ไม่ต้องมี พรบ.นิรโทษกรรมก็ได้ แต่ขอความยุติธรรมให้บังเกิด ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี

กระทู้สนทนา
วันนี้คำพิพากษาคดี "เผาบ้านเผาเมือง"  ออกมาแล้วนะคะ  ศาลยกฟ้องจำเลยทั้งสอง  มีรายละเอียดจาก FB ของ นพ.เหวง  โตจิราการ  ดังนี้ค่ะ


ศาลเห็นว่าแม้โจทก์มีพยานเป็น รปภ.ซึ่งเป็นผู้ถ่ายภาพของจำเลยที่ 1 ได้ในที่เกิดเหตุ แต่ก็อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 30 เมตร และเห็นเพียงว่าจำเลยที่ 1 ถือถังดับเพลิง ซึ่งไม่ใช่อุปกรณ์ที่จะใช้ในการวางเพลิง แม้จะอนุมานไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 จะเข้าไปช่วยดับเพลิงหรือไม่ ประกอบกับพยานโจทก์ปากนี้ก็ไม่สามารถตอบคำถามทนายจำเลยได้ว่าเห็นจำเลยที่ 1 เป็นผู้วางเพลิงหรือไม่ นอกจากนี้โจทก์ยังไม่มีพยานปากอื่นที่จะมาเบิกความชี้ชัดถึงพฤติการณ์จำเลยที่ 1 ในการวางเพลิงหรือสนับสนุนการวางเพลิงแต่อย่างใด นอกจากภาพถ่ายเพียงใบเดียวที่แสดงให้เห็นเพียงช่วงเวลาหนึ่ง แต่ไม่มีใครเห็นว่าจำเลยที่ 1 จะทำอย่างไรต่อไป พยานโจทก์จึงยังมีเหตุสงสัยว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนร้ายที่ร่วมทำผิดในคดีนี้หรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย

ส่วนจำเลยที่ 2 นั้น โจทก์มีพนักงานห้างเบิกความว่า ขณะเกิดเหตุเห็นคนร้ายประมาณ 40-50 คน มีชาย 4-5 คน เดินนำหน้าใช้หนังสติ๊กยิงใส่เป็นระยะพนักงานจึงหลบหาที่กำบัง และเห็นชายชุดดำลายพรางสวมหมวกปีก ใช้ระเบิดโยนใส่มีคนเจ็บ 9 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายภายในห้างได้จำนวน 9 คน มีจำเลยที่ 2 รวมอยู่ด้วย จึงพาไปคุมตัวที่ลานจอดรถ อย่างไรก็ตามคำเบิกความของพยานโจทก์กลุ่มนี้ที่สามารถจดจำรูปพรรณสัณฐานจำเลยที่ 2 ได้ตรงกันหมด ยกเว้นเพียงสีเสื้อที่ไม่ตรงกับภาพที่ปรากฎทั้งที่ระหว่างพยานต้องคอยหลบลูกหินที่กลุ่มคนร้ายยิงเข้าใส่ อีกทั้งพยานอยู่ห่างไปกว่า 30 เมตร นั้นน่าส่งสัยว่าจะสามารถจำคนร้ายได้จริงหรือไม่ นอกจากนี้โจทก์ยังไม่นำเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมจำเลยที่ 2 มาเบิกความถึงการจับกุมจับจำเลยว่าจับกุมได้ที่ชั้นไหน มีวัสดุหรืออุปกรณ์ หรือมีร่องรอยหลักฐานตามตัวในการวางเพลิงหรือไม่อย่างไร พยานโจทก์ที่นำสืบมานั้นยังมีเหตุสงสัยว่าจำเลยที่ 2 จะกระทำผิดตามฟ้องจริงหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย จึงพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสองในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ โรงเรือนที่เก็บสินค้า เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย



เป็นอีกคดีหนึ่งที่หักล้างวาทกรรม "เผาบ้านเผาเมือง"  ของพวกแมงสาบ  ถึงแม้ว่าจะจะลดความกดดันของประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อไปบ้าง  แต่ถ้าจะให้ดี  สิ่งที่ควรเร่งดำเนินการให้ปรากฏความจริงต่อสาธารณชนก็คือ  คดี ปรส.  คดีพันธมิตรปิดสนามบิน คดีแรกนั้นใกล้หมดอายุความ  ส่วนคดีที่ 2 จำเลยทั้งหมดได้รับการประกันตัว และเวลาผ่านมา 5 ปีแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า เป็นคดีร้ายแรงที่สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติมหาศาลแต่ยังไม่เห็นใครสักคนติดคุก  ผิดกับเสื้อแดง  ถูกจับหลักฐานก็แสนจะอ่อนกลับไม่ได้รับการประกันตัว  ติดคุกฟรีไปเกือบ 3 ปี  


อมยิ้ม06แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครเสื่อม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่