ถ้าใครเป็นแฟนผลงานคุณป๋อม ก็จะพอเดา"ทาง"ของคุณป๋อมได้เลาๆว่าน้ำหอมคุณป๋อมนั้นโดยมากมักจะมีความหม่นและออกโทนร้อน คล่องแคล่วในการใช้โน้ตเครื่องเทศและยางไม้หอมที่ซับซ้อนแต่เก็บงานได้กลมและนุ่มลึก แต่จะผ่อนคลายลงในตอนท้าย โครงสร้างกลิ่นคล้ายการหลอมรวมเนื้อในและสาระที่ลงตัวระหว่างน้ำหอมฝรั่งเศสและโลกอาหรับที่รุ่มรวย
ใครจะนึกว่าพอคุณป๋อมจะทำ Summer Collection ก็จะซัมเม๊อซัมเมอร์ และยังเรียงร้อยเรื่องราวได้ดี ไม่หลุดแถวแยกออกจากกันราวกับหนังสือรวมเรื่องสั้นที่มีหลายเรื่องแต่ขมวดจบด้วยอารมณ์สุกใสเหมือนกัน
จุดนี้เราชอบความเป็นขบวนที่หลากหลาย แต่ไม่กระจัดกระจายซึ่งเอกลักษณ์การส่งต่อเช่นนี้ สมัยนั้เห็นจะมีชาแนลบ้านเดียวเองกระมังที่ยังคงไว้ได้ ประเภทที่เรียกได้ว่าหยิบขวดไหนมาดมแฟนๆก็จับความเป็นชาแนลอยู่ได้ในเนื้อกลิ่น
ของคุณป๋อมคอลฯนี้ก็เช่นกันที่ภาพโดยรวมให้ความสนุกสนานและสีสันของเมืองร้อนที่ไม่ใช่อิทาลี หรือแคลิฟอร์เนีย แต่เป็นเมืองร้อนที่เรามีประสบการณ์ร่วม วันพักผ่อนที่เรานึกขึ้นมาได้ และแสงสีที่เจอได้เฉพาะในหน้าร้อนบ้านเราเท่านั้น
Kira Kira
เป็นประกายของแสงแรกแห่งวัน คาแรคเตอร์กลิ่นนี้ให้มโนภาพเป็นแดดอ่อนช่วงรุ่งสางลอดผ่านกิ่งก้านใบที่ชุ่มน้ำค้างตกแล้วกระทบลงบนใบหญ้าด้านล่าง กลิ่นบอบบางเหมือนดอกไม้ขาวดอกเล็กๆที่มีคนมือซนเด็ดมาลอยเล่นตามลำธาร
เราได้กลิ่นเขียวเย็นของมินต์จางๆโล่งเบาแต่ไม่มีในโน้ตหลัก ความโล่งเย็นในส่วนนี้แหละที่เราเอาใจไปผูกไว้กับน้ำค้างยามเช้า ตามด้วยความหวานลูกแพร์นาชิผลสีเขียว มูเก้ช่วยให้เนื้อกลิ่นลื่นเบาแบบดอกไม้ขาว กลิ่นช่วงกลางเรานึกถึงน้ำหอมคาร์เทียสักตัวที่มีลิลลี่เด่น แต่กลิ่นนี้บางกว่ามาก และไม่เหมือนดอกไม้สำลักน้ำเท่า
ท้ายกลิ่นเป็นกลิ่นมัสค์สะอาดเรียบเนียน ออกสไปซี่นิดๆ ไม่แห้งมาก ออกแป้งเล็กน้อย
หากฉีดลงเสื้อผ้ากลิ่นก็จะออกสะอาดๆแต่ถ้าลงผิวก็จะออกหวานขึ้น อันนี้น่าจะมาจากอนุภาพของช่อดอกมูเก้นะคะ
กลิ่นนี้แม้จะเป็นยูนิเซ็กส์แต่ก็ให้ความผ่อนคลายและอ่อนโยน เนื้อกลิ่นดูบอบบางหน่อย จึงแนะนำให้กับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายแต่ถ้าผู้ชายลุคสะอาดๆหน่อยก็ใช้กลิ่นนี้ได้ไม่ขัดเขินหรอกค่ะ
Eternal Summer
