ไม่มีข้อห้ามในการทำศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic surgery/Cosmaticsurgery) ในศาสนาอิสลาม

 

ซูเราะฮฺอันนิสาอ์ (บท เหล่าสตรี)

لَعَنَهُ اللَّهُ ۘ وَقَالَ لَأَتَّخِذَنَّ مِنْ عِبَادِكَ نَصِيبًا مَفْرُوضًا {118}
{4:118} อัลลอฮฺได้ทรงสาปแช่งมันแล้ว และมันได้กล่าวว่า "ข้าฯจะต้องเอาจากเหล่าบ่าวของพระองค์ให้ได้ส่วนที่ถูกกําหนดไว้"

وَلَأُضِلَّنَّهُمْ وَلَأُمَنِّيَنَّهُمْ وَلَآمُرَنَّهُمْ فَلَيُبَتِّكُنَّ آذَانَ الْأَنْعَامِ وَلَآمُرَنَّهُمْ فَلَيُغَيِّرُنَّ خَلْقَ اللَّهِ ۚ وَمَنْ يَتَّخِذِ الشَّيْطَانَ وَلِيًّا مِنْ دُونِ اللَّهِ فَقَدْ خَسِرَ خُسْرَانًا مُبِينًا {119}
{4:119} "และข้าฯจะต้องทำให้พวกเขาหลงผิด และข้าฯจะต้องทำให้พวกเขาเพ้อฝัน และข้าฯจะต้องสั่งพวกเขา แล้วพวกเขาก็
ต้องผ่าหูปศุสัตว์ และข้าฯจะสั่งพวกเขา แล้วพวกเขาก็ต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งที่อัลลอฮฺทรงสร้าง และผู้ใดที่ยึดเอาชัยฏอนเป็น
ผู้ช่วยเหลือแล้ว แน่นอนเขาก็สูญเสียอย่างชัดเจน"

ความหมายของสองบัญญัตินี้คือ  ชัยฏอน(อิบลีส) ที่ดื้อรั้น กล่าวว่า:

1. มันจะทำให้มนุษย์หลงผิด โดยที่มันจะสั่งให้มนุษย์เปลี่ยนแปลงสิ่งที่อัลลอฮ์สร้าง(จากดีเป็นเลว) เช่นผ่า/ตัดหูปศุสัตว์
2. ถ้ามนุษย์หลงผิด เดินตามแนวทางของชัยฏอน(อิบลีส) ทำลายสิ่งที่พระเจ้าสร้าง กระทำเช่นเดียวกับที่ชัยฏอนผ่า/ตัดหู
ปศุสัตว์ วัว/ควาย
 
จุดมุ่งหมายของชัยฏอน ในบ้ญญ้ติที่  {4:118} และ  {4:119} คือต้องการแก้แค้นและแข่งขัน อำนาจกับ อัลลอฮ์ตะอาลา เป็น
ความตั้งใจและจุดมุ่งหมายที่ชั่วช้า ในการที่จะชักจูงมนุษย์ ไปในทางชั่วของมัน สิ่งที่มันต้องการทำคือการหลอกล่อ และลวง
มนุษย์ให้ เชื่อฟังมัน มันยกตัวอย่างให้เห็นว่า ถ้ามันออกคำสั่งให้มนุษย์ ตัดหูวัวหรือควาย จนแหลกเหลว ทำให้หูของมันขาด
หน้าที่ตามความมุ่งหมายของอัลลอฮ์  คือการได้ยิน มนุษย์ก็จะทำตามมัน   หรือถ้ามันจะปลอมแปลงคำสอนใดๆว่าเป็นของ
อัลลอฮ์ มนุษย์ก็หลงเชื่อถือปฏิบัติ ตามความตั้งใจชั่วของ ชัยฏอน(อิบลีส)

ถ้ามนุษย์หรือโดยเฉพาะมุสลิม ทำลายหรือเปลี่ยนแปลงอวัยวะของมนุษย์หรือสัตว์ ให้เสียหน้าที่ไปจาก ธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลงาน
การสร้างของอัลลอฮ์ ก็เท่ากับมนุษย์/มุสลิมเชื่อฟัง ชัยฏอน(อิบลีส) ซึงถือว่าเป็นบาป ฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮ์  เดินตามแนวทาง
ความชั่วช้าของ ชัยฏอน(อิบลีส)

