หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว HoHo Kitchen ร้านอาหารจีนฮ่องกงอายุกว่า 23 ปีบนถนนพระราม 1 จัดโปรฯบุฟเฟ่ต์เริ่มต้นแค่ 390 บาท❗
กระทู้รีวิว
อาหารจีน
อาหารคาว
อาหารบุฟเฟ่ต์
ร้านอาหาร
อาหาร
เหมือนช่วงนี้ทานอาหารจีนแล้วถ่ายรูปอวดเพื่อนลงในโซเชียลบ่อยๆระบบโฆษณาเลยขึ้นร้านเด็ดมาให้เลือกชมมากมาย แต่มีร้านนี้ที่น่าสนใจก็คือ "HoHo Kitchen" (โหว์โหว์คิทเช่น) ชื่อคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนจึงไปหาข้อมูลก็พบว่ามีประวัติที่ไม่ธรรมดาเพราะเปิดมายาวนานกว่า 23 ปี (ตั้งแต่ปี 2540) ย้ายร้านมาแล้ว 3 ครั้งก็คือ ที่แรกอยู่ในอาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ สีลมก่อนจะย้ายไปอยู่ที่ถนนสุขุมวิทและปัจจุบันมาอยู่ที่ถนนพระราม 1 ตรงข้ามกับห้างเทสโก้โลตัสภายในโครงการ Stadium One วิธีการเดินทางมาที่ร้านก็ง่ายๆถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวสามารถจอดภายในโครงการได้เลย (มีอัตราค่าจอดรถคือ เมื่อตราประทับร้าน 4 ชม.แรกคิดราคาชม.ละ 20 บาท แต่ถ้าจอดเกิน 4 ชม. คิดราคาชม.ละ 100 บาท) ถ้ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ลง BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติแล้วเดินมาตาม Google Maps อีกประมาณ 400 เมตรก็จะพบกับป้ายชื่อร้านที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลเพราะขนาดใหญ่สุดๆ เป็นร้านอาหารจีนที่ทุกจานๆถูกปรุงโดยเชฟมากประสบการณ์เคยทำงานในร้านอาหารที่ฮ่องกงมายาวนานกว่า 20 ปี นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องการให้ปริมาณเยอะ/จานใหญ่แต่ขายราคาถูก (ส่วนตัวไม่เคยทานมาก่อนบอกไม่ได้ว่าเยอะจริงไหม) แต่สิ่งที่ดึงดูดให้มาทานและรีวิวที่ร้านนี้ก็คือเขากำลังจัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ทานได้เกือบทุกเมนูในร้านราคาเริ่มต้นเพียงแค่คนละ 390 บาท ส่วนจะมีอะไรให้ทานบ้างนั้นไปดูในเล่มเมนูที่วางไว้หน้าร้านกันก่อนครับ
แน่นอนว่าเรามาทานบุฟเฟ่ต์ก็ต้องดูก่อนว่ามีเมนูอะไรให้ทานบ้าง โดยมีให้เลือก 3 ราคา ได้แก่ 390-490 และ 590 บาท เริ่มเรียงไปจากบุฟเฟ่ต์ราคา 590 บาท สามารถสั่งอาหารรายการที่ 1-10 ได้ 1 จาน (ราคา 220-400 บาท) ถ้าเป็นบุฟเฟ่ต์ราคา 490 บาท สามารถสั่งอาหารรายการที่ 6-10 ได้ 1 จาน (ราคา 220-300 บาท) สำหรับบุฟเฟ่ต์ราคาหัวละ 390 บาทไม่สามารถสั่งรายการที่ 1-10 ได้และบุฟเฟ่ต์ทุกๆราคาสั่งอาหารรายการที่ 