ผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์อาจเคยทราบมาว่า เป้าหมายสูงสุดของศาสนาคริสต์คือ
การได้รับความรอด หรือมีชีวิตนิรันดร์
แต่มีบางคนอาจจะไม่ทราบว่าความรอดดังกล่าวหมายถึงอะไร ?
วันนี้ผมในฐานะที่เป็นคริสเตียนคนหนึ่ง (นิกายโปรเตสแตนต์) จึงขออนุญาตมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
ซึ่งผมเชื่อว่าความรอดของศาสนาคริสต์ทุกนิกายย่อมมีลักษณะเหมือนกันหมด
ผมขอเกริ่นหลักของศาสนาคริสต์ก่อนนะครับว่า จะต้องใช้ความเชื่อในการนับถือศาสนา
ซึ่งไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด เพราะว่าศาสนาเป็นความเชื่ออย่างหนึ่ง โดยยังไม่ได้เป็นข้อเท็จจริง
เนื่องจากศาสนายังไม่ได้ทำการพิสูจน์ให้เห็นจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ จนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
เพียงแต่มีคนบางกลุ่มได้ทำการพิสูจน์ด้วยตนเอง แต่ยังไม่สามารถทำการพิสูจน์ให้ผู้อื่นเห็นจริงได้
จึงยังไม่ถือว่าเป็นข้อเท็จจริง
เพราะว่าหากเป็นข้อเท็จจริงแล้ว จะต้องไม่มีผู้ใดสามารถโต้แย้งได้
ดังนั้นทุกศาสนาล้วนเป็นความเชื่อ ซึ่งอาจมีความเชื่อถูกหรือผิดก็ได้
โดยที่เราจะเข้าใจได้อย่างชัดเจนที่สุด ตรงเป้าหมายสูงสุดของแต่ละศาสนาล้วนเป็นความเชื่อ
ส่วนจะเป็นจริงหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จนกว่าเราจะตายไปแล้ว เราจึงจะพบว่าเป็นจริงหรือไม่ (หากชีวิตเราไม่ดับสูญ)
เนื่องจากเป้าหมายสูงสุดของแต่ละศาสนาไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงมีเพียงศาสนาเดียวที่มีความเชื่อถูก
ส่วนศาสนาอื่นนั้นย่อมมีความเชื่อผิด หรืออาจมีความเชื่อผิดทุกศาสนาก็เป็นได้
มนุษย์จึงควรไตร่ตรองให้ดีว่าความเชื่อของศาสนาใดถูกต้อง เพราะว่าอาจมีผลอย่างมากมายต่อชีวิตของมนุษย์
ซึ่งหากผู้ใดนับถือศาสนาที่มีความเชื่อถูกต้อง
ผู้นั้นย่อมพบกับสิ่งที่ดีที่สุด
และหากเขาปฏิบัติตามหลักศาสนาดังกล่าวอย่างเคร่งครัดแล้ว
ชีวิตเขาจะต้องดีอย่างแท้จริง
การไดัรับความรอดหรือมีชีวิตนิรันดร์ของศาสนาคริสต์ หมายถึง การได้เข้าสู่สวรรค์ ซึ่งเป็นดินแดนที่มีแต่ความสุขอย่างแท้จริง
โดยมีพระเยซูคริสต์เป็นผู้นำชีวิต และจะอยู่ในสวรรค์ตลอดไปชั่วนิรันดร์
ความเชื่อนี้ได้มีการบันทึกอยู่ในคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งคริสตชนเชื่อว่าถูกเขียนขึ้นโดยได้รับการดลใจจากพระเจ้าผู้ประเสริฐ
คริสตชนจึงเชื่อว่าข้อความทุกตอนในคัมภีร์ไบเบิลเป็นความจริง
ความรอดของศาสนาคริสต์หมายถึงอะไร ?
แต่มีบางคนอาจจะไม่ทราบว่าความรอดดังกล่าวหมายถึงอะไร ?
วันนี้ผมในฐานะที่เป็นคริสเตียนคนหนึ่ง (นิกายโปรเตสแตนต์) จึงขออนุญาตมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
ซึ่งผมเชื่อว่าความรอดของศาสนาคริสต์ทุกนิกายย่อมมีลักษณะเหมือนกันหมด
ผมขอเกริ่นหลักของศาสนาคริสต์ก่อนนะครับว่า จะต้องใช้ความเชื่อในการนับถือศาสนา
ซึ่งไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด เพราะว่าศาสนาเป็นความเชื่ออย่างหนึ่ง โดยยังไม่ได้เป็นข้อเท็จจริง
เนื่องจากศาสนายังไม่ได้ทำการพิสูจน์ให้เห็นจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ จนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
เพียงแต่มีคนบางกลุ่มได้ทำการพิสูจน์ด้วยตนเอง แต่ยังไม่สามารถทำการพิสูจน์ให้ผู้อื่นเห็นจริงได้
จึงยังไม่ถือว่าเป็นข้อเท็จจริง เพราะว่าหากเป็นข้อเท็จจริงแล้ว จะต้องไม่มีผู้ใดสามารถโต้แย้งได้
ดังนั้นทุกศาสนาล้วนเป็นความเชื่อ ซึ่งอาจมีความเชื่อถูกหรือผิดก็ได้
โดยที่เราจะเข้าใจได้อย่างชัดเจนที่สุด ตรงเป้าหมายสูงสุดของแต่ละศาสนาล้วนเป็นความเชื่อ
ส่วนจะเป็นจริงหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จนกว่าเราจะตายไปแล้ว เราจึงจะพบว่าเป็นจริงหรือไม่ (หากชีวิตเราไม่ดับสูญ)
เนื่องจากเป้าหมายสูงสุดของแต่ละศาสนาไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงมีเพียงศาสนาเดียวที่มีความเชื่อถูก
ส่วนศาสนาอื่นนั้นย่อมมีความเชื่อผิด หรืออาจมีความเชื่อผิดทุกศาสนาก็เป็นได้
มนุษย์จึงควรไตร่ตรองให้ดีว่าความเชื่อของศาสนาใดถูกต้อง เพราะว่าอาจมีผลอย่างมากมายต่อชีวิตของมนุษย์
ซึ่งหากผู้ใดนับถือศาสนาที่มีความเชื่อถูกต้อง ผู้นั้นย่อมพบกับสิ่งที่ดีที่สุด
และหากเขาปฏิบัติตามหลักศาสนาดังกล่าวอย่างเคร่งครัดแล้ว ชีวิตเขาจะต้องดีอย่างแท้จริง
การไดัรับความรอดหรือมีชีวิตนิรันดร์ของศาสนาคริสต์ หมายถึง การได้เข้าสู่สวรรค์ ซึ่งเป็นดินแดนที่มีแต่ความสุขอย่างแท้จริง
โดยมีพระเยซูคริสต์เป็นผู้นำชีวิต และจะอยู่ในสวรรค์ตลอดไปชั่วนิรันดร์
ความเชื่อนี้ได้มีการบันทึกอยู่ในคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งคริสตชนเชื่อว่าถูกเขียนขึ้นโดยได้รับการดลใจจากพระเจ้าผู้ประเสริฐ
คริสตชนจึงเชื่อว่าข้อความทุกตอนในคัมภีร์ไบเบิลเป็นความจริง