Day 6 แชงกรีลา – คุนหมิง
วันนี้ตื่นเช้าอีกแล้ว พวกเราเก็บของเช็คอินตั้งแต่ยังไม่ถึง 6 โมงเช้า ลงมาเช็คเอ้า
มีคุณลุงมาขับรถไฟฟ้าช่วยขนกระเป๋าออกไปตรงที่จอดรถที่เราลงตอนมาแชงกรีลาครั้งแรก เรียก Didi ตรงนั้นเลย ให้ไปส่งที่สถานีรถไฟแชงกรีลา เนื่องจากเช้ามาก รถไม่ติด ประมาณ 6.10 ก็มาถึงสถานี

ลากกระเป๋าไปรอหน้าประตู ประตูสถานียังไม่เปิดเลย แต่คนก็มารอเยอะแล้ว เข้าไปด้านในผ่านเครื่องสแกนกระเป๋า
ที่นี่สถานีไม่ใหญ่ ผ่านเครื่องสแกนกระเป๋าก็ถึง Gate เลย ใกล้เวลาก็ยืนรอต่อแถว ที่นี่เจ้าหน้าที่ให้เอาพาสปอร์ตแสกนเข้าประตูช่องอัตโนมัติได้เลยนะ
ได้ทุกช่อง เหมือนเดิมค่ะ หาที่นั่ง ขึ้นรถไฟก็หลับ เป็นการนั่งที่ยาวนานมาก ตั้งแต่ 7.20 ถึงคุนหมิง 12.52 นาที ประมาณ 5 ชั่วโมงนิดๆ ออกจากสถานีรถไฟก็คือที่เดิมตอนที่เรามาวันแรก แวะซื้อข้าวในเซเว่นด้านล่างสถานีกินกันก่อน เสร็จแล้วก็นั่งรถไฟใต้ดิน ไปลงสถานี Wuyi Rd. Station เพื่อไปเช็คอินโรงแรมกัน
Review ซิตี้คอมฟอร์ท อินน์ คุนหมิง หนานผิง เพเดสเทรียน สตรีท หวังฝูจิ่ง
ข้อดี
1. ทำเลดีสุดๆ ใกล้รถไฟใต้ดิน เดินทางสะดวก สามารถเดินไปห้าง ไปประตูม้าทองไก่หยก ไปถนนคนเดินหนานผิง คือยู่ตรงนี้ทั้งหมดเลย
2. ห้องใหญ่สะอาด ได้มาตรฐาน
3. ราคาถูก มีอาหารเช้า
ข้อเสีย
1. เห็นมีคนบ่นเรื่องห้องมีกลิ่นบุหรี่แต่เราไม่เจอ
2. ไม่มีสายชำระ (แต่ทริปนี้พักมา 3 ที่ก็ไม่มีซักที่แหละ)
นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมากเพราะเรามาพักแค่คืนเดียว ตอนเช็คอินเขาจะให้คูปองอาหารเช้าไว้เก็บไว้ให้ดี
การเดินทางก็นั่งรถไฟใต้ดิน ลงสถานี Wuyi Rd. ออก Exit B ขึ้นบันไดเลื่อนมา (ตรงลูกศรสีแดง)แล้วให้กลับหลังหัน เดินผ่านหน้า Starbucks มา

มองมาก็จะเจอตึกนี้เลย ตัวหนังสือจีนสีเขียวๆ

เข้าไปเช็คอินกันเลย

โรงแรมนี้ใหญ่มาก ห้องเยอะมาก

เราจองห้องเตียงเดี่ยว 2 เตียง ทั้งหมด 2 ห้อง 1 คืน

ห้องแบบมาตรฐานโรงแรมทั่วไปเลยค่ะ นอนสบายห้องน้ำกว้าง แต่ไม่มีสายชำระนะ
เก็บของเสร็จก็ออกไปเดินเล่นกันค่ะ ดูตามรูปแผนที่ได้เลย