11-70 ได้ไม่อั้นจนกว่าจะอิ่มตลอด 2 ชั่วโมง ปิดท้ายด้วยของหวานให้อีกคนละ 1 รายการ (ถ้าทานไม่หมดที่ร้านปรับเป็นราคา A La Carte) ซึ่งถ้าไม่อยากทานบุฟเฟ่ต์ก็ยังคงมีอาหารให้สั่งเป็นจานๆและยังมีชุดโต๊ะจีนสำหรับ 10-14 คน ราคาเริ่มต้นที่ 4,300-7,500 บาท พร้อมกับสามารถเปิดใช้บริการห้องรับรองพิเศษบริเวณชั้น 2 ของทางร้านได้อีกด้วย
เข้ามาด้านในร้านชั้น 1 มีโต๊ะนั่งเล็กๆสำหรับ 2-4 คนไปจนถึงโต๊ะจีนรองรับได้สูงสุด 8 คน แต่ถ้าเดินขึ้นมาชั้น 2 ทางร้านได้จำลองบรรยากาศโดยเอาย่านชื่อดังบนเกาะฮ่องกงทั้ง Causeway Bay/Central/Tsim Sha Tsui และ Mong Kok รวมเอาไว้ในที่เดียว ใช้ภาพถ่ายขาว-ดำติดบนกำแพงจำลองให้เหมือนกับนั่งทานข้าวที่ฮ่องกงตามย่านต่างๆ ทุกห้องสามารถเปิดเชื่อมถึงกันหรือจะลากฉากมากั้นเป็นห้องส่วนตัวเล็กๆก็ทำได้ แต่มีเงื่อนไขคือต้องสั่งอาหารชุดสำหรับ 10 คนขึ้นไป หรือถ้าหากชั้น 1 มีคนมาใช้บริการเยอะมากจะสามารถเข้ามาใช้บริการที่ชั้นนี้ได้ โดยแต่ละโต๊ะสามารถนั่งได้สูงสุด 12 คน อีกทั้งยังมีบริการตู้คาราโอเกะพร้อมทีวีให้สำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ด้วย
วันนี้เรามากัน 5 คนนั่งที่โต๊ะทางร้านก็จะถามเลยว่าทานเป็นบุฟเฟ่ต์หรือ A La Carte แล้วจะทานราคาเท่าไหร่พร้อมกับรับออเดอร์ให้เรียบร้อย ส่วนน้ำดื่มในบุฟเฟ่ต์มีให้สั่งเป็นชาจีนกับน้ำเก็กฮวยจืดเติมได้ไม่อั้น บุฟเฟ่ต์ในวันนี้เราเลือกเป็นราคาสูงสุด 590 บาท สามารถสั่งเมนูรายการที่ 1-10 ได้ 4 รายการจานแรกก็เลยสั่งเป็น "กุ้งผัดซอส XO" เป็นกุ้งแชบ๊วยไซส์ใหญ่พิเศษผัดกับซอส XO ใส่ขิงสดรสเค็มกลมกล่อมทานคู่กับบล็อคโคลี่ลวกกรอบๆเข้ากันได้ดีกับเนื้อกุ้งเนื้อเด้งสู้ฟันที่ให้มาปริมาณเยอะเต็มชาม ต่อมาเป็นเมนู Signature ของที่ร้านก็คือ "สลัดกุ้งตะกร้า" เป็นกุ้งแชบ๊วยไซส์ใหญ่พิเศษแกะเปลือกผ่ากลางชุบแป้งทอดวางบนเผือกทอดที่ดูแล้วทางร้านตั้งใจสานเป็นตะกร้าก่อนลงทอดและราดด้วยน้ำสลัดมายองเนสสูตรโบราณรสหวานมัน ได้ทั้งเนื้อสัมผัสทั้งกุ้งเด้งเผือกกรอบอร่อยสุดๆ สมกับเป็นจานแนะนำที่ติดเอาไว้ในป้ายประวัติใส่กรอบสีทองกลางร้าน แนะนำเลยว่ามาแล้วสมควรต้องสั่งครับผม
