ตอนนี้หนักใจมากค่ะ หลังเราสมัครใจลาออก แล้วเราก็เริ่มส่งเรซูเม่ไปหลายบริษัท นับได้เป็นร้อยค่ะ 😅😅
แล้วมีบริษัทติดต่อมาแค่ 3 ที่ เรียกสัมภาษณ์ที่นึงเมื่อวันอังคาร
บริษัทนี้โทรมาแจ้งว่าตกลงรับเราเข้าทำงานค่ะ เงินเดือนที่เรียกไปก็ได้เท่าที่เดิมเลย
จะว่าเราดีใจแต่ก็ไม่สุด เพราะอยู่ห่างจากทีเดิม 70 กม.
ถ้าเรารับงาน เราต้องย้ายที่พักไปใกล้ BTS โซนบางนา เพื่อไปย่านนนทบุรีค่ะ
แฟนทำบางพลีที่เดียวกับเราลาออกค่ะ
เขาจะต้องเดินทางไกลขึ้น แต่มีรถรับส่ง แต่ของเราไม่มีรถรับส่ง ต่อให้ไปถึงนนทบุรี เข้าซอยลึกก็ไม่มีรถรับส่งค่ะคงต่อวินเข้าไป
ถ้าเป็นเมื่อก่อนตัวคนเดียวเราก็ย้ายที่พักตามงานที่ทำได้ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่เป็นงั้นแล้ว
แยกกันอยู่กลัวจะห่างกัน
ค่ารถคำนวณดูไป-กลับ กรณีย้ายที่พักไปแถวบางนาค่ะ
 - ค่าวิน 20 บาท
 - BTS บางนา-หมอชิต 59 บาท ถ้าใช้ตั๋วเดือนก็ 27 บาท (50 เที่ยว 1300 บาท)
 - MRT สวนจตุจักร-ตลาดบางใหญ่ 26 บาท
 - ค่าวินต่อไปบริษัทน่าจะ 40 บาท
รวมไป 120 บาท กลับอีก 120 ประมาณ 240 บาท/วัน
ระยะเวลาในกานเดินทาง 1.30 -2 ชม.ค่ะ
รวมไป-กลับ 3-4 ชม.ต่อวัน กว่าจะกลับถึงห้อง 4 ทุ่ม
เดือนนึงทำ 20-22 วัน เป็นเงิน 4800-5300 บาทต่อเดือน
ทำงาน 8.30-19.30 วันศุกร์ทำถึง 17.30 ค่ะ (ช่วงโควิดทำถึง 17.30 ทุกวันค่ะ)
สโคปงานน่าสนใจ ประสบการณ์ค่อนข้างตรง แต่เป็นบริษัทเล็กๆ เงินเดือนได้ 35K ถ้าผ่านโปรจะเพิ่มให้อีกค่ะ
สวัสดิการอื่นๆ HR ไม่แจ้งค่ะ
เราขอเริ่มงานต้นกันยา ทางนั้นเลยขอให้เซ็นต์สัญญาส่งกลับเพราะกลัวเราเปลี่ยนใจด้วยช่วงเวลาเริ่มอีก 1 เดือนค่ะ แต่เรายังไม่พร้อมเซ็นต์ คิดมา 2-3 วัน
เราก็อยากรับงานนี้นะคะ รู้สึกงานช่วงนี้หายาก
แต่มีบริษัทที่ใกล้กับที่พักเดิมติดต่อมา แต่ก็ไม่รู้จะได้เรียกสัมภาษณ์หรือเปล่า
อยากปรึกษาหรือคำแนะนำว่าเราควรทำอย่างไร
1. รับงานเซ็นสัญญาไปก่อนแล้วรอเริ่มงาน ถ้ามีเรียกสัมภาษณ์ที่ดีกว่าค่อยไป แล้วขอลาออก
2. ปฏิเสธงานไปแล้วรอจนได้งานใหม่ เพื่อไม่ให้เขาเสียเวลา แต่ก็เสี่ยงว่าเราจะตกงานสักพัก
3. ย้ายไปพักที่ใกล้ที่ทำงาน แยกกันอยู่กับแฟน เสาร์-อาทิตย์ ค่อยมาเจอกัน แต่ก็จะต้องจ่ายค่าเช่า 2 ที่เพราะเงินเดือนแฟนผ่อนรถกับค่ากินจะไม่เหลือค่าเช่าค่ะ
4. ทางเลือกอื่นๆ
ปล.เรายังพอมีเงินเก็บที่ได้จากลาออกอยู่ได้ประมาณ 8 เดือนค่ะ
ใจอยากได้งานเร็วเพื่อจะได้มีเงินเก็บส่วนนี้																																	
  
							
ควรปฏิเสธงานที่ได้ หรือ รอเรียกสัมภาษณ์งานที่ใกล้กว่าดีคะ??