มีนักวิชาการและครูสอนศาสนาอิสลาม นำบ้ญญ้ติที่  {4:118} และ  {4:119} มาเป็นข้ออ้างอิงในการห้ามมุสลิม ทำศัลยกรรมตก
แต่ง และ แก้ไขข้อบกพร่องบางอย่าง ให้ดูสวยงามและและทำหน้าที่ตามความมุ่งหมายของผู้สร้าง อัลลอฮ์ตะอาลา ว่าเป็นการ
เปลี่ยนแปลงธรรมชาติ ของการสร้างของอัลลอฮ์ และเชื่อฟังคำสั่งของชัยฏอน(อิบลีส)

ถ้าเราพิจารณาดูวิธีการทำศัลยกรรมตกแต่งนั้นมีการกระทำวิธีการใดบ้าง ที่ส่วนมากของผู้คนต้องการทำ คือ:

การทำศัลยกรรมตกแต่ง(Plastic surgery) มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขส่วนที่ผิดปกติของร่างกายและตามความหมายคือ "การสร้างขึ้นใหม่ตาม
ธรรมชาติ ในขณะที่ศัลยแพทย์ตกแต่งหลายคนเลือกที่จะฝึกอบรมเพิ่มเติม เพื่อทำศัลยกรรมความงาม(Cosmaticsurgery) ซึ่งเป็นประเภท
หนึ่งของ ศัลยกรรมตกแต่ง  ดังนั้นพื้นฐานของการฝึกอบรมการผ่าตัดของแพทย์ ทั้งสองประเภทนั้นก็คือ ผึกมาจากการทำศัลยกรรมตกแต่ง
นั้นเอง 

1. การเสริมเต้านมให้มีขนาดธรรมชาติและสวยงามขึ้น ทำให้สตรีเกิดความมั่นใจในต้วเองและสุขภาพจิตดีขึ้น
2. การลดขนาดของเต้านม ให้มีขนาดและน้ำหนักพอสมควรที่จะไม่กระทบกระเทือนกระดูกสันหลัง ทำให้ปวดหลัง และเสียการทรงตัว
3. การจัดฟันห้มีระยะเคียงตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยในระบบการย่อยอาหารดีขึ้น 
4. การเสริมจมูก ที่บี้แบน ทำให้เสียงที่เปร่งออกมาเวลาพูดจาเป็นไปตามธรรมชาติ, การเสริมโครงกระดูกของจมูก ให้โค้งนูน ตาม
ธรรมชาติเพิ่มความสวยงาม และเพิ่มความมั่นใจให้กับสตีมากขึ้น 
5. การถอนขนคิ้วให้ดูเรียวงามตามธรรมชาติของสตรีเพื่อเพิ่มความงาม เช่นเดียวกับชายมุสลิมที่ไว้หนวดและตกแต่งหนวดเคราอย่างสวยงาม ที่
ตบแต่งหนวดเคราอย่างสวยงาม

พอจะกล่าวได้ว่าศัลยกรรมตกแต่งที่เป็นไปในทางดี ในทางเสริมสร้าง, เพื่อสร้างความสุขกายสบายใจให้แก่บุคคล ให้มีสุขภาพจิตที่ดี
ตามธรรมชาติของการสร้างของอัลลอฮ์ โดยที่ทำให้หน้าที่ของอวัยวะนั้นสมบูรณ์และสวยงามขึ้น และทำหน้าที่ให้ดีขึ้น ไม่ใช่การเดิน
ตามทางของ ชัยฏอน(อิบลีส), เพราะไม่ใช่เป็นการทำลายอวัยวะหรือหน้าที่ของอวัยวะ หรือ ทำให้อวัยวะขาดวิ่น จนเสียหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ของ อัลลอฮ์ที่สร้างมา