เมนูต่อมายังคงอยู่ในรายการที่ 1-10 นั่นก็คือ "เนื้อปลากระพงทอดสามรส" เป็นเนื้อปลากระพงล้วนๆเลาะมาติดหนังชุบแป้งทอดก่อนจะราดด้วยซอสพริกสามรสหวาน/เปรี้ยว/เค็มตามแบบฉบับไทยๆ เพราะมีแต่เนื้อล้วนๆจึงทำให้ทานง่ายไม่ต้องกังวลว่าจะมีก้างติดมา เมนูต่อไปตอนยกมาเสิร์ฟถึงกับต้องตั้งคำถามเลยว่าร้านขายอาหารเอากำไรหรือขายเอาบุญกุศลนั่นคือ "เนื้อสันฮ่องกง" เป็นเนื้อวัวส่วนสันนอกหมักนุ่มแล้วนำไปชุบแป้งทอดคลุกกับซอสรสเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นเหล้าอ่อนๆสไตล์จีน ถ้าร้านอื่นเขาน่าจะเสิร์ฟแค่ 1 ชิ้นใหญ่หรือ 2 ชิ้นเล็กแต่ร้านนี้ให้มาถึง 3 ชิ้นใหญ่ซ้อนกันเต็มชาม ดูจากสายตาแล้วน่าจะน้ำหนักรวมเกือบ 500 กรัมแต่ที่ร้านขายราคาปกติแค่ 300 บาท ซึ่งเนื้อวัวตามตลาดก็ขายราคา 300 บาทกว่าจะหมักเนื้อให้นุ่มฉ่ำทานง่ายแบบนี้อีก สั่งมาแค่จานเดียวก็คุ้มแล้วครับ
เมนูต่อมาเป็นรายการที่ 11-70 ที่สั่งได้ไม่อั้นตลอด 2 ชั่วโมง (แต่เราสั่งมาแค่ไม่กี่อย่างเพราะทางร้านเสิร์ฟมาปริมาณไม่แตกต่างจาก A La Carte เลยแม้แต่น้อย) เริ่มจาก "หมูผัดเปรี้ยวหวาน" เป็นหมูชุบแป้งทอดกรอบแบบเดียวกับร้านไก่ทอดชื่อดังนำไปคลุกกับซอสรสเปรี้ยวหวานเข้มข้นใส่พริกหยวกกับต้นหอมช่วยตัดความเลี่ยนได้เป็นอย่างดี เมนูต่อไปคือ "เต้าหู้ทอดพริกเกลือ" เป็นเต้าหู้ถั่วเหลืองหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็กทอดกรอบๆจนมวลเบากรอบได้อย่างยาวนานผัดกับพริกสดและกระเทียมโรยด้วยต้นหอมปรุงรสให้เค็มกลมกล่อมทานได้อร่อยเพลินๆ
เมนูต่อไปเป็นอาหารจานเดียวที่รสชาติดีเกินคาดคือ "ก๊วยเตี๋ยวเนื้อฮ่องกง" เป็นเส้นใหญ่เคี้ยวหนึบหนับๆสู้ฟันผัดกับถั่วงอกกรอบๆใส่เนื้อหมักปรุงรสชาติมาเค็มอ่อนๆหอมกลิ่นกระทะเคี้ยวสนุกในทุกๆส่วนประกอบในจาน มาคู่กับซอสพริกผัดรสชาติเผ็ดหอมกลิ่นพริกคั่วกับกระเทียมกลมกล่อมช่วยเพิ่มความแซ่บให้กับจานนี้ได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่ได้สั่งจานนี้แล้วอยากทานซอสพริกตัวนี้ก็สามารถสั่งได้ (ทานกับเมนูไหนก็อร่อย) ตัดรสชาติความเข้มข้นด้วยซุปเบาๆอย่าง "ซุปเยื่อไผ่กระเพาะปลาเนื้อปู" เป็นซุปใสแต่กลมกล่อมใส่เนื้อปู/ไข่ขาว/เห็ดหอมและเยื้อไผ่ รสนุ่มนวลซดง่ายๆแต่หยุดช้อนไม่ได้เพราะไหลลื่นลงคอไปเรื่อยๆจนหมดชาม ทานแล้วรู้สึกอุ่นในท้องสดชื่นดีมากๆเลยครับผม
เมนูต่อไปก็เป็นอาหารจานเดียวที่แสดงถึงฝีมือของพ่อครัวได้เป็นอย่างดีคือ "เส้นหมี่ผัดสิงคโปร์" เป็นเส้นหมี่ขาวตัดพอดีคำผัดกับกุ้ง/หมูหมักนุ่ม/ถั่วงอก/ไข่และพริกหยวกปรุงรสชาติมาเค็มกลมกล่อมหอมกลิ่นกระทะผสมกับผักและวัตถุดิบต่างๆทานได้ง่ายๆคีบเข้าปากได้เรื่อยๆ เมนูต่อไปเป็นจานที่ประทับใจสุดและอยากกลับไปทานอีกคือ "เส้นใหญ่ทอดราดหน้ากุ้งไข่" เป็นเส้นใหญ่เอาไปทอดในกระทะจนกรอบมีฟองอากาศแทรกอยู่ภายในทานกับน้ำราดหน้ากุ้งใส่ไข่รสชาติเค็มอ่อนๆหอมกลิ่นน้ำมันงากลมกล่อมเข้ากันได้อย่างสุดๆ ดูเป็นจานง่ายๆที่ใช้แค่วัตถุดิบไม่กี่อย่างแต่ทำให้อยากทานอีกเรื่อยๆ รสชาติอาหารในร้านส่วนใหญ่ก็คล้ายๆกับจานนี้สมกับเป็นสูตรฮ่องกงจริงๆครับ
