[CR] 🇹🇭 Benjarong - เบญจรงค์ ร้านอาหารไทยที่เคียงคู่โรงแรมดุสิตธานีกว่า 50 ปี

👉🏻ก่อนเข้ารีวิวเราขอแนะนำแฟนเพจ FB ของเราสักนิด เราเปิดขึ้นมาเพื่อรวบรวมร้านอาหารทั้งในและต่างประเทศมากมาย มาแบ่งปันกัน ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะค้าาา 
    📍 FB: ตามล่า Fine Dining
    📌 IG: Fine Dining lover 
     และช่องทางใหม่ทาง Youtube :  ตามล่า Fine Dining 

🇹🇭 Benjarong - เบญจรงค์

🍴 Thai - อาหารไทย

🎗 หลังจากโรงแรมดุสิตธานีปิดทำการไปเมื่อช่วงต้นปี ห้องอาหารต่างๆที่เปิดให้บริการเคียงคู่กับโรงแรมมานานกว่า 50 ปีก็ได้ย้ายไปเปิดทำการในสถานที่แห่งใหม่นั่นก็คือ “บ้านศาลาแดง” อาคารสองชั้นสีขาวอายุเกือบ 100 ปีซึ่งถูกปรับปรุงใหม่โดยสถาปนิกชาวเยอรมัน ด้านนอกมีทั้งสนามหญ้า สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส และจุดถ่ายรูปพร้อมอับลง ig ได้หลากหลายมุม ภายในตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย มีการหยิบลายไทยมาทำเป็นวอลเปเปอร์ประดับไว้นามเสาและฉากกั้นต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเฟอร์นิเจอร์ย้อนยุคอีกจำนวนมากราวกับได้มานั่งทานอาหารในคฤหาสถ์ของเจ้านายหรือขุนนางสมัยก่อน

🎗 อาหารที่นี่เป็นอาหารไทยพื้นบ้านที่ทีมเชฟนำมาปรับแต่งให้มีหน้าตาดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้นแต่ไม่ทิ้งอัตลักษณ์ความเป็นไทยแบบดั้งเดิม เริ่มต้นมื้ออาหารด้วย “ทอดมันกุ้งซอสมะขามมายองเนส” เสิร์ฟมาร้อนๆขนาดพอดีคำจำนวน 6 ลูก กัดเข้าไปด้านในจะพบกับเนื้อกุ้งเน้นๆ นุ่ม เด้ง ทานคู่กับซอสมาโยมะขามรสชาติเปรี้ยวหวานเข้ากันได้ดี (12/20) อีกหนึ่งจานเด็ดคือ “ซี่โครงหมูกรอบหวาน” เชฟทำออกมาได้กรอบสมชื่อโดยที่เนื้อด้านในยังคงมีความฉ่ำ ซอสที่เคลือบผิวซี่โครงมีรสหวานตัดด้วยรสเผ็ดเปรี้ยวจากกะหล่ำปลีคลุกซอสศรีราชา อร่อยไม่เบา (13/20) สุดท้ายคือของหวานอย่าง “ข้าวเหนียวมะม่วงพร้อมซอร์เบทมะม่วง” เมนูที่ใช้เทคนิคสมัยใหม่อย่างน้ำกะทิที่ทำออกมาเป็นสโนว์เย็นสดชื่น ทานคู่กับซอร์เบท์มะม่วงรสหวานอมเปรี้ยวและมะม่วงหั่นเต๋า ตักทานทุกองค์ประกอบเพื่อให้ได้รสชาติของข้าวเหนียวมะม่วงที่สมบูรณ์ (13/20)

🎗 รสชาติโดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดีระดับหนึ่งแต่ยังคงพบข้อผิดพลาดได้บ้าง ราคาอาหารค่อนข้างสูงแม้จะเทียบกับห้องอาหารไทยระดับไฟน์ไดนิ่งด้วยกัน เบญจรงค์ เหมาะกับผู้ที่อยากลิ้มลองเมนูอาหารไทยพร้อมกับรำลึกความหลังของโรงแรมดุสิตธานีเมื่อวันวาน ก่อนกลับอย่าลืมแวะ Dusit Gourmet คาเฟ่น่ารักๆที่นำเสนอของหวานทั้งเบเกอรี่และแพสทรี่โฮมเมดในราคาย่อมเยา

📃 À La Carte

ทอดมันกุ้งซอสมะขามมายองเนส (460)
Deep-fried shrimp cakes on egg noodle nest with tamarind mayo sauce

ยำสวนชุลมุน (350)
Starfruit and cucumber salad with crispy shallots and sesame dressing

แกงเผ็ดเป็ดอบ (590)
Red coconut curry with roasted duck and lychee

ซี่โครงหมูกรอบหวาน (470)
Crispy sweet pork ribs and salted sriracha cabbage

ข้าวหอมมะลิ (Complimentary)
Jasmine Rice

ข้าวเหนียวมะม่วงพร้อมซอร์เบทมะม่วง (350)
Mango and sticky rice with mango sorbet

ทับทิมกรอบและขนุน เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมกะทิ (270)
Water chestnut rubies with jackfruit and coconut ice cream