น่าจะเป็นกลิ่นที่ใช้ง่ายที่สุดและน่าจะขายดีที่สุดในพี่น้องทั้ง 5 กลิ่นที่ออกมาในรุ่นราวคราวเดียวกันเพราะกลิ่นเป็นมิตรมากและใช้ได้ในทุกช่วงเวลาของวันและทั้งปี ใส่ไปทำงานก็ได้ ไปเที่ยวเล่นพักผ่อนก็ได้ หรือไปเดทก็ยังได้ แต่ไปล่าแต้มอันนี้ไม่น่าได้
โทนกลิ่นผ่อนคลายและสนุกมากขึ้นกว่ากลิ่นแรก เทียบได้คงเป็นช่วงสายของวันพักผ่อนที่เราตื่นเต็มตาและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น เรามองเห็นเป็นชายเขาและทุ่งชาเขียวกว้าง เป็นแนวยาว และลมร้อนพัดเอากลิ่นเขียวสดเข้ามาปะทะจมูก ความเก๋ของกลิ่นนี้ไม่ใช่แค่มันเฟรซเฉยๆแต่มันล่องลอยตามลมได้ดี ซิลลาจได้ไกลแม้จะกลิ่นจางและทิ้งตัวทิ้งกลิ่นไว้ได้แม้ว่ามวลกลิ่นจะเหมือนเบา
เป็นกลิ่นชาเขียว กลิ่นไผ่ รองหลังด้วยกลิ่นส้มขมจางๆ ตามด้วยกลิ่นดอกส้มหวานเจือเล็กๆ ปกติเนื้อกลิ่นเบาแบบนี้หากปรุงไม่ดี กลิ่นแอลกอฮอล์จะเสียดจมูกได้ง่ายๆนะคะ แต่ไม่พบปัญหานี้ในกลิ่นนี้เลย
ใครอยากได้น้ำหอมเบาๆแต่น่าจดจำก็ต้องมาทางนี้นะคะ
Comme un Carrousel
ในช่วงบ่ายซึ่งที่เป็นช่วงเวลาที่ง่วงงุนที่สุดของวัน เรามาปลุกความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มโซดาซาบซ่าสักแก้วก็คงดีนะคะ อยากจะบอกว่าทั้ง 5 กลิ่นนี้เราชอบกลิ่นนี้ที่สุดเลย เราว่ามันทั้งเก๋แล้วก็น่ารัก เพราะกลิ่นนี้คือกลิ่นของโคล่า ใช่ค่ะกลิ่นของเครื่องดืมน้ำดำอย่างเป้บซี่ โค้กนี่แหละ และหากให้เคยอ่านประวัติที่มาก็จะพอทราบว่าโคล่านั้นเป็นเครื่องดื่มที่ปรุงขึ้นได้โดยบังเอิญจากเจตนาที่ต้องการปรุงยาแก้ไอ ดังนั้นส่วนผสมจึงมีแต่สุมนไพรหอมๆไม่ว่าจะเป็นอบเชย กานพลู เหล้ารัม น้ำมันซิตรัส น้ำตาลทรายแดง และฝักวนิลลา
ความเก๋ของกลิ่นนี้คือขึ้นกลิ่นอย่างไรให้มีความซ่าของโซดาในเนื้อกลิ่นซึ่งเป็นเรื่องที่ยาก เพราะใส่มากไปกลิ่นก็ปลอมปร่า น้อยไปก็ไม่ซ่า กลิ่นนี้เลยใช้เวลาถึง 3 ปีกว่าจะทำได้กลมกล่อม
ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นนี้สมดุลโน้ตได้ดีมากค่ะ กลิ่นมีมวลอยู่และฟุ้งเอาการเลย ให้ความรู้สึกทั้งขี้เล่น สนุกสนาน และยียวนอยู่ในที ใครบุคลิคกวนๆหน่อยเนี่ย น่าจะเหมาะมาก แต่โทนก็ไม่ได้ปลุกเร้ามากนักนะคะ ออกจะผ่อนคลายและจับความรู้สึกเบาๆในวันพักผ่อนได้ ช่วงท้ายแม้จะผ่านมาเกือบวันแต่ยังจับโน้ตกานพลูและซินนามอน รัม วนิลลาได้ชัดอยู่ ถือว่าติดทนใช้ได้ แถมยังกระจายตัวได้ดีในอากาศชื้น
