JJNY : ยิ่งลักษณ์ชวนคนรุ่นใหม่│บันทึกจับกุมอาสาพยาบาลพบไม่ระบุอาวุธซุกซ่อน│ยี่ปั๊วเก็งกำไรดันราคาลอตเตอรี่│โต๊ะจีนโอด

ยิ่งลักษณ์ ชวนคนรุ่นใหม่ ร่วมเชนจ์เมกเกอร์ คิดกับเพื่อไทย ระดมทางออกประเทศ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2578721

 
วันนี้ (15 ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า 

“สัปดาห์ที่แล้วดิฉันเห็นข่าวเปิดตัวแพลตฟอร์ม THINK – คิด เพื่อไทย ที่เสนอโครงการ ชื่อ ‘THE CHANGE MAKER’ ดูแล้วน่าสนใจมาก เห็นรายละเอียดจากเพจ https://www.facebook.com/thinkpheuthai
 
ถือว่า เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้คนไทยทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ได้มีพื้นที่ ในการแสดงความคิดเห็น ผ่านวิดีโอคลิป 3 นาที เพื่อเสนอทางออก และ แนวทางในการแก้ปัญหาประเทศ ซึ่งดิฉันเห็นว่า เป็นความคิดที่ดี ที่เพื่อไทยได้ปรับเปลี่ยนวิธีการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ซึ่งในปัจจุบันแทบไม่มีพื้นที่ หรือเปิดพื้นที่ในการแสดงออกหรือรับฟังปัญหาจากประชาชน
 
พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองที่ใกล้ชิดกับประชาชนก็ต้องหาวิธีที่จะสามารถช่วยกันผลักดันแนวทางการแก้ปัญหา และข้อเสนอของประชาชน ซึ่งในโครงการนี้ จะมีการคัดความคิดที่เป็นประโยชน์และมาหาทางแก้พร้อมลงพื้นที่ปฎิบัติ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนจากรับฟังแค่เพียงอย่างเดียวลงไปสู่การปฎิบัติหรือแก้ปัญหาจริง
 
ดิฉันขอถือโอกาสนี้สนับสนุนโครงการที่ตอบโจทย์ประเทศในสถานการณ์ปัจจุบัน ตอบสนองปรัชญาและแนวทางที่เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนเช่นนี้ค่ะ และดิฉันอยากเห็นคนออกมาช่วยแสดงความคิดกันเยอะๆ เพราะถึงเวลาแล้วที่เราต้องช่วยกันคิดและหาทางออกด้วยกัน เพื่อให้ประเทศของเราก้าวทันหลายๆประเทศเหมือนอย่างที่เราเคยเป็นมาในอดีตค่ะ
 
เราจะไม่นิ่งเฉยต่อปัญหาของประเทศ
เราจะไม่ท้อกับวิกฤติที่เกิดขึ้นในสังคม
แต่เราจะ ช่วยกันให้ ประเทศไทยของเราหลุดพ้นจากวิกฤติไปด้วยกัน
ขอเป็นกำลังใจให้กับคนไทยทุกคนค่ะ


 
ศูนย์ทนายฯ เปิดบันทึกจับกุม ‘อาสาพยาบาล’ พบไม่ระบุเรื่องยึดอาวุธซุกซ่อนในเสื้อกั๊ก
https://www.matichon.co.th/politics/news_2578714

ศูนย์ทนายฯ เปิดบันทึกจับกุม ‘อาสาพยาบาล’ พบไม่ระบุเรื่องยึดอาวุธซุกซ่อนในเสื้อกั๊ก
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ระบุว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความ ถึงกรณีการจับกุม ‘อาสาพยาบาล’
ข้อความระบุว่า
 
14 กุมภาพันธ์ 2564 จากกรณีพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีการควบคุมตัวทีมพยาบาลอาสา จากการชุมนุม #ม็อบ13กุมภา โดยระบุว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้มีอาชีพพยาบาล และยังอยู่ในกลุ่มที่ก่อความวุ่นวาย โดยที่บางสำนักข่าวยังเผยแพร่ข้อมูลในลักษณะว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบอาวุธซุกซ่อนอยู่ภายในเสื้อกั๊กพยาบาลด้วย โดยที่ไม่แน่ชัดว่าข้อมูลดังกล่าวมาจากที่ใด
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่าในการจับกุมบุคคล 8 ราย วานนี้ รวมทั้ง “ปุรพล” ทีมพยาบาลอาสา วัย 19 ปี ไม่ได้มีการตรวจยึด “อาวุธ” หรือพบ “สารเสพติด” ใดๆ จากผู้ถูกควบคุมตัว รวมทั้งไม่ได้พบ “อาวุธ” ในเสื้อกั๊กพยาบาลตามรายงานข่าวดังกล่าวแต่อย่างใด มีแต่เพียงกรรไกรทางการแพทย์ที่พบจากตัวปุรพล โดยตามบันทึกการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ระบุเรื่องนี้เอาไว้ เพราะหากมีการตรวจยึดสิ่งของใดๆ เจ้าหน้าที่ต้องมีการบันทึกการตรวจยึดเอาไว้ตามกฎหมาย
 
อีกทั้ง “ปุรพล” แม้ไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นแพทย์หรือพยาบาล แต่กำลังศึกษาต่อด้านการแพทย์ฉุกเฉินในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง เมื่อเห็นสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในช่วงปี 2563 เขาจึงได้สมัครเข้ามาเป็นอาสาสมัครทางการแพทย์ ของทีมแพทย์อาสา DNA (Doctor and Nurse Associate) ซึ่งรับสมัครและคัดกรองบุคคลเข้ามาช่วยงานอาสาดูแลประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ชุมนุม
 