✌️ ร้านอาหารไทยในอาคารสไตล์โคโลเนียล รสชาติใช้ได้ ราคาค่อนข้างสูง

🏵 Score:
อาหาร : 12/20
ราคา : 🌟
ความคุ้มค่า : 🌟
เทคนิค : 🌟
บรรยากาศ : 🌟🌟🌟🌟
บริการ : 🌟🌟🌟
ความประทับใจโดยรวม : 12/20

📍 Visit: Nov 2020

🏠 Location: 116 ถนน ศาลาแดง แขวง สีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

🚗 Parking: จอดฟรีในร้าน

🕡 Operating Time: 11.30-14.30, 18.00-22.00

💰 Price: 900-1,800 THB/p

📞 Tel: 02 200 9009

🧥 Dress Code: Casual

🖥 Website: https://baandusitthani.com/restaurants/benjarong/

🥰 ฝากเพื่อนๆช่วยกดไลค์และเเชร์เพจของเรา : ตามล่า Fine Dining

👍 เพจเราสร้างขึ้นเพื่อรีวิวห้องอาหาร Fine Dining ระดับมิชลินไกด์ทั่วโลก
#FineDining #AroiBKK #Bangkok #ตามล่าFineDining

🇹🇭 Benjarong - เบญจรงค์
🍴 Thai - อาหารไทย

หลังจากโรงแรมดุสิตธานีปิดทำการไปเมื่อช่วงต้นปี ห้องอาหารต่างๆที่เปิดให้บริการเคียงคู่กับโรงแรมมานานกว่า 50 ปีก็ได้ย้ายไปเปิดทำการในสถานที่แห่งใหม่นั่นก็คือ “บ้านศาลาแดง”

ทอดมันกุ้งซอสมะขามมายองเนส (460)
Deep-fried shrimp cakes on egg noodle nest with tamarind mayo sauce
เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่างทอดมันกุ้งทรงกลมขนาดพอดีคำ เสิร์ฟมาร้อนๆ 6 ลูกในกระทงหมี่กรอบ ด้านในเป็นเนื้อกุ้งเน้นๆ นุ่ม เด้ง ทานคู่กับซอสมาโยมะขามรสชาติเปรี้ยวหวานเข้ากันได้ดี (12/20)


ยำสวนชุลมุน (350)
Starfruit and cucumber salad with crispy shallots and sesame dressing
ยำสวนชุลมุนเป็นเมนูยำแนะนำของทางร้านที่ใช้ผักหลายชนิดรวมไปถึงมะเฟือง มะเขือเทศ แตงกวามาคลุกรวมกันแล้วราดด้วยน้ำมันงาเดรสซิ่ง จากนั้นโรยด้วยหอมเจียวกรอบๆที่ด้านบน จานที่เราได้ทานถือว่าน้ำเดรสซิ่งใส่มาน้อยไปนิด ที่สำคัญคือรสชาติยังไม่ค่อยเด่นชัดเท่าไหร่ให้ความรู้สึกเหมือนทานผักสดมากกว่า (11/20)

แกงเผ็ดเป็ดอบ (590)
Red coconut curry with roasted duck and lychee
ด้วยความที่มาร้านอาหารไทยจึงเกิดอยากสั่งเมนูแกงมาลอง แกงเผ็ดเป็ดอบวันนี้เสิร์ฟมาในขนาดจานค่อนข้างใหญ่พอสำหรับแบ่งทานได้ 2-3 คน เครื่องแกงมีความหอม มัน เสริมด้วยรสหวานจากลิ้นจี่และรสเปรี้ยวจากสับปะรด แต่ตัวน้ำแกงเองค่อนข้างใส ไม่ข้นมากนัก ทานแล้วให้ความรู้สึกเหมือนซุปมากกว่า เป็ดที่ผ่านการอบมาเนื้อค่อนข้างแห้งและเหนียวระดับหนึ่งตามประสาเนื้อเป็ดเชอร์รี่ ทั้งยังมีกลิ่นสาบติดมาพอสมควร โดยรวมถือว่าดีกว่าร้านอาหารทั่วไปแต่หากเทียบกับราคาหรือร้านระดับไฟน์ไดนิ่งอื่นๆจัดว่ายังไม่โดดเด่นมากนัก (12/20)


ซี่โครงหมูกรอบหวาน (470)
Crispy sweet pork ribs and salted sriracha cabbage
จานที่ดีที่สุดในวันนี้คือซี่โครงหมูกรอบที่เชฟทำออกมาได้กรอบสมชื่อในขณะเนื้อด้านในยังคงมีความฉ่ำ ใช้มีดดันเพียงเบาๆเนื้อก็ร่อนหลุดออกจากซี่โครงได้โดยง่าย ซอสที่เคลือบผิวซี่โครงมีรสหวานตัดด้วยรสเผ็ดเปรี้ยวจากกะหล่ำปลีคลุกซอสศรีราชา อร่อยไม่เบาเลยทีเดียว (13/20)


