เรื่องของเรื่องคือ ทางผมขับรถมาในช่องทางปกติ ถนนมีแค่ 2 เลน
เลนซ้ายได้ทั้งเลี้ยวซ้ายและตรง ส่วนเลนขาวได้ทั้งเลี้ยวขวาและตรง ซึ่งผมขับมาฝั่งขวา และคู่กรณีมาฝั่งซ้าย ขับมาคู่กัน
ซึ่งข้างหน้าเป็นสี่แยก ผมจะขับตรงไป พอกำลังจะขับผ่านทางม้าลายข้ามแยก รถคู่กรณีมาชนล้อแมกซ์ด้านล้อซ้ายหลังและตัวรถบริเวณใกล้เคียงตัวล้อ
โดยตอนแรกทางคู่กรณีบอกว่าผมไปปาดหน้ารถเค้าทั้งๆที่ผมอยู่เลนส์ตัวเอง
และคู่กรณีก็กล่าวต่อประมาณว่า รถข้างหน้าตัวเองจะเลี้ยวซ้ายเลยเบี่ยงมาทางผม แล้วผมโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้
ซึ่งจะเป็นไปได้ไง ขับรถคู่กันมาเลย และตรงถนนตรงนั้นเป็นโซนเส้นทึบ มาแซงย้ายเลนไม่ได้อยู่แล้ว
ต่อให้ไม่มีรถก็เปลี่ยนเลนไม่ได้ ประกันก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดี แต่กลับไม่สนใจในข้อเท็จจริงนี้
ทางบริษัทประกันผมก็ได้ขอดูกล้องติดหน้ารถเนื่องจากทางคู่กรณีบอกว่ามีกล้องหน้ารถ
ทางผมจึงกลับไปดูกล้องรถตัวเองด้วย จะได้เอามาชนกันให้เห็นๆไปเลย
จากกล้องคู่กรณี ก็เห็นได้ชัดเจนว่าทางคู่กรณีขับแล้วมีการหักหัวเบี่ยงมาชนผม รถผมขับมาอยู่ในเลนตัวเองปกติ ซึ่งก็ได้คำตอบเดิมว่าหลบรถคันข้างหน้า
และจากกล้องรถตัวผมเองก็เห็นว่า รถคู่กรณีเปิดไฟเลี้ยงขวามาตั้งแต่แรก ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะเลี้ยวขวา หรือแค่จะแซงผม
แต่ไม่ว่าจะกรณีไหนก็ตาม ทางรถคู่กรณีไม่มีสิทธิ์ทำเพราะมันเป็นเส้นทึบ มันย้ายเลนไม่ได้ ซึ่งจิงๆก็ควรจะจบเรื่องแล้ว
แต่พนักงานประกันของผมกลับดูวีดีโอเลื่อนไปมา แล้วนั่งพูดวนว่าจริงๆผมก็ผิดผมขับเอียงมาใกล้เส้นทึบ ซึ่งเอ้าแต่ผมก็ยังอยู่ในเลนตัวเองรึเปล่า
จากที่ไม่โมโหกลายเป็นโมโห เพราะเหมือนโดนฝั่งนั้นรุม ซึ่งก็คือประกันของตัวเอง พูดวนจนทำให้คู่กรณีคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกมั้ง
เพราะพอประกันของคู่กรณีมาถึง และได้ดูคลิปวีดีโอกล้องหน้ารถ ทางนั้นก็ฟันว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด
ซึ่งทางคู่กรณีก็ได้นำคำกล่าวของประกันรถฝ่ายผมมาแย้ง.ไม่ยอมรับ บอกว่าให้ดูคลิปวีดีโอรถผมเพราะทางประกันรถผมบอกว่าเค้าถูก
ซึ่ง อ้าวววววววววว งงมากกกกกกก แต่แล้วเรื่องก็ไม่จบ ทางประกันฝ่ายคู่กรณีก็บอกว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด
ทำให้ทางฝั่งคู่กรณีที่น่าจะคิดว่าตัวเองถูกจากคำกล่าวของประกันฝั่งตัวผม
