พิษ COVID-19 ฉุดยอดขายบะหมี่ฯติดลบครั้งแรกประวัติการณ์
https://news.thaipbs.or.th/content/297085
พิษ COVID-19 ฉุดยอดขายบะหมี่ฯติดลบครั้งแรกประวัติการณ์
เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงกระทบต่อยอดขายสินค้าทุกชนิด ยักษ์ใหญ่อย่างเครือสหพัฒนฯ ระบุว่า ยอดขายติดลบเป็นประวัติการณ์ เสนอรัฐหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม เตรียมหารือในประชุม กกร.สัปดาห์นี้
นาย
เวทิต โชควัฒนา ผู้บริหารสหพัฒน์ฯ กล่าวว่า ยอดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้รับผลกระทบจนถึงขั้นติดลบเป็นประวัติการณ์โดยเฉพาะประเภทถ้วยที่ยอดขายติดลบมากกว่าเพราะคนไม่เดินทางซึ่งตามปกติบะหมี่สำเร็จรูปแบบถ้วยจะขายดีตามสถานที่ท่องเที่ยว
ส่วนกรณีที่ระบุว่า ยามเศรษฐกิจไม่ดีแล้วบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะขายดี ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงเพราะเศรษฐกิจไม่ดียอดขายก็ลดลงด้วยเช่นกัน เพียงแต่ผลกระทบจะช้ากว่าสินค้าชนิดอื่น โดยในปีนี้มีเพียงช่วง 1 เดือน ที่เกิดการแพร่ระบาดโรค COVID-19 และล็อกดาวน์ ที่ทำให้คนตื่นตระหนกส่งผลให้ยอดขายสูงถึงร้อยละ 41 ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันในวันที่ 7 ต.ค.นี้ เอกชนจะเสนอมาตรการให้ภาครัฐเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและเศรษฐกิจช่วงปลายปี
ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า เอกชนต้องการให้รัฐบาลขยายเวลาการพักชำระหนี้ออกไปอีก 2 ปี โดยให้ช่วง 6 เดือนแรกจ่ายชำระดอกเบี้ยร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยรายเดือนที่เกิดขึ้น เพราะเอสเอ็มอียังขาดสภาพคล่องอย่างมาก หากหมดมาตรการพักชำระหนี้ จะเกิดหนี้เสียจำนวนมาก ส.อ.ท.ยังร่วมกับเอกชน 50 องค์กร อัดฉีดสภาพคล่องให้เอสเอ็มอี โดยออกมาตรการเครดิตเทอม 30 วัน จากปกติจะอยูที่ 45-60 วัน โดยคาดการณ์ว่าจะเสริมสภาพคล่องมูลค่า 1 แสนล้านบาทให้เอสเอ็มอี
ศาลรธน.นัด 28 ต.ค. ชี้ชะตาสถานภาพส.ส.รัฐบาล-ฝ่ายค้าน 64คนสิ้นสุดหรือไม่ ปมถือหุ้นสื่อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2383706
ศาลรธน.นัดชี้ชะตาสถานภาพส.ส.”รัฐบาล-ฝ่ายค้าน 64 คนสิ้นสุดเหตุปมถือหุ้นสื่อ ขัดรธน.หรือไม่ 28 ต.ค.นี้
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยใน 2 คดีที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกภาพส.ส.สิ้นสุดลงด้วยเหตุถือครองหุ้นสื่อ ตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาพส.ส. จำนวน 32 คน ของฝ่ายรัฐบาล และอีก 32 คนของฝ่ายค้าน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ และเห็นว่าคดีมีข้อเท็จจริงเพียงพอให้พิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน และกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติและอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง ในวันพุธที่ 28 ตุลาคม ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
โดยในเวลา 15.00 น.ศาลนัดอ่านคำวินิจฉัยในส่วนของส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่ถูกส.ส.พรรคฝ่ายค้านเข้าชื่อยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น ประกอบด้วย
พรรคพลังประชารัฐ 21 คือ ได้แก่ 1.ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 2.นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ 3.อรรถกร ศิริลัทธยากร 4.กษิดิ์เดช ชุติมันต์ 5.นางกุลวลี นพอมรบดี 6.ชาญวิทย์ วิภูศิริ 7.ฐานิสร์ เทียนทอง 8.ฐาปกรณ์ กุลเจริญ 9.น.ส.ตรีนุช เทียนทอง 10.ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ 11.นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา 12.ปฐมพงศ์ สูญจันทร์ 13.ภิญโญ นิโรจน์ 14.วีระกร คำประกอบ 15.พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ 16. สมเกียรติ วอนเพียร 17.สัมพันธ์ มะซูโซ๊ะ 18.สิระ เจนจาคะ 19.สุชาติ ชมกลิ่น 20.อนุชา น้อยวงศ์ 21 น.ส.ภาดา วรกานนท์
พรรคประชาธิปัตย์ 8 คน ได้แก่ 1.น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร 2.อัศวิน วิภูศิริ 3.นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ 4.ภานุ ศรีบุศยกาญจน์ 5.น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ 6.สมชาติ ประดิษฐพร 7.สาคร เกี่ยวข้อง 8.สาธิต ปิตุเตชะ พรรคชาติพัฒนา 1 ราย ได้แก่ เทวัญ ลิปตพัลลภ, พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้แก่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล, และพรรค พรรคประชาภิวัฒน์ ได้แก่ นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ขณะที่เวลา 16.00 น.จะเป็นการอ่านคำวินิจฉัยในส่วนของส.ส.ฝ่ายค้านที่ถูกส.ส.ฝ่ายรัฐบาลคือพรรคพลังประชารัฐ เข้าชื่อยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น ประกอบด้วย ส.ส.