เนี่ยนะ ถ้ามีแฟนก็อยากให้แฟนใส่กลิ่นนี้ แต่ตอนนี้ไม่มีก็ใส่เองก่อน คิดว่าจะสอยค่ะ รักมาก อิอิ
Carrousel แปลว่าม้าหมุนที่ทั้งสนุกและหมุนวน แต่จะแปลว่าเราตกหลุมรักใครสักคนจนหัวหมุนก็น่าจะได้เหมือนกันเนาะ
Iridescent Sky
เพื่อนๆเเคยเห็นแสงเหลือบรุ้งที่เกิดที่ก้อนเมฆในช่วงเวลาเย็นๆไหมคะ สีมันจะเหลือมคล้ายแสงปริซึมตามขอบก้อนเมฆไล่สี คล้ายกับเราเอาสีน้ำไประบายบนท้องฟ้าโดยมีก้อนเมฆเป็นถาดสีของเรา กลิ่นนี้ก็ได้แรงบันดาลใจมากจากภูมิทัศน์ความงามตามธรรมชาติแบบนั้นเองค่ะ
โก๋ชอบช่วงเปิดของกลิ่นนี้มากค่ะ มันทั้งระยิบระยับและเรื่อเรืองแสง เพราะสุคนธกรตั้งใจหยิบเอาโน้ตที่อ่อนเบาหลายโน้ตๆให้แสดงตัวเหลื่อมกันในช่วงแรก แต่ละโน้ตก็แทนแต่ละสีของเฉดรุ้งที่ทอแสง กลิ่นเปิดจึงดมแล้วสนุกที่สุด และเป็นกลิ่นสีที่น่าดมมาก
โก๋จับได้เป็นกลิ่นของผลไม้และดอกไม้เขตร้อน ไม่ว่าจะเป็นสัปปะรด ลิ้นจี่ กุหลาบ เสาวรส มะม่วงเปรี้ยวไล่สลับกันมาโชว์ตัวให้ได้กลิ่น ทั้งสดสวยและก็โรแมนติค ซึ่งที่พูดมานี้จะบอกว่ากลิ่นนี้กลับเป็นกลิ่นที่เรียบลื่นนะคะ ไม่ได้ฉุนรุนแรงหรือกระโชกโฮกฮากตั้งใจดันกลิ่นแข่งกันมาจนเราเวียนหัว ไม่ใช่แบบนั้นเลย
มันเหมือนเรามองการระบายสีน้ำโปร่งเบาให้สีมันวิ่งเข้าหากันบนกระดาษเสียมากกว่า ถึงแต่อย่างนั้นกลิ่นนี้กลับใช้ปริมาณความเข้มข้นสูงถึง 30% เชียวนะคะ เรียกได้ว่าจะเท่า Pure Parfum แล้ว ทำให้กลิ่นนี้พัฒนาไปอย่างช้าๆ ช่วงกลางกลิ่นจะโล่งด้วยใช้กลิ่นอำพันมาดันกลิ่นนิดหน่อย จนท้ายกลิ่นก็สงบเงียบเหมือนท้องฟ้าที่ค่อยๆลาลับเหลี่ยมเขาไป เหล่าผลไม้เขตร้อนก็ปิดเวทีทิ้งไว้เพียงกลิ่นไม้สะอาดๆและอุ่นเล็กน้อยด้วยมัสค์ แฝงโทนเมทัลลิคอ่อนๆ
กลิ่นนีก็เหมาะกับทุกเพศ ใช้ได้ทุกวันเช่นกันค่ะ คิดว่าใส่ไปดูพระอาทิตย์ตกดินนี่น่าจะเข้ากันมาก เพราะพอฟ้ามืดมิดกลิ่นก็ดำเนินมาถึงช่วงกลาง ใช้เวลาร่วมกันอีกนิดก็อบอุ่นน่ากอดพอดี
Magenta Pop
มาสู่กลิ่นสุดท้าย เป็นกลิ่นที่โก๋คิดว่า Bitchy ที่สุดในไลน์นี้ ด้วยความหวานเชื่อมและเย้ายวนระหว่างกลิ่นคาวของชะมดเช็ด กับกลิ่นลูกอมองุ่นที่เข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
สุคนธกรตั้งใจจะเอาความสนุกของแคนดี้ป้อบ เม็ดอมที่จะแตกในปากเมื่อโดนน้ำลาย และความหอมหวนก็ฟุ้งกระจายไปทั้งปากทั้งคอประมาณนั้นเลย กลิ่นนี้จึงเป็นกลิ่นที่หวานที่สุด ขนมลูกอมที่สุด และก็เนื้อกลิ่นหนาดูมีมวลที่สุดในคอลเลคชั่นนี้เลย