อยู่ดีๆก็พูดว่า "ถ้ารู้ว่าจะผิด ชนเลยทั้งคันจังๆดีกว่า"
แปลว่าอะไรอะ ซึ่งทางคู่กรณีก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด เพราะคงคิดไปแล้ววา่าตัวเองต้องถูก
ทำให้รู้สึกไม่มีความปลอดภัยในชีวิตเลย เลยต้องอัดเสียงไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งทางประกันของเราอีกเช่นกันก็คงหวังดีช่วยเกลี้ยกล่อบบอกทางคู่กรณีว่า
อย่าพูดนอกประเด็ด นี่กลายเป็นการกล่าวหา เค้าฟ้องหมิ่นประมาทได้นะ ทางคู่กรณีถึงปิดปากหยุดพูดได้
เอาจริงรู้สึกไม่ปลอดภัยกับชีวิตมาก ไม่ช่วยเรา ทำให้คู่กรณีเข้าใจผิด จนสุดท้าย มาพูดว่ารู้งี้ว่าผิดจะชนจังๆทั้งคัน จากที่ไม่ควรจะมีเรื่องกลายเป็นเรื่องใหญ่
ซึ่งทางประกันของเราก็ยังไม่จบ เราเข้าใจนะว่าเค้าคงอยากให้เราสบายใจเลยพูดประมาณว่ารับผิดแบบ ผิดทั้งคู่ ก็แยกกันไปซ่อม ผมก็ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกมั้ย ประกันชั้น 1 กับ ประกันชั้น 1 เจอกัน บริษัทจะไม่เรียกร้องกัน แต่จะไปแยกกันซ่อมเอง ซึ่งผมก็ยิ่งงงว่าเอ้าสรุปคือจะให้ผมผิดให้ได้หรอ (จริงๆเรื่องจบแล้วแต่ทางพี่พนักงานยังคงอธิบายต่อ) ซึ่งเอาตรงๆ งงมั้ย ถ้าผมรับผิดในสิ่งที่ไม่ผิด ค่าเบี้ยประกันของผมก็ต้องถูกปรับเพิ่มปีหน้าปะ พี่ไม่คิดถึงมุมนี้บ้างหรอ
ค่าซ่องไม่มีใครวอรี่หรอกเพราะมีประกัน แต่ถ้าเราผิด ก็ถูกเพิ่มเบี้ยปีหน้าถูกไหมครับ
ผมใช้ประกันบริษัท เมืองไทยประกันภัย เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เสียเวลามาก และรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยเหมือนถูกคุกคาม เพราะคำพูดของบริษัทประกันฝ่ายเรา. เราไม่ได้ขอให้เข้าข้างเราหรือพลิกคดี ผิดเป็นถูก แต่อย่างน้อย คุณควรอำนวยความสะดวก ช่วยเหลือ ปกป้องเรา วางตัวให้ถูก ไม่ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก และไม่ใช่ รุมเรา แล้วพูดวนไปวนมาจนเสียเรื่อง เสียเวลา ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ปัญหาครั้งแรกของการใช้บริการ ยังมีอีกมากมายที่พยายามจะลืม แต่ก็มีเรื่องใหม่โผล่มาใหม่เรื่อยๆ
จะย้ายบริษัทไปบริษัทอื่นก็ไม่ได้ เพราะทางคุณก็รู้อยู่ว่าเพราะอะไร
ซื้อรถกับคุณ ประกันก็ต้องทำกับคุณ ซึ่งต้องมาเจอประสบการณ์แบบนี้มันเป็นเรื่องที่ ไม่อยากแนะนำให้ใครมาเจอเลยจริงๆ
ปรับปรุงหน่อยเถอะครับ PLEASE
