ผมมีเรื่องอยากจะพูดครับ อยากระบายตัวเองที่เคยเจอมา

สวัสดีครับ ขอแนะนำตัวก่อนเลยละกัน ชื่อ เฟรม
เรื่องที่อยากจะพูด มันเป็นเรื่องส่วนตัวชีวิตของผมเอง
เกิดมา โดยปกติ พ่อแม่จะเป็นคนเลี้ยงดูเรา แต่อันนี้เราให้ปู่ย่าเลี้ยงดูเรา เพราะแม่ของผมเลี้ยงดูไม่ค่อยเป็น ***ตอนนั้นแม่ทำร้านอาหารและแม่ย่า ส่วนพ่อก็บวชที่หลังสวนใต้ ต้องย่อมรับครับว่าตอนเด็กดื้อ นั่งรถเข็น ตกบนไดชั้น2 ตาข้างซ้ายบวมเขียว ช้ำ แม่ย่าผมก็บอกแม่ว่า ย่าจะขอลูกเลี้ยงต่อ แม่ผมก็ไม่ได้บอกไรเลย หลังจากนั้นย่าก็เอาลูกไปเลี้ยงต่อ พ่อแม่ผมจากกันไป ตั้งแต่ตอนเด็ก พาส่งเรียนแล้วก็ปล่อยให้ตาเหล่ผ่านไป ไม่พาไปหาหมอ จนโดนว่าล้อกัน
พอปู่ย่าเลี้ยง ก็ไม่มีการติดต่อไปหาแม่อีกเลยเพราะเมียใหม่พ่อไม่ให้ติดต่อไม่ให้ยุ้ง  *ย่าเล่าให้ผมฟังว่า
เวลาอาบน้ำ แม่จะเอาขังตักน้ำเทเป็นหัวผม ก็คือแบบยังเลี้ยงไม่ค่อยจะได้ พอพ่อแม่จากกันไปแล้ว ผมก็ได้ไปอยู่ฝ่ายพ่อ
โดยพ่อของผมจะมีปู่ย่าเลี้ยงดูให้ เพราะเค้ามีประสบการณ์เลี้ยงดู ตอนนั้นผมเองก็ไม่รู้ตัวหรอกครับว่าเราโดนอะไรมาบ้าง แต่ภาพจะติดตาเป็นที่สุด คือ
ตอนเด็กผมโดนพ่อตบหัวตอนช่วงงานแต่งตัวผีตามเทศกาลต่างๆ ปู่อุ้มตัวผมอยู่ แล้วพ่อเหมือนอยากจะเล่นกับผมโดยการใส่หน้ากากผีเพื่อที่จะมาเล่นกับลูก(ผม)
ผมไปพูดคำหยาบ*** ใส่พ่อ ไปจนโดนตบที่หน้า แล้วหน้าไปโดนพื้นที่สาธารณะ  ทำไมคนอื่นเค้าไม่ห้ามกันหรอ?
