ศาลยกฟ้องคดี ม.116 “ธเนตร” ชี้เพียงแสดงความเห็นต่างผู้มีอำนาจ ติชมโดยสุจริตในฐานะพลเมือง
https://www.tlhr2014.com/?p=18887
25 มิ.ย. 63 เวลา 9.00 น. ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในคดีของนาย
ธเนตร อนันตวงษ์ นักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งถูกกล่าวหาดำเนินคดีในข้อหา “
ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (3) จากการโพสต์และแชร์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์ คสช. และกองทัพ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว จำนวน 5 ข้อความ ตั้งแต่เมื่อปี 2558
คดีนี้เคยถูกพิจารณาในศาลทหารกรุงเทพ ซึ่งกระบวนการเป็นไปอย่างล่าช้า สืบพยานไปได้เพียง 3 ปาก ทั้งจำเลยยังถูกคุมขังในเรือนจำระหว่างการพิจารณา ก่อนคดีจะถูกโอนย้ายมาที่ศาลอาญาช่วงปลายปี 2562 และได้มีการนัดสืบพยานที่เหลืออยู่ต่อจนเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 12-14 พ.ค. 63 จนศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้
ดูเนื้อหาของข้อความที่ธเนตรถูกกล่าวหา และประมวลการต่อสู้คดีนี้ใน
ฉันถูกขังตั้งแต่ยุคประยุทธ์1 และสู้คดีจนถึงยุคประยุทธ์2 : อ่านคำเบิกความพยานในคดีธเนตร ก่อนถึงวันพิพากษ
1,396 วันของการจองจำ: ทบทวนคดี “ธเนตร” โพสต์วิจารณ์กองทัพ-คสช. ก่อนถึงวันพิพากษา
เวลา 9.20 น. ธเนตรถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พาตัวมาถึงห้องพิจารณา โดยมีประชาชนมาให้กำลังใจประมาณ 8 คน เขาได้แสดงความขอบคุณทุกคนที่มาร่วมฟังคำพิพากษาในวันนี้
เวลา 9.28 น. ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนได้เริ่มอ่านคำพิพากษา โดยพิเคราะห์ว่าพยานโจทก์ในคดีนี้ ได้แก่ พล.ต.
วิจารณ์ จดแตง และพล.ต.ต.
สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ เบิกความว่าเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 58 พยานทำหน้าที่ติดตามหาข่าวตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และพบเฟซบุ๊กของจำเลย ซึ่งเป็นแนวร่วม นปช. มีการโพสต์ข้อความโจมตีพลเอก
เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีในขณะนั้น โจมตีกองทัพเรื่องการเสียชีวิตของ
“หมอหยอง” และการทุจริตในเรื่องอุทยานราชภักดิ์ ชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมลอยกระทงขับไล่ [เผล่ะจัง] และชักชวนให้ใส่เสื้อสีแดงไปเที่ยวอุทยานราชภักดิ์ หากประชาชนได้เห็นข้อความดังกล่าว จะทำให้ไม่ชอบรัฐบาล นำไปสู่การขับไล่รัฐบาล และความไม่สงบขึ้น
โจทก์ยังมีพยานปาก
เจษฎ์ โทณะวณิก ที่เบิกความเห็นว่าข้อความของจำเลยมีลักษณะเป็นการยุยงให้เกิดการต่อต้านอำนาจรัฐ ปลุกปั่นให้คนมารวมตัวขับไล่ คสช. ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทั้งการชักชวนให้ใส่เสื้อสีแดงเป็นการยุยงให้ประชาชนต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสีของพระมหากษัตริย์คือสีเหลือง
ศาลพิเคราะห์ว่าจากเอกสารฝ่ายโจทก์ในชั้นสอบสวน พล.ต.
วิจารณ์ จดแตง และพล.ต.ต.
สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ เบิกความแต่เพียงว่า พยานได้พบข้อความที่จำเลยโพสต์ และผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้แจ้งความดำเนินคดี โดยพยานให้การถึงการที่จำเลยเดินทางไปในกิจกรรมตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปยังกองพันทหารราบที่ 11 พยานได้ให้จำเลยดูเอกสารข้อความที่โพสต์ และจำเลยได้ยอมรับว่าโพสต์ข้อความดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้มีการยืนยันว่ามีประชาชนที่พบเห็นข้อความดังกล่าวของจำเลย ออกมาต่อต้าน ชุมนุม หรือทำให้เกิดลักษณะความไม่สงบขึ้นในรูปแบบใด
ส่วนพยานโจทก์ปาก
เจษฎ์ โทณะวณิก ก็เบิกความเพียงแต่ให้ความเห็นต่อภาพที่จำเลยโพสต์ โดยมิได้ยืนยันว่าการกระทำของจำเลยถึงขนาดที่จะทำให้ประชาชนก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร อีกทั้งความเห็นดังกล่าว วิญญูชนทั่วไปจะเห็นตามหรือไม่ก็ได้ ดังจะเห็นได้ว่าพยานโจทก์ปากนี้เบิกความตอบคำถามค้านทนายจำเลย ว่า พยานให้ความเห็นต่อพนักงานสอบสวนไปตามภาพ แต่ความจริงจะเป็นเช่นใด พยานก็ไม่ทราบ และบุคคลอื่นก็สามารถเห็นต่างได้
ศาลวินิจฉัยว่า จากคำเบิกความของจำเลย จำเลยยังเป็นเพียงผู้เข้าร่วมการชุมนุม ไม่ใช่แกนนำ การโพสต์ข้อความดังกล่าวจึงมิน่าจะเป็นการชักชวนให้ประชาชนมาก่อความวุ่นวาย แต่น่าเชื่อว่ากระทำไปในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง
การที่จำเลยโพสต์เฟซบุ๊ก แม้จะมีความเห็นต่างกับฝ่ายผู้มีอำนาจในขณะนั้น แต่ก็ได้กระทำภายในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ เชื่อได้ว่าความคิดเห็นของจำเลยมิได้มีเจตนาเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดเกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือทำให้เกิดการล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นติชมโดยสุจริต พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบ ยังไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง
หลังอ่านคำพิพากษา
ธเนตรได้ก้มหน้าร้องไห้ออกมา ก่อนประชาชนที่เข้าฟังการพิจารณาจะเข้ามาร่วมแสดงความยินดี โดยเขายังต้องรอการนำตัวกลับเรือนจำ และจะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพในช่วงเย็นวันนี้
ธเนตร อนันตวงศ์ หรือ
“ตูน” อายุ 30 ปี เป็นคนจังหวัดอุทัยธานี เคยประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง และเคยเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองในการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ช่วงนั้นเขายังถูกกล่าวหาดำเนินคดีในเรื่องการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทำให้
ธเนตรต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำราว 1 ปีเศษ ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมต่อต้านการรัฐประหารของ คสช. ต่อมา
ในส่วนคดีนี้นับตั้งแต่
ธเนตรถูกแจ้งข้อกล่าวหา จนถึงวันพิพากษานับเป็นเวลากว่า 4 ปี 6 เดือนเศษ ขณะที่เขาต้องถูกคุมขังในเรือนจำมาแล้วเกือบ 3 ปี 10 เดือน หรือรวมเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 1,396 วันแล้ว โดยนับรวมคดีที่เขาถูกคุมขังจากการทำกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ซึ่ง
ธเนตรถูกศาลทหารพิพากษาจำคุก 4 เดือน การถูกคุมขังอย่างยาวนานยังทำให้
ธเนตรสูญเสียพ่อไป โดยเขาไม่มีโอกาสได้ออกมาพบกับพ่อในช่วงสุดท้ายของชีวิต
'เพนกวิน' ไลฟ์สด เผยถูกจยย.-ฟอร์จูนเนอร์ประกบหลังจบงานรำลึกคณะราษฎร
https://www.matichon.co.th/politics/news_2242067
‘เพนกวิน’ ไลฟ์สด เผยถูกจยย.-ฟอร์จูนเนอร์ประกบหลังจบงานรำลึกคณะราษฎร
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน นาย
พริษฐ์ ชิวารักษ์ หริอ