ถ้ามุสลิมถือว่าการทำศัลยกรรมตกแต่ง เป็นการกระทำที่ผิดหลักศรัทธาของศาสนาอิสลามแล้ว เราลองหันมาดูและทำความเข้าใจ ให้ดี โดยใช้
สติปัญญา ,สายตา และสมองของเราไตร่ตรอง เราจะเห็นได้ว่า มุสลิมเราได้เดินทางตามคำสั่งของชัยฏอน(อิบลีส) มานมนานแล้ว โดยการที่มัน
หลอกลวงมุสลิมว่า "การขลิบอวัยวะเพศ ของทั้งหญิงและชาย เป็นส่วนของความศรัทธาต่อศาสนาอิสลาม และ ความเป็นมุสลิม โดยที่มุสลิม ไม่
ได้ใช้ความคิดสติปัญญาไตร่ตรอง ในการปฏิบัติตามคำหลอกลวงของชัยฏอน(อิบลีส), ทั้งๆที่ อัลลอฮ์ได้ทรงเตือนไว้ตาม ที่พระองค์ทรงบัญญํติ
ไว้ในอัลกุรอาน ว่า "ชัยฏอน(อิบลีส) มันมีความตั้งใจ ทีจะล่อลวงมุสลิมให้ปฏิบัติตามมัน (4:118 และ 4:119)"

ชัยฏอน(อิบลีส) มันเริ่มการหลอกลวงมุสลิมมาโดยการสร้างเรื่องปลอมซึ่งขาดหลักฐาน โดยอ้างว่า เรื่องเล่าข้างล่างนี้ เป็นคำกล่าว
ของ ท่านศาสนทูตมูฮัมมัด ทั้งนี้เพราะชัยฏอน(อิบลีส) ใช้ฮาดีษเหล่านี้ ในการหลอกลวงมุสลิมชายหญิงให้หลงเชื่อ เพื่อทำลาย
ธรรมชาติ ของผลงานการสร้างของอัลลอฮ์ เพื่อให้มุสลิมปฏิบัติตามมัน โดยการขลิบอวัยวะเพศทั้งหญิงและชายในการนับถือศาสนา อิสลาม:

ฮาดีษแรก:
الْخِتَانُ سُنَّةٌ لِلرِّجَالِ، مَكْرُمَةٌ لِلنِّسَاءِ
การขลิบ(การตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย นั้นเป็นผลดีสำหรับผู้ชาย) การตัดอวัยวะเพศหญิง เป็นการมีเกียรติสำหรับผู้หญิง
( หมายความว่า การขลิบหนังหุ้มอวัยวะเพศชายเป็นสิ่งดีสำหรับผู้ชาย และการตัด แคมเล็กและปุ่มกระสันต์ของ อวัยวะ เพศหญิง เป็นเกียรติต่อสตรี)

ฮาดีษที่สอง:
 إِذَا مَسَّ الْخِتَانُ الْخِتَانَ فَقَدْ وَجَبَ الْغُسْلُ
เมื่ออวัยวะเพศที่ถูกขลิบ (เพศชาย) พบกับอวัยวะเพศหญิงที่ถูกตัด (เพศหญิง) ดังนั้นการชำระล้างร่างกาย และ น้ำละหมาด เป็นสิ่งที่จะต้องทำ 

ฮาดีษที่สาม:
أَنَّ امْرَأَةً كَانَتْ تَخْتِنُ بِالْمَدِينَةِ، فَقَالَ لَهَا النَّبِيُّ: " لَا تُنْهِكِي، فَإِنَّ ذَلِكَ أَحْظَى لِلْمَرْأَةِ وَأَحَبُّ إِلَى الْبَعْلِ
สตรีในเมืองมะดินะ เคยตัดอวัยวะเพศของเธอ, ดังนั้นท่านศาสดามูฮัมมัดจึงบอกพวกเธอว่า "อย่าตัดจนเกินเลยไป การตัดแต่พอควร จะนำความ
สุขมาสู่ภรรยา และสามีของเธอเช่นกัน"