สำหรับใครที่เป็นสายบุฟเฟ่ต์นี่เน้นเนื้อ-หนังอยากได้ความคุ้มก็ต้องสั่งจานนี้ "หมูแดง/เป็ดย่าง/ไก่ซีอิ๊ว" จะสั่งแยกหรือรวมกันอย่างละนิดหน่อยแบบเราก็เลือกสั่งได้ เริ่มชิมจากเป็ดย่างสูตรของที่ร้านนี้เนื้อแน่นหนังฉ่ำๆกัดแล้วชั้นไขมันเป็ดออกมาผสมกับน้ำราดรสอ่อนๆช่วยดึงรสของเป็ดออกมาได้อย่างดีงาม หมูแดงย่างส่วนที่ทางร้านใช้น่าจะเป็นสันนอกเพราะค่อนข้างเหนียวแต่หนึบได้เคี้ยวแล้วค่อยๆมีรสชาติของเครื่องหมักออกมาไม่เป็นเส้นเนื้อแห้งๆแบบร้านอื่นแต่ต้องใช้กำลังในการเคี้ยวหน่อย ส่วนไก่ซีอิ๊วนี่ดีงามเกินคาดเพราะถึงแม้ว่าที่ร้านจะตัดส่วนอกมาเสิร์ฟแต่อร่อยเนื้อแน่นหนึบสู้ฟันไม่เป็นเส้นแห้งๆทานแล้วฝืดคอ หนังไก่ก็บางกรุบกรอบราดด้วยซอสซีอิ๊วผสมกะทิมีกลิ่นบางๆเข้ากันได้ดีกับเนื้อไก่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถือว่าฝีมือการต้มไก่ก็ทำได้ดีกว่าร้านข้าวมันไก่หลายเจ้าในไทยเลยครับ ซุปถ้วยต่อเป็นเป็น "ซุปข้นเสฉวน" ที่ไม่ได้เผ็ดร้อนแบบเสฉวนแต่นุ่มนวลกลมกล่อมเปรี้ยวบางๆแบบฮ่องกง แต่ถ้าใครชอบทานแบบเข้มข้นสามารถขอซอสพริกผัดกับจิ๊กโฉ่วผสมลงไปเพื่อให้ความเผ็ดเปรี้ยวสะใจมากขึ้นได้นะครับ
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:
HoHo Kitchen ถนนพระราม 1
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
บุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อกลางวันอร่อยๆที่ห้องอาหาร The Map โรงแรม Mestyle Museum
สวัสดีค่ะ วันนี้พามาทานอาหารอร่อยๆกันค่ะ เป็น บุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อกลางวัน ที่ห้องอาหาร The Map ของโรงแรม MeStyle Museum Hotel เป็นบุฟเฟ่ต์ราคาหลักร้อยที่คุณภาพดีมากๆ อาหารมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอาหารไท
พี่ผัก
เมนูมื้อค่ำ กุ้งทอดซอสพริกญี่ปุ่น
ได้กุ้งลายเสือเล็กๆ ป้ายเหลืองมา 10 ตัว ครับ ให้แฟนคิดเมนูแปลกใหม่ ปกติจะเป็นกุ้งทอดซอสพริก วันนี้เปลี่ยนใหม่ เป็นซอสพริกญี่ปุ่น ครับ แกะกุ้งล้าง แล้วปะแป้งสาลี ชุบไข่ละลายแป้งมัน นมสด น้ำมันพืชทอ
สมาชิกหมายเลข 4755513
@@ ร้าน ป.เป้ากุ้งเผา (จอย)....ตลาดกลางอยุธยา @@
