คุณเคยเห็นหิมะครั้งแรกกับตาที่ใหน...? แล้วตอนนั้นรู้สึกยังไง

คุณเคยเห็นหิมะครั้งแรกกับตาที่ใหน...? แล้วตอนนั้นรู้สึกยังไง

สำหรับผม หิมะเป็นเรื่องไกลตัวมากเพราะที่บ้านไม่ได้เป็นบ้านที่ร่ำรวยอะไร เรียนจบทำงาน เงินเดือนก็ไม่ได้มากมายนัก ทำงานบริษัทเล็กๆที่มีพนักงานอยู่ไม่ถึง5คนรวมแม่บ้าน
อยู่ๆก็มีพี่ที่เป็นหัวหน้าโดยตรงในที่ทำงานมาชวนว่า ไปเมกาเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ 
ตอนนั้นกำลังนั่งทำงานอยู่ในสมอง เกิดอาการซ็อค ทั้งตกใจ ดีใจ สับสน มึนงง วกวน สับสน เข้ามามากมาย เกิดคำถามขึ้นมาในหัวเยอะแยะ ที่เรียบเรียงเป็นคำพูดไม่ถูก 
จึงตอบกลับไปว่า “ครับ”  สั้นๆเพียงคำเดียว 
หลังจากนั้นชีวิตผมก็เปลี่ยนไป พอรู้ว่าตัวเองจะต้องเดินทางไปอเมริกา และเป็นการเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก ตอนนั้นเป็นปลายปี 1999  ค่าเงินบาทก็ยังร่วงอย่างต่อเนื่อง  
จึงตัดสินใจว่าเอาว่ะ ขายรถเก่าๆที่ตัวเองมีเลย(เวอร์วังมาก) เพราะต้องไปอยู่ที่นั่นเป็นเดือน ก็ได้เงินมาก้อนนึง (มีเงินติดตัวอุ่นใจไว้ก่อน) 


และทางบริษัททำ วีซ่าให้ในตอนนั้น จำได้ว่าได้ทั้งหมด5ปี แต่เข้าออกได้ครั้งละ 6 เดือน ถ้าจำไม่ผิด (เพราะเป็นเวลากว่า 22 ปีที่แล้ว)
จนถึงวันที่ต้องเดินทาง ถ้าไส่เสื้อสูท คล้องพวงมาลัยได้คงทำไปแล้ว ตื่นเต้นนอนไม่หลับมาหลายคืน 
ใช้เวลาบินรวมต่อเครื่องที่ญี่ปุ่น ก็เบ็ดเสร็จที่ 23 ชม นั่งดูว่าพี่เค้าทำอะไรก็ทำตาม ตลอดทริป ในที่สุดก็ไปถึงสนามบิน JFK นิวยอร์ก 

ทุกอย่างตื่นตาตื่นใจมาก เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง ก็ไปพักที่บ้านพี่สาวของหัวหน้า และ หลังจากทำงานด้วยกันกับหัวหน้าเสร็จ ผมก็ไม่เห็นพี่เค้าอีกเลย แกเดินสายเยี่ยมมิตรสหายที่นั่น ปล่อยผมอยู่บ้านพี่สาว ซึ่งพี่สาวแกก็ไม่ค่อยอยู่บ้านเช่นกัน และบ้านก็อยู่ชานเมืองอีกด้วย จำได้ว่าอากาศหนาวมาก เปิดฮีสเตอร์ก็ไม่เป็น
อยู่เบื่อๆจนเพื่อนผมมารับ (เพราะติดต่อกันไว้ตั้งแต่อยู่เมืองไทย) พอเพื่อนมามันก็บอกว่าอยู่ต่อเลยเดี๋ยวกูทำเรื่องลงเรียนที่นี่ให้ มาอยู่กับกู ในใจก็เกิดอาการ สับสน วกวน มึนงงขึ้นอีกครั้ง แต่ก็เอาวะครั้งหนึงในชีวิต
ผมจึงรอจนกว่าพี่เค้าจะกลับมาและบอกพี่ไปตามความจริงว่าผมขออยู่ที่นี่ต่อนะพี่ เพื่อนผมมันอยากให้อยู่เป็นเพื่อน 