พรรคอนาคตใหม่ 20 คน คือ 1.พล.ท.พงศกร รอดชมภู 2.นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ 3.นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ 4.นายสุรชัย ศรีสารคาม 5.นายชำนาญ จันทร์เรือง 6.นายวินท์ สุธีรชัย 7.นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ 8.นายคารม พลพรกลาง 9.นายวาโย อัศวรุ่งเรือง 10. นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 11.นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล 12.นายวิภพ วิริยะโรจน์ 13.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ 14.นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ซึ่งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด 15.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. 16.น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี 17. น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม 18.นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา 19. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และ 20.น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม.
พรรคเพื่อไทย 4 คน ได้แก่ 1.นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย 2.นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก 3.นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และ 4.นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์
พรรคเพื่อชาติ 4 คน เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด ได้แก่ 1.นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ 2.นางลินดา เชิดชัย 3.น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช และ 4.นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล
พรรคเสรีรวมไทย จำนวน 3 คน เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด ได้แก่ 1.พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส 2.น.ส.ธนพร โสมทองแดง และ 3.น.ส.พัชนี เพ็ชรจินดา และ
พรรคประชาชาติ 1 รายคือ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ
JJNY : บะหมี่ฯติดลบครั้งแรกประวัติการณ์/28ต.ค.ชี้ชะตาส.ส.ถือหุ้นสื่อ/บีบ'ปชป.-ภท.'ถอนตัวรบ./DSIลงสอบ”ศรีพันวา”พรุ่งนี้
https://news.thaipbs.or.th/content/297085
พิษ COVID-19 ฉุดยอดขายบะหมี่ฯติดลบครั้งแรกประวัติการณ์
เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงกระทบต่อยอดขายสินค้าทุกชนิด ยักษ์ใหญ่อย่างเครือสหพัฒนฯ ระบุว่า ยอดขายติดลบเป็นประวัติการณ์ เสนอรัฐหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม เตรียมหารือในประชุม กกร.สัปดาห์นี้
นายเวทิต โชควัฒนา ผู้บริหารสหพัฒน์ฯ กล่าวว่า ยอดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้รับผลกระทบจนถึงขั้นติดลบเป็นประวัติการณ์โดยเฉพาะประเภทถ้วยที่ยอดขายติดลบมากกว่าเพราะคนไม่เดินทางซึ่งตามปกติบะหมี่สำเร็จรูปแบบถ้วยจะขายดีตามสถานที่ท่องเที่ยว
ส่วนกรณีที่ระบุว่า ยามเศรษฐกิจไม่ดีแล้วบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะขายดี ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงเพราะเศรษฐกิจไม่ดียอดขายก็ลดลงด้วยเช่นกัน เพียงแต่ผลกระทบจะช้ากว่าสินค้าชนิดอื่น โดยในปีนี้มีเพียงช่วง 1 เดือน ที่เกิดการแพร่ระบาดโรค COVID-19 และล็อกดาวน์ ที่ทำให้คนตื่นตระหนกส่งผลให้ยอดขายสูงถึงร้อยละ 41 ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันในวันที่ 7 ต.ค.นี้ เอกชนจะเสนอมาตรการให้ภาครัฐเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและเศรษฐกิจช่วงปลายปี
ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า เอกชนต้องการให้รัฐบาลขยายเวลาการพักชำระหนี้ออกไปอีก 2 ปี โดยให้ช่วง 6 เดือนแรกจ่ายชำระดอกเบี้ยร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยรายเดือนที่เกิดขึ้น เพราะเอสเอ็มอียังขาดสภาพคล่องอย่างมาก หากหมดมาตรการพักชำระหนี้ จะเกิดหนี้เสียจำนวนมาก ส.อ.ท.ยังร่วมกับเอกชน 50 องค์กร อัดฉีดสภาพคล่องให้เอสเอ็มอี โดยออกมาตรการเครดิตเทอม 30 วัน จากปกติจะอยูที่ 45-60 วัน โดยคาดการณ์ว่าจะเสริมสภาพคล่องมูลค่า 1 แสนล้านบาทให้เอสเอ็มอี
ศาลรธน.นัด 28 ต.ค. ชี้ชะตาสถานภาพส.ส.รัฐบาล-ฝ่ายค้าน 64คนสิ้นสุดหรือไม่ ปมถือหุ้นสื่อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2383706
ศาลรธน.นัดชี้ชะตาสถานภาพส.ส.”รัฐบาล-ฝ่ายค้าน 64 คนสิ้นสุดเหตุปมถือหุ้นสื่อ ขัดรธน.หรือไม่ 28 ต.ค.นี้
