ป่วยในประเทศต่อเนื่องมาลงวันนี้เป็นเวลา 32 วันแล้วและหากจะพบผู้ป่วยในประเทศอีกในอนาคตศักยภาพของระบบสาธารณสุขที่เตรียมไว้ ก็พร้อมที่จะรับมือได้ดังนั้นในสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีเหตุผลใดเพียงพออีกแล้วที่จะขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเอาไปอีก อีกทั้งยังมีกฎหมายปกติที่สามารถควบคุมโรคระบาดได้ แต่การขยายสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีกเพื่ออ้างการคลายล็อกเป็นเหตุผลที่ขัดกันเอง เพราะการคลายล็อกอย่างหนึ่งก็คือการยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน คืนชีวิตปกติให้ประชาชน

“รัฐบาลสามารถใช้กฎหมายปกติเพื่อควบคุมโรคระบาดได้ แต่สิ่งที่กฎหมายปกติไม่สามารถตอบสนองความต้องการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อย่างเดียวก็คือการควบคุมประชาชน”

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ดังนั้นเหตุผลที่แท้จริงในการขยายสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปก็คือความต้องการที่จะใช้ฉุกเฉินใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษนี้เพื่อควบคุมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ที่กำลังไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงควบคุมข้อมูลข่าวสารและสื่อมวลชน
นอกจากนี้ยังเปิดช่องให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐสามารถใช้อำนาจได้ตามอำเภอใจ จะเห็นได้ว่าการใช้มาตรการต่างๆ ที่ไม่มีการรับผิดชอบ เช่น การห้ามไม่ให้ประชาชนทำมาหากิน แต่ไม่มีมาตรการใดๆ ที่ชดเชยเยียวยาอย่างสมเหตุสมผล และประชาชนก็ไม่สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งได้ ซึ่งเป็นปัญหาการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงเห็นอาการลุแก่อำนาจโดยใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ไปดำเนินคดีกับประชาชนและนิสิตนักศึกษาที่ออกมาแสดงออกทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการใช้เจ้าหน้าที่รัฐทั้งในและนอกเครื่องแบบไปข่มขู่คุกคามประชาชน ที่วิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจ ซึ่งเป็นการใช้อำนาจที่ไม่รับผิดชอบผ่านประกอบทุกเฉิน

นายชัยธวัช ย้ำว่า สิ่งที่ประชาชนต้องการตอนนี้ประชาชนไม่ได้ต้องการกฎหมายพิเศษเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐบาล แต่กำลังต้องการความสามารถและมาตรการพิเศษที่มุ่งรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่หลังวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มว่าธุรกิจไม่สามารถฟื้นกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมกำลังล้มละลายมากขึ้นเรื่อยๆ คนกำลังตกงานอีกเป็นล้านคน แต่สิ่งที่เห็นกับเป็นการแก่งแย่งเก้าอี้และตำแหน่งทางการเมืองภายในพรรครัฐบาล เป็นการรวมถึงกินเงินทอนกินหัวคิวผ่านงบประมาณมหาศาลที่ต้องกู้ยืมมาและประชาชนต้องแบกรับหนี้ เห็นการลุแก่อำนาจใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมประชาชนไม่ให้แสดงออกทางการเมือง

ดังนั้น วันนี้พรรคก้าวไกลย้ำกันอีกครั้งหนึ่งว่า ขอคัดค้านการขยายการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป และหวังว่าต้นสัปดาห์หน้ารัฐบาลจะมีเหตุผลรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและความต้องการที่แท้จริงของประชาชน ในการยุติการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและมุ่งทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

https://siamrath.co.th/n/165452

ยังโล่งใจได้อีกค่ะ ไทยไม่มีการติดเชื้อโควิด19 ในประเทศมาเป็นเดือนแล้ว

แต่ยังไม่ประมาทนะคะ เพราะตัวอย่างจีนไร้ติดเชื้อ 55 วันยังเกิดระบาดรอบ 2

ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการดีๆเอาไว้รับมือ

ที่เห็นว่ามีความรวดเร็ว ใช้ได้ทันที คือพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ยิ่งจะเปิดเทอมและการผ่อนคลายเฟส 5 เปิดบริการกลุ่มเสี่ยงในต้นเดือนกค.

