JJNY : ‘เราชนะ’วุ่นทั้งวัน! ‘คนแก่’เป็นลม│หนุ่มยันเป็นแพทย์อาสาจริง│เปิดยุทธวิธีผู้ประท้วงพม่า│ปทุมฯ เจอป่วยโควิดอีก 48

‘เราชนะ’ วุ่นทั้งวัน! ‘คนแก่’ เป็นลม ต่อคิวยาวสู้แดดหวังเงินเยียวยา 7 พันบาท
https://www.thebangkokinsight.com/552790/

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ก.พ.) โครงการเราชนะ ซึ่งจ่ายเงินเยียวยาโควิด-19 จำนวน 7,000 บาท ได้เปิดลงทะเบียนสำหรับผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนเป็นวันแรก
 
ผู้ที่ต้องการลงทะเบียน จะต้องเดินทางไปที่จุดบริการเคลื่อนที่หรือสาขาของธนาคารกรุงไทยด้วยตัวเองเท่านั้น ไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาแทนได้ และจะต้องแสดงบัตรประชาชนแบบ Smart Card ที่ยังไม่หมดอายุมาเป็นหลักฐานด้วย
 
แต่การเปิดลงทะเบียนวันแรกมีปัญหาตั้งแต่ช่วงเช้า เพราะมีประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก บางส่วนเดินทางไปรอตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ธนาคารกรุงไทยหลายพื้นที่มีประชาชนเดินทางไปรอหลักพันคน จึงไม่สามารถให้บริการได้เพียงพอกับความต้องการ
 
ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวและแชร์ภาพผู้สูงอายุเป็นลมขณะรอรับบริการ เนื่องจากผู้สูงอายุจำนวนมากไม่มีสมาร์ทโฟน จึงมาต่อแถวรอลงทะเบียนในครั้งนี้
 
ประเด็นดังกล่าวทำให้เกิดการตั้งคำถามเรื่องประสิทธิภาพการบริหารจัดการของรัฐบาล รวมถึงความยุ่งยากในการจ่ายเงินสวัสดิการ ทั้งที่ควรเป็นเรื่องพื้นฐานที่ประชาชนควรได้รับ

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ได้รับรายงานว่า การลงทะเบียนโครงการเราชนะที่ธนาคารกรุงไทยวันนี้มีการเบียดเสียดยัดเยียดกันมาก
 
แต่ไม่จำเป็นต้องมาวันแรกก็ได้ ได้ไหม บางที่มันแน่นเกินไป และมันเกิดขีดความสามารถ มันไม่ใช่ระบบออนไลน์ที่เป็นระบบที่มันเร็ว ยังเป็นระบบที่ต้องใช้กระดาษ มีการติดต่อสอบถามข้อมูลกัน เพราะอย่างนั้นมันต้องใช้เวลามากพอสมควร วันหนึ่งอาจจะไม่ได้มากนัก แต่ถ้าเราทยอยกันมามันก็ไม่คับคั่ง มีเวลาลงได้อีก ซึ่งเขามีการกำหนดไว้แล้ว
 
ได้สั่งให้กระทรวงการคลังไปดูเรื่องนี้ หากเวลาลงทะเบียนน้อยเกินไปก็ให้ขยายเวลาได้ และขอให้ประชาชนที่ไปลงทะเบียนอย่าลืมใส่หน้ากาก และรักษาระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและติดเชื้อโควิด-19” นายกรัฐมนตรี กล่าว
 

 
หนุ่มยันเป็นแพทย์อาสาจริง ไม่ได้แฝงตัว เล่านาทีถูกตีจนสลบ จ่อแจ้งความกลับ 
https://www.khaosod.co.th/politics/news_5959064
 
หนุ่มยันเป็นแพทย์อาสาจริง ไม่ใช่ผู้ชุมนุมแฝงตัวมา เผยนาทีเกิดเหตุ ถูกตำรวจ คฝ.ตีจนสลบ ยึดกรรไกรที่ใช้ทางการแพทย์ รอปรึกษาทนาย จ่อแจ้งความกลับ
 
จากกรณี ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ทำร้ายแพทย์อาสา ในระหว่างการชุมนุม ของกลุ่มราษฎรเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจได้ควบคุมผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 11 คน ขณะที่ตำรวจระบุว่า คนที่อ้างตัวเป็นแพทย์อาสาหรือพยาบาลอาสา ตรวจสอบประวัติไม่พบว่าเคยเรียนหรือศึกษาหลักสูตรทางการแพทย์หรือสหวิชาชีพพยาบาลแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่คำกล่าวอ้างลอยๆ เท่านั้น
 
ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 15 ก.พ.64 ที่ สน.ชนะสงคราม ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา จำนวน 5 ราย หลังได้รับการประกันตัว ได้เดินทางมาที่ สน.ชนะสงคราม หนึ่งในนั้นมี นายปุรพล วงศ์เจียก อายุ 19 ปี อาสาสมัครทีมเเพทย์ DNA (Doctor and Nurse Associate) ที่มีภาพถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนทำร้ายร่างกาย ขณะเข้าจับกุมจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง
 
นายปุรพล เปิดเผยว่า หลังแกนนำประกาศยุติการชุมนุม พวกตนกำลังช่วยเหลือคนเจ็บที่ถูกมีดบาด จากนั้นตำรวจ คฝ.ก็ประกาศให้ยุติการชุมนุมใน 30 นาที แต่พวกตนต้องตรวจเช็กสิ่งของและเก็บอุปกรณ์ ซึ่งผ่านไปเพียง 10 นาที ตำรวจ คฝ.ก็เข้ามา พวกตนจึงรีบออกทันที โดยมีรุ่นพี่ขี่รถจยย.ออกมา และพวกตนอยู่บนรถกระบะ แต่รถรุ่นพี่ดับจึงจอดแล้วลงไปช่วย
 
ระหว่างนั้นตำรวจ คฝ.ก็วิ่งเข้าหาตน แล้วบอกว่าให้ใจเย็นๆ ระวังตำรวจ คฝ.ชุดหลังจะเข้ามาทำร้าย และให้ตนคร่อมรถจยย.รอไว้ แต่ตำรวจ คฝ.ก็วิ่งเข้ามาก่อน ตนถูกตีจนสลบไปชั่วขณะ เจ้าหน้าที่ถึงจะตรวจค้นตัว แล้วยึดกรรไกรตัดผ้าที่ใช้การทางการแพทย์ ซึ่งมีปลายกลมที่ตนพกไว้กับตัวไป ยืนยันว่าตนไม่ได้ต่อสู้ขัดขืน และตนเป็นแพทย์อาสา ไม่ใช่ผู้ชุมนุมแฝงตัวเข้ามา ส่วนเรื่องแจ้งความกลับ ต้องรอปรึกษาทนายความก่อน
 
ขณะที่ นายอดิศักดิ์ ผาราม ผู้ที่ถูกจับกุมอีกราย กล่าวว่า ตนมาช่วยเพื่อนที่ถูกแก๊สน้ำตา ระหว่างนั้นกำลังล้างหน้าให้ ก็ถูกตำรวจ คฝ.วิ่งเข้ามาใช้กระบองตี จนได้รับบาดเจ็บ และถูกควบคุมตัวดังกล่าว

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่