ซึ่งหัวหน้ามองผม ทุกอย่างเงียบอยู่สักพัก เงียบจนได้ยินเสียงนาฬิกาเดิน และแกก็บอกแค่ว่า “แล้วแต่แล้วกัน” (เราอยู่กันเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกันคุยกันตรงๆ) หลังจากนั้นก็ร่ำลากันอย่างดี จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าแกยังโกรธผมอยู่หรือเปล่า55

ผมย้ายกระเป๋าเข้าไปอยู่กับเพื่อนที่เช่าห้องเล็กๆที่มีไว้แค่นอน ซึ่งเป็นห้องชั้นใต้ดิน ไม่เห็นแสงอาทิตย์ ในระหว่างที่หางาน ก็ได้อาหารจากเพื่อนที่ทำในร้านอาหารไทย หิ้วกลับมาให้บ้างไปกินตามร้านจีนแถวบ้านบ้างเพราะยังพูดอังกฤษไม่ได้

ระหว่างที่นั่งทำงาน ตอนนั้นรับจ้างวาดรูป ก็เดินออกไปนอกบ้านเพื่อยืดเส้นยืดสาย ก็เห็นหิมะตกลงมา!!!! 
ตอนนั้นจำได้ว่าเหมือนเด็กเลย ดีใจมาก หิมะแรกในชีวิต มันเป็นอย่างนี้เหรอวะ เห้ยตัวเกร็ดหิมะมันสวยขนาดนี้เลยเหรอ มันสมมาตรทุกด้านเลย รีบวิ่งไปเอาเสื้อสีดำมาลองหิมะเพื่อดู 

ถ้าตอนนั้นใครเห็นชายหนุ่มอายุ 20กว่าๆ ที่เดินเอาเสื้อสีดำมารองหิมะ อยู่หน้าบ้าน ในแถบ Queens นั่นแหละคือผม 
จำได้ว่าหิมะตกทั้งคืน จนถึงเช้า หน้าบ้านเต็มไปด้วยหิมะ ประตูเปิดออกมา หิมะเป็นรูป ประตูเลย และเวลาเดินเหมือนจมลงไปในเกร็ดน้ำแข็งในตู้เย็นยังไงยังงั้น



แล้วก็เห็นคนเอาเกลือมาโรย ตอนแรกจำได้ว่า งง ว่าเค้าทำอะไรกัน แต่ก็พอจะเดาได้ว่ามันคงทำให้เกิดปฏิกริยาอะไรบางอย่าง กับหิมะ เพื่อที่ว่าเค้าจะได้โกยมันทิ้งได้ 


หลังจากเหตุการณ์นั้นผมก็ได้มีเจอกับหิมะอยู่หลายครั้งหลายกรณี และผมได้มีโอกาสกลับไป นิวยอร์ก อีกสองถึงสามครั้ง ก็ได้เจอพายุหิมะบ้างได้ใช้ชีวิตอยู่กับหิมะ บางทีมันก็ทำให้เรานึกถึงวันแรกที่เราได้สัมผัสกับหิมะตัวเป็นๆ 


จริงๆแล้วความรู้สึกครั้งแรกไม่ว่าจะอะไรก็ตามผมว่ามันตื่นเต้นและอยู่ในความทรงจำให้เราตลอดนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย มันทำให้เราจำ 
นี่ก็เป็นอีก1เหตุการณ์ที่อยากมาเล่าให้ฟัง ภาพในอดีต จมหายไปกับน้ำท่วมกรุงเทพฯ น่าเสียดายที่ในยุคนั้นยังเป็นการถ่ายภาพกับกล้อง Film อยู่ไม่ได้บันทึกไว้ใน Digital  แบบทุกวันนี้ 

ความทรงจำดีๆ กับ ครั้งแรกกับหิมะของคุณเป็นอย่างไร มาเล่าให้ฟังบ้างสิ 
ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่