ข้าวหอมมะลิ (Complimentary)
Jasmine Rice
สำหรับข้าวหอมมะลิทางร้านจัดเสิร์ฟให้ฟรี เติมได้ตลอดเวลา แต่หากใครต้องการเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องกาบา ข้าวไรซ์เบอร์รี่ หรือข้าวเหนียวจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 40 บาท


ข้าวเหนียวมะม่วงพร้อมซอร์เบทมะม่วง (350)
Mango and sticky rice with mango sorbet
สำหรับขนมหวานห้ามพลาดเมนูแนะนำอย่างข้าวเหนียวมะม่วงที่เชฟใช้ซอร์เบท์มะม่วงรสหวานอมเปรี้ยวเสิร์ฟมาพร้อมกับมะม่วงหั่นเต๋า ด้านบนโรยด้วยน้ำกะทิที่ทำออกมาเป็นสโนว์เย็นสดชื่น ตักทานทุกองค์ประกอบเพื่อให้ได้รสชาติของข้าวเหนียวมะม่วงที่สมบูรณ์ (13/20)


ทับทิมกรอบและขนุน เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมกะทิ (270)
Water chestnut rubies with jackfruit and coconut ice cream
สุดท้ายคือขนมทับทิมกรอบที่เชฟใช้ไอศกรีมกะทิเสิร์ฟมากับเมล็ดสาคูสีเขียว ด้านล่างเป็นทับทิมกรอบและขนุน ตักทานทุกองค์ประกอบพร้อมกันเพื่อให้ได้ความครีมมี่ของไอศกรีม ความหวานจากขนุน และความกรอบของเมล็ดทับทิมกรอบ (13/20)


อาคารสองชั้นสีขาวอายุเกือบ 100 ปีซึ่งถูกปรับปรุงใหม่โดยสถาปนิกชาวเยอรมัน ด้านนอกมีทั้งสนามหญ้า สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส และจุดถ่ายรูปพร้อมอับลง ig ได้หลากหลายมุม

ภายในตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย มีการหยิบลายไทยมาทำเป็นวอลเปเปอร์ประดับไว้นามเสาและฉากกั้นต่างๆ


นอกจากนี้ยังมีเฟอร์นิเจอร์ย้อนยุคอีกจำนวนมากราวกับได้มานั่งทานอาหารในคฤหาสถ์ของเจ้านายหรือขุนนางสมัยก่อน

อาหารที่นี่เป็นอาหารไทยพื้นบ้านที่ทีมเชฟนำมาปรับแต่งให้มีหน้าตาดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้นแต่ไม่ทิ้งอัตลักษณ์ความเป็นไทยแบบดั้งเดิม

รสชาติโดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดีระดับหนึ่งแต่ยังคงพบข้อผิดพลาดได้บ้าง ราคาอาหารค่อนข้างสูงแม้จะเทียบกับห้องอาหารไทยระดับไฟน์ไดนิ่งด้วยกัน เบญจรงค์ เหมาะกับผู้ที่อยากลิ้มลองเมนูอาหารไทยพร้อมกับรำลึกความหลังของโรงแรมดุสิตธานีเมื่อวันวาน

ก่อนกลับอย่าลืมแวะ Dusit Gourmet คาเฟ่น่ารักๆที่นำเสนอของหวานทั้งเบเกอรี่และแพสทรี่โฮมเมดในราคาย่อมเยา

บรรยากาศภายใน Dusit Gourmet

Tiramisu (145)
ขนมที่นี่ทำใหม่แบบวันต่อวันโดยเราได้ลองสั่งมาทานดู 2 อย่าง เริ่มจากทิรามิสุซึ่งทำออกมาเป็นเนื้อเค้กต่างกันกับการใช้เลดี้ฟิงเกอร์แบบต้นต้นรับอิตาเลียน ตักเข้าไปจะพบกับกลิ่นกาแฟเด่นชีด เสริมด้วยความหอมมันของมัสคาโปเน่ครีมซึ่งดูจะใส่มามากไปนิด (12/20)

Lemon Meringue and Blueberry Tartlets (145)
ถัดมาคือทาร์ตเล็ตขนาดจิ๋วที่ด้านในสอกไส้ครีมเลมอนรสเปรี้ยวและครีมบลูเบอร์รี่รสหวานตัดกันอย่างลงตัว ด้านบนเป็นผลบลูเบอร์รี่และเมอแรงก์ ตักทานเข้าไปจะได้กลิ่นหอมของเลมอนเด่นชัดเจน อร่อยใช้ได้เลยล่ะ (13/20)