7.30 ทำการเช็คเอ้า โรงแรมให้สามล้อยกกระเป๋ามารอแล้ว เขาก็รีบๆขนขึ้น ตรงนี้เราสามารถนั่งไปกับรถรถขนกระเป๋าได้เลยนะ ออกมาส่งที่หน้าปากทาง ตรงที่ต้องรอรถพอดี ถึงเวลา 8.00 น. รถก็มารับเรา

**** วันนี้คุณจิย้ำกับเราว่า ให้เข้าห้องน้ำจากสถานที่ท่องเที่ยวให้พร้อมเลย****
ช่องแคบเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge )
รถพามาถึงช่องแคบเสือกระโจน ประมาณ 10 โมงเช้า คนขับจัดการไปซื้อตั๋วให้พวกเราคนละ 115 หยวน เป็นค่าเข้า + ค่าบันไดเลื่อน ที่นี่อากาศเย็นเพราะมีลม ตอนแรกเรากะว่าใส่ฮีทเทคตัวเดียวพอ ลงรถไปต้องวิ่งกลับมาเอาเสื้อกันหนาวอีกตัว เดินตามประชาชนลงบันไดไปก่อน ตรงนี้มีร้านไก่ทอด ห้องน้ำ ร้านขายน้ำ ไส้กรอก นิดหน่อย เสร็จแล้วก็เดินลงบันไดเลื่อนไป บันไดเลื่อนน่าจะมี 4 ตัว ลงไปแต่ละตัวก็มีที่ออกไปถ่ายรูปได้หน่อยนึง แต่เราก็เดินยาวๆลงไปจนล่างสุดเลย เดินถ่ายรูปเรื่อยๆ

เราถ่ายรูปกันที่นี่ถึงประมาณ 11.30 ก็เดินทางต่อไป Moye Cliff Café ตอนนี้เราก็เริ่มหิวกันแล้ว ก็เลยบอกคุณจิว่าพอจะแวะร้านข้าวได้มั้ย คุณจิบอกว่า ที่ใต้ Moye ก็มีร้านข้าว แต่ข่าวร้ายคือ คาเฟ่ปิดปรับปรุง แต่สามารถถ่ายรูปได้อยู่ ตรงนี้คุณจิเสนอว่าจะพาเราไปคาเฟ่อีกที่นึง แต่คือเราไม่ไปค่ะ เพราะถ้าถ่ายรูปได้ก็โอเคอยู่
อยากบอกทุกคนว่า คิดไม่ผิดจริงๆที่มาที่นี่ รถขับต่อมาซักยี่สิบกว่านาทีก็ถึง เป็นที่ที่ประทับใจมากที่หนึ่งในทริปนี้ ดูรูปเอาเองแล้วกัน

เป็นการทานข้าวที่วิวหลักล้านมาก ถึงแม้คาเฟ่จะปิด แต่เดินขึ้นไปถ่ายรูปได้ และมีมุมถ่ายรูปมากกว่านี้ ด้านในคาเฟ่เขาจัดเก้าอี้ไว้ให้ถ่ายรูปได้มุมหนึ่ง แต่เราไม่ได้เข้าไปเพราะมีพส.จีนกำลังถ่ายรูปกันอยู่ กินข้าวเสร็จถ่ายรูปที่ร้านอาหาร ก็ประมาณบ่ายโมง แล้วเดินขึ้นไปถ่ายรูปที่คาเฟ่ด้านบนอีก ตอนนั้นน่าจะประมาณบ่าย 2 แล้ว ตามแพลนเดิมคือจะไปไป๋สุ่ยไถ แต่เราคิดว่าไม่ไปดีกว่า เหนื่อย 555 เลยบอกคุณจิว่าเสร็จจากนี่แล้วไปส่งที่เมืองเก่าแชงกรีล่าเลย เขาก็โอเคตามนั้น ออกจากคาเฟ่ขับรถมาเรื่อยๆ ประมาณ15.20 น. คนขับได้จอดพักลงไปสูบบุหรี่ และใช่ค่ะ มีห้องน้ำสาธารณะ