เปิดตัวด้วยกลิ่นหวานเยิ้มของผลไม้เชื่อม หรือจะเป็นพวกผลไม้ที่เคลือบคาราเมลก็ได้ ตามมาด้วยกลิ่นเมาๆของไวน์แดงแล้วกลิ่นหนังค่อยแทรกตัวเข้ามาช่วยให้กลิ่นนี้ชัดขึ้น แสดงตัวมากขึ้น ท้ายกลิ่นก็ออกสโมคกี้ก้ำกึ่งกันระหว่างควันเผาไหม้ คาราเมล และกลิ่นเครื่องหนัง
แน่นอนว่ากลิ่นนี้ใช้เริงราตรี หรือปาร์ตี้ริมสระก็ได้ แต่คุณต้องใส่แค่ชุดว่ายน้ำนะ ผู้ชายก็ได้ดูมีจริตดี แต่ถ้าเป็นสตรีนี่ก็ต้องเปรี้ยวพอดู กลิ่นสนุกสนานมาก เหมือนเพื่อนเราที่ชอบงนปาร์ตี้ ชวนไปไหนก็ไป รอบตัวมีแต่เสียงหัวเราะเฮฮา มองโลกในแง่สนุกสนานเท่านั้น เรื่องเครียดไม่เอามาไว้ให้รกหัวใจ
นอกจากความหวานหยดแล้วกลิ่นนี้ยังติดทนและกระจายตัวได้ดีด้วยค่ะ ใครชอบน้ำหอมโทนกรูมองด์หวานๆ ก็ขอให้มาทางนี้ก่อนเลย
จากที่รีวิวมาทั้งหมด โก๋ยังขอชื่นชมในการร้อยเรียงกลิ่น และการคัดกลิ่นที่มีเข้าเป็นคอลเลคชั่นเดียวกันนะคะ เพราะกลิ่นแตกต่างแต่เมื่อรวมกันแล้วกลับไม่หลุดเลย ชื่นชมตรงนี้ ถ้าจะถามว่าชอบตัวไหนสุดๆก็คงจะเป็นโคล่า รองมาลงมาคือคิระ คิระ ส่วน Eternal Summer กับ Iridescent Sky นี่ยังทำใจไม่ได้ว่าจะให้ตัวไหนเป็นรองอันดับสองดี ส่วนรั้งท้ายก็น่าจะเป็น Magenta Pop ค่ะ ไม่ใช่อะไรนะคะ คือแก่แล้ว คงไม่มีแรงไปปาร์ตี้ล่าเหยื่อที่ไหน แต่มันก็จริตได้อยู่ค่ะ
เพื่อนๆก็หาเวลาไปลองกันนะคะ ดีๆทุกกลิ่นเลย ทิ้งท้ายว่าวันอาทิตย์ 14 นี้โก๋มีนัดดม Floraïku ใครสนใจตามมาสมทบได้นะคะ นัดช่วงบายที่ CTW เดี๋ยวมาบอกสถานที่อีกที
[CR] Summer Collection 2020 of Strangers Parfumerie
จุดนี้เราชอบความเป็นขบวนที่หลากหลาย แต่ไม่กระจัดกระจายซึ่งเอกลักษณ์การส่งต่อเช่นนี้ สมัยนั้เห็นจะมีชาแนลบ้านเดียวเองกระมังที่ยังคงไว้ได้ ประเภทที่เรียกได้ว่าหยิบขวดไหนมาดมแฟนๆก็จับความเป็นชาแนลอยู่ได้ในเนื้อกลิ่น
ของคุณป๋อมคอลฯนี้ก็เช่นกันที่ภาพโดยรวมให้ความสนุกสนานและสีสันของเมืองร้อนที่ไม่ใช่อิทาลี หรือแคลิฟอร์เนีย แต่เป็นเมืองร้อนที่เรามีประสบการณ์ร่วม วันพักผ่อนที่เรานึกขึ้นมาได้ และแสงสีที่เจอได้เฉพาะในหน้าร้อนบ้านเราเท่านั้น
เป็นประกายของแสงแรกแห่งวัน คาแรคเตอร์กลิ่นนี้ให้มโนภาพเป็นแดดอ่อนช่วงรุ่งสางลอดผ่านกิ่งก้านใบที่ชุ่มน้ำค้างตกแล้วกระทบลงบนใบหญ้าด้านล่าง กลิ่นบอบบางเหมือนดอกไม้ขาวดอกเล็กๆที่มีคนมือซนเด็ดมาลอยเล่นตามลำธาร