สวัสดีครับ....วันนี้พาไปกินของทะเล สดๆ อร่อยๆ กันที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครับไปกินมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 พฤาภาคม 2568 ครับ ร้าน ป.เป้า กุ้งเผา (จอย) 📍ที่ตั้ง : ตลาดกลาง อยุธยา อยู่ริมถนนสายเอเชีย ข
เซเว่นหน้าหอใน
แม่สลิ่ม ... เส้นหมี่ผัดผักกะเฉด-กุ้ง
ที่บ้านมีเส้นหมี่ขาวเหลือเยอะมาก ซื้อมาห่อใหญ่แล้วใช้ไม่หมด จนเส้นเริ่มเหลือง แต่ยังไม่มีกลิ่นหืน วันก่อนผัดซีอิ๊วไปแล้ว วันนี้เลยทำเมนูนี้บ้างค่ะ . . ส่วนผสมหาไม่ยาก จานนี้ไปซื้อร้านดัง ๆ ก็ราคาเอา
แม่สลิ่ม
น้า Low Batt :: ปีกกลางไก่ทอดน้ำปลา
สวัสดีครับทุก ๆ ท่าน เมื่อเช้าตอนไปจ่ายตลาด ท่าน ผบ.ฝากให้ซื้อปีกกลางไก่ติดมาด้วย ตอนเย็นจะทำปีกไก่ทอดน้ำปลากินกับแจ่ว กับมาบ้านก็ล้าง ๆ ขยำเกลือ ก่อนจะโยนเข้าช่องฟรีซเก็บไว้ก่อน ก่อนเวลามื้อเย็น
น้า Low Batt
[CR] BufFeast Review : ภัตตาคารจีนที่มีบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่น "เล่งหงษ์ ริวโฮ"@พระราม 2 ซอย 45
หยุดยาวล่าสุดนั่งเล่นคอมอยู่ดีๆ ก็มีโฆษณาขึ้นฟีดมาตกเฉย เป็นของร้าน "เล่งหงษ์ ริวโฮ" ร้านอาหารจีนที่เปิดบุฟเฟ่ต์แบบญี่ปุ่นด้วยแถว พระราม 2 ด้วยความที่อยู่ใกล้บ้านแฟน จึงบึ่งไปรับนางแล้วพาไปก
TheHeatBufFeast
Hand Roll ที่ใช้คำว่าอร่อยได้เปลืองมาก สั่งทานได้ตามใจ ไม่ต้องมาเป็นคอร์ส
Kaiwa Hand Roll ที่ใช้คำว่าอร่อยได้เปลืองมาก วัตถุดิบดีการันตีว่าเกรดเดียวกับโอมากาเสะ แต่สั่งทานได้ตามใจ ไม่ต้องมาเป็นคอร์ส พร้อมเมนูอาหารญี่ปุ่นอีกหลากหลาย คัดมาแล้วว่าเลิศ ยิ่งทานพร้อมเครื่องดื่มเย
มิกิชวนกิน
บอสพาชิม : Chenin ไวน์บาร์สุดเเซ่บ (Bangkok,Thailand)
บอสพาชิม : Chenin ไวน์บาร์สุดเเซ่บ (Bangkok,Thailand) แสงไฟที่อบอุ่นและผู้คนที่จอแจอยู่ในร้านเล็กๆบริเวณซอยสวัสดีนั้นคงสร้างความแปลกใจให้กับผู้ที่ สัญจรอยู่บ้าง แต่ร้านที่ตบแต่งสไตล์ loft ที่ดูแสนจ
EatLikeTheBOSS
บอสพาชิม: Yume Ramen X older chef คอสอาหารราเมงของร้านอาหารระดับOmakase
ในคราวนี้เป็นอีเวนท์พิเศษของ Yume Ramen X older chef คอสอาหารราเมงของร้านอาหารระดับOmakase การร่วมมือกันของร้านไทยที่มีความหลงใหลในวัฒนธรรมของอาหารญี่ปุ่น ความตั้งใจ พลังงานที่สื่อออกมาของงานทั้งสอ
EatLikeTheBOSS
อู่ข้าว บางปะอิน ร้านอาหารไทยๆ ที่ไม่ควรพลาด
อาทิตย์ที่ผ่านมา ต้องไปส่งผู้สูงอายุไปสิงห์บุรี แน่นอน เมื่อไปสิงห์บุรี ก็จะต้องแวะเติมพลังให้กับท้อง แล้วร้านประจำ ที่ทานมายาวนาน หลายปี ก็คือร้าน อู่ข้าวบางปะอิน ร้านนี้ ต้องบอกว่าถ้าใครชอบอาหารไทย
