สติ ตามพระไตรปิฏกและอรรถกถา

สติ ตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง   เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นเจตสิก  
สติ เป็นเจตสิกฝ่ายดี คือเกิดกับจิตที่ดีงาม ไม่เกิดกับอกุศลจิตเลย  
สติ ทำหน้าที่ระลึกเป็นไปในทางที่ดี และ 
สติเป็นธรรมที่เป็นเครื่องกั้นกระแสกิเลส 

สติ แบ่งตามระดับของกุศลจิต   เพราะเมื่อใด  กุศลจิตเกิด  สติจะต้องเกิดร่วมด้วย 
กุศลจิต มี 4 ขั้น คือ 
ขั้นทาน ศีล สมถภาวนา และ วิปัสสนาภาวนา

สติขั้นทาน คือ เมื่อสติเกิดย่อมระลึกที่จะให้  
สติขั้นศีล คือ ระลึกที่จะไม่ทำบาป งดเว้นจากการฆ่าสัตว์       
สติขั้นสมถภาวนา เช่น  ระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า และ
สติขั้นวิปัสสนา คือ สติที่ระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้  เกิดพร้อมปัญญารู้ความจริงว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา

สติ  จึงเป็นสภาพธรรม  ที่ระลึกเป็นไปในกุศลทั้งหลาย และ 
ขณะใดที่สติเกิดขณะนั้น อกุศลไม่เกิด เพราะกั้นกระแสกิเลสในขณะนั้น 

สติเป็นโสภณเจตสิก  เกิดกับโสภณจิต  ซึ่งโสภณจิต ไม่ได้หมายเพียง กุศลจิตเท่านั้น  กิริยาจิตและวิบากจิตด้วยก็ได้
เพราะฉะนั้น สติเจตสิกจึงเกิดกับ วิบากจิต และ กิริยาจิต ได้ด้วย
เช่น พระอรหันต์ที่มีจิตเมตตา เป็นกิริยาจิต  แต่ก็มีสติเจตสิกเกิดร่วมด้วยในขณะนั้น แม้เป็นกิริยาจิต 

เครดิตภาพ https://store.line.me/stickershop/product/1277626/th
CR https://www.dhammahome.com/webboard/topic/25707
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่