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยใน 2 คดีที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกภาพส.ส.สิ้นสุดลงด้วยเหตุถือครองหุ้นสื่อ ตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาพส.ส. จำนวน 32 คน ของฝ่ายรัฐบาล และอีก 32 คนของฝ่ายค้าน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ และเห็นว่าคดีมีข้อเท็จจริงเพียงพอให้พิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน และกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติและอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง ในวันพุธที่ 28 ตุลาคม ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
โดยในเวลา 15.00 น.ศาลนัดอ่านคำวินิจฉัยในส่วนของส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่ถูกส.ส.พรรคฝ่ายค้านเข้าชื่อยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น ประกอบด้วย
พรรคพลังประชารัฐ 21 คือ ได้แก่ 1.ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 2.นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ 3.อรรถกร ศิริลัทธยากร 4.กษิดิ์เดช ชุติมันต์ 5.นางกุลวลี นพอมรบดี 6.ชาญวิทย์ วิภูศิริ 7.ฐานิสร์ เทียนทอง 8.ฐาปกรณ์ กุลเจริญ 9.น.ส.ตรีนุช เทียนทอง 10.ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ 11.นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา 12.ปฐมพงศ์ สูญจันทร์ 13.ภิญโญ นิโรจน์ 14.วีระกร คำประกอบ 15.พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ 16. สมเกียรติ วอนเพียร 17.สัมพันธ์ มะซูโซ๊ะ 18.สิระ เจนจาคะ 19.สุชาติ ชมกลิ่น 20.อนุชา น้อยวงศ์ 21 น.ส.ภาดา วรกานนท์
พรรคประชาธิปัตย์ 8 คน ได้แก่ 1.น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร 2.อัศวิน วิภูศิริ 3.นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ 4.ภานุ ศรีบุศยกาญจน์ 5.น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ 6.สมชาติ ประดิษฐพร 7.สาคร เกี่ยวข้อง 8.สาธิต ปิตุเตชะ พรรคชาติพัฒนา 1 ราย ได้แก่ เทวัญ ลิปตพัลลภ, พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้แก่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล, และพรรค พรรคประชาภิวัฒน์ ได้แก่ นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ขณะที่เวลา 16.00 น.จะเป็นการอ่านคำวินิจฉัยในส่วนของส.ส.ฝ่ายค้านที่ถูกส.ส.ฝ่ายรัฐบาลคือพรรคพลังประชารัฐ เข้าชื่อยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น ประกอบด้วย ส.ส.
พรรคอนาคตใหม่ 20 คน คือ 1.พล.ท.พงศกร รอดชมภู 2.นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ 3.นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ 4.นายสุรชัย ศรีสารคาม 5.นายชำนาญ จันทร์เรือง 6.นายวินท์ สุธีรชัย 7.นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ 8.นายคารม พลพรกลาง 9.นายวาโย อัศวรุ่งเรือง 10. นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 11.นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล 12.นายวิภพ วิริยะโรจน์ 13.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ 14.นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ซึ่งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด 15.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. 16.น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี 17. น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม 18.นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา 19. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และ 20.น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม.
พรรคเพื่อไทย 4 คน ได้แก่ 1.นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย 2.นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก 3.นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และ 4.นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์
พรรคเพื่อชาติ 4 คน เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด ได้แก่ 1.นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ 2.นางลินดา เชิดชัย 3.น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช และ 4.นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล
พรรคเสรีรวมไทย จำนวน 3 คน เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด ได้แก่ 1.พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส 2.น.ส.ธนพร โสมทองแดง และ 3.น.ส.พัชนี เพ็ชรจินดา และพรรคประชาชาติ 1 รายคือ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