ไอ้หนุ่มหาของป่า ตอน นางไม้

ขอบคุณภาพจากกูเกิ้ล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

............... บางครั้งความรัก ก็เปรียบได้กับการเดินทาง  ในช่วงที่โลดแล่นบนถนนสายนี้ จำเป็นที่จะต้องมีเพื่อนคู่คิดให้เราได้เรียนรู้ ประคับประคองกันไป เพราะที่สุดของหนทาง คือทางที่ต้องไปต่อไม่มีที่สิ้นสุด
 
รถยนต์คันหนึ่งที่คนขับกำลังเร่งเครื่องไปบนหนทางลาดชัน  สองฟากเป็นป่าเขา ลุงกำพลอดีตพรานเก่าทำหน้าที่ขับรถ แม้สูงวัยใบหน้ายังคมสัน บุคลิกดูนิ่งตามประสาคนผ่านโลกมามาก หากจะยิ้มก็ยิ้มง่ายเมื่อเจอเรื่องถูกใจ
  
ที่นั่งเบาะข้างคือปรีชาพี่ชายของอารัญ ส่วนที่นั่งอยู่เบาะหลัง  มีสามคน คนแรกคือแยมหญิงสาวที่เป็นคู่คบหากับปรีดา และเธอยังเคยเป็นเพื่อนร่วมสถาบันเดียวกับอารัญ ถัดไปอีกแพทริยา หรือแพท เพื่อนคนสนิทที่แอบชอบอารัญมานาน เป็นผู้หญิงที่ชื่นชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด  รวมทั้งเคยเดินป่ามาแล้วจึงถูกชักชวนมาด้วยอีกคน
 
คนสุดท้ายคืออารัญชายหนุ่มผู้เงียบขรึมมาตลอดทาง มีอาการเหม่อลอยเข้าขั้นจะเป็นโรคซึมเศร้า จากการสูญเสียคนรักไปไม่นาน การเดินทางท่องเที่ยวในครั้งนี้ญาติมิตรลงความเห็นกันให้พามาเที่ยวเพื่อเยียวยาจิตใจ  โดยตกลงกันให้หญิงสาวอีกคนมาประกบเพื่อหวังดามใจให้กลับคืนมาปกติดังเดิม

โอกาสเป็นของเธอแล้วยัยแพท  แยมลอบยิ้มให้กับปรีดา สายตาที่สื่อหากันต่างเข้าใจกันดี  ที่เหลือต้องให้เวลาสองคนได้ปรับตัวเข้าหากัน  

เป็นเรื่องปกติที่พอสาวๆ มาอยู่ด้วยกันจะต้องมีเรื่องโน้นเรื่องนี้มาพูดคุย  ทำให้บรรยากาศภายในรถไม่ถึงกับเงียบเหงาจนเกินไปนัก บางครั้งทำเอาลุงพลยิ้มได้ แม้ต้องตั้งหน้าขับรถอยู่เป็นนาน 

สายตาคมของหนุ่มใหญ่แอบมองผ่านกระจกหลัง ไปที่สาวเจ้าของผิวสีน้ำผึ้ง เธอสวยแต่ไม่บอบบางเลย สมกับเป็นสาวโคราชลูกหลานย่าโม   บนคอของแกห้อยพระเส้นเขื่องอันมีรูปลอยฤาษีเป็นที่เคารพส่วนตัว  มีสรรพคุณด้านแคล้วคลาด 
 
ขับรถให้นายอาทรคุณพ่อของคุณปรีชามานาน  นายเป็นคนมีอริมาก เคยถูกดักยิงหลายครั้งแต่ก็รอดมาได้  ทำให้เชื่อถืออย่างสนิทใจในอานุภาพปู่ฤาษี  ซ้ำยังมีดีด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม  

หากไม่ติดว่าคุณปรีชากับคุณแยมเป็นพ่อสื่อแม่ชักอยากให้คู่นี้ได้สมรักกัน อีกใจก็อยากลองจีบเหมือนกัน อยู่เป็นโสดจนอายุปูนนี้ พอเจอผู้หญิงที่คล้ายอดีตคนรักแล้วให้ใจหวั่นไหวทุกที
 
วรรณนา... เราเคยสัญญากันไว้ จะต้องได้พบกันอีก 

เสียงคำนึงในใจของอารัญ ที่เอาแต่นั่งนิ่ง ศีรษะพิงกับกระจก มองเหม่อไปยังทิวทัศน์ข้างทาง ไม่สนใจสายตาที่มองมา แม้เเพทจะชื่นบานกับเพื่อนสนิทแต่แอบคิดน้อยใจในความไม่ไยดีของเขา  คิดในแง่บวกเขาพึ่งสูญเสียคนรัก เวลาเท่านั้นที่จะเยียวยาแผลใจ  

