ทำไมต้องสแกนออก? สามารถพัฒนาระบบให้ดีขึ้นได้หรือไม่?

ที่มาของกระทู้นี้มาจากประสบการณ์และการสังเกตตั้งแต่มีการเริ่มใช้ระบบสแกนคนเข้าออกสถานที่ต่างๆ ซึ่งความเข้าใจส่วนตัวคิดว่ามีจุดประสงค์เพื่อตรวจสอบความหนาแน่นของคน เพื่อที่จะลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อโรค โดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยที่มีนโยบายดังกล่าว แต่ก็คิดและเชื่อว่าคนไทยสามารถพัฒนาระบบเพื่อตอบสนองนโยบายดังกล่าวได้ดีกว่านี้ เนื่องจากเห็นช่องโหว่ดังนี้

1.การแสกนเข้า-ออก 'อาจ'จะทำให้สามารถตรวจสอบจำนวนคนได้จริงและลดความหนาแน่นภายในได้จริง แต่ตรงหน้าประตูบานเดียวกันที่ต้องมีการสแกนออกด้วยไม่สามารถลดความหนาแน่นได้ ในจุดนี้ต้องอาศัยจิตสำนึกสาธารณะให้ยืนห่างกันจริงๆ และเจ้าหน้าที่มาคอยควบคุมอีกเพื่อให้เกิดความเป็นไปได้จริง
2.จากหลายๆที่ ไม่มีการตรวจสอบคนสแกนออก ซึ่งอาจจะไม่มีประโยชน์ ทำให้ปรากฎในระบบว่ามีคนจำนวนมาก แต่ที่จริงคือกลับบ้านไปกันหมดแล้ว เพราะเชื่อว่าหลายคนไม่ได้สแกนออก อาจจะด้วยเหตุผลที่รอการดาวน์โหลดนานเกินไป คนแออัดตรงทางออก หรือขี้เกียจหรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น (ขออภัย) รู้ตัวอีกทีคือถึงบ้านแล้ว ไม่รู้จะช่วยไปสแกนออกอย่างไร กดรีเฟรสก็ไม่ขึ้นแล้ว อ่าว ซวยไป

ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาระบบสแกนนี้ให้ดีขึ้น โดยส่วนตัวคิดว่า เมื่อสแกนเข้าระบบแล้ว น่าจะปรากฎเป็นหน้าต่างเช็คอินเท่านั้น จากนั้นเมื่อกดเช็คอินแล้ว ควรมีปุ่มให้กดเช็คเอ้าท์ เพื่อไม่ต้องเสียเวลาในการไปสแกนเช็คเอ้าท์อีก ในเมื่อการสแกนเข้าและออกต่างก็ต้องใช้จิตสำสึกสาธารณะอยู่ดี และการแสกนออกไม่ได้รับการตรวจสอบเท่าที่ควร ดังนั้นอาจจะดีกว่าหากทำแบบนี้ คือทุกคนกดสแกนออกเอง หากว่าลืม เมื่อเปิดมือถือดูตอนออกมาแล้วก็ยังสามารถกดออกให้ได้
ปล. ถ้าคนที่คิดระบบ คิดมาดีแล้ว เหตุผลอะไรที่ไม่มีให้กดสแกนออกเลย ทำไมต้องให้สแกนใหม่

ใครมีข้อคิดเห็นต่างยังไงบ้างคะ คุยกัน อยากรู้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่