เราได้กลิ่นเขียวเย็นของมินต์จางๆโล่งเบาแต่ไม่มีในโน้ตหลัก ความโล่งเย็นในส่วนนี้แหละที่เราเอาใจไปผูกไว้กับน้ำค้างยามเช้า ตามด้วยความหวานลูกแพร์นาชิผลสีเขียว มูเก้ช่วยให้เนื้อกลิ่นลื่นเบาแบบดอกไม้ขาว กลิ่นช่วงกลางเรานึกถึงน้ำหอมคาร์เทียสักตัวที่มีลิลลี่เด่น แต่กลิ่นนี้บางกว่ามาก และไม่เหมือนดอกไม้สำลักน้ำเท่า
ท้ายกลิ่นเป็นกลิ่นมัสค์สะอาดเรียบเนียน ออกสไปซี่นิดๆ ไม่แห้งมาก ออกแป้งเล็กน้อย
หากฉีดลงเสื้อผ้ากลิ่นก็จะออกสะอาดๆแต่ถ้าลงผิวก็จะออกหวานขึ้น อันนี้น่าจะมาจากอนุภาพของช่อดอกมูเก้นะคะ
กลิ่นนี้แม้จะเป็นยูนิเซ็กส์แต่ก็ให้ความผ่อนคลายและอ่อนโยน เนื้อกลิ่นดูบอบบางหน่อย จึงแนะนำให้กับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายแต่ถ้าผู้ชายลุคสะอาดๆหน่อยก็ใช้กลิ่นนี้ได้ไม่ขัดเขินหรอกค่ะ
น่าจะเป็นกลิ่นที่ใช้ง่ายที่สุดและน่าจะขายดีที่สุดในพี่น้องทั้ง 5 กลิ่นที่ออกมาในรุ่นราวคราวเดียวกันเพราะกลิ่นเป็นมิตรมากและใช้ได้ในทุกช่วงเวลาของวันและทั้งปี ใส่ไปทำงานก็ได้ ไปเที่ยวเล่นพักผ่อนก็ได้ หรือไปเดทก็ยังได้ แต่ไปล่าแต้มอันนี้ไม่น่าได้
โทนกลิ่นผ่อนคลายและสนุกมากขึ้นกว่ากลิ่นแรก เทียบได้คงเป็นช่วงสายของวันพักผ่อนที่เราตื่นเต็มตาและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น เรามองเห็นเป็นชายเขาและทุ่งชาเขียวกว้าง เป็นแนวยาว และลมร้อนพัดเอากลิ่นเขียวสดเข้ามาปะทะจมูก ความเก๋ของกลิ่นนี้ไม่ใช่แค่มันเฟรซเฉยๆแต่มันล่องลอยตามลมได้ดี ซิลลาจได้ไกลแม้จะกลิ่นจางและทิ้งตัวทิ้งกลิ่นไว้ได้แม้ว่ามวลกลิ่นจะเหมือนเบา
เป็นกลิ่นชาเขียว กลิ่นไผ่ รองหลังด้วยกลิ่นส้มขมจางๆ ตามด้วยกลิ่นดอกส้มหวานเจือเล็กๆ ปกติเนื้อกลิ่นเบาแบบนี้หากปรุงไม่ดี กลิ่นแอลกอฮอล์จะเสียดจมูกได้ง่ายๆนะคะ แต่ไม่พบปัญหานี้ในกลิ่นนี้เลย
ใครอยากได้น้ำหอมเบาๆแต่น่าจดจำก็ต้องมาทางนี้นะคะ
ในช่วงบ่ายซึ่งที่เป็นช่วงเวลาที่ง่วงงุนที่สุดของวัน เรามาปลุกความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มโซดาซาบซ่าสักแก้วก็คงดีนะคะ อยากจะบอกว่าทั้ง 5 กลิ่นนี้เราชอบกลิ่นนี้ที่สุดเลย เราว่ามันทั้งเก๋แล้วก็น่ารัก เพราะกลิ่นนี้คือกลิ่นของโคล่า ใช่ค่ะกลิ่นของเครื่องดืมน้ำดำอย่างเป้บซี่ โค้กนี่แหละ และหากให้เคยอ่านประวัติที่มาก็จะพอทราบว่าโคล่านั้นเป็นเครื่องดื่มที่ปรุงขึ้นได้โดยบังเอิญจากเจตนาที่ต้องการปรุงยาแก้ไอ ดังนั้นส่วนผสมจึงมีแต่สุมนไพรหอมๆไม่ว่าจะเป็นอบเชย กานพลู เหล้ารัม น้ำมันซิตรัส น้ำตาลทรายแดง และฝักวนิลลา
