เราเป็นทาสแมวค่ะ ฉะนั้นจะกรี๊ดมากเวลาเจอน้อง หรือแม้แต่หนังสือภาพเกี่ยวกับน้องก็กรี๊ดเหมือนกัน
จนได้มาเจอหนังสือเล่มนี้ บอกเลยว่าซื้อมาเพราะหน้าปกและภาพประกอบ ไม่ได้สนใจเนื้อหาเลย
แต่พอเอามาลองอ่านดูเพลินๆ แล้ว รู้สึกว่า "มันดีกว่าที่คิด ~" นี่นา
“ไม่เคยฝันว่าจะได้รู้จักตัวฉันผ่านแมว” เป็นหนังสือแนวจิตวิทยา ที่ได้นำหลักจิตวิทยาแห่งความกล้า
ของดร.แอดเลอร์ มาใช้ทำแบบทดสอบให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น โดยการใช้รูปแมวมาประกอบ
เพื่อให้มองผ่านสายตาของแมว ฟังผ่านหูของแมว รู้สึกผ่านหัวใจของแมว เหมือนการมองตัวเอง
ผ่านสายตาของคนอื่น จะทำให้เราเข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้น และสื่อใจกับใจถึงกันได้
...ว่าแต่ว่า ดร.แอดเลอร์คือใครกันล่ะ?
อัลเฟรด แอดเลอร์ นักจิตวิทยาชื่อดังที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งทฤษฎีแห่งการพัฒนาตัวเอง”
เขาเคยกล่าวประโยคที่ว่า “จะเกลียดก็ได้นะ” ไว้ในหนังสอที่เป็นกระแส ทำให้โดนใจคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
เพราะญี่ปุ่นในปัจจุบันมีการ เชื่อมต่อ และติดต่อสื่อสารกับผู้คนมากมาย ทำให้หลายคนกลัวการถูกเกลียด
หรือถูกตัดขาด แต่ประโยคที่กล่าวมา สื่อถึงความกล้าที่จะถูกเกลียด ทำให้โดนใจใครหลายคน
เราเลยลองเอาแบบทดสอบมาให้เพื่อนๆ ลองทำกันดู นอกจากในเล่มนี้จะมีรูปน้องเหมียวน่ารักๆ
ประกอบในเล่มเต็มไปหมด แถมน้องๆ ทุกตัวยังเป็นแมวจรในญี่ปุ่นด้วย ยังมีแบบทดสอบที่ทำให้เรา
เข้าใจตัวเองมากขึ้น ได้เห็นข้อเสียของตัวเองที่ไม่เคยรู้มาก่อน ยอมรับและแก้ไข เพื่อให้เรา
สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างสบายใจ
เราทำแล้วมีหลายข้อที่รู้สึก...เห้ย! จริงเหรอ เราเป็นแบบนี้เหรอ แต่พอลองมานั่งคิดทบทวนดูดีๆ แล้ว
เสียงเล็กๆ ในใจมันก็ดังว่า “ก็จริงแหละ” บางทีตัวเราอาจจะไม่รู้สึกตัว แต่สิ่งที่คนรอบข้างตอบโต้กับเรามา
มันมองได้ว่าเราอาจเป็นคนแบบนั้นจริงๆ
อย่างในข้อนี้เราเลือกข้อ 1 ก็กลายเป็นว่าในสายตาคนอื่นเขามองเราเป็นคนมีความสามารถซะงั้น
ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเราไม่รู้สึกตัวเองว่าเราเป็นคนแบบนั้น แต่พอลองทบทวนดู หลายๆ ครั้งที่คนอื่นบอกว่า
เราเก่ง (ไม่ได้อวยตัวเองนะ) ซึ่งตัวเราไม่ได้รู้สึกแบบนั้น แต่เราเป็นคนที่ทำอะไรแล้วจะพยายามให้มันออกมาดี
ทำให้คนอื่นอาจจะมองเราเป็นแบบนั้นก็ได้
ใครยังไม่เคยอ่าน ลองไปหามาดูนะคะ ส่วนควิซข้อนี้ทำแล้วได้ข้อไหนมาแชร์กันนะคะว่าตรงกับสิ่งที่ตัวเองคิดไหม