ปุรพลเริ่มปฏิบัติงานอาสาดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563 ซึ่งมีการฉีดน้ำความดันสูงระหว่างการชุมนุมที่สี่แยกปทุมวัน เขาปฏิบัติงานในลักษณะอาสาสมัคร ไม่ได้ค่าตอบแทนใดๆ จากการทำกิจกรรมนี้
 
ปุรพลให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าในการชุมนุมวานนี้ ตนไปถึงที่ชุมนุมตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. และประจำอยู่ที่เต็นท์พยาบาล หน้าร้านแมคโดนัลด์ โดยสวมใส่เสื้อกั๊กแสดงความเป็นหน่วยแพทย์-พยาบาลอาสาเอาไว้ตลอด
 
ขณะเคลื่อนขบวน เขาได้ติดตามการชุมนุมไปด้านท้ายขบวน ขณะผู้ชุมนุมเดินไปหน้าศาลฎีกา หลังแกนนำประกาศยุติการชุมนุม ทีมพยาบาลอาสา กําลังเก็บของขึ้นรถ ได้เห็นผู้ชุมนุมคนหนึ่งรถเสียและโดนแก๊สน้ำตา หัวหน้าทีมอาสา DNA จึงเข้าไปช่วยเหลือ ปุรพลได้คร่อมรถจักรยานยนต์รออยู่ ขณะนั้นเองได้มีชุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนประมาณ 10 กว่านาย เข้ามาฟาดที่หัวจนเขาล้มลง จากนั้นก็รุมใช้เท้าและกระบองฟาด จนเขาสลบไป
 
ในช่วงคืนที่ผ่านมา ระหว่างสอบปากคำภายใน บก.ตชด.ภาค 1 ปุรพลยังมีอาการมึนหัว ปวดต้นคอ ไหล่ซ้าย และท้ายทอย มีบาดแผลที่หลังเป็นรอยกระบอง ต้นแขนซ้าย ข้อเท้าข้างซ้ายมีรอยฟกช้ำ และมือทั้งสองข้างบวมช้ำจากกระบอง
 
ก่อนการแจ้งข้อกล่าวหาช่วงคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพยายามเจรจากับปุรพล ไม่ให้เอาเรื่องกับตำรวจต่อเหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายระหว่างการจับกุม แต่ปุรพลไม่ยินยอม ทำให้ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาต่อปุรพล 6 ข้อกล่าวหา เช่นเดียวกับผู้ถูกควบคุมตัวคนอื่นๆ
—————————-
ดูสรุปสถานการณ์การควบคุมตัววานนี้ “สลายชุมนุม #ม็อบ13กุมภา จับกุม 11 ราย ส่ง ตชด.ภาค 1 ก่อนปรับ 3 ราย เตรียมส่งฝากขัง 8 ราย รวมพยาบาลอาสา” >> https://tlhr2014.com/archives/25897
 
https://www.facebook.com/lawyercenter2014/posts/3661279040588590

 
ยี่ปั๊วแห่เก็งกำไรดันราคาลอตเตอรี่เกิน 80 บาท
https://www.dailynews.co.th/economic/825381
 
ลอตเตอรี่ราคาขยับขึ้น 90-100 บาท หลังยี่ปั๊วกลับมาเก็งกำไร เลข 564 มาแรงสุดขายใบละ 150 บ. ชุด 5 ใบ 1,200 บาท ด้านกบไชโย ผีน้อยยังแรง คอหวยฮิตซื้อใบละ 120 บาท 
 
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลก่อนออกรางวัลงวด 16 ก.พ.64 กลับมาคึกคักขึ้น เนื่องจากมีเลขดังให้ติดตามเยอะอีกทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดเริ่มคลี่คลาย ทำให้บรรดายี่ปั๊วเริ่มกลับมารับซื้อสลากฯเก็งกำไรอีกครั้ง โดยรับซื้อเฉลี่ยใบ 84-87 บาท และขายปลีกต่อที่ใบละ 90-100 บาท ส่วนสลากฯชุด 2 ใบขายกันเริ่มต้นคู่ละ 200-220 บาท รวมถึงสลากฯรูปภาพผีน้อย กบไชโย ยังได้รับความนิยม เพราะนักเสี่ยงโชคเชื่อว่ามีโอกาสถูกรางวัลสูงกว่าปกติ โดยขายกันถึงใบ 120 บาท ถ้าเป็นชุด 2 ใบขาย 250 บาท ส่วนชุด 5ใบราคาขยับไปถึง 700 บาท และคาดว่าในงวดนี้ลอตเตอรี่จะขายหมดไปด้วยดี 
 
สำหรับเลขที่ได้รับความนิยมมากสุดงวดนี้ เป็นเลขดังปีใหม่ 564 สลากฯใบเดียวขาย 150 บาท ส่วนสลากฯชุด 5 ใบขายถึง 1,000-1,200 บาท ขณะที่เลขได้รับความนิยมรองลงมาเป็นเลข 89 ขาย ใบละ 130 บาท ชุด 5 ใบ 800 บาท นอกจากนี้ยังมีเลขอื่นที่ได้รับความนิยม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เลขปีใหม่ ค.ศ. 2021 เลขวันตรุษจีน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และเลข 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ 
 
ส่วนออกรางวัลงวดนี้ ออกที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ นนทบุรี เริ่มตั้งแต่ 14.30 น. โดยประชาชนที่สนใจเข้าชมการออกรางวัลได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการฯ ป้องกันการแพร่ระบาดของของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากาก ตรวจวัดอุณหภูมิ หากไม่สะดวกสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ และอินเทอร์เน็ตออนไลน์ได้พร้อมกันทั่วประเทศ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่