คุณจิได้บอกไว้ก่อนแล้วว่าให้เข้ามาจากที่เที่ยวให้เรียบร้อย ตอนนั้นเราก็ไม่ได้ปวดหรอก แต่แบบอยากลองเข้าไปดู มันเป็นยังไงน๊า ถ้าเข้าได้ก็ว่าจะเข้า แต่สรุป ไม่เข้าดีกว่า แล้วก็เดินกลับมาเล่าสิ่งที่เจอให้เพื่อนฟัง
“คือ จริงๆมันก็เป็นห้องน้ำธรรมดาแหละ แต่บางห้องมีประตูบ้าง บางห้องก็ไม่มี แล้วคนเยอะมากนะ ก็เข้ากันแบบนั้นแหละ555”
รถขับต่อมาเรื่อยๆประมาณ สี่โมงนิดๆ รถก็มาจอดในที่จอดรถแห่งหนึ่ง แล้วก็บอกให้เราเดินไป เพราะรถเข้าไม่ได้ ดูจากแผนที่แล้ว โรงแรมก็อยู่แถวๆนั้นแหละ เดินตรงเข้าไปไม่เกิน 150 เมตร ก็เจอทางเข้าโรงแรมอยู่ซ้ายมือ (แต่ในแผนที่หมุดดันอยู่ขวามือ)

เดินหน่อยเดียวก็เจอทางเข้าที่พักเหมือนรูปใน Trip เป๊ะ
โฮมสเตย์เฮลฟ์ แชงกรีลา สิ่งอำนวยความสะดวกออกซิเจน (Heiv Private Inn)
ข้อดีของที่นี่
1. พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ (คนที่เราเจอ ไม่รู้ใช่เจ้าของมั้ย)
2. ทำเลถือว่าดี เพราะไม่ไกลจากที่จอดรถ เดินไปวัดต้าฝอได้ อยู่ในเมืองเก่า
3. มีที่ซักผ้า ผงซักฟอกอะไรให้ฟรี อยู่ชั้น 2 (แต่เราไม่ได้ใช้)
4. มีเครื่องออกซิเจนให้ห้องละ 1 เครื่อง
5. พนักงานบริการดี พวกของใช้ต่างๆ ผ้าเช็ดตัวของใช้ขอเพิ่มได้ที่พนักงาน
6. ที่พักมีเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความร้อนที่พื้น มีผ้าปูเตียงไฟฟ้า
7. ชักโครกอัตโนมัติ
ข้อเสีย
1. ผ้าเช็ดตัวเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง แต่ขอได้เรื่อยๆ
2. ห้องไม่ใหญ่ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกครบ
3. ถ้าจะทำความสะอาดห้องต้องแจ้งพนักงานล่วงหน้า
4. ไม่มีสายชำระ
ข้อแนะนำ (โรงแรมบอกมา)
มาถึงแชงกรีลา อย่าอาบน้ำ สระผม อย่าดื่มแอลกอฮอล์ในคืนแรก อย่าเดินเร็วหรือออกกำลังกายหนัก เพื่อป้องกันอาการแพ้ที่ราบสูง
เราได้ห้อง ชั้น 1 ติดกัน 2 ห้อง จองแบบเตียงคู่ 1 ห้อง และเตียงเดี่ยวสองเตียงอีก 1 ห้อง

อีกห้องนึงเป็นเตียงเดี่ยว 2 เตียงจะกว้างกว่าหน่อยนึง อย่างอื่นเหมือนกันหมด
เข้าห้องเรียบร้อยแล้วก็ เดินไปวัดต้าฝอกัน จากโรงแรมเดินไปใกล้มาก แต่ทางเดินก็จะมีขึ้น ลงเนินบ้าง
เดินตามแผนที่ไปไม่น่าเกิน 300 เมตร ก็จะถึงทางเข้าวัด
วัดต้าฝอ (Dafo Temple) หรือวัดกุยชาน (Guishan Temple)
ถึงหน้าทางเข้าวัดแล้วไม่ใช่จะเดินเข้าไปเฉยๆได้นะ หน้าวัดจะมี คิวอาร์โค้ด ให้แสกน ทีนี้ต้องใช้มือถืออีกเครื่องช่วยกันแปล เหมือนเป็นการกรอกข้อมูลจองเวลาเข้าเยี่ยมชมวัด แต่เราสามารถจองตอนนั้นแล้วเข้าตอนนั้นได้เลย โดยเลือกเวลาที่เร็วที่สุด แล้วก็กรอกผู้เข้าชมทุกคน ชื่อนามสกุล เลขพาสปอต บลาๆๆๆ เสร็จแล้วจะได้คิวอาร์โค้ดสำหรับเข้าวัดมา คนละ 1 อัน จากนั้นก็ทำการแจกจ่ายคิวอาร์ให้แต่ละคน เพื่อแสกนเปิดประตูเข้าวัด เข้าไปแล้วจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ ผ่านประตูมาแล้ว ด่านแรกที่ต้องเจอคือ บันได