ที่แรกที่จะไปคือ Pop Mart ซึ่งอยู่ในห้าง Shuncheng Shopping Centre จากแถวหน้าที่พักดูจากแผนที่ให้ตั้งหลักที่ Exit B
เดินเข้าไปตรงที่มีช็อปแบรนด์เนมเยอะนั่นแหละ เดินไปตรงกลางจะมีบันไดลงไปข้างล่าง Pop Mart จะอยู่ด้านล่าง หรือปักหมุดที่ Paopao Mate POPMART (Shuncheng Shopping Centre)

ด้านล่างนอกจาก PopMart ก็มีร้านค้ามากมาย จากนั้นเดินต่อตามแผนที่ไปที่ ประตูม้าทองไก่หยก หรือ (Jinbi Square)
แถวประตูจะมีตลาดเก่าเล็กๆอยู่ด้วย ไปเดินเล่นได้

ฝั่งตรงข้าม Jinbi Square จะเป็นถนนคนเดินหนานผิง (Nanping Street)
ไม่หลงแน่นอนมีป้ายใหญ่ๆอยู่ตรงกลาง ข้างในมีร้านค้าเยอะแยะมากมาย

เดินไปจนถึงหน้าห้าง New world Sinobright

แถวหน้าหน้างจะมีร้าน Just Hot Bagery คนเยอะมาก

ตอนนั้นประมาณ 5 โมงเย็นแล้ว ก็ปรึกษากับเพื่อนว่าจะกินอะไรดี เพื่อนบอกมาว่า มีร้านบุฟเฟ่ แนวปิ้งย่าง เด๋วพานั่ง Didiไป เราก็ว่าดี ไปเลยๆ
จัดการเรียก Didi แต่รถมารับตรงนี้ไม่ได้นะ ต้องไปหาที่ที่รถเข้าได้ แล้วค่อยเรียก นั่งไปก็ไกลอยู่ประมาณ 30 นาที ตอนเย็นรถติดนิดหน่อยด้วย และแล้วก็มาถึง
Nayum Nayang น่ายำ น่าย่าง หมูกระทะ
มาถึงร้าน5โมง 40 นาที เข้าไปในร้านตอนแรกก็งงเลยนะ เอางี้เลยหรอ นี่มันหมูกระทะนี่นา

คืออยู่จีนมาหลายวัน อาหารเอาจิงๆหาถูกปากยากมาก เพื่อนอยากอาหารไทย รสชาดไทยๆ ก็เลยมากันที่นี่ ร้านไทยมาก ตกแต่งแบบไทย ภาษาไทยเลย เจ้าของเป็นคนจีนที่เคยมาเรียนอยู่ ม.เชียงใหม่ พูดไทยเก่งมาก คือเข้าร้านไปก็พูดไทยกันเลยจ้า ง่ายๆ บุฟเฟ่ หัวละ 82หยวน รวมทุกสิ่งอย่าง หมู+เนื้อ จะเสริฟมาเป็นถาดสั่งได้เรื่อยๆนะ เอาส่วนไหนก็บอกเค้าได้ ส่วนอื่นๆตักเองได้เลย มีหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้ง ปลาหมึก เส้น เต้าหู้ ผัก เครื่องดื่มหยิบในตู้มีแบบ เหล้า เบียร์ โซจู ขนม ผลไม้ ไอศครีม คือของไม่ได้เยอะมากแต่ก็โอเคอยู่ มีน้ำจิมสุกี้แต่เราว่าจางไปหน่อยนึง มีน้ำจิ้มซีฟู้ต น้ำจิ้มอะไรอีกไม่รู้ แล้วก็ผงหมาล่า ผงอะไรไม่รู้ ร้านบริการดีค่ะ คือเขาใช้เตาถ่าน แต่โต๊ะเราถ่านไม่ร้อน ก็ขอเปลี่ยนถ่านได้

