จริงหรือไม่ ! เงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ทุกอย่างต้องใช้เงิน
.
.
.
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเงิน คือ สิ่งสำคัญที่สุดในการดำเนินชีวิต
“เงินไม่ใช่ทุกอย่าง…แต่ทุกอย่างของชีวิตเริ่มต้นด้วยเงิน”
แต่ถึงแม้ว่ามันจะสำคัญ ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะซื้อความสุขได้
คนส่วนใหญ่ในสมัยนี้ ยังคงคิดอยู่ว่า จะร่ำรวยได้ต้องทำงานที่หาเงินได้เยอะ ๆ แล้วชีวิตจะมีความสุข มีเงินใช้มากมายไปตลอด ก็เป็นความจริงส่วนหนึ่งที่ว่าจะมั่งคั่งได้ ต้องรู้จักหาเงิน ยิ่งหาเงินได้มาก โอกาสจะมั่งคั่งก็สูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เมื่อมีความมั่งคั่งแล้ว มันจะอยู่กับเราไปตลอด ถ้าเราไม่รู้จักวิธีบริหารจัดการมันอย่างถูกต้อง และกินใช้อย่างประมาท คิดว่าหาได้เยอะ ก็ใช้จ่ายได้เยอะ โดยไม่ทันระวังว่า วันหนึ่ง เราอาจจะหาได้ไม่เยอะเท่านี้อีกแล้ว
ในเมื่อชีวิตของเราเกี่ยวข้องกับเงินทุก ๆ วัน เราอาจจะหลงติดอยู่กับความสำคัญของเงินมากเกินไป แม้เงินจะช่วยให้เราบรรลุความฝันได้ก็ตาม ถ้าเรามองที่คนสองคน คนหนึ่งอาจจะมีเงินมากมายและบอกว่ามีความสุขกับการมีเงินมากมายนั้น อีกคนมีเงินไม่มากมายอะไรแต่บอกว่ามีความสุขดีกับชีวิต คนสองคนนี้มีความสุขที่เท่ากัน เพราะความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ใจ ไม่ใช่ที่เงินหรือทรัพย์สินเงินทองมากมาย
ความจริงในชีวิต คือ เงินก็เป็นแค่อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในชีวิต และทำให้ยังคงดำรงอยู่ได้ในแต่ละวันก็เท่านั้นเอง แต่ตราบใดที่เราต้องดิ้นรนหาเงินต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย หรือไม่มีที่สิ้นสุดต่อให้มีเงินรวยมหาศาลก็หาความสุขทางใจไม่ได้เลย
ไม่ว่าอย่างไรคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินไม่มีความสำคัญ แต่การที่เราจะมีเงินใช้ในการดำรงชีวิตอย่างเดียวคงไม่พอ เราจึงต้องรู้จักเรียนรู้คุณค่าของเงินและเรียนรู้วิธีการแบ่งเงินแต่ละส่วนให้เหมาะสม เพื่อนำเงินมาใช้ได้ในยามที่จำเป็นและสามารถใช้ดำรงชีวิตอยู่ได้ต่อไปได้ในอนาคต เพื่อที่จะได้ไม่ต้องดิ้นรนหาเงินต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีจุดหมาย
การที่คุณจะสามารถดำรงชีวิตในแต่ละวันได้อย่างมีความสุข จำเป็นและมีความสำคัญมากที่ต้องเรียนรู้คุณค่าของเงิน ฉะนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้รับเงินเดือนหรือได้เงินมาแล้วให้คุณจัดสรรเงินที่ได้ออกเป็น 3 ส่วนดังนี้
เริ่มต้นการออมวันนี้
หากคุณจะทำอะไรก็ต้องมี “การเริ่มต้น” เสมอ ในส่วนของการออมก็เช่นกัน หลายคนคิดว่าการออมต้องเริ่มจากความพร้อมเท่านั้น ความจริงไม่ใช่ เพราะการออมคือการสละการใช้ในวันนี้ เพื่อเอาไปใช้ในวันข้างหน้า ถ้ารอพร้อม คนจำนวนมากก็อาจจะไม่มีวันพร้อมเลย เพราะต้องการใช้ที่มีให้หมด หรือเงินที่มีก็ยังไม่ค่อยจะพอใช้ หลายคนเริ่มออมตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่อาจจะตั้งวัตถุประสงค์ไว้ให้ เช่น เวลาที่ลูก ๆ อยากจะได้ของบางอย่าง จะไม่ซื้อให้โดยตรง แต่อาจจะเริ่มจากการออม พอออมได้ส่วนหนึ่ง พ่อแม่จะสมทบให้อีกส่วนหนึ่ง เพื่อซื้อของที่อยากได้ ลูก ๆ ก็จะตั้งใจออม ดังนั้นความตั้งใจจึงจะมีพลังมากกว่าความพร้อม
สอนให้ลูกรู้คุณค่าของเงิน