จึงต้องยึดพ.ร.ก.เอาไว้ก่อน

แต่พรรคการเมืองฝ่ายค้านไม่มีจิตสำนึก คิดแต่ว่ารัฐบาลจะนำไปใช้ทางการเมือง ทั้งๆที่ไม่มีปรากฎ

ส่วนที่บางพรรคบางกลุ่ม ยุให้คนออกมาชุมนุม ไม่กลัวว่าจะมีการติดเชื้อโควิด ไม่ช่วยแก้ปัญหาแต่ยังสร้างปัญหา

ประชาชนดูเอาเถอะค่ะ.....พรรคที่ไม่มีความรับผิดชอบน่าสนับสนุนไหมคะ ..?

ไม่ควรสนับสนับสนุนค่ะ...🙁🙁🙁🙁🙁

ถูกใจให้พอยต์

สมาชิกหมายเลข 3540022

โมต ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1778965 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4479267 ถูกใจ, แกงป่าปลาเห็ดโคน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4130019 ถูกใจ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้

ความคิดเห็นที่ 30

การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) วันที่ 26 มิ.ย. 2563

การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 26 มิถุนายน 2563

รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19  ณ วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2563

ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,162 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 4 ราย)
   -ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 32
   -และมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 4 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 3,040 ราย (96.14%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 2 ราย)

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 4 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State quarantine โดยมีรายละเอียดดังนี้
- มาจากประเทศซูดาน 2 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดสมุทรปราการ 1 รายและจังหวัดชลบุรี 1 ราย
- มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย  เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร

สถานการณ์การติดเชื้อในอาเซียนวันนี้อินโดนีเซียมียอดผู้ติดเชื้อเกินห้าหมื่นรายแล้ว โดยเพิ่มขึ้น 1,178 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อของอินโดนีเซียสะสมอยู่ที่ 50,187 ราย

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://web.facebook.com/nrctofficial/posts/2883918941733659

แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2563

แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2563

ผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้รับจากแอป "ไทยชนะ"
คือความปลอดภัย ของประชาชนทุกคน

นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต
ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/157310072553992

ขั้นตอนการสร้างกลุ่มในระบบไทยชนะ
สำหรับครอบครัวหรือผู้ใกล้ชิด
เพื่อความสะดวก และเก็บข้อมูลได้ครอบคลุมมากขึ้น
เช่น เด็กหรือผู้สูงอายุที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ
สามารถศึกษาขั้นตอนการตั้งกลุ่มเพื่อการเช็คอินกลุ่มได้ที่คอมเมนท์ (คลิป)
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/157327452552254

ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศติดต่อกัน 32 วันแล้ว ‼‼
หมั่นดูแลตัวเองบ่อย และคนรอบข้าง
ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ
เว้นระยะห่างทางสังคม
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/157304059221260

ขณะนี้..ถึงจุดที่เราต้อง
รักษาความสมดุลของเศรษฐกิจและสังคม
เพื่อที่จะเดินต่อไปข้างหน้า
แต่การควบคุมโรค ก็ยังคงต้องให้ความสำคัญ
เพื่อให้ทุกฝ่ายเดินต่อไปได้

นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/156947359256930

ไทยร่วมขับเคลื่อนอาเซียน ยุคหลังโควิด-19

#ไทยคู่ฟ้า เปิดฉากแล้ว! การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ของผู้นำอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ และเลขาธิการอาเซียน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมฯ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ทั่วโลกอยู่ในช่วงกำลังปรับตัวกับชีวิตวิถีใหม่ ในขณะที่สภาพภูมิรัฐศาสตร์โลกกำลังผันผวนซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงและเสถียรภาพระหว่างประเทศ อาเซียนควรร่วมมือกันเสริมสร้างระบบให้เข้มแข็ง มุ่งช่วยเหลือกันและกัน และเร่งดำเนินการเชิงรุกในทุกมิติ โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง

นายกรัฐมนตรีได้เสนอ 3 แนวทาง เพื่อขับเคลื่อนอาเซียนในยุคหลังโควิด-19
1. เร่งดำเนินการตามแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (MPAC) 2025 และส่งเสริมความเชื่อมโยงและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว
2. เร่งขับเคลื่อนบูรณาการทางเศรษฐกิจอย่างแข็งขัน และเร่งลงนาม RCEP ภายในปีนี้ พร้อมต่อยอดจุดแข็งด้านความหลากหลายทางชีวภาพตาม “โมเดลเศรษฐกิจ BCG”
3. เร่งเตรียมความพร้อมต่อความผันผวน และความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/32782
https://web.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/945775295888277

หลายเรื่องไม่สามารถที่จะบริหารจัดการ
เหมือนอย่างการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

“... ดูพ.ร.บ.โรคติดต่อแล้ว หลายเรื่องไม่สามารถที่จะบริหารจัดการเหมือนอย่างการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตั้งขึ้นมา ไม่สามารถที่จะบูรณการทหาร พลเรือนเข้ามาได้ ...

แค่การนำคนลงจากเครื่องเข้ามา แล้วนำไปในสถานกักกันของรัฐ ...

สมมติว่าเป็นพื้นที่ค่ายทหาร หากภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สามารถรับช่วงต่อบูรณาการทำงานกันได้ ....

สมมติว่าไปสัตหีบ ก็ต้องเริ่มต้นที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ต้องออกคำสั่งเป็นทอดๆ ไปถึงสัตหีบ ค่าใช้จ่ายใครจะเป็นคนดูแล ทุกวันนี้ คือ รัฐ ... แต่ทุกวันนี้ที่สั่งได้ เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน”

นายวิษณุ เครืองาม
รองนายกรัฐมนตรี
https://web.facebook.com/PMOCNEWS/posts/303261014392561

ในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญสถานการณ์เลวร้าย สิ่งสำคัญที่จะยึดเหนี่ยวจิตใจคนไทย คือ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนต้องร่วมมือกัน

ประเทศชาติกำลังต้องการความรัก ความสามัคคี เรื่องความขัดแย้งขอให้วางไว้ก่อน ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งกฎหมายปกติ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากทำผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย จะอ้างไม่รู้กฎหมายไม่ได้
https://web.facebook.com/PMOCNEWS/posts/303066684411994

ไทยร่วมขับเคลื่อนอาเซียน “ที่เชื่อมโยง เข้มแข็งจากภายใน และมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น” ในยุคหลังโควิด-19

วันที่ 26 มิถุนายน 2563 เวลา 08.50 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนจากทั้ง 10 ประเทศ และเลขาธิการอาเซียนเข้าร่วมประชุมด้วย

ในช่วงแรกของการประชุมฯ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้กล่าวเปิด ซึ่งมีใจความสำคัญโดยสรุปดังนี้ เศรษฐกิจของอาเซียนใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ได้ลงนามความตกลงการค้าเสรี (FTA) แล้ว 6 ฉบับ กับ 7 หุ้นส่วนใหญ่ของโลก ทำให้อาเซียนได้รับการยอมรับว่าเป็นภูมิภาคที่มีอำนาจของโลก จากความท้าทายที่โลกกำลังเผชิญ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่โลกไม่เคยประสบมาก่อน อาเซียนจำต้องใช้โอกาสและประสิทธิภาพที่มีให้เป็นประโยชน์สูงสุด