ในเมื่อความตายคือตัวการพรากคู่รักจากกันที่เด็ดขาดที่สุด  ไร้ซึ่งโอกาสจะแก้ตัว ไม่มีทางอีกแล้วที่อารัญจะหวนกลับคืนไปหาวรรณนาได้อีก 

ความรักก็เปรียบได้กับการเดินทาง  ในเมื่อเส้นทางชีวิตของหญิงคนรักได้สิ้นสุดลงแล้ว  เขาพึงได้เรียนรู้คนใหม่ ซึ่งเธอก็พร้อมแล้วจะเคียงคู่ไปกับเขาไปบนหนทางแห่งชีวิต
 
ปรีชาหรี่ตามองนิ่งบนหนทางเบื้องหน้า หนทางเริ่มลงเขาทำให้ทำความเร็วได้มากขึ้น  นานทีหางตาแอบชำเลืองมองไปทางน้องชาย  สมองก็ให้ครุ่นคิดไปด้วย  นักธุรกิจที่หาเวลามาเที่ยวพักผ่อนได้ยากอย่างตน ยอมสละเวลามาเที่ยวอุทยานเขาใหญ่ในครั้งนี้ก็เพื่อชดเชยให้กับน้องให้ได้พบกับคนที่จริงใจ 

เมื่อก่อนนั้น แยมกับอารัญเป็นเพื่อนนักศึกษาคณะเดียวกัน เคยคบหาเป็นแฟนกันอยู่พักหนึ่ง จนฝ่ายหญิงไปพบคนใหม่ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นไกลเลย  ชายคนนั้นก็คือปรีชา พี่แย่งคนรักของน้องทำให้มีรอยบาดหมางอยู่ลึกๆ  จนกระทั่งอารัญได้พบรักครั้งใหม่กับวรรณา สาวสวยนัยน์ตาโศกที่คบกันมาจนกระทั่งเธอได้ตายจากไปด้วยอุบัติเหตุ

“อีกนานไหมลุงพล จะถึงลานกางเต็นท์ ผมละเซ็ง ดูในแผนที่มันไม่น่าจะไกลเลย” ปรีชาเอ่ยประโยคแรกทำลายความเงียบ ด้วยความเบื่อ รู้สึกเมื่อยขบกับการนั่งจับเจ่าเต็มที

“ไม่ไกลแล้วครับ คงไม่เกินห้าโมงเย็น มองในแผนที่ถ้าลากเป็นเส้นตรงได้มันไม่ไกล แต่ระยะทางจริงมันไกลเพราะถนนคดเคี้ยวมาก ผมเผื่อเวลาให้ซื้อของกันแล้ว เราจะไปถึงทันทำที่พักก่อนจะมืดค่ำ”

“โชคดีที่ลุงพลเป็นพื้นเพแถวนี้ด้วย” แพทพูดแทรก สีหน้าของเธอแช่มชื่นแตกต่างจากปรีชา “พึ่งรู้เป็นคนบ้านเดียวกัน อยู่กันคนละอำเภอ ได้ยินจากแยมมาว่า ลุงพลเคยเป็นพรานเก่า ไว้พรุ่งนี้พาเดินป่านะคะ ฉันเป็นลูกพรานมาก่อน เรื่องเดินป่าไม่อยากคุยชำบายมาก”

“พี่คงไม่ไหว ขอบายนะ แพทเธอชวนไอ้รัญไปละกัน” ปรีชาพูดจบก็นั่งอมลมในปาก เอามือเท้าคาง นึกบ่นในใจ ธุรกิจของพ่อมีมากมายที่ต้องไปดูแล การเที่ยวป่านอนเต็นท์ไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ของตนเอง ที่ยอมมาด้วยก็ดีแล้ว 

แพทจำต้องเลื่อนสายตามาคุยกับปรีชา อยากชวนคุยให้บรรยากาศในรถผ่อนคลาย ไม่เขม็งเกลียวกันนัก  ปรีชาอยากบอกการเที่ยวป่าครั้งนี้มาจากความจ้าวคิดจ้าวแผนการจับคู่ของแยมแท้ๆ อีกไม่นานก็จะแต่งงาน  คงอยากเอาใจว่าที่น้องสามีจะได้ญาติดีกัน พอมองไปที่เจ้าน้องชายที่เอาแต่หมางเมิน ไม่สนใจด้วยซ้ำพี่ชายจะแต่งงานวันไหน  