แล้วมีบริษัทติดต่อมาแค่ 3 ที่ เรียกสัมภาษณ์ที่นึงเมื่อวันอังคาร
บริษัทนี้โทรมาแจ้งว่าตกลงรับเราเข้าทำงานค่ะ เงินเดือนที่เรียกไปก็ได้เท่าที่เดิมเลย
จะว่าเราดีใจแต่ก็ไม่สุด เพราะอยู่ห่างจากทีเดิม 70 กม.
ถ้าเรารับงาน เราต้องย้ายที่พักไปใกล้ BTS โซนบางนา เพื่อไปย่านนนทบุรีค่ะ
แฟนทำบางพลีที่เดียวกับเราลาออกค่ะ
เขาจะต้องเดินทางไกลขึ้น แต่มีรถรับส่ง แต่ของเราไม่มีรถรับส่ง ต่อให้ไปถึงนนทบุรี เข้าซอยลึกก็ไม่มีรถรับส่งค่ะคงต่อวินเข้าไป
ถ้าเป็นเมื่อก่อนตัวคนเดียวเราก็ย้ายที่พักตามงานที่ทำได้ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่เป็นงั้นแล้ว
แยกกันอยู่กลัวจะห่างกัน
ค่ารถคำนวณดูไป-กลับ กรณีย้ายที่พักไปแถวบางนาค่ะ
- ค่าวิน 20 บาท
- BTS บางนา-หมอชิต 59 บาท ถ้าใช้ตั๋วเดือนก็ 27 บาท (50 เที่ยว 1300 บาท)
- MRT สวนจตุจักร-ตลาดบางใหญ่ 26 บาท
- ค่าวินต่อไปบริษัทน่าจะ 40 บาท
รวมไป 120 บาท กลับอีก 120 ประมาณ 240 บาท/วัน
ระยะเวลาในกานเดินทาง 1.30 -2 ชม.ค่ะ
รวมไป-กลับ 3-4 ชม.ต่อวัน กว่าจะกลับถึงห้อง 4 ทุ่ม
เดือนนึงทำ 20-22 วัน เป็นเงิน 4800-5300 บาทต่อเดือน
ทำงาน 8.30-19.30 วันศุกร์ทำถึง 17.30 ค่ะ (ช่วงโควิดทำถึง 17.30 ทุกวันค่ะ)
สโคปงานน่าสนใจ ประสบการณ์ค่อนข้างตรง แต่เป็นบริษัทเล็กๆ เงินเดือนได้ 35K ถ้าผ่านโปรจะเพิ่มให้อีกค่ะ
สวัสดิการอื่นๆ HR ไม่แจ้งค่ะ
เราขอเริ่มงานต้นกันยา ทางนั้นเลยขอให้เซ็นต์สัญญาส่งกลับเพราะกลัวเราเปลี่ยนใจด้วยช่วงเวลาเริ่มอีก 1 เดือนค่ะ แต่เรายังไม่พร้อมเซ็นต์ คิดมา 2-3 วัน
เราก็อยากรับงานนี้นะคะ รู้สึกงานช่วงนี้หายาก
แต่มีบริษัทที่ใกล้กับที่พักเดิมติดต่อมา แต่ก็ไม่รู้จะได้เรียกสัมภาษณ์หรือเปล่า
อยากปรึกษาหรือคำแนะนำว่าเราควรทำอย่างไร
1. รับงานเซ็นสัญญาไปก่อนแล้วรอเริ่มงาน ถ้ามีเรียกสัมภาษณ์ที่ดีกว่าค่อยไป แล้วขอลาออก
2. ปฏิเสธงานไปแล้วรอจนได้งานใหม่ เพื่อไม่ให้เขาเสียเวลา แต่ก็เสี่ยงว่าเราจะตกงานสักพัก
3. ย้ายไปพักที่ใกล้ที่ทำงาน แยกกันอยู่กับแฟน เสาร์-อาทิตย์ ค่อยมาเจอกัน แต่ก็จะต้องจ่ายค่าเช่า 2 ที่เพราะเงินเดือนแฟนผ่อนรถกับค่ากินจะไม่เหลือค่าเช่าค่ะ
4. ทางเลือกอื่นๆ
ปล.เรายังพอมีเงินเก็บที่ได้จากลาออกอยู่ได้ประมาณ 8 เดือนค่ะ
ใจอยากได้งานเร็วเพื่อจะได้มีเงินเก็บส่วนนี้