ความเก๋ของกลิ่นนี้คือขึ้นกลิ่นอย่างไรให้มีความซ่าของโซดาในเนื้อกลิ่นซึ่งเป็นเรื่องที่ยาก เพราะใส่มากไปกลิ่นก็ปลอมปร่า น้อยไปก็ไม่ซ่า กลิ่นนี้เลยใช้เวลาถึง 3 ปีกว่าจะทำได้กลมกล่อม
ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นนี้สมดุลโน้ตได้ดีมากค่ะ กลิ่นมีมวลอยู่และฟุ้งเอาการเลย ให้ความรู้สึกทั้งขี้เล่น สนุกสนาน และยียวนอยู่ในที ใครบุคลิคกวนๆหน่อยเนี่ย น่าจะเหมาะมาก แต่โทนก็ไม่ได้ปลุกเร้ามากนักนะคะ ออกจะผ่อนคลายและจับความรู้สึกเบาๆในวันพักผ่อนได้ ช่วงท้ายแม้จะผ่านมาเกือบวันแต่ยังจับโน้ตกานพลูและซินนามอน รัม วนิลลาได้ชัดอยู่ ถือว่าติดทนใช้ได้ แถมยังกระจายตัวได้ดีในอากาศชื้น
เนี่ยนะ ถ้ามีแฟนก็อยากให้แฟนใส่กลิ่นนี้ แต่ตอนนี้ไม่มีก็ใส่เองก่อน คิดว่าจะสอยค่ะ รักมาก อิอิ
Carrousel แปลว่าม้าหมุนที่ทั้งสนุกและหมุนวน แต่จะแปลว่าเราตกหลุมรักใครสักคนจนหัวหมุนก็น่าจะได้เหมือนกันเนาะ
Iridescent Sky
เพื่อนๆเเคยเห็นแสงเหลือบรุ้งที่เกิดที่ก้อนเมฆในช่วงเวลาเย็นๆไหมคะ สีมันจะเหลือมคล้ายแสงปริซึมตามขอบก้อนเมฆไล่สี คล้ายกับเราเอาสีน้ำไประบายบนท้องฟ้าโดยมีก้อนเมฆเป็นถาดสีของเรา กลิ่นนี้ก็ได้แรงบันดาลใจมากจากภูมิทัศน์ความงามตามธรรมชาติแบบนั้นเองค่ะ
โก๋จับได้เป็นกลิ่นของผลไม้และดอกไม้เขตร้อน ไม่ว่าจะเป็นสัปปะรด ลิ้นจี่ กุหลาบ เสาวรส มะม่วงเปรี้ยวไล่สลับกันมาโชว์ตัวให้ได้กลิ่น ทั้งสดสวยและก็โรแมนติค ซึ่งที่พูดมานี้จะบอกว่ากลิ่นนี้กลับเป็นกลิ่นที่เรียบลื่นนะคะ ไม่ได้ฉุนรุนแรงหรือกระโชกโฮกฮากตั้งใจดันกลิ่นแข่งกันมาจนเราเวียนหัว ไม่ใช่แบบนั้นเลย
มันเหมือนเรามองการระบายสีน้ำโปร่งเบาให้สีมันวิ่งเข้าหากันบนกระดาษเสียมากกว่า ถึงแต่อย่างนั้นกลิ่นนี้กลับใช้ปริมาณความเข้มข้นสูงถึง 30% เชียวนะคะ เรียกได้ว่าจะเท่า Pure Parfum แล้ว ทำให้กลิ่นนี้พัฒนาไปอย่างช้าๆ ช่วงกลางกลิ่นจะโล่งด้วยใช้กลิ่นอำพันมาดันกลิ่นนิดหน่อย จนท้ายกลิ่นก็สงบเงียบเหมือนท้องฟ้าที่ค่อยๆลาลับเหลี่ยมเขาไป เหล่าผลไม้เขตร้อนก็ปิดเวทีทิ้งไว้เพียงกลิ่นไม้สะอาดๆและอุ่นเล็กน้อยด้วยมัสค์ แฝงโทนเมทัลลิคอ่อนๆ