“แต่ฉันชอบเที่ยวป่านะ ขอบใจเธอมากแยมที่ชวนมาด้วย” ผิดกับอาการสดชื่นของแพท เธอเป็นลูกพรานที่มีประสบการณ์เดินป่าพี่ชายกับพ่อเป็นพราน เดินข้ามป่าข้ามเขา จนสามารถเดินเดี่ยวได้ 

“เอ๊ะ ยัยแพทนี่ ฉันชวนแกมาเพื่ออะไร อย่าเอาแต่สนุกสิ” แยมเริ่มงอน เพื่อนไม่รู้งานเอาเสียเลย อุตส่าห์เปิดทางสะดวกให้แล้ว

รถยนต์เคลื่อนที่ได้ช้าลงเพราะลดเกียร์ต่ำ  ลุงพลคุมพวงมาลัยอย่างระวังสัตว์ป่าอาจวิ่งออกมาตัดหน้ารถได้ทุกเมื่อ  ปรีชารู้สึกขัดใจคนขับรถของพ่อ  ได้ยินว่าขับรถดีแต่ขับช้าชะมัดเลย 

เมื่อมองป่าสองข้างทางอาบอาบยอดไม้เป็นสีทองเริ่มอ่อนแสงลงทุกที แม้จะพึ่งสี่โมงเย็น บรรยากาศคล้ายจะมืดค่ำเร็วมาก

“ขับรถให้เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอครับลุง”      

“อันตรายครับ เกิดเจอช้างป่าเข้า รถเราจะเสียหลัก ต้องขับประคองไว้ก่อน” 

ขับรถมานับชั่วโมงยังไม่เจอเพื่อนร่วมทางเลยสักคัน เป็นถนนสายเปลี่ยวที่ต้องระมัดระวังหากเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดเรื่องร้ายขึ้น จะนานทีเดียวกว่าจะหาคนมาพบเห็นและให้การช่วยเหลือ  

ลุงพลเป็นคนพื้นเพที่นี่  รู้ดีว่าต้องระวังอะไรบ้าง คอยพูดเตือนอยู่เสมอถนนสายนี้ ไม่จำเป็นอย่าได้จอดแวะ แม้เจอสัตว์ป่า อย่างเช่นพวกลิงก็อย่าหยุดรถ ลงไปให้อาหารพวกมัน หลายครั้งที่เคยมีข่าวฝูงช้างป่าจู่โจมใส่รถยนต์ของผู้สัญจรในเส้นทางนี้

อดีตที่ป่าแห่งนี้เคยได้รับขนานนาม ‘ดงพญาไฟ’ ผืนป่าแห่งสุดท้ายของประเทศไทย ที่คนพิชิตลงได้ในยุคบุกเบิกสร้างทางรถไฟ เส้นทางที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของวิศวกรและคนงานมากมาย ทั้งจากสัตว์ป่า ไข้ป่า และสูญหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จนเป็นเรื่องเล่าขานถึงความลึกลับอาถรรพ์สืบต่อมาเท่าทุกวันนี้ 

แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ป่าแห่งนี้จะเป็นชื่อเปลี่ยนนามเป็นดงพญาเย็น และเปลี่ยนมาเป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในปัจจุบัน  เรื่องเล่าเหล่านั้นยังคงสั่นคลอนนักเดินทางขวัญอ่อน อย่าได้ริบังอาจจอดรถลงมาในเส้นทางสายนี้

คนที่เอาแต่นิ่งมาโดยตลอดอย่างอารัญ เริ่มจับสังเกตอะไรบางอย่างจากข้างทาง ยิ่งเพ่งสายตาให้ดี เหมือนผู้หญิงสาวคนหนึ่งกำลังต้องการความช่วยเหลือ เธอนอนพังพาบกับพื้น อีกมือกวักเรียกอยู่ไหวๆ ถนนสายนี้นานทีถึงจะมีรถยนต์ผ่านมา ไม่ช่วยไม่ได้แน่

“ลุงพล!  ช่วยจอดรถที! จอดๆ”

“อะไรหรือวะไอ้รัญ! จะให้หยุดรถทำไม!”

“มีคนโบกมืออยู่ข้างทาง เป็นผู้หญิงด้วย เธอกำลังต้องการความช่วยเหลือ” ปลายน้ำเสียงของอารัญสั่นด้วยความตื่นเต้น

 “ไม่ได้นะครับ แถวนี้ไม่เหมาะ เจ้าหน้าที่การทางยังเคยเตือน ห้ามนักท่องเที่ยวจอดรถแถวนี้”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่