ถ้าอยากสร้างนิสัยการออมให้ได้ผลดี ต้องสร้างกันตั้งแต่วัยเด็ก เด็ก ๆ ควรจะเรียนรู้ถึงคุณค่าของเงินอย่างเป็นระบบขึ้นตอน โดยต้องทราบก่อนว่า “เงิน” เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ทำให้การแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการสะดวกขึ้น และการหาเงินเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายต้องใช้กำลังกาย กำลังสมอง และกำลังทรัพย์ในการหา แต่เงินก็ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต ดังนั้น เราจึงต้องฝึกที่จะเป็นนายของเงิน คือรู้คุณ ใช้ให้เป็น รู้จักการเก็บ ต้องออมให้เป็นนิสัย และรู้จักลงทุนไปต่อยอดนั่นเอง
ประโยชน์ของการออม
คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ออมเงิน ก็เป็นเพราะว่าไม่มีเป้าหมายยังไงละ ไม่รู้จะออมไปทำไม เพราะถึงจะไม่ออมก็มีใช้ โดยที่ไม่ลำบาก เลยทำให้ยังใช้ชีวิตเหมือนสมัยเรียนที่ขอเงินพ่อแม่ใช้ มีครอบครัวที่คอยสนับสนุนอยู่แล้ว แต่นี่ถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายมาก เพราะเมื่อไหร่ที่ถึงเวลาสร้างครอบครัว คนกลุ่มเหล่านี้จะรู้สึกลำบากที่สุด แต่ถ้าไม่อยากลำบากภายหลัง คุณต้องเริ่มทำงานและเริ่มออมได้แล้ว อาจจะเริ่มต้นจากการ
ตั้งเป้าหมายระยะสั้น ๆ ก่อนก็ได้ เช่น จะออมไว้เที่ยวต่างประเทศ หรือออมไว้ซื้อหุ้น หรือกองทุน ก็ได้ แต่ไม่ควรเป็นเป้าหมายที่ใหญ่เกินไป เพราะไม่งั้นจะไม่ถึงเป้าหมายและจะล้มเลิกในที่สุด
การมีเป้าหมายที่ชัดเจนทำให้เรามีความหวัง และการมีความหวังนั่นเอง จะทำให้เรามีชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสัน เพราะฉะนั้นแม้จะเป็นเป้าหมายเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงเป้าหมายใหญ่ ๆ ก็ล้วนแต่สร้างความหวังและความท้าทายมากน้อยต่างกัน แต่ก็ทำให้เรามีกำลังใจที่จะบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้เหมือนกัน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? สำหรับใครที่คิดว่า การจัดสรรเงินดังกล่าว เหมาะที่สุดกับการออมเงินเพื่อพิชิตเป้าหมาย ตอนนี้คุณพอจะมีไอเดียในการจะไปต่อได้แล้วรึยัง ? ซึ่งคุณสามารถแชร์ไอเดียได้นะครับหรือพูดคุยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นเก็บเงินเพื่อเป้าหมาย หรือว่านำเงินออมลงทุนต่อยอด หรือกับอะไรก็ตามแต่.... คุณสามารถคอมเมนต์มาด้านล่างนี้ได้เลย ผมยินดีรับฟังครับ
วรัทภพ รชตนามวงษ์
จริงหรือไม่ ! เงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ทุกอย่างต้องใช้เงิน
ในเมื่อชีวิตของเราเกี่ยวข้องกับเงินทุก ๆ วัน เราอาจจะหลงติดอยู่กับความสำคัญของเงินมากเกินไป แม้เงินจะช่วยให้เราบรรลุความฝันได้ก็ตาม ถ้าเรามองที่คนสองคน คนหนึ่งอาจจะมีเงินมากมายและบอกว่ามีความสุขกับการมีเงินมากมายนั้น อีกคนมีเงินไม่มากมายอะไรแต่บอกว่ามีความสุขดีกับชีวิต คนสองคนนี้มีความสุขที่เท่ากัน เพราะความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ใจ ไม่ใช่ที่เงินหรือทรัพย์สินเงินทองมากมาย
ความจริงในชีวิต คือ เงินก็เป็นแค่อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในชีวิต และทำให้ยังคงดำรงอยู่ได้ในแต่ละวันก็เท่านั้นเอง แต่ตราบใดที่เราต้องดิ้นรนหาเงินต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย หรือไม่มีที่สิ้นสุดต่อให้มีเงินรวยมหาศาลก็หาความสุขทางใจไม่ได้เลย
ไม่ว่าอย่างไรคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินไม่มีความสำคัญ แต่การที่เราจะมีเงินใช้ในการดำรงชีวิตอย่างเดียวคงไม่พอ เราจึงต้องรู้จักเรียนรู้คุณค่าของเงินและเรียนรู้วิธีการแบ่งเงินแต่ละส่วนให้เหมาะสม เพื่อนำเงินมาใช้ได้ในยามที่จำเป็นและสามารถใช้ดำรงชีวิตอยู่ได้ต่อไปได้ในอนาคต เพื่อที่จะได้ไม่ต้องดิ้นรนหาเงินต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีจุดหมาย
การที่คุณจะสามารถดำรงชีวิตในแต่ละวันได้อย่างมีความสุข จำเป็นและมีความสำคัญมากที่ต้องเรียนรู้คุณค่าของเงิน ฉะนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้รับเงินเดือนหรือได้เงินมาแล้วให้คุณจัดสรรเงินที่ได้ออกเป็น 3 ส่วนดังนี้
หากคุณจะทำอะไรก็ต้องมี “การเริ่มต้น” เสมอ ในส่วนของการออมก็เช่นกัน หลายคนคิดว่าการออมต้องเริ่มจากความพร้อมเท่านั้น ความจริงไม่ใช่ เพราะการออมคือการสละการใช้ในวันนี้ เพื่อเอาไปใช้ในวันข้างหน้า ถ้ารอพร้อม คนจำนวนมากก็อาจจะไม่มีวันพร้อมเลย เพราะต้องการใช้ที่มีให้หมด หรือเงินที่มีก็ยังไม่ค่อยจะพอใช้ หลายคนเริ่มออมตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่อาจจะตั้งวัตถุประสงค์ไว้ให้ เช่น เวลาที่ลูก ๆ อยากจะได้ของบางอย่าง จะไม่ซื้อให้โดยตรง แต่อาจจะเริ่มจากการออม พอออมได้ส่วนหนึ่ง พ่อแม่จะสมทบให้อีกส่วนหนึ่ง เพื่อซื้อของที่อยากได้ ลูก ๆ ก็จะตั้งใจออม ดังนั้นความตั้งใจจึงจะมีพลังมากกว่าความพร้อม
สอนให้ลูกรู้คุณค่าของเงิน
ถ้าอยากสร้างนิสัยการออมให้ได้ผลดี ต้องสร้างกันตั้งแต่วัยเด็ก เด็ก ๆ ควรจะเรียนรู้ถึงคุณค่าของเงินอย่างเป็นระบบขึ้นตอน โดยต้องทราบก่อนว่า “เงิน” เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ทำให้การแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการสะดวกขึ้น และการหาเงินเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายต้องใช้กำลังกาย กำลังสมอง และกำลังทรัพย์ในการหา แต่เงินก็ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต ดังนั้น เราจึงต้องฝึกที่จะเป็นนายของเงิน คือรู้คุณ ใช้ให้เป็น รู้จักการเก็บ ต้องออมให้เป็นนิสัย และรู้จักลงทุนไปต่อยอดนั่นเอง
ประโยชน์ของการออม
คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ออมเงิน ก็เป็นเพราะว่าไม่มีเป้าหมายยังไงละ ไม่รู้จะออมไปทำไม เพราะถึงจะไม่ออมก็มีใช้ โดยที่ไม่ลำบาก เลยทำให้ยังใช้ชีวิตเหมือนสมัยเรียนที่ขอเงินพ่อแม่ใช้ มีครอบครัวที่คอยสนับสนุนอยู่แล้ว แต่นี่ถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายมาก เพราะเมื่อไหร่ที่ถึงเวลาสร้างครอบครัว คนกลุ่มเหล่านี้จะรู้สึกลำบากที่สุด แต่ถ้าไม่อยากลำบากภายหลัง คุณต้องเริ่มทำงานและเริ่มออมได้แล้ว อาจจะเริ่มต้นจากการ
การมีเป้าหมายที่ชัดเจนทำให้เรามีความหวัง และการมีความหวังนั่นเอง จะทำให้เรามีชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสัน เพราะฉะนั้นแม้จะเป็นเป้าหมายเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงเป้าหมายใหญ่ ๆ ก็ล้วนแต่สร้างความหวังและความท้าทายมากน้อยต่างกัน แต่ก็ทำให้เรามีกำลังใจที่จะบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้เหมือนกัน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? สำหรับใครที่คิดว่า การจัดสรรเงินดังกล่าว เหมาะที่สุดกับการออมเงินเพื่อพิชิตเป้าหมาย ตอนนี้คุณพอจะมีไอเดียในการจะไปต่อได้แล้วรึยัง ? ซึ่งคุณสามารถแชร์ไอเดียได้นะครับหรือพูดคุยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นเก็บเงินเพื่อเป้าหมาย หรือว่านำเงินออมลงทุนต่อยอด หรือกับอะไรก็ตามแต่.... คุณสามารถคอมเมนต์มาด้านล่างนี้ได้เลย ผมยินดีรับฟังครับ
วรัทภพ รชตนามวงษ์