ไม่รู้ว่าจำกัดเวลามั้ย แต่เรากินเสร็จออกจากร้านประมาณ 19.30 น.
จากนั้นก็นั่ง Didi กลับไปที่ Jinbi Square ไปดูไฟที่ประตูม้าทองไก่หยกตอนกลางคืน แล้วก็เดินถนนคนเดินหนานผิงอีกรอบ แล้วก็เดินกลับโรงแรม
จบวันที่ 6
[CR] Review เที่ยวเอง คุนหมิง-ลี่เจียง-แชงกรีลา 7วัน 6 คืน งบ 25,000 บาท (Day 6)
วันนี้ตื่นเช้าอีกแล้ว พวกเราเก็บของเช็คอินตั้งแต่ยังไม่ถึง 6 โมงเช้า ลงมาเช็คเอ้า
มีคุณลุงมาขับรถไฟฟ้าช่วยขนกระเป๋าออกไปตรงที่จอดรถที่เราลงตอนมาแชงกรีลาครั้งแรก เรียก Didi ตรงนั้นเลย ให้ไปส่งที่สถานีรถไฟแชงกรีลา เนื่องจากเช้ามาก รถไม่ติด ประมาณ 6.10 ก็มาถึงสถานี
ลากกระเป๋าไปรอหน้าประตู ประตูสถานียังไม่เปิดเลย แต่คนก็มารอเยอะแล้ว เข้าไปด้านในผ่านเครื่องสแกนกระเป๋า
ที่นี่สถานีไม่ใหญ่ ผ่านเครื่องสแกนกระเป๋าก็ถึง Gate เลย ใกล้เวลาก็ยืนรอต่อแถว ที่นี่เจ้าหน้าที่ให้เอาพาสปอร์ตแสกนเข้าประตูช่องอัตโนมัติได้เลยนะ
ได้ทุกช่อง เหมือนเดิมค่ะ หาที่นั่ง ขึ้นรถไฟก็หลับ เป็นการนั่งที่ยาวนานมาก ตั้งแต่ 7.20 ถึงคุนหมิง 12.52 นาที ประมาณ 5 ชั่วโมงนิดๆ ออกจากสถานีรถไฟก็คือที่เดิมตอนที่เรามาวันแรก แวะซื้อข้าวในเซเว่นด้านล่างสถานีกินกันก่อน เสร็จแล้วก็นั่งรถไฟใต้ดิน ไปลงสถานี Wuyi Rd. Station เพื่อไปเช็คอินโรงแรมกัน
Review ซิตี้คอมฟอร์ท อินน์ คุนหมิง หนานผิง เพเดสเทรียน สตรีท หวังฝูจิ่ง
ข้อดี
1. ทำเลดีสุดๆ ใกล้รถไฟใต้ดิน เดินทางสะดวก สามารถเดินไปห้าง ไปประตูม้าทองไก่หยก ไปถนนคนเดินหนานผิง คือยู่ตรงนี้ทั้งหมดเลย
2. ห้องใหญ่สะอาด ได้มาตรฐาน
3. ราคาถูก มีอาหารเช้า
ข้อเสีย
1. เห็นมีคนบ่นเรื่องห้องมีกลิ่นบุหรี่แต่เราไม่เจอ
2. ไม่มีสายชำระ (แต่ทริปนี้พักมา 3 ที่ก็ไม่มีซักที่แหละ)
นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมากเพราะเรามาพักแค่คืนเดียว ตอนเช็คอินเขาจะให้คูปองอาหารเช้าไว้เก็บไว้ให้ดี
การเดินทางก็นั่งรถไฟใต้ดิน ลงสถานี Wuyi Rd. ออก Exit B ขึ้นบันไดเลื่อนมา (ตรงลูกศรสีแดง)แล้วให้กลับหลังหัน เดินผ่านหน้า Starbucks มา
มองมาก็จะเจอตึกนี้เลย ตัวหนังสือจีนสีเขียวๆ
เข้าไปเช็คอินกันเลย
โรงแรมนี้ใหญ่มาก ห้องเยอะมาก
เราจองห้องเตียงเดี่ยว 2 เตียง ทั้งหมด 2 ห้อง 1 คืน
ห้องแบบมาตรฐานโรงแรมทั่วไปเลยค่ะ นอนสบายห้องน้ำกว้าง แต่ไม่มีสายชำระนะ
เก็บของเสร็จก็ออกไปเดินเล่นกันค่ะ ดูตามรูปแผนที่ได้เลย
