เพื่อนเล่าให้ฟังว่า สมัยเด็กๆ พ่อแม่เลี้ยงเขามาธรรมดา เขาเป็นลูกคนโต แต่พอมีน้องชาย พ่อแม่ให้เรียนนานาชาติ และให้เรียนต่อต่างประเทศ หมดเงินไปหลายสิบล้าน ตอนที่เพื่อนเริ่มทำงาน เขาก็ต้องมาสมัครงานเอง และหาเงินเอง
แต่พอน้องชายใกล้เรียนจบ พ่อแม่มาบอกว่า พ่อแม่อยากสร้างโรงแรมให้น้องชาย เรื่องเงินทองค่าก่อสร้าง ไม่ต้องเอามาให้พ่อแม่ เดี๋ยวพ่อแม่ออกเองทั้งหมด ( อันนี้ก็เริ่มแปลกแล้ว ว่าเอ๊ะ ทำไมเราต้องให้) แต่พ่อแม่ขอว่า ถ้าโรงแรมสร้างเสร็จแล้ว น้องมันไม่เก่ง อยากให้เพื่อนลาออกจากงานมาช่วยบริหารโรงแรมนี้ตลอดชีวิต แล้วยกรายได้ทั้งหมดให้กับน้องมัน แต่จะไม่ใช้ฟรีหรอกนะ ก็จะได้บ้าง โดยการที่โรงแรมนี้จะจดในรูปบริษัท แล้วให้หุ้นส่วนน้องชาย 80% พ่อ 10% แม่ 10% น้องชายไม่ต้องทำอะไรเลย ให้เพื่อน ช่วยบริหารจัดการโรงแรมให้ ทั้งหมด และดูแลพ่อแม่ให้มีความสุข ถ้าพ่อแม่ตาย หลังตายหุ้นส่วนของพ่อแม่ก็จะยกให้กับเพื่อน ทีละ 10%
คิดว่าแปลกๆไหมครับ เป็นลูกแท้ๆ เหมือนกัน แต่คนนึงได้หมด คนนึงไม่ได้อะไรเลย คนที่ได้หมด พ่อแม่บอกว่า ไม่ได้รักเลย แต่เพราะเขาไม่เก่งเลยต้องได้หมด และพ่อแม่จะไม่พึ่งด้วย แต่พ่อแม่รักแต่เพื่อนผม แต่เพื่อนผมเก่งแล้ว ช่วยตัวเองได้ เลยไม่จำเป็นต้องได้อะไรเลย นอกจากไม่ได้แล้ว พ่อกับแม่ ยังหวังพึ่งในบั้นปลาย ตลอดชีวิต แบบนี้คือยุติธรรม รักลูกเท่ากัน
แปลกใจว่า ทำไมมีคนมีความคิดแบบนี้ ความคิดแบบที่ว่า รักลูกคนนึงมาก แต่ไม่ต้องเอาอะไรเลย และหวังจะพึ่งพาลูกคนนี้ ส่วนลูกอีกคนนึง พ่อแม่ไม่รักเลย แต่ยกสมบัติให้ทั้งหมด และพ่อแม่ ไม่อยากให้ลูกคนนี้ทำอะไรให้ตัวเองต้องลำบากเลย พ่อแม่เลยจะไม่พึ่งลูกคนนี้เลย ดูแล้วมันสลับกันหรือเปล่าครับ กลายเป็นว่า เป็นลูกที่เก่งและเป็นคนดี ช่วยเหลือตัวเองได้ กลับไม่ได้อะไรเลย และต้องรับภาระมหาศาล แต่คนที่ไม่เก่ง ไม่ต้องรับภาระอะไรเลย และได้ไปทั้งหมด
ไม่รู้ว่า เขาคิดแบบไหนทำไมถึงคิดว่านี่คือยุติธรรม พ่อแม่พี่สุดแสนจะลำเอียง ไม่มีวันที่จะเข้าใจเลยเหรอว่า สิ่งที่ตัวเองทำ มันโคตรลำเอียง และไม่ยุติธรรมเลย
