ปฎิรูปพระพุทธศาสนาเพื่ออะไร ?

กระทู้คำถาม
คณะอนุกรรมาธิการปฏิรูป
กิจการพระพุทธศาสนา
ปฏิรูป ๕ ด้าน ได้แก่

การพัฒนาศักยภาพขององค์กร
และบุคลากรทางศาสนา

การนำหลักศาสนธรรม
มาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ระดับบุคคลและองค์กร
เพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน

การเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ระหว่างพุทธศาสนิกชนของทุกศาสนา

การพัฒนาศักยภาพของสถานศึกษา
ในการบูรณาการหลักศาสนธรรม
ในการจัดการศึกษาทุกระดับ

การส่งเสริมบทบาทหน้าที่ของสื่อสารมวลชน
และเทคโนโลยีสารสนเทศ
ในการนำหลักศาสนาที่ถูกต้อง
ไปเผยแผ่สู่ประชาชน

โดยแต่ละด้านจะมียุทธศาสตร์
และแผนปฏิบัติการ
ดังต่อไปนี้

ยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการที่ ๑ คือ
การพัฒนาศักยภาพขององค์กร
และบุคลากรทางศาสนา
โดยกำหนดแผนปฏิรูป ดังนี้คือ

๑. สร้างเสริมความรู้ความสามารถ
ในด้านการบริหารจัดการ
ให้กับบุคลากรทางศาสนา

๒. ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งกองทุน
เพื่อการพัฒนากิจการศาสนาจากรัฐบาล
และการดำเนินกิจการศาสนาของทุกศาสนา

๓. สร้างเสริมธรรมาภิบาล
ในองค์กรศาสนาทุกศาสนา

๔. ส่งเสริมให้มีระบบคุณธรรม จริยธรรม
ในทุกองค์กรศาสนา

๕. จัดให้มีระบบประเมินและการตรวจสอบ
ที่โปร่งใส ขององค์กรทางศาสนา

๖. พัฒนาและแลกเปลี่ยนทักษะ
ด้านการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ
และประสิทธิภาพสูงแก่บุคลากร
ในองค์กรทางศาสนา

๗. กำหนดมาตรฐานองค์กรและศาสนสถาน
รวมทั้งมีการยกย่อง เชิดชูองค์กรดีเด่นทางศาสนา

๘. จัดให้มีการลงทะเบียนผู้สอนศาสนา
และมีคณะกรรมการจัดทำและพิจารณาหลักสูตร
ที่สอนหลักศาสนาของแต่ละศาสนา

๙. ปรับปรุงกฎหมาย
ที่เกี่ยวกับองค์กรทางศาสนา

ยุทธศาสตร์ที่ ๒ คือ การนำหลักศาสนธรรม
มาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ทั้งระดับบุคคลและองค์กร
เพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน
โดยกำหนดแผนปฏิรูป ดังนี้คือ

๑. ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือ
ระหว่างครอบครัว โรงเรียน
สถานที่ทำงาน ชุมชน และสังคม
นำหลักศาสนธรรม คุณธรรม
ประเพณีและวัฒนธรรมไทย อันดีงาม
มาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
และในการทำงาน อย่างจริงจัง

๒. สร้างแรงจูงใจให้องค์กร
และภาคประชาชนเข้ารับการอบรม
หลักสูตรทางศาสนาและการฝึกปฏิบัติธรรม

๓. ยกย่อง เชิดชูและประกาศเกียรติคุณ
บุคคลที่ดำรงตนและปฏิบัติงานอย่างโดดเด่น
ด้านคุณธรรม จริยธรรม เป็นที่ยอมรับ
และเป็นแบบอย่างอันดีในชุมชนและสังคม

๔. สนับสนุนให้สังคมทุกภาคส่วน
จัดและส่งเสริมกิจกรรมที่เน้นคุณค่า
ของคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม
และวัฒนธรรมไทยอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม

๕. ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจ เอกชน
ขยายเครือข่ายภาคธุรกิจ
โดยยึดหลักศาสนธรรม

๖. มีการนำหลักศาสนาไปขยายผล
เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

๗. มีการจัดสรรพื้นที่สำหรับการศึกษา เรียนรู้
และประกอบพิธีทางศาสนาต่างๆ ในสถานศึกษา
หน่วยงาน และสถานประกอบการ

ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ระหว่างศาสนิกชนของทุกศาสนา
โดยกำหนดแผนปฏิรูป ดังนี้คือ

๑. เสริมสร้างให้ศาสนิกชนเข้าใจและเข้าถึง
หัวใจของศาสนาตนเอง และเข้าใจศาสนาอื่น
รวมถึงนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

๒. ส่งเสริมให้เคารพสิทธิเสรีภาพ
ในการดำรงชีวิตตามหลักคำสอน
ของศาสนาระหว่างกัน

๓. ส่งเสริมการเรียนรู้
ระหว่างศาสนา และสร้างความร่วมมือ
เพื่อแก้ไขปัญหาที่สำคัญร่วมกัน อย่างจริงจัง