ค่อยๆเดิน เดินไปพักไป พกออกซิเจนไปด้วยก็ดีค่ะ ขึ้นมาถึงข้างบน ก็ตรงไปที่กงล้อยักษ์ ด้านบนมีช่างภาพรับจ้าง เยอะอยู่นะคะ

หลังลงจากวัดแล้วก็เดินหาของกินกัน ตรงหน้าวัดที่มีลานกว้างๆ ข้ามถนนไปจะเห็นตรงนี้

ด้านขวาในรูป ประตูเล็กๆเห็นมั้ยคะ คือ Hey Tea ข้างๆ Hey Tea จะมีบันไดเลื่อนลงไปข้างใน มี Super market ส่วนถ้าเดินตรงเข้าไปในประตูนี้ จะเป็นแหล่งรวม Street food มีร้านเยอะแยะมากมาย วันนี้ก็ฝากท้องกันที่นี่เลย

เสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นใน ซุปเปอร์มาร์เก็ต

จากนั้นก็เดินผ่านไปทางเมืองเก่าเพื่อเข้าโรงแรม แต่เด๋วก่อน ก่อนเข้าโรงแรม เราก็แวะไปร้านเช่าชุด เพื่อถามราคา ร้านที่เราจะเช่าก็คืออยู่ใกล้โรงแรมเราเลย ตรงร้าน Naixue แถวนี้มีหลายร้าน แนะนำให้เดินถามราคา เลือกชุดที่ถูกใจก่อน และอย่าลืม ถามค่ามัดจำด้วย เพราะแต่ละร้านเก็บค่ามัดจำไม่เท่ากัน เราก็เห็นว่าร้านใหญ่ดี ใกล้ที่พักเลยเลือก Ref. หน้าผมที่ต้องการ เพื่อให้เค้าเตรียมให้เรา จ่ายค่าจองไปก่อน 50 หยวน นัดเวลา 9 โมงเช้า แล้วก็เข้าที่พัก
จบวันที่ 4
อ่าว ตั้งได้วันละ 4 กระทู้หรอเนี่ย 5555
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อให้จะ เราเขียนจบแล้วแหละ
[CR] Review เที่ยวเอง คุนหมิง-ลี่เจียง-แชงกรีลา 7วัน 6 คืน งบ 25,000 บาท (Day 4)
**** วันนี้คุณจิย้ำกับเราว่า ให้เข้าห้องน้ำจากสถานที่ท่องเที่ยวให้พร้อมเลย****
ช่องแคบเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge )
รถพามาถึงช่องแคบเสือกระโจน ประมาณ 10 โมงเช้า คนขับจัดการไปซื้อตั๋วให้พวกเราคนละ 115 หยวน เป็นค่าเข้า + ค่าบันไดเลื่อน ที่นี่อากาศเย็นเพราะมีลม ตอนแรกเรากะว่าใส่ฮีทเทคตัวเดียวพอ ลงรถไปต้องวิ่งกลับมาเอาเสื้อกันหนาวอีกตัว เดินตามประชาชนลงบันไดไปก่อน ตรงนี้มีร้านไก่ทอด ห้องน้ำ ร้านขายน้ำ ไส้กรอก นิดหน่อย เสร็จแล้วก็เดินลงบันไดเลื่อนไป บันไดเลื่อนน่าจะมี 4 ตัว ลงไปแต่ละตัวก็มีที่ออกไปถ่ายรูปได้หน่อยนึง แต่เราก็เดินยาวๆลงไปจนล่างสุดเลย เดินถ่ายรูปเรื่อยๆ
เราถ่ายรูปกันที่นี่ถึงประมาณ 11.30 ก็เดินทางต่อไป Moye Cliff Café ตอนนี้เราก็เริ่มหิวกันแล้ว ก็เลยบอกคุณจิว่าพอจะแวะร้านข้าวได้มั้ย คุณจิบอกว่า ที่ใต้ Moye ก็มีร้านข้าว แต่ข่าวร้ายคือ คาเฟ่ปิดปรับปรุง แต่สามารถถ่ายรูปได้อยู่ ตรงนี้คุณจิเสนอว่าจะพาเราไปคาเฟ่อีกที่นึง แต่คือเราไม่ไปค่ะ เพราะถ้าถ่ายรูปได้ก็โอเคอยู่