1. สันติภาพ ความมั่นคง ความเป็นหนึ่งเดียวกัน และความรุ่งเรือง จะยังคงเป็นเป้าหมาย และเอกลักษณ์ที่สำคัญของอาเซียน
2. ความเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนแบบไร้รอยต่อ
3. ความสามารถในการฟื้นตัวท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง
4. การเติบโตอย่างยั่งยืน และมั่นคง
สิ่งเหล่านี้จะส่งเสริมความร่วมมืออย่างเข้มแข็งในอนุภูมิภาคอาเซียน
และนายกรัฐมนตรีไทย ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมฯ สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ไทยและประชาคมโลกอยู่ในช่วงกำลังปรับตัวกับชีวิตวิถีใหม่ และในขณะเดียวกันก็กำลังรับมือกับสภาพภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ผันผวนมากขึ้นส่งผลต่อความมั่นคงและเสถียรภาพระหว่างประเทศ ซึ่งอาเซียนควรร่วมมือกันเสริมสร้างระบบภูมิภาคนิยมให้เข้มแข็ง และส่งเสริมการช่วยเหลือกันในระดับโลก

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอ 3 แนวทาง เพื่อขับเคลื่อนอาเซียนในยุคหลังโควิด-19

1. เร่งดำเนินการตามแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (MPAC) 2025 และส่งเสริมความเชื่อมโยงและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว เพื่ออาเซียนที่เชื่อมโยงกันมากขึ้นอย่างแท้จริง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า อาเซียนควรเริ่มพิจารณาแนวทางการผ่อนคลายมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง เพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจและการเดินทางระหว่างกันของประชาชน

2. เร่งขับเคลื่อนบูรณาการทางเศรษฐกิจอย่างแข็งขัน และเร่งลงนาม RCEP ภายในปีนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งจากภายในช่วยให้อาเซียนฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล เพราะเศรษฐกิจดิจิทัลจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะเพิ่มมูลค่าจีดีพีของอาเซียนให้สูงขึ้น ตลอดจนต้องต่อยอดจุดแข็งด้านความหลากหลายทางชีวภาพโดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมตาม “โมเดลเศรษฐกิจ BCG”

3. เร่งเตรียมความพร้อมต่อความผันผวน และความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นในระยะยาว โดยนายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้คณะมนตรีประชาคมอาเซียนทั้งสามเสาหลัก เริ่มจัดทำแผนฟื้นฟู เพื่อวางแนวทางให้แก่อาเซียนในอนาคต โดยต่อยอดจากความสำเร็จต่าง ๆ และควรครอบคลุมประเด็นความมั่นคงทางสาธารณสุข เสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร เสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์ และการป้องกันแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชน ซึ่งประเทศไทยได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ด้วย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า อาเซียนต้องเร่งดำเนินการเชิงรุกเตรียมการในทุกมิติ ต้องยึดมั่นแนวทางการมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ซึ่งรวมถึงแรงงานข้ามชาติ โดยในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรับรอง “วิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยอาเซียนที่แน่นแฟ้นและตอบสนอง” พร้อมแสดงความมุ่งมั่นของไทยที่จะร่วมเสริมสร้างความร่วมมือและความเป็นปึกแผ่นในอาเซียน ควบคู่ไปกับการแสวงหาความเป็นหุ้นส่วนกับภาคีภายนอก
https://web.facebook.com/PMOCNEWS/posts/303242454394417

นายกรัฐมนตรีกล่าวในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 ผ่านระบบการประชุมทางไกล

นายกรัฐมนตรีกล่าวในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 ผ่านระบบการประชุมทางไกล
ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 26 มิถุนายน 2563

คำปราศรัย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ประจำปี 2563

ถูกใจให้พอยต์

สมาชิกหมายเลข 3577919

Disaster Magnet ถูกใจ, โมต ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1778965 ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 4479267 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4130019 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5781809 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3540022 ถูกใจ

▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼

แสดงความคิดเห็น

คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ การเมือง รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)

{room_name}

กระทู้ที่คุณอาจสนใจ