ผมเองโดนตบไปตั้ง 4-5 ครั้งได้ถ้าจำไม่ผิด ปู่ย่าก็ไม่สนใจอีก น่าจะสะใจมากกว่า พอไปโรงเรียนครูเค้าเห็นหน้าผม เค้าเลยรักษาให้
ปู่ย่าเป็นคนที่ชอบบอกเรื่องของผมให้เพื่อนปู่ย่าฟัง ลูกคนนี้โดนพ่อตบหัว4-5ทีเลย ลงพื้นด้วยไรงี้  *แม่ผมยังไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้เลย
ปู่ย่าปิดบังกัน ส่งเข้าเรียนตอนผมอยู่ป.1
ตอนนั้นผมกลับกทม ไม่รู้หรือดวงไรงี้ล่ะ ช่วงหยุดรถ ผมไปเจอแม่นี่แหละ แม่ก็ดีใจทื่ไม่ได้เจอลูกมานาน เลยให้เบอร์ติดต่อ
หลังจากติดต่อผมก็เลยตัดสินใจที่จะไปอยู่กับแม่โดยมีพ่อไปส่งผมที่ ห้าง MBK ชั้น3 น่าจะเป็นร้านขายเสื้อผ้ากางเกง
ผมก็ดีใจร้องไห้เพราะอยากเจอแม่มากคิดถึงแม่มาก แม่เลยให้สมัครเข้าโรงเรียนแถวคลองเตยเหนือ  ได้เข้าเรียนตอนอยู่ ป.4 เพื่อนๆก็ไม่มีใครรู้จักหรอก
แต่โดนล้อบ่อย เค้าจะไม่ได้เรียกชื่อผมนะ เค้าเรียกว่า เหล่ ตาเหล่ *ไม่ชอบให้เพื่อนมาเรียกชื่อเราแบบนี้ เราไม่ได้ชื่อนี้ ชื่อก็มีทำไมไม่เรียกกัน  ช่วงที่ผมไปเรียนก็คือ เข้าเรียนสายมากกกก แบบเค้าเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่คุณครูเค้าก็ไม่ว่าไรนะครับ ก็เรียนไปตามปกติ แต่ก็พยายามที่จะไปให้เร็วกว่านี้ แม่เลยหาแก้ปัญหาด้วยการเลือกรถโรงเรียนมารับ-ส่ง ทุกวันเพื่อให้ตรงตามเวลาที่โรงเรียนกำหนด 
ผมก็เรียนปกติช่วยเหลือเพื่อนด้วยการ ถือกระเป๋าทั้งหมดในห้องเรียนให้เพื่อนก่อนเลิกเรียน ทำเป็นประจำจนเพื่อนอีกคนอยากช่วยด้วย ตัวผมเองชอบการช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังตอบแทน ในความคิดของผมนะตอนนั้น ผมชอบเรียนภาษาไทยกับคุณครูคนนึง คุณครูคนนี้ขาไม่ค่อยจะแข็งแรง เวลาเจอครูผมเลยช่วยครูถือไปส่งให้ตลอด หลังจากที่เรียนในที่นั้นทำให้ผมรู้จักเพื่อนไม่มากก็น้อยแต่ก็ได้เพื่อน พอเกิดปัญหาจากทางบ้าน ก็ไม่รู้จะทำไงต่อ พ่อปู่ย่าขอเอาผมกลับไปดูแลต่อ ลาออกจากโรงเรียนนั้นด้วยอยู่ยังไม่ถึงเทอม2  เลยย้ายมาเรียนที่แถวนนทบุรี โรงเรียนนั้นก็อยู่ใกล้บ้านพอดี เลยสะดวก จนจบป.6 
***ล่าสุด25/2/2564 ก็คือ พาไปหาหมอตอนโต แล้วไม่สามารถรักษาข้างซ้ายได้อีกแล้ว หมอเจอแผลนะ แต่ก็รักษาไม่ได้อยู่ดีหมอถามว่าตาไปโดนอะไรมา *พ่อผมก็บอกกับหมอไปว่า ตาโดนตกกระแทกบนไดแค่นั้น เหมือนพ่อจะบอกหมอไม่หมด ผมเลยคาใจตัวเองว่าทำไมพ่อถึงบอกหมอไม่หมดว่าโดนอะไรมาบ้าง จนวันนึงได้รับผ่านเกณฑ์ทหาร ผมได้ไปรักษาอีกครั้งนึง ปรากฏว่า ตาข้างซ้ายบอด เมื่อรักษาและแก้สายตาด้วยแว่นแล้ว การมองเห็นยังอยู่ในระดับต่ำกว่า แต่ไม่สนิท คือ มองใกล้ได้ แต่อ่านไม่ได้  ก็คือใช้ตาข้างขวาได้ข้างเดียว 
แค่อยากระบายตัวเอง
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่