อยากบอกทุกคนว่า คิดไม่ผิดจริงๆที่มาที่นี่ รถขับต่อมาซักยี่สิบกว่านาทีก็ถึง เป็นที่ที่ประทับใจมากที่หนึ่งในทริปนี้ ดูรูปเอาเองแล้วกัน
เป็นการทานข้าวที่วิวหลักล้านมาก ถึงแม้คาเฟ่จะปิด แต่เดินขึ้นไปถ่ายรูปได้ และมีมุมถ่ายรูปมากกว่านี้ ด้านในคาเฟ่เขาจัดเก้าอี้ไว้ให้ถ่ายรูปได้มุมหนึ่ง แต่เราไม่ได้เข้าไปเพราะมีพส.จีนกำลังถ่ายรูปกันอยู่ กินข้าวเสร็จถ่ายรูปที่ร้านอาหาร ก็ประมาณบ่ายโมง แล้วเดินขึ้นไปถ่ายรูปที่คาเฟ่ด้านบนอีก ตอนนั้นน่าจะประมาณบ่าย 2 แล้ว ตามแพลนเดิมคือจะไปไป๋สุ่ยไถ แต่เราคิดว่าไม่ไปดีกว่า เหนื่อย 555 เลยบอกคุณจิว่าเสร็จจากนี่แล้วไปส่งที่เมืองเก่าแชงกรีล่าเลย เขาก็โอเคตามนั้น ออกจากคาเฟ่ขับรถมาเรื่อยๆ ประมาณ15.20 น. คนขับได้จอดพักลงไปสูบบุหรี่ และใช่ค่ะ มีห้องน้ำสาธารณะ
คุณจิได้บอกไว้ก่อนแล้วว่าให้เข้ามาจากที่เที่ยวให้เรียบร้อย ตอนนั้นเราก็ไม่ได้ปวดหรอก แต่แบบอยากลองเข้าไปดู มันเป็นยังไงน๊า ถ้าเข้าได้ก็ว่าจะเข้า แต่สรุป ไม่เข้าดีกว่า แล้วก็เดินกลับมาเล่าสิ่งที่เจอให้เพื่อนฟัง
“คือ จริงๆมันก็เป็นห้องน้ำธรรมดาแหละ แต่บางห้องมีประตูบ้าง บางห้องก็ไม่มี แล้วคนเยอะมากนะ ก็เข้ากันแบบนั้นแหละ555”
รถขับต่อมาเรื่อยๆประมาณ สี่โมงนิดๆ รถก็มาจอดในที่จอดรถแห่งหนึ่ง แล้วก็บอกให้เราเดินไป เพราะรถเข้าไม่ได้ ดูจากแผนที่แล้ว โรงแรมก็อยู่แถวๆนั้นแหละ เดินตรงเข้าไปไม่เกิน 150 เมตร ก็เจอทางเข้าโรงแรมอยู่ซ้ายมือ (แต่ในแผนที่หมุดดันอยู่ขวามือ)
เดินหน่อยเดียวก็เจอทางเข้าที่พักเหมือนรูปใน Trip เป๊ะ
โฮมสเตย์เฮลฟ์ แชงกรีลา สิ่งอำนวยความสะดวกออกซิเจน (Heiv Private Inn)
ข้อดีของที่นี่
1. พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ (คนที่เราเจอ ไม่รู้ใช่เจ้าของมั้ย)
2. ทำเลถือว่าดี เพราะไม่ไกลจากที่จอดรถ เดินไปวัดต้าฝอได้ อยู่ในเมืองเก่า
3. มีที่ซักผ้า ผงซักฟอกอะไรให้ฟรี อยู่ชั้น 2 (แต่เราไม่ได้ใช้)
4. มีเครื่องออกซิเจนให้ห้องละ 1 เครื่อง
5. พนักงานบริการดี พวกของใช้ต่างๆ ผ้าเช็ดตัวของใช้ขอเพิ่มได้ที่พนักงาน
6. ที่พักมีเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความร้อนที่พื้น มีผ้าปูเตียงไฟฟ้า
7. ชักโครกอัตโนมัติ
ข้อเสีย
1. ผ้าเช็ดตัวเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง แต่ขอได้เรื่อยๆ