กังหันฟ้าขาว
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารจีน
อาหารคาว
อาหารบุฟเฟ่ต์
ร้านอาหาร
อาหาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 27
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว HoHo Kitchen ร้านอาหารจีนฮ่องกงอายุกว่า 23 ปีบนถนนพระราม 1 จัดโปรฯบุฟเฟ่ต์เริ่มต้นแค่ 390 บาท❗
แน่นอนว่าเรามาทานบุฟเฟ่ต์ก็ต้องดูก่อนว่ามีเมนูอะไรให้ทานบ้าง โดยมีให้เลือก 3 ราคา ได้แก่ 390-490 และ 590 บาท เริ่มเรียงไปจากบุฟเฟ่ต์ราคา 590 บาท สามารถสั่งอาหารรายการที่ 1-10 ได้ 1 จาน (ราคา 220-400 บาท) ถ้าเป็นบุฟเฟ่ต์ราคา 490 บาท สามารถสั่งอาหารรายการที่ 6-10 ได้ 1 จาน (ราคา 220-300 บาท) สำหรับบุฟเฟ่ต์ราคาหัวละ 390 บาทไม่สามารถสั่งรายการที่ 1-10 ได้และบุฟเฟ่ต์ทุกๆราคาสั่งอาหารรายการที่ 11-70 ได้ไม่อั้นจนกว่าจะอิ่มตลอด 2 ชั่วโมง ปิดท้ายด้วยของหวานให้อีกคนละ 1 รายการ (ถ้าทานไม่หมดที่ร้านปรับเป็นราคา A La Carte) ซึ่งถ้าไม่อยากทานบุฟเฟ่ต์ก็ยังคงมีอาหารให้สั่งเป็นจานๆและยังมีชุดโต๊ะจีนสำหรับ 10-14 คน ราคาเริ่มต้นที่ 4,300-7,500 บาท พร้อมกับสามารถเปิดใช้บริการห้องรับรองพิเศษบริเวณชั้น 2 ของทางร้านได้อีกด้วย
เข้ามาด้านในร้านชั้น 1 มีโต๊ะนั่งเล็กๆสำหรับ 2-4 คนไปจนถึงโต๊ะจีนรองรับได้สูงสุด 8 คน แต่ถ้าเดินขึ้นมาชั้น 2 ทางร้านได้จำลองบรรยากาศโดยเอาย่านชื่อดังบนเกาะฮ่องกงทั้ง Causeway Bay/Central/Tsim Sha Tsui และ Mong Kok รวมเอาไว้ในที่เดียว ใช้ภาพถ่ายขาว-ดำติดบนกำแพงจำลองให้เหมือนกับนั่งทานข้าวที่ฮ่องกงตามย่านต่างๆ ทุกห้องสามารถเปิดเชื่อมถึงกันหรือจะลากฉากมากั้นเป็นห้องส่วนตัวเล็กๆก็ทำได้ แต่มีเงื่อนไขคือต้องสั่งอาหารชุดสำหรับ 10 คนขึ้นไป หรือถ้าหากชั้น 1 มีคนมาใช้บริการเยอะมากจะสามารถเข้ามาใช้บริการที่ชั้นนี้ได้ โดยแต่ละโต๊ะสามารถนั่งได้สูงสุด 12 คน อีกทั้งยังมีบริการตู้คาราโอเกะพร้อมทีวีให้สำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ด้วย