เพนกวิน ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กระหว่างอยู่บนรถยนต์โดยระบุว่า ตนถูกจักรยานยนต์และรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สะกดรอยตามระหว่างเดินทางกลับหลัวเสร็จสิ้นกิจดรรมรำลึก 88 ประชาธิปไตยที่สกายวอล์ก ปมุมวัน โดยล่าสุดปลอดภัยแล้ว แต่ยังคงระวังตัว
“ผมไม่เข้าใจว่าเรามามือเปล่า ไม่มีอาวุธใด ๆ ก็แค่มาอ่านประกาศคณะราษฎร ทำไมต้องตามคุกคาม” นาย
พริษฐ์กล่าว ก่อนทิ้งท้ายว่า ตนยืนยันจะเคลื่อนไหวต่อไป
https://www.facebook.com/watch/live/?v=263473724943323
JJNY : ศาลยกฟ้องธเนตร ชี้เพียงแสดงความเห็นต่าง/เพนกวินไลฟ์สด เผยถูกประกบ/ธุรกิจทุน100ล้านเจ๊งสูงสุด/ตัวเลขศก.โลก-ไทยดิ่ง
https://www.tlhr2014.com/?p=18887
25 มิ.ย. 63 เวลา 9.00 น. ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในคดีของนายธเนตร อนันตวงษ์ นักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งถูกกล่าวหาดำเนินคดีในข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (3) จากการโพสต์และแชร์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์ คสช. และกองทัพ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว จำนวน 5 ข้อความ ตั้งแต่เมื่อปี 2558
คดีนี้เคยถูกพิจารณาในศาลทหารกรุงเทพ ซึ่งกระบวนการเป็นไปอย่างล่าช้า สืบพยานไปได้เพียง 3 ปาก ทั้งจำเลยยังถูกคุมขังในเรือนจำระหว่างการพิจารณา ก่อนคดีจะถูกโอนย้ายมาที่ศาลอาญาช่วงปลายปี 2562 และได้มีการนัดสืบพยานที่เหลืออยู่ต่อจนเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 12-14 พ.ค. 63 จนศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้
ดูเนื้อหาของข้อความที่ธเนตรถูกกล่าวหา และประมวลการต่อสู้คดีนี้ใน
ฉันถูกขังตั้งแต่ยุคประยุทธ์1 และสู้คดีจนถึงยุคประยุทธ์2 : อ่านคำเบิกความพยานในคดีธเนตร ก่อนถึงวันพิพากษ
1,396 วันของการจองจำ: ทบทวนคดี “ธเนตร” โพสต์วิจารณ์กองทัพ-คสช. ก่อนถึงวันพิพากษา
เวลา 9.20 น. ธเนตรถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พาตัวมาถึงห้องพิจารณา โดยมีประชาชนมาให้กำลังใจประมาณ 8 คน เขาได้แสดงความขอบคุณทุกคนที่มาร่วมฟังคำพิพากษาในวันนี้
เวลา 9.28 น. ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนได้เริ่มอ่านคำพิพากษา โดยพิเคราะห์ว่าพยานโจทก์ในคดีนี้ ได้แก่ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง และพล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ เบิกความว่าเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 58 พยานทำหน้าที่ติดตามหาข่าวตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และพบเฟซบุ๊กของจำเลย ซึ่งเป็นแนวร่วม นปช. มีการโพสต์ข้อความโจมตีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีในขณะนั้น โจมตีกองทัพเรื่องการเสียชีวิตของ “หมอหยอง” และการทุจริตในเรื่องอุทยานราชภักดิ์ ชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมลอยกระทงขับไล่ [เผล่ะจัง] และชักชวนให้ใส่เสื้อสีแดงไปเที่ยวอุทยานราชภักดิ์ หากประชาชนได้เห็นข้อความดังกล่าว จะทำให้ไม่ชอบรัฐบาล นำไปสู่การขับไล่รัฐบาล และความไม่สงบขึ้น
โจทก์ยังมีพยานปาก เจษฎ์ โทณะวณิก ที่เบิกความเห็นว่าข้อความของจำเลยมีลักษณะเป็นการยุยงให้เกิดการต่อต้านอำนาจรัฐ ปลุกปั่นให้คนมารวมตัวขับไล่ คสช. ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทั้งการชักชวนให้ใส่เสื้อสีแดงเป็นการยุยงให้ประชาชนต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสีของพระมหากษัตริย์คือสีเหลือง
ศาลพิเคราะห์ว่าจากเอกสารฝ่ายโจทก์ในชั้นสอบสวน พล.ต.วิจารณ์ จดแตง และพล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ เบิกความแต่เพียงว่า พยานได้พบข้อความที่จำเลยโพสต์ และผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้แจ้งความดำเนินคดี โดยพยานให้การถึงการที่จำเลยเดินทางไปในกิจกรรมตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปยังกองพันทหารราบที่ 11 พยานได้ให้จำเลยดูเอกสารข้อความที่โพสต์ และจำเลยได้ยอมรับว่าโพสต์ข้อความดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้มีการยืนยันว่ามีประชาชนที่พบเห็นข้อความดังกล่าวของจำเลย ออกมาต่อต้าน ชุมนุม หรือทำให้เกิดลักษณะความไม่สงบขึ้นในรูปแบบใด