๔. พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ
ของศาสนิกชนทุกศาสนาให้เข้มแข็งเป็นรูปธรรม
เพื่อสร้างสานสัมพันธ์ที่ดี

๕. จัดตั้งองค์กรความร่วมมือ
ระหว่างศาสนิกชนระดับชาติ

๖. ส่งเสริมให้องค์กรทางศาสนาทุกศาสนา
ร่วมกันกำหนดประเด็นทางจริยธรรม
ในการเผยแผ่คำสอนศาสนา

๗. ส่งเสริมประเทศไทยเป็นศูนย์รวม
ในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
ระหว่างศาสนาในภูมิภาคอาเซียน

๘. ใช้จุดร่วมและสงวนจุดต่างระหว่างศาสนา
เพื่อสร้างสรรค์ประเทศไทย
ให้เป็นสังคมสมานฉันท์

๙. จัดให้มีงานศาสนสัมพันธ์ประจำปี
ที่ทุกศาสนามีกิจกรรมร่วมกัน

ยุทธศาสตร์ที่ ๔ การพัฒนาศักยภาพ
ของสถานศึกษาในการบูรณาการ
หลักศาสนธรรมในการจัดการศึกษาทุกระดับ
โดยกำหนดแผนปฏิรูป ดังนี้คือ

๑. ส่งเสริมและผลักดันให้เกิดคณะทำงาน
พัฒนาศักยภาพสถานศึกษา
ในการบูรณาการหลักศาสนธรรม
ในการจัดการศึกษาทุกระดับ
โดยความร่วมมือของบ้าน วัด โรงเรียน (บวร)
หรือ บ้าน โรงเรียน มัสยิด (บรม)
และองค์กรของรัฐทุกภาคส่วน
โดยมีสถานศึกษาเป็นหน่วยประสานงาน

๒. ส่งเสริมและผลักดันให้เกิดศูนย์การเรียนรู้
ศาสนธรรมแบบบูรณาการอย่างครบวงจร
และทันสมัย ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค
และในสถานศึกษา และ/หรือวัดทุกแห่ง
เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชน
เกิดการเรียนรู้ศาสนธรรมตลอดชีวิต

๓. สถานศึกษาทุกแห่งต้องมีผู้นำจิตวิญญาณ
เป็นต้นแบบ เป็นที่ยอมรับและศรัทธา
ของชุมชนในพื้นที่นั้นๆ เพื่อถ่ายทอด
เชื่อมโยงองค์ความรู้-กิจกรรมทางศาสนา
พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
ตลอดจนขับเคลื่อนสถานศึกษา ชุมชน
และทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนพื้นที่

๔. พัฒนาระบบผลิตครู
และการต่อใบประกอบวิชาชีพครู
ให้มีเกณฑ์มาตรฐานด้านศีลธรรม
และการสอนหลักศาสนธรรมแบบบูรณาการ

๕. ส่งเสริมและผลักดันให้สถานศึกษาทุกแห่ง
มีหลักสูตร และ/หรือการจัดการเรียนการสอน
ที่เน้นการนำหลักศาสนธรรมมาปฏิบัติจริง
ในชีวิตประจำวัน เพื่อการสร้างนิสัยดีพื้นฐาน
หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม คุณธรรมจริยธรรม
ตั้งแต่ปฐมวัย จนถึงระดับอุดมศึกษา

๖. ให้สถานศึกษาทุกแห่งมีการสนทนาธรรม
และเปลี่ยนแนวคิด ความเชื่อ ความรู้ หลักธรรม
และการดำเนินกิจกรรมทางด้านศาสนา
ร่วมกันกับวัด องค์กรของรัฐทุกภาคส่วน
และชุมชนในพื้นที่ ทุกวันพระ
และวันสำคัญทางศาสนา

๗. ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียน
บวชเรียนตามหลักสูตรการศึกษาของคณะสงฆ์

ยุทธศาสตร์ที่ ๕ การส่งเสริมบทบาทหน้าที่
ของสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ
ในการนำหลักศาสนาที่ถูกต้อง
ไปเผยแผ่สู่ประชาชนโดยกำหนดแผนปฏิรูป
ดังนี้คือ

๑. เปิดพื้นที่ (Space) สำหรับสื่อสารมวลชน
และเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตลอดจนการสื่อสารระหว่างบุคคล
เพื่อหลักคำสอนและกิจกรรมทางศาสนา

๒. ส่งเสริมและสนับสนุนบุคลากรทางศาสนา
(Communicator) ให้มีความสามารถ
ทางด้านการสื่อสาร

๓. ส่งเสริมบทบาทหน้าที่ของสื่อสารมวลชน
และเทคโนโลยีสารสนเทศ (Media/Channel)
ในการนำหลักคำสอนทางศาสนาที่ดีงาม
ไปถ่ายทอดแก่ประชาชน

๔. ส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตเนื้อหา
ทางด้านศาสนา (Message) ที่มีคุณภาพ

๕. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชน (People)
มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความรู้ทางศาสนา
ในเชิงสร้างสรรค์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่