ผมลองนั่งคิดวิเคราะห์ประวัติศาสตร์การเมืองไทยตั้งแต่อดีต ทำให้เห็นความย้อนแย้งเชิงโครงสร้างที่สำคัญ
ที่ผ่านมาการต่อสู้ทางความคิดในประเทศไทย ไม่เคยเป็นการเผชิญหน้าระหว่างขั้วอุดมการณ์ที่สมบูรณ์สองขั้ว แต่เป็นการต่อสู้ระหว่างอุดมการณ์ที่มีรูปแบบ กับอำนาจที่คอยปกป้องระบบกับผลประโยชน์
นับตั้งแต่เปลี่ยนรูปแบบการปกครอง 2475 ขั้วอุดมการเดียวที่สามารถนิยามตัวเองว่าเป็นอุดมการณ์ มีโครงสร้างความคิดชัดเจน มีตรรกะ และมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลง คือ ฝ่ายซ้าย เสรีนิยมประชาธิปไตย พวกนี้คือขั้วที่ทำหน้าที่เป็นแรงผลักดันเชิงโครงสร้างที่ต้องการรื้อถอนระบบเดิม ซึ่งเป็นขั้วความคิดที่มีเหตุผลและพัฒนาประเทศให้เดินไปข้างหน้า
แต่ปัญหาโครงสร้างที่แท้จริงคือขั้วตรงข้าม ไม่เคยเป็นฝ่ายขวา หรือ อนุรักษ์นิยม ตามที่เคยเข้าใจกันมา
พวกนี้คือกลุ่มอำนาจเก่าและเผด็จการที่ดำรงอยู่เพื่อรักษาอำนาจ ผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม และความมั่นคงของระบบที่มันวางรากฐานไว้
ดังนั้น การกระทำของกลุ่มนี่จึงไม่สามารถตีความเป็นชุดความคิดเชิงปรัชญาหรืออุดมการณ์ใดๆ ได้อย่างมีตรรกะ
**การวิเคราะห์นี้ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็น พวกรักชาติ(พิธีการ) หรืออนุรักษ์นิยมในปัจจุบัน เป็นเพียงแค่ผลผลิตของขั้วอำนาจเก่าที่ไร้อุดมการณ์สืบทอดมา
กลุ่มพวกนี้ไม่สามารถนับเป็นฝ่ายขวา, อนุรักษ์นิยม, หรืออุดมการณ์ใดๆ ได้อย่างมีหลักการ แต่เป็นเพียงกลุ่มรวมตัวทางสังคมที่ขาดโครงสร้างความคิดที่ชัดเจน
การแสดงออกตามโพสที่ปรากฏในพื้นที่สาธารณะสามารถวัดค่าได้ถึงความไร้รูปแบบและไร้ตรรกะ ซึ่งไม่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ พวกนี้มีกน้าที่ดำรงอยู่เพียงเพื่อ คอยถ่วงการพัฒนาประเทศไปสู่ความเป็นเหตุผล ซึ่งเป็นรากฐานของความก้าวหน้าของชาติ ดังนั้น การกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้จึงเท่ากับการเป็นศัตรูต่อความก้าวหน้าของชาติ
ตอนที่ 1: ภาวะสุญญากาศทางอุดมการ ประเทศไทยเคยมีขั้วอุดมการณ์ฝ่ายขวาจริงๆ?
ผมลองนั่งคิดวิเคราะห์ประวัติศาสตร์การเมืองไทยตั้งแต่อดีต ทำให้เห็นความย้อนแย้งเชิงโครงสร้างที่สำคัญ
ที่ผ่านมาการต่อสู้ทางความคิดในประเทศไทย ไม่เคยเป็นการเผชิญหน้าระหว่างขั้วอุดมการณ์ที่สมบูรณ์สองขั้ว แต่เป็นการต่อสู้ระหว่างอุดมการณ์ที่มีรูปแบบ กับอำนาจที่คอยปกป้องระบบกับผลประโยชน์
นับตั้งแต่เปลี่ยนรูปแบบการปกครอง 2475 ขั้วอุดมการเดียวที่สามารถนิยามตัวเองว่าเป็นอุดมการณ์ มีโครงสร้างความคิดชัดเจน มีตรรกะ และมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลง คือ ฝ่ายซ้าย เสรีนิยมประชาธิปไตย พวกนี้คือขั้วที่ทำหน้าที่เป็นแรงผลักดันเชิงโครงสร้างที่ต้องการรื้อถอนระบบเดิม ซึ่งเป็นขั้วความคิดที่มีเหตุผลและพัฒนาประเทศให้เดินไปข้างหน้า
แต่ปัญหาโครงสร้างที่แท้จริงคือขั้วตรงข้าม ไม่เคยเป็นฝ่ายขวา หรือ อนุรักษ์นิยม ตามที่เคยเข้าใจกันมา
พวกนี้คือกลุ่มอำนาจเก่าและเผด็จการที่ดำรงอยู่เพื่อรักษาอำนาจ ผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม และความมั่นคงของระบบที่มันวางรากฐานไว้
ดังนั้น การกระทำของกลุ่มนี่จึงไม่สามารถตีความเป็นชุดความคิดเชิงปรัชญาหรืออุดมการณ์ใดๆ ได้อย่างมีตรรกะ
**การวิเคราะห์นี้ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็น พวกรักชาติ(พิธีการ) หรืออนุรักษ์นิยมในปัจจุบัน เป็นเพียงแค่ผลผลิตของขั้วอำนาจเก่าที่ไร้อุดมการณ์สืบทอดมา
กลุ่มพวกนี้ไม่สามารถนับเป็นฝ่ายขวา, อนุรักษ์นิยม, หรืออุดมการณ์ใดๆ ได้อย่างมีหลักการ แต่เป็นเพียงกลุ่มรวมตัวทางสังคมที่ขาดโครงสร้างความคิดที่ชัดเจน
การแสดงออกตามโพสที่ปรากฏในพื้นที่สาธารณะสามารถวัดค่าได้ถึงความไร้รูปแบบและไร้ตรรกะ ซึ่งไม่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ พวกนี้มีกน้าที่ดำรงอยู่เพียงเพื่อ คอยถ่วงการพัฒนาประเทศไปสู่ความเป็นเหตุผล ซึ่งเป็นรากฐานของความก้าวหน้าของชาติ ดังนั้น การกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้จึงเท่ากับการเป็นศัตรูต่อความก้าวหน้าของชาติ