วันนี้เรามากัน 5 คนนั่งที่โต๊ะทางร้านก็จะถามเลยว่าทานเป็นบุฟเฟ่ต์หรือ A La Carte แล้วจะทานราคาเท่าไหร่พร้อมกับรับออเดอร์ให้เรียบร้อย ส่วนน้ำดื่มในบุฟเฟ่ต์มีให้สั่งเป็นชาจีนกับน้ำเก็กฮวยจืดเติมได้ไม่อั้น บุฟเฟ่ต์ในวันนี้เราเลือกเป็นราคาสูงสุด 590 บาท สามารถสั่งเมนูรายการที่ 1-10 ได้ 4 รายการจานแรกก็เลยสั่งเป็น "กุ้งผัดซอส XO" เป็นกุ้งแชบ๊วยไซส์ใหญ่พิเศษผัดกับซอส XO ใส่ขิงสดรสเค็มกลมกล่อมทานคู่กับบล็อคโคลี่ลวกกรอบๆเข้ากันได้ดีกับเนื้อกุ้งเนื้อเด้งสู้ฟันที่ให้มาปริมาณเยอะเต็มชาม ต่อมาเป็นเมนู Signature ของที่ร้านก็คือ "สลัดกุ้งตะกร้า" เป็นกุ้งแชบ๊วยไซส์ใหญ่พิเศษแกะเปลือกผ่ากลางชุบแป้งทอดวางบนเผือกทอดที่ดูแล้วทางร้านตั้งใจสานเป็นตะกร้าก่อนลงทอดและราดด้วยน้ำสลัดมายองเนสสูตรโบราณรสหวานมัน ได้ทั้งเนื้อสัมผัสทั้งกุ้งเด้งเผือกกรอบอร่อยสุดๆ สมกับเป็นจานแนะนำที่ติดเอาไว้ในป้ายประวัติใส่กรอบสีทองกลางร้าน แนะนำเลยว่ามาแล้วสมควรต้องสั่งครับผม
เมนูต่อมายังคงอยู่ในรายการที่ 1-10 นั่นก็คือ "เนื้อปลากระพงทอดสามรส" เป็นเนื้อปลากระพงล้วนๆเลาะมาติดหนังชุบแป้งทอดก่อนจะราดด้วยซอสพริกสามรสหวาน/เปรี้ยว/เค็มตามแบบฉบับไทยๆ เพราะมีแต่เนื้อล้วนๆจึงทำให้ทานง่ายไม่ต้องกังวลว่าจะมีก้างติดมา เมนูต่อไปตอนยกมาเสิร์ฟถึงกับต้องตั้งคำถามเลยว่าร้านขายอาหารเอากำไรหรือขายเอาบุญกุศลนั่นคือ "เนื้อสันฮ่องกง" เป็นเนื้อวัวส่วนสันนอกหมักนุ่มแล้วนำไปชุบแป้งทอดคลุกกับซอสรสเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นเหล้าอ่อนๆสไตล์จีน ถ้าร้านอื่นเขาน่าจะเสิร์ฟแค่ 1 ชิ้นใหญ่หรือ 2 ชิ้นเล็กแต่ร้านนี้ให้มาถึง 3 ชิ้นใหญ่ซ้อนกันเต็มชาม ดูจากสายตาแล้วน่าจะน้ำหนักรวมเกือบ 500 กรัมแต่ที่ร้านขายราคาปกติแค่ 300 บาท ซึ่งเนื้อวัวตามตลาดก็ขายราคา 300 บาทกว่าจะหมักเนื้อให้นุ่มฉ่ำทานง่ายแบบนี้อีก สั่งมาแค่จานเดียวก็คุ้มแล้วครับ
เมนูต่อมาเป็นรายการที่ 11-70 ที่สั่งได้ไม่อั้นตลอด 2 ชั่วโมง (แต่เราสั่งมาแค่ไม่กี่อย่างเพราะทางร้านเสิร์ฟมาปริมาณไม่แตกต่างจาก A La Carte เลยแม้แต่น้อย) เริ่มจาก "หมูผัดเปรี้ยวหวาน" เป็นหมูชุบแป้งทอดกรอบแบบเดียวกับร้านไก่ทอดชื่อดังนำไปคลุกกับซอสรสเปรี้ยวหวานเข้มข้นใส่พริกหยวกกับต้นหอมช่วยตัดความเลี่ยนได้เป็นอย่างดี เมนูต่อไปคือ "เต้าหู้ทอดพริกเกลือ" เป็นเต้าหู้ถั่วเหลืองหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็กทอดกรอบๆจนมวลเบากรอบได้อย่างยาวนานผัดกับพริกสดและกระเทียมโรยด้วยต้นหอมปรุงรสให้เค็มกลมกล่อมทานได้อร่อยเพลินๆ