ส่วนพยานโจทก์ปาก เจษฎ์ โทณะวณิก ก็เบิกความเพียงแต่ให้ความเห็นต่อภาพที่จำเลยโพสต์ โดยมิได้ยืนยันว่าการกระทำของจำเลยถึงขนาดที่จะทำให้ประชาชนก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร อีกทั้งความเห็นดังกล่าว วิญญูชนทั่วไปจะเห็นตามหรือไม่ก็ได้ ดังจะเห็นได้ว่าพยานโจทก์ปากนี้เบิกความตอบคำถามค้านทนายจำเลย ว่า พยานให้ความเห็นต่อพนักงานสอบสวนไปตามภาพ แต่ความจริงจะเป็นเช่นใด พยานก็ไม่ทราบ และบุคคลอื่นก็สามารถเห็นต่างได้
ศาลวินิจฉัยว่า จากคำเบิกความของจำเลย จำเลยยังเป็นเพียงผู้เข้าร่วมการชุมนุม ไม่ใช่แกนนำ การโพสต์ข้อความดังกล่าวจึงมิน่าจะเป็นการชักชวนให้ประชาชนมาก่อความวุ่นวาย แต่น่าเชื่อว่ากระทำไปในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง
การที่จำเลยโพสต์เฟซบุ๊ก แม้จะมีความเห็นต่างกับฝ่ายผู้มีอำนาจในขณะนั้น แต่ก็ได้กระทำภายในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ เชื่อได้ว่าความคิดเห็นของจำเลยมิได้มีเจตนาเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดเกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือทำให้เกิดการล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นติชมโดยสุจริต พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบ ยังไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง
หลังอ่านคำพิพากษา ธเนตรได้ก้มหน้าร้องไห้ออกมา ก่อนประชาชนที่เข้าฟังการพิจารณาจะเข้ามาร่วมแสดงความยินดี โดยเขายังต้องรอการนำตัวกลับเรือนจำ และจะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพในช่วงเย็นวันนี้
ธเนตร อนันตวงศ์ หรือ “ตูน” อายุ 30 ปี เป็นคนจังหวัดอุทัยธานี เคยประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง และเคยเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองในการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ช่วงนั้นเขายังถูกกล่าวหาดำเนินคดีในเรื่องการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทำให้ธเนตรต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำราว 1 ปีเศษ ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมต่อต้านการรัฐประหารของ คสช. ต่อมา
ในส่วนคดีนี้นับตั้งแต่ธเนตรถูกแจ้งข้อกล่าวหา จนถึงวันพิพากษานับเป็นเวลากว่า 4 ปี 6 เดือนเศษ ขณะที่เขาต้องถูกคุมขังในเรือนจำมาแล้วเกือบ 3 ปี 10 เดือน หรือรวมเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 1,396 วันแล้ว โดยนับรวมคดีที่เขาถูกคุมขังจากการทำกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งธเนตรถูกศาลทหารพิพากษาจำคุก 4 เดือน การถูกคุมขังอย่างยาวนานยังทำให้ธเนตรสูญเสียพ่อไป โดยเขาไม่มีโอกาสได้ออกมาพบกับพ่อในช่วงสุดท้ายของชีวิต
'เพนกวิน' ไลฟ์สด เผยถูกจยย.-ฟอร์จูนเนอร์ประกบหลังจบงานรำลึกคณะราษฎร
https://www.matichon.co.th/politics/news_2242067
‘เพนกวิน’ ไลฟ์สด เผยถูกจยย.-ฟอร์จูนเนอร์ประกบหลังจบงานรำลึกคณะราษฎร
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หริอเพนกวิน ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กระหว่างอยู่บนรถยนต์โดยระบุว่า ตนถูกจักรยานยนต์และรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สะกดรอยตามระหว่างเดินทางกลับหลัวเสร็จสิ้นกิจดรรมรำลึก 88 ประชาธิปไตยที่สกายวอล์ก ปมุมวัน โดยล่าสุดปลอดภัยแล้ว แต่ยังคงระวังตัว
“ผมไม่เข้าใจว่าเรามามือเปล่า ไม่มีอาวุธใด ๆ ก็แค่มาอ่านประกาศคณะราษฎร ทำไมต้องตามคุกคาม” นายพริษฐ์กล่าว ก่อนทิ้งท้ายว่า ตนยืนยันจะเคลื่อนไหวต่อไป
https://www.facebook.com/watch/live/?v=263473724943323