พ่อแม่ที่ลำเอียง แปลกมากๆ ที่ยังไงเขาก็ไม่มีทางที่จะคิดได้ และเขายังคิดว่า แบบนั้นคือยุติธรรม
แต่พอน้องชายใกล้เรียนจบ พ่อแม่มาบอกว่า พ่อแม่อยากสร้างโรงแรมให้น้องชาย เรื่องเงินทองค่าก่อสร้าง ไม่ต้องเอามาให้พ่อแม่ เดี๋ยวพ่อแม่ออกเองทั้งหมด ( อันนี้ก็เริ่มแปลกแล้ว ว่าเอ๊ะ ทำไมเราต้องให้) แต่พ่อแม่ขอว่า ถ้าโรงแรมสร้างเสร็จแล้ว น้องมันไม่เก่ง อยากให้เพื่อนลาออกจากงานมาช่วยบริหารโรงแรมนี้ตลอดชีวิต แล้วยกรายได้ทั้งหมดให้กับน้องมัน แต่จะไม่ใช้ฟรีหรอกนะ ก็จะได้บ้าง โดยการที่โรงแรมนี้จะจดในรูปบริษัท แล้วให้หุ้นส่วนน้องชาย 80% พ่อ 10% แม่ 10% น้องชายไม่ต้องทำอะไรเลย ให้เพื่อน ช่วยบริหารจัดการโรงแรมให้ ทั้งหมด และดูแลพ่อแม่ให้มีความสุข ถ้าพ่อแม่ตาย หลังตายหุ้นส่วนของพ่อแม่ก็จะยกให้กับเพื่อน ทีละ 10%
คิดว่าแปลกๆไหมครับ เป็นลูกแท้ๆ เหมือนกัน แต่คนนึงได้หมด คนนึงไม่ได้อะไรเลย คนที่ได้หมด พ่อแม่บอกว่า ไม่ได้รักเลย แต่เพราะเขาไม่เก่งเลยต้องได้หมด และพ่อแม่จะไม่พึ่งด้วย แต่พ่อแม่รักแต่เพื่อนผม แต่เพื่อนผมเก่งแล้ว ช่วยตัวเองได้ เลยไม่จำเป็นต้องได้อะไรเลย นอกจากไม่ได้แล้ว พ่อกับแม่ ยังหวังพึ่งในบั้นปลาย ตลอดชีวิต แบบนี้คือยุติธรรม รักลูกเท่ากัน
แปลกใจว่า ทำไมมีคนมีความคิดแบบนี้ ความคิดแบบที่ว่า รักลูกคนนึงมาก แต่ไม่ต้องเอาอะไรเลย และหวังจะพึ่งพาลูกคนนี้ ส่วนลูกอีกคนนึง พ่อแม่ไม่รักเลย แต่ยกสมบัติให้ทั้งหมด และพ่อแม่ ไม่อยากให้ลูกคนนี้ทำอะไรให้ตัวเองต้องลำบากเลย พ่อแม่เลยจะไม่พึ่งลูกคนนี้เลย ดูแล้วมันสลับกันหรือเปล่าครับ กลายเป็นว่า เป็นลูกที่เก่งและเป็นคนดี ช่วยเหลือตัวเองได้ กลับไม่ได้อะไรเลย และต้องรับภาระมหาศาล แต่คนที่ไม่เก่ง ไม่ต้องรับภาระอะไรเลย และได้ไปทั้งหมด
ไม่รู้ว่า เขาคิดแบบไหนทำไมถึงคิดว่านี่คือยุติธรรม พ่อแม่พี่สุดแสนจะลำเอียง ไม่มีวันที่จะเข้าใจเลยเหรอว่า สิ่งที่ตัวเองทำ มันโคตรลำเอียง และไม่ยุติธรรมเลย