ฮาดีษทั้งสามนี้ และฮาดีษอื่นๆที่สนับสนุนการทำการขลิปปลายอวัยวะเพศ ทั้งเพศชายและเพศหญิง เป็นผลงานของ ชัยฏอน(อิบลีส) ที่วางแผน
การล่อลวงมนุษย์ด้วยเอกสารปลอมโดยอ้างว่าเป็นคำสอนของท่านศาสดามูฮัมมัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้มุสลิมมีความเชื่อถือและปฏิบัติตาม โดยมุสลิม
รุ่นต่างๆ ก็ถือปฏิบัติตาม ชัยฏอน(อิบลีส) ในการทำลายผลงานตามธรรมชาติของอัลลอฮ์ผู้สร้าง 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 
 เหตุผลที่ว่า การขลิบ หนังหุ้มปลายอวัยวะสืบพันธุ์ชายเพื่อรักษาความสะอาดนั้น เป็นเหตุผลของผู้เกียจคร้านในการรักษาความสะอาดสุขภาพส่วนตัว แต่เหตุผลในทางการแพทย์และสรีระวิทยานั้นของ การที่พระเจ้าสร้างหนังหุ้มปลายนั้น มีผลดีมากกว่า การทำลายอวัยวะตามธรรมชาติซึ่งเป็นผลงานของ อัลลอฮ์ ถ้ามุสลิมที่เป็นแพทย์หรือมีความรู้ทางกายวิภาคและสรีระวิทยา จะใช้ความพยายามและความคิดที่ฉลาดและพิจารณาผลงานของอัลลอฮ์ ก็จะทราบว่า มุสลิมเราเกือบ 100% ได้ตกเป็นเหยื่อของ ชัยฏอน(อิบลีส) มาหลายชั่วคน ถึงเวลาแล้วที่ มุสลิมที่มีความรู้างศาสนาและางสุขภาพส่วนบุคคล จะพิจารณาดูว่า เราจะเดินตามทางชั่วของชัยฏอน(อิบลีส) หรือจะเดินตามทางของอัลลอฮ์, อัลลอฮ์ไม่ได้มีคำสั่งให้ตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายในการเป็นมุสลิม หรือทำลายอวัยวะเพศหญิงในการเป็นสตรีมุสลิม 

เมื่อเราไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวที่เราได้ยิน เราจำเป็นที่จะต้องใช้อวัยวะต่างๆ ที่อัลลอฮ์ทรงสร้างมาเพื่อให้มนุษย์เข้าใจเรื่องราวเหล่านั้น คือ ฟังด้วยหู และใช้สายตาอ่านเอกสาร หรือมองเรื่องราวนั้นให้เห็นและเข้าใจอย่างชัดเจน ถึงความจริงเท็จของเรื่องเล่าเหล่านั้น แล้วจึงตัดสินใจว่าควรจะเชื่อและนำมาปฏิบัติตามหรือไม่ (17:36)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อัลลอฮ์ได้กล่าวเตือนมนุษย์/มุสลิม ไว้ว่า ในหมู่มนุษย์จะมีผู้นำเอา ฮาดีษที่ไร้สาระ لَهْوَ الْحَدِيثِ (เรื่องบอกเล่าที่ไร้สาระปราศจากความจริง) มาหลอกลวง ผู้คนให้หลงออกจากทางของอัลลอฮฺ โดยปราศจากความรู้ และถือถือว่าการศึกษาอัลกุรอานเป็นเรื่องขบขัน ชนเหล่านี้พวกเขาจะได้รับการลงโทษอันอัปยศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้วยเหตุที่มุสลิมเห็นความสำคัญของเรื่องบอกเล่าที่ไร้สาระ ( لَهْوَ الْحَدِيثِ ) มากกว่าอัลกุรอาน ไม่ให้ความสำคัญของอัลกุรอาน  และไม่ศึกษาอัลกุรอาน ให้เข้าใจตามบริบทของบัญญัติต่างๆ, ด้วยเหตุนี้ มุสลิมเกือบ 100% จึงตกเป็นเหยื่อของ ชัยฏอน(อิบลีส) มาชั่วลูกชั่วหลานจนถึงปัจจุบันนี้

ทั้งนี้เพราะว่านักวิชาการไม่ยอมบอก หรือสอน ตามความจริง ตามหลักการของศาสนาอิสลามที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้ไว้ในอัลกุรอาน แต่เลือกเอา วิถีทางของชัยฏอน(อิบลีส) มาถือปฏิบัติ ด้วยความหลงเชื่อชัยฏอน อิบลีส   {4:118} และ  {4:119}  เลยพากันทำลายและเปลี่ยนแปลงผลงานทางธรรมชาติของ อัลลอฮ์ผู้สร้าง ด้วยการตัดทำลายส่วนหนึ่งของอวัยะเพศทั้งหญิงและชาย ทำให้การทำงานไม่สมบูรณ์ เช่นเดียวกับ การกระทำของชัยฏอน(อิบลีส) ที่ตัดและทำลายหูของวัวและควาย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่