เมนูต่อไปเป็นอาหารจานเดียวที่รสชาติดีเกินคาดคือ "ก๊วยเตี๋ยวเนื้อฮ่องกง" เป็นเส้นใหญ่เคี้ยวหนึบหนับๆสู้ฟันผัดกับถั่วงอกกรอบๆใส่เนื้อหมักปรุงรสชาติมาเค็มอ่อนๆหอมกลิ่นกระทะเคี้ยวสนุกในทุกๆส่วนประกอบในจาน มาคู่กับซอสพริกผัดรสชาติเผ็ดหอมกลิ่นพริกคั่วกับกระเทียมกลมกล่อมช่วยเพิ่มความแซ่บให้กับจานนี้ได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่ได้สั่งจานนี้แล้วอยากทานซอสพริกตัวนี้ก็สามารถสั่งได้ (ทานกับเมนูไหนก็อร่อย) ตัดรสชาติความเข้มข้นด้วยซุปเบาๆอย่าง "ซุปเยื่อไผ่กระเพาะปลาเนื้อปู" เป็นซุปใสแต่กลมกล่อมใส่เนื้อปู/ไข่ขาว/เห็ดหอมและเยื้อไผ่ รสนุ่มนวลซดง่ายๆแต่หยุดช้อนไม่ได้เพราะไหลลื่นลงคอไปเรื่อยๆจนหมดชาม ทานแล้วรู้สึกอุ่นในท้องสดชื่นดีมากๆเลยครับผม
เมนูต่อไปก็เป็นอาหารจานเดียวที่แสดงถึงฝีมือของพ่อครัวได้เป็นอย่างดีคือ "เส้นหมี่ผัดสิงคโปร์" เป็นเส้นหมี่ขาวตัดพอดีคำผัดกับกุ้ง/หมูหมักนุ่ม/ถั่วงอก/ไข่และพริกหยวกปรุงรสชาติมาเค็มกลมกล่อมหอมกลิ่นกระทะผสมกับผักและวัตถุดิบต่างๆทานได้ง่ายๆคีบเข้าปากได้เรื่อยๆ เมนูต่อไปเป็นจานที่ประทับใจสุดและอยากกลับไปทานอีกคือ "เส้นใหญ่ทอดราดหน้ากุ้งไข่" เป็นเส้นใหญ่เอาไปทอดในกระทะจนกรอบมีฟองอากาศแทรกอยู่ภายในทานกับน้ำราดหน้ากุ้งใส่ไข่รสชาติเค็มอ่อนๆหอมกลิ่นน้ำมันงากลมกล่อมเข้ากันได้อย่างสุดๆ ดูเป็นจานง่ายๆที่ใช้แค่วัตถุดิบไม่กี่อย่างแต่ทำให้อยากทานอีกเรื่อยๆ รสชาติอาหารในร้านส่วนใหญ่ก็คล้ายๆกับจานนี้สมกับเป็นสูตรฮ่องกงจริงๆครับ
สำหรับใครที่เป็นสายบุฟเฟ่ต์นี่เน้นเนื้อ-หนังอยากได้ความคุ้มก็ต้องสั่งจานนี้ "หมูแดง/เป็ดย่าง/ไก่ซีอิ๊ว" จะสั่งแยกหรือรวมกันอย่างละนิดหน่อยแบบเราก็เลือกสั่งได้ เริ่มชิมจากเป็ดย่างสูตรของที่ร้านนี้เนื้อแน่นหนังฉ่ำๆกัดแล้วชั้นไขมันเป็ดออกมาผสมกับน้ำราดรสอ่อนๆช่วยดึงรสของเป็ดออกมาได้อย่างดีงาม หมูแดงย่างส่วนที่ทางร้านใช้น่าจะเป็นสันนอกเพราะค่อนข้างเหนียวแต่หนึบได้เคี้ยวแล้วค่อยๆมีรสชาติของเครื่องหมักออกมาไม่เป็นเส้นเนื้อแห้งๆแบบร้านอื่นแต่ต้องใช้กำลังในการเคี้ยวหน่อย ส่วนไก่ซีอิ๊วนี่ดีงามเกินคาดเพราะถึงแม้ว่าที่ร้านจะตัดส่วนอกมาเสิร์ฟแต่อร่อยเนื้อแน่นหนึบสู้ฟันไม่เป็นเส้นแห้งๆทานแล้วฝืดคอ หนังไก่ก็บางกรุบกรอบราดด้วยซอสซีอิ๊วผสมกะทิมีกลิ่นบางๆเข้ากันได้ดีกับเนื้อไก่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถือว่าฝีมือการต้มไก่ก็ทำได้ดีกว่าร้านข้าวมันไก่หลายเจ้าในไทยเลยครับ ซุปถ้วยต่อเป็นเป็น "ซุปข้นเสฉวน" ที่ไม่ได้เผ็ดร้อนแบบเสฉวนแต่นุ่มนวลกลมกล่อมเปรี้ยวบางๆแบบฮ่องกง แต่ถ้าใครชอบทานแบบเข้มข้นสามารถขอซอสพริกผัดกับจิ๊กโฉ่วผสมลงไปเพื่อให้ความเผ็ดเปรี้ยวสะใจมากขึ้นได้นะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น