ขอสอบถาม เมืองไทยประกันภัย และท่านผู้รู้ เพราะไม่รู้ว่าเราคิดไปเองรึเปล่า
เลนซ้ายได้ทั้งเลี้ยวซ้ายและตรง ส่วนเลนขาวได้ทั้งเลี้ยวขวาและตรง ซึ่งผมขับมาฝั่งขวา และคู่กรณีมาฝั่งซ้าย ขับมาคู่กัน
ซึ่งข้างหน้าเป็นสี่แยก ผมจะขับตรงไป พอกำลังจะขับผ่านทางม้าลายข้ามแยก รถคู่กรณีมาชนล้อแมกซ์ด้านล้อซ้ายหลังและตัวรถบริเวณใกล้เคียงตัวล้อ
โดยตอนแรกทางคู่กรณีบอกว่าผมไปปาดหน้ารถเค้าทั้งๆที่ผมอยู่เลนส์ตัวเอง
และคู่กรณีก็กล่าวต่อประมาณว่า รถข้างหน้าตัวเองจะเลี้ยวซ้ายเลยเบี่ยงมาทางผม แล้วผมโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้
ซึ่งจะเป็นไปได้ไง ขับรถคู่กันมาเลย และตรงถนนตรงนั้นเป็นโซนเส้นทึบ มาแซงย้ายเลนไม่ได้อยู่แล้ว
ต่อให้ไม่มีรถก็เปลี่ยนเลนไม่ได้ ประกันก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดี แต่กลับไม่สนใจในข้อเท็จจริงนี้
ทางบริษัทประกันผมก็ได้ขอดูกล้องติดหน้ารถเนื่องจากทางคู่กรณีบอกว่ามีกล้องหน้ารถ
ทางผมจึงกลับไปดูกล้องรถตัวเองด้วย จะได้เอามาชนกันให้เห็นๆไปเลย
จากกล้องคู่กรณี ก็เห็นได้ชัดเจนว่าทางคู่กรณีขับแล้วมีการหักหัวเบี่ยงมาชนผม รถผมขับมาอยู่ในเลนตัวเองปกติ ซึ่งก็ได้คำตอบเดิมว่าหลบรถคันข้างหน้า
และจากกล้องรถตัวผมเองก็เห็นว่า รถคู่กรณีเปิดไฟเลี้ยงขวามาตั้งแต่แรก ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะเลี้ยวขวา หรือแค่จะแซงผม
แต่ไม่ว่าจะกรณีไหนก็ตาม ทางรถคู่กรณีไม่มีสิทธิ์ทำเพราะมันเป็นเส้นทึบ มันย้ายเลนไม่ได้ ซึ่งจิงๆก็ควรจะจบเรื่องแล้ว
แต่พนักงานประกันของผมกลับดูวีดีโอเลื่อนไปมา แล้วนั่งพูดวนว่าจริงๆผมก็ผิดผมขับเอียงมาใกล้เส้นทึบ ซึ่งเอ้าแต่ผมก็ยังอยู่ในเลนตัวเองรึเปล่า
จากที่ไม่โมโหกลายเป็นโมโห เพราะเหมือนโดนฝั่งนั้นรุม ซึ่งก็คือประกันของตัวเอง พูดวนจนทำให้คู่กรณีคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกมั้ง
เพราะพอประกันของคู่กรณีมาถึง และได้ดูคลิปวีดีโอกล้องหน้ารถ ทางนั้นก็ฟันว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด
ซึ่งทางคู่กรณีก็ได้นำคำกล่าวของประกันรถฝ่ายผมมาแย้ง.ไม่ยอมรับ บอกว่าให้ดูคลิปวีดีโอรถผมเพราะทางประกันรถผมบอกว่าเค้าถูก
ซึ่ง อ้าวววววววววว งงมากกกกกกก แต่แล้วเรื่องก็ไม่จบ ทางประกันฝ่ายคู่กรณีก็บอกว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด
ทำให้ทางฝั่งคู่กรณีที่น่าจะคิดว่าตัวเองถูกจากคำกล่าวของประกันฝั่งตัวผม
อยู่ดีๆก็พูดว่า "ถ้ารู้ว่าจะผิด ชนเลยทั้งคันจังๆดีกว่า"
แปลว่าอะไรอะ ซึ่งทางคู่กรณีก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด เพราะคงคิดไปแล้ววา่าตัวเองต้องถูก
ทำให้รู้สึกไม่มีความปลอดภัยในชีวิตเลย เลยต้องอัดเสียงไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งทางประกันของเราอีกเช่นกันก็คงหวังดีช่วยเกลี้ยกล่อบบอกทางคู่กรณีว่า
อย่าพูดนอกประเด็ด นี่กลายเป็นการกล่าวหา เค้าฟ้องหมิ่นประมาทได้นะ ทางคู่กรณีถึงปิดปากหยุดพูดได้
เอาจริงรู้สึกไม่ปลอดภัยกับชีวิตมาก ไม่ช่วยเรา ทำให้คู่กรณีเข้าใจผิด จนสุดท้าย มาพูดว่ารู้งี้ว่าผิดจะชนจังๆทั้งคัน จากที่ไม่ควรจะมีเรื่องกลายเป็นเรื่องใหญ่
ซึ่งทางประกันของเราก็ยังไม่จบ เราเข้าใจนะว่าเค้าคงอยากให้เราสบายใจเลยพูดประมาณว่ารับผิดแบบ ผิดทั้งคู่ ก็แยกกันไปซ่อม ผมก็ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกมั้ย ประกันชั้น 1 กับ ประกันชั้น 1 เจอกัน บริษัทจะไม่เรียกร้องกัน แต่จะไปแยกกันซ่อมเอง ซึ่งผมก็ยิ่งงงว่าเอ้าสรุปคือจะให้ผมผิดให้ได้หรอ (จริงๆเรื่องจบแล้วแต่ทางพี่พนักงานยังคงอธิบายต่อ) ซึ่งเอาตรงๆ งงมั้ย ถ้าผมรับผิดในสิ่งที่ไม่ผิด ค่าเบี้ยประกันของผมก็ต้องถูกปรับเพิ่มปีหน้าปะ พี่ไม่คิดถึงมุมนี้บ้างหรอ
ค่าซ่องไม่มีใครวอรี่หรอกเพราะมีประกัน แต่ถ้าเราผิด ก็ถูกเพิ่มเบี้ยปีหน้าถูกไหมครับ
ผมใช้ประกันบริษัท เมืองไทยประกันภัย เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เสียเวลามาก และรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยเหมือนถูกคุกคาม เพราะคำพูดของบริษัทประกันฝ่ายเรา. เราไม่ได้ขอให้เข้าข้างเราหรือพลิกคดี ผิดเป็นถูก แต่อย่างน้อย คุณควรอำนวยความสะดวก ช่วยเหลือ ปกป้องเรา วางตัวให้ถูก ไม่ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก และไม่ใช่ รุมเรา แล้วพูดวนไปวนมาจนเสียเรื่อง เสียเวลา ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ปัญหาครั้งแรกของการใช้บริการ ยังมีอีกมากมายที่พยายามจะลืม แต่ก็มีเรื่องใหม่โผล่มาใหม่เรื่อยๆ
จะย้ายบริษัทไปบริษัทอื่นก็ไม่ได้ เพราะทางคุณก็รู้อยู่ว่าเพราะอะไร
ซื้อรถกับคุณ ประกันก็ต้องทำกับคุณ ซึ่งต้องมาเจอประสบการณ์แบบนี้มันเป็นเรื่องที่ ไม่อยากแนะนำให้ใครมาเจอเลยจริงๆ
ปรับปรุงหน่อยเถอะครับ PLEASE