กลิ่นนีก็เหมาะกับทุกเพศ ใช้ได้ทุกวันเช่นกันค่ะ คิดว่าใส่ไปดูพระอาทิตย์ตกดินนี่น่าจะเข้ากันมาก เพราะพอฟ้ามืดมิดกลิ่นก็ดำเนินมาถึงช่วงกลาง ใช้เวลาร่วมกันอีกนิดก็อบอุ่นน่ากอดพอดี
มาสู่กลิ่นสุดท้าย เป็นกลิ่นที่โก๋คิดว่า Bitchy ที่สุดในไลน์นี้ ด้วยความหวานเชื่อมและเย้ายวนระหว่างกลิ่นคาวของชะมดเช็ด กับกลิ่นลูกอมองุ่นที่เข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
สุคนธกรตั้งใจจะเอาความสนุกของแคนดี้ป้อบ เม็ดอมที่จะแตกในปากเมื่อโดนน้ำลาย และความหอมหวนก็ฟุ้งกระจายไปทั้งปากทั้งคอประมาณนั้นเลย กลิ่นนี้จึงเป็นกลิ่นที่หวานที่สุด ขนมลูกอมที่สุด และก็เนื้อกลิ่นหนาดูมีมวลที่สุดในคอลเลคชั่นนี้เลย
เปิดตัวด้วยกลิ่นหวานเยิ้มของผลไม้เชื่อม หรือจะเป็นพวกผลไม้ที่เคลือบคาราเมลก็ได้ ตามมาด้วยกลิ่นเมาๆของไวน์แดงแล้วกลิ่นหนังค่อยแทรกตัวเข้ามาช่วยให้กลิ่นนี้ชัดขึ้น แสดงตัวมากขึ้น ท้ายกลิ่นก็ออกสโมคกี้ก้ำกึ่งกันระหว่างควันเผาไหม้ คาราเมล และกลิ่นเครื่องหนัง
แน่นอนว่ากลิ่นนี้ใช้เริงราตรี หรือปาร์ตี้ริมสระก็ได้ แต่คุณต้องใส่แค่ชุดว่ายน้ำนะ ผู้ชายก็ได้ดูมีจริตดี แต่ถ้าเป็นสตรีนี่ก็ต้องเปรี้ยวพอดู กลิ่นสนุกสนานมาก เหมือนเพื่อนเราที่ชอบงนปาร์ตี้ ชวนไปไหนก็ไป รอบตัวมีแต่เสียงหัวเราะเฮฮา มองโลกในแง่สนุกสนานเท่านั้น เรื่องเครียดไม่เอามาไว้ให้รกหัวใจ
นอกจากความหวานหยดแล้วกลิ่นนี้ยังติดทนและกระจายตัวได้ดีด้วยค่ะ ใครชอบน้ำหอมโทนกรูมองด์หวานๆ ก็ขอให้มาทางนี้ก่อนเลย
จากที่รีวิวมาทั้งหมด โก๋ยังขอชื่นชมในการร้อยเรียงกลิ่น และการคัดกลิ่นที่มีเข้าเป็นคอลเลคชั่นเดียวกันนะคะ เพราะกลิ่นแตกต่างแต่เมื่อรวมกันแล้วกลับไม่หลุดเลย ชื่นชมตรงนี้ ถ้าจะถามว่าชอบตัวไหนสุดๆก็คงจะเป็นโคล่า รองมาลงมาคือคิระ คิระ ส่วน Eternal Summer กับ Iridescent Sky นี่ยังทำใจไม่ได้ว่าจะให้ตัวไหนเป็นรองอันดับสองดี ส่วนรั้งท้ายก็น่าจะเป็น Magenta Pop ค่ะ ไม่ใช่อะไรนะคะ คือแก่แล้ว คงไม่มีแรงไปปาร์ตี้ล่าเหยื่อที่ไหน แต่มันก็จริตได้อยู่ค่ะ
เพื่อนๆก็หาเวลาไปลองกันนะคะ ดีๆทุกกลิ่นเลย ทิ้งท้ายว่าวันอาทิตย์ 14 นี้โก๋มีนัดดม Floraïku ใครสนใจตามมาสมทบได้นะคะ นัดช่วงบายที่ CTW เดี๋ยวมาบอกสถานที่อีกที
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้