รู้จักตัวเองผ่าน "แมว" กันเถอะ
จนได้มาเจอหนังสือเล่มนี้ บอกเลยว่าซื้อมาเพราะหน้าปกและภาพประกอบ ไม่ได้สนใจเนื้อหาเลย
แต่พอเอามาลองอ่านดูเพลินๆ แล้ว รู้สึกว่า "มันดีกว่าที่คิด ~" นี่นา
“ไม่เคยฝันว่าจะได้รู้จักตัวฉันผ่านแมว” เป็นหนังสือแนวจิตวิทยา ที่ได้นำหลักจิตวิทยาแห่งความกล้า
ของดร.แอดเลอร์ มาใช้ทำแบบทดสอบให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น โดยการใช้รูปแมวมาประกอบ
เพื่อให้มองผ่านสายตาของแมว ฟังผ่านหูของแมว รู้สึกผ่านหัวใจของแมว เหมือนการมองตัวเอง
ผ่านสายตาของคนอื่น จะทำให้เราเข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้น และสื่อใจกับใจถึงกันได้
...ว่าแต่ว่า ดร.แอดเลอร์คือใครกันล่ะ?
อัลเฟรด แอดเลอร์ นักจิตวิทยาชื่อดังที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งทฤษฎีแห่งการพัฒนาตัวเอง”
เขาเคยกล่าวประโยคที่ว่า “จะเกลียดก็ได้นะ” ไว้ในหนังสอที่เป็นกระแส ทำให้โดนใจคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
เพราะญี่ปุ่นในปัจจุบันมีการ เชื่อมต่อ และติดต่อสื่อสารกับผู้คนมากมาย ทำให้หลายคนกลัวการถูกเกลียด
หรือถูกตัดขาด แต่ประโยคที่กล่าวมา สื่อถึงความกล้าที่จะถูกเกลียด ทำให้โดนใจใครหลายคน
เราเลยลองเอาแบบทดสอบมาให้เพื่อนๆ ลองทำกันดู นอกจากในเล่มนี้จะมีรูปน้องเหมียวน่ารักๆ
ประกอบในเล่มเต็มไปหมด แถมน้องๆ ทุกตัวยังเป็นแมวจรในญี่ปุ่นด้วย ยังมีแบบทดสอบที่ทำให้เรา
เข้าใจตัวเองมากขึ้น ได้เห็นข้อเสียของตัวเองที่ไม่เคยรู้มาก่อน ยอมรับและแก้ไข เพื่อให้เรา
สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างสบายใจ
เราทำแล้วมีหลายข้อที่รู้สึก...เห้ย! จริงเหรอ เราเป็นแบบนี้เหรอ แต่พอลองมานั่งคิดทบทวนดูดีๆ แล้ว
เสียงเล็กๆ ในใจมันก็ดังว่า “ก็จริงแหละ” บางทีตัวเราอาจจะไม่รู้สึกตัว แต่สิ่งที่คนรอบข้างตอบโต้กับเรามา
มันมองได้ว่าเราอาจเป็นคนแบบนั้นจริงๆ
อย่างในข้อนี้เราเลือกข้อ 1 ก็กลายเป็นว่าในสายตาคนอื่นเขามองเราเป็นคนมีความสามารถซะงั้น
ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเราไม่รู้สึกตัวเองว่าเราเป็นคนแบบนั้น แต่พอลองทบทวนดู หลายๆ ครั้งที่คนอื่นบอกว่า
เราเก่ง (ไม่ได้อวยตัวเองนะ) ซึ่งตัวเราไม่ได้รู้สึกแบบนั้น แต่เราเป็นคนที่ทำอะไรแล้วจะพยายามให้มันออกมาดี
ทำให้คนอื่นอาจจะมองเราเป็นแบบนั้นก็ได้
ใครยังไม่เคยอ่าน ลองไปหามาดูนะคะ ส่วนควิซข้อนี้ทำแล้วได้ข้อไหนมาแชร์กันนะคะว่าตรงกับสิ่งที่ตัวเองคิดไหม