วันนี้ผมอยากจะทราบว่าทุกท่านเคยพบการนำเสนอมุมมองรูปแบบไหนกันมาบ้าง
ผมเคยพบบุคคลหนึ่งในเฟซบุ๊ก เขากล่าวว่า "พวกอศาสนิกไม่มีจริง เพราะยังใชภาษาที่มารากมาจากศาสนาอยู่" ได้ยินครั้งแรกผมค่อนข้างประหลาดใจ เนื่องจากภาษาหรือการสื่อสารนั้นมีมาก่อนการนำเสนอความเชื่ออย่างแน่นอน เพียงแต่การสรรรค์สร้างภาษษขึ้นมาเพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสาร และศาสนาบางศาสนาได้สร้างภาษาเพื่อถ่ายทอดความเชื่อของพวกเขา เมื่อนานวันภาษาเหล่านั้นกลายเป็นวัฒนธรรมตกทอด รูปภาษาต่างปรับเปลี่ยนไปตามสังคมต่าง ๆจ นรูปภาษานั้นเปลี่ยนไปเป็นเพียงการใช้สื่อสารในสังคมไปเสีย เช่น ภาษาละตินที่ถูกนำมาใช้ในศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ในทุกแขนง ภาษาบาลี และสันสกฤตที่ถูกนำมาเป็นการสร้างคำในภาษาไทย
ผมเคยอ่านความเห็นของบุคคลหนึ่งจากเว็บบอร์ดสีม่วงขึ้นต้นด้วย พ. เขากล่าวว่า"ถ้าให้คนในบ้านมีศาสนาต่างกันแล้วจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร" จากกระทู้หนึ่งว่าด้วยการบังคับร่วมศาสนาของศาสนาหนึ่งในไทย ตอนได้ยินครั้งแรกผมค่อนข้างแปลกใจ เนื่องจากเขามีความคิดที่ไม่ยอมรับความแตกต่างทางความคิดของมนุษย์เอาเสียเลย ในโลกนี้หลายประเทศให้ความสำคัญเรื่องสิทธิเสรีภาพของมนุษย์เป็นการมาก ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างทางศาสนา ความแตกต่างในความคิดทางการเมือง หรือแม้แต่ความชอบส่วนบุคคล และประเทศเหล่านั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถอยู่ร่วมกันได้ พ่อแม่ต่างศาสนา ลูกก็มีความเชื่อเป็นของตัวเองทั้งสามอยู่ร่วมกันได้ไม่ได้เหมือนที่เขาพูด
ความเห็นสุดท้ายเป็นของกระทู้ที่ผมเคยตั้งไว้ในเว็บบอร์ดสีม่วง ผมได้ตั้งกระทู้ถามถึงเหตุผลในการบังคับสอบธรรมศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายลงมาว่าไม่สมควรกระทำ ทั้งยังละเมิดเสรีภาพทางความคิดต่อนักเรียน ที่ไม่ได้เชื่อ หรือเลื่อมใสในศาสนาพุทธปมได้รับการตอบกลับมาในทางลบเป็นส่วนใหญ่ มีหนึ่งความเห็นกล่าวว่า "ดูหมิ่นศาสนาพุทธ ทำไมถึงไม่พูดถึงศาสนา xxx บ้าง " บุคคลนั้นได้ยกเหตุผลหลายอย่างมาโจมตีผม โดยไม่ได้ดูเจตนาที่ผมได้ยกขึ้นมาเลยว่าความเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้นั้นไม่ นจบังคับให้คนเชื่อได้ เนื่องจากความเชื่อบางอย่างไม่ใช่ความจริงทั้งหมด หากคุณไม่สามารถพิสูจน์ได้ ย่อมไม่สามารถบังคับให้คนอื่นเชื่อในสิ่งนั้นได้
ครั้งนี้ผมก็อยากจะทราบเหมือนกันว่าผลตอบรับของกระทู้นี้จะเป็นเช่นไร