ที่แรกที่จะไปคือ Pop Mart ซึ่งอยู่ในห้าง Shuncheng Shopping Centre จากแถวหน้าที่พักดูจากแผนที่ให้ตั้งหลักที่ Exit B
เดินเข้าไปตรงที่มีช็อปแบรนด์เนมเยอะนั่นแหละ เดินไปตรงกลางจะมีบันไดลงไปข้างล่าง Pop Mart จะอยู่ด้านล่าง หรือปักหมุดที่ Paopao Mate POPMART (Shuncheng Shopping Centre)
ด้านล่างนอกจาก PopMart ก็มีร้านค้ามากมาย จากนั้นเดินต่อตามแผนที่ไปที่ ประตูม้าทองไก่หยก หรือ (Jinbi Square)
แถวประตูจะมีตลาดเก่าเล็กๆอยู่ด้วย ไปเดินเล่นได้
ฝั่งตรงข้าม Jinbi Square จะเป็นถนนคนเดินหนานผิง (Nanping Street)
ไม่หลงแน่นอนมีป้ายใหญ่ๆอยู่ตรงกลาง ข้างในมีร้านค้าเยอะแยะมากมาย
เดินไปจนถึงหน้าห้าง New world Sinobright
แถวหน้าหน้างจะมีร้าน Just Hot Bagery คนเยอะมาก
ตอนนั้นประมาณ 5 โมงเย็นแล้ว ก็ปรึกษากับเพื่อนว่าจะกินอะไรดี เพื่อนบอกมาว่า มีร้านบุฟเฟ่ แนวปิ้งย่าง เด๋วพานั่ง Didiไป เราก็ว่าดี ไปเลยๆ
จัดการเรียก Didi แต่รถมารับตรงนี้ไม่ได้นะ ต้องไปหาที่ที่รถเข้าได้ แล้วค่อยเรียก นั่งไปก็ไกลอยู่ประมาณ 30 นาที ตอนเย็นรถติดนิดหน่อยด้วย และแล้วก็มาถึง
Nayum Nayang น่ายำ น่าย่าง หมูกระทะ
มาถึงร้าน5โมง 40 นาที เข้าไปในร้านตอนแรกก็งงเลยนะ เอางี้เลยหรอ นี่มันหมูกระทะนี่นา
คืออยู่จีนมาหลายวัน อาหารเอาจิงๆหาถูกปากยากมาก เพื่อนอยากอาหารไทย รสชาดไทยๆ ก็เลยมากันที่นี่ ร้านไทยมาก ตกแต่งแบบไทย ภาษาไทยเลย เจ้าของเป็นคนจีนที่เคยมาเรียนอยู่ ม.เชียงใหม่ พูดไทยเก่งมาก คือเข้าร้านไปก็พูดไทยกันเลยจ้า ง่ายๆ บุฟเฟ่ หัวละ 82หยวน รวมทุกสิ่งอย่าง หมู+เนื้อ จะเสริฟมาเป็นถาดสั่งได้เรื่อยๆนะ เอาส่วนไหนก็บอกเค้าได้ ส่วนอื่นๆตักเองได้เลย มีหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้ง ปลาหมึก เส้น เต้าหู้ ผัก เครื่องดื่มหยิบในตู้มีแบบ เหล้า เบียร์ โซจู ขนม ผลไม้ ไอศครีม คือของไม่ได้เยอะมากแต่ก็โอเคอยู่ มีน้ำจิมสุกี้แต่เราว่าจางไปหน่อยนึง มีน้ำจิ้มซีฟู้ต น้ำจิ้มอะไรอีกไม่รู้ แล้วก็ผงหมาล่า ผงอะไรไม่รู้ ร้านบริการดีค่ะ คือเขาใช้เตาถ่าน แต่โต๊ะเราถ่านไม่ร้อน ก็ขอเปลี่ยนถ่านได้
ไม่รู้ว่าจำกัดเวลามั้ย แต่เรากินเสร็จออกจากร้านประมาณ 19.30 น.
จากนั้นก็นั่ง Didi กลับไปที่ Jinbi Square ไปดูไฟที่ประตูม้าทองไก่หยกตอนกลางคืน แล้วก็เดินถนนคนเดินหนานผิงอีกรอบ แล้วก็เดินกลับโรงแรม
จบวันที่ 6
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้