ศาสนาความเชื่อ วัฒนธรรม และการถกเถียงที่เคยพบเจอ
ผมเคยพบบุคคลหนึ่งในเฟซบุ๊ก เขากล่าวว่า "พวกอศาสนิกไม่มีจริง เพราะยังใชภาษาที่มารากมาจากศาสนาอยู่" ได้ยินครั้งแรกผมค่อนข้างประหลาดใจ เนื่องจากภาษาหรือการสื่อสารนั้นมีมาก่อนการนำเสนอความเชื่ออย่างแน่นอน เพียงแต่การสรรรค์สร้างภาษษขึ้นมาเพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสาร และศาสนาบางศาสนาได้สร้างภาษาเพื่อถ่ายทอดความเชื่อของพวกเขา เมื่อนานวันภาษาเหล่านั้นกลายเป็นวัฒนธรรมตกทอด รูปภาษาต่างปรับเปลี่ยนไปตามสังคมต่าง ๆจ นรูปภาษานั้นเปลี่ยนไปเป็นเพียงการใช้สื่อสารในสังคมไปเสีย เช่น ภาษาละตินที่ถูกนำมาใช้ในศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ในทุกแขนง ภาษาบาลี และสันสกฤตที่ถูกนำมาเป็นการสร้างคำในภาษาไทย
ผมเคยอ่านความเห็นของบุคคลหนึ่งจากเว็บบอร์ดสีม่วงขึ้นต้นด้วย พ. เขากล่าวว่า"ถ้าให้คนในบ้านมีศาสนาต่างกันแล้วจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร" จากกระทู้หนึ่งว่าด้วยการบังคับร่วมศาสนาของศาสนาหนึ่งในไทย ตอนได้ยินครั้งแรกผมค่อนข้างแปลกใจ เนื่องจากเขามีความคิดที่ไม่ยอมรับความแตกต่างทางความคิดของมนุษย์เอาเสียเลย ในโลกนี้หลายประเทศให้ความสำคัญเรื่องสิทธิเสรีภาพของมนุษย์เป็นการมาก ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างทางศาสนา ความแตกต่างในความคิดทางการเมือง หรือแม้แต่ความชอบส่วนบุคคล และประเทศเหล่านั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถอยู่ร่วมกันได้ พ่อแม่ต่างศาสนา ลูกก็มีความเชื่อเป็นของตัวเองทั้งสามอยู่ร่วมกันได้ไม่ได้เหมือนที่เขาพูด
ความเห็นสุดท้ายเป็นของกระทู้ที่ผมเคยตั้งไว้ในเว็บบอร์ดสีม่วง ผมได้ตั้งกระทู้ถามถึงเหตุผลในการบังคับสอบธรรมศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายลงมาว่าไม่สมควรกระทำ ทั้งยังละเมิดเสรีภาพทางความคิดต่อนักเรียน ที่ไม่ได้เชื่อ หรือเลื่อมใสในศาสนาพุทธปมได้รับการตอบกลับมาในทางลบเป็นส่วนใหญ่ มีหนึ่งความเห็นกล่าวว่า "ดูหมิ่นศาสนาพุทธ ทำไมถึงไม่พูดถึงศาสนา xxx บ้าง " บุคคลนั้นได้ยกเหตุผลหลายอย่างมาโจมตีผม โดยไม่ได้ดูเจตนาที่ผมได้ยกขึ้นมาเลยว่าความเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้นั้นไม่ นจบังคับให้คนเชื่อได้ เนื่องจากความเชื่อบางอย่างไม่ใช่ความจริงทั้งหมด หากคุณไม่สามารถพิสูจน์ได้ ย่อมไม่สามารถบังคับให้คนอื่นเชื่อในสิ่งนั้นได้
ครั้งนี้ผมก็อยากจะทราบเหมือนกันว่าผลตอบรับของกระทู้นี้จะเป็นเช่นไร