2. ห้องไม่ใหญ่ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกครบ
3. ถ้าจะทำความสะอาดห้องต้องแจ้งพนักงานล่วงหน้า
4. ไม่มีสายชำระ
ข้อแนะนำ (โรงแรมบอกมา)
มาถึงแชงกรีลา อย่าอาบน้ำ สระผม อย่าดื่มแอลกอฮอล์ในคืนแรก อย่าเดินเร็วหรือออกกำลังกายหนัก เพื่อป้องกันอาการแพ้ที่ราบสูง
เราได้ห้อง ชั้น 1 ติดกัน 2 ห้อง จองแบบเตียงคู่ 1 ห้อง และเตียงเดี่ยวสองเตียงอีก 1 ห้อง
อีกห้องนึงเป็นเตียงเดี่ยว 2 เตียงจะกว้างกว่าหน่อยนึง อย่างอื่นเหมือนกันหมด
เข้าห้องเรียบร้อยแล้วก็ เดินไปวัดต้าฝอกัน จากโรงแรมเดินไปใกล้มาก แต่ทางเดินก็จะมีขึ้น ลงเนินบ้าง
เดินตามแผนที่ไปไม่น่าเกิน 300 เมตร ก็จะถึงทางเข้าวัด
วัดต้าฝอ (Dafo Temple) หรือวัดกุยชาน (Guishan Temple)
ถึงหน้าทางเข้าวัดแล้วไม่ใช่จะเดินเข้าไปเฉยๆได้นะ หน้าวัดจะมี คิวอาร์โค้ด ให้แสกน ทีนี้ต้องใช้มือถืออีกเครื่องช่วยกันแปล เหมือนเป็นการกรอกข้อมูลจองเวลาเข้าเยี่ยมชมวัด แต่เราสามารถจองตอนนั้นแล้วเข้าตอนนั้นได้เลย โดยเลือกเวลาที่เร็วที่สุด แล้วก็กรอกผู้เข้าชมทุกคน ชื่อนามสกุล เลขพาสปอต บลาๆๆๆ เสร็จแล้วจะได้คิวอาร์โค้ดสำหรับเข้าวัดมา คนละ 1 อัน จากนั้นก็ทำการแจกจ่ายคิวอาร์ให้แต่ละคน เพื่อแสกนเปิดประตูเข้าวัด เข้าไปแล้วจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ ผ่านประตูมาแล้ว ด่านแรกที่ต้องเจอคือ บันได
ค่อยๆเดิน เดินไปพักไป พกออกซิเจนไปด้วยก็ดีค่ะ ขึ้นมาถึงข้างบน ก็ตรงไปที่กงล้อยักษ์ ด้านบนมีช่างภาพรับจ้าง เยอะอยู่นะคะ
หลังลงจากวัดแล้วก็เดินหาของกินกัน ตรงหน้าวัดที่มีลานกว้างๆ ข้ามถนนไปจะเห็นตรงนี้
ด้านขวาในรูป ประตูเล็กๆเห็นมั้ยคะ คือ Hey Tea ข้างๆ Hey Tea จะมีบันไดเลื่อนลงไปข้างใน มี Super market ส่วนถ้าเดินตรงเข้าไปในประตูนี้ จะเป็นแหล่งรวม Street food มีร้านเยอะแยะมากมาย วันนี้ก็ฝากท้องกันที่นี่เลย
เสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นใน ซุปเปอร์มาร์เก็ต
จากนั้นก็เดินผ่านไปทางเมืองเก่าเพื่อเข้าโรงแรม แต่เด๋วก่อน ก่อนเข้าโรงแรม เราก็แวะไปร้านเช่าชุด เพื่อถามราคา ร้านที่เราจะเช่าก็คืออยู่ใกล้โรงแรมเราเลย ตรงร้าน Naixue แถวนี้มีหลายร้าน แนะนำให้เดินถามราคา เลือกชุดที่ถูกใจก่อน และอย่าลืม ถามค่ามัดจำด้วย เพราะแต่ละร้านเก็บค่ามัดจำไม่เท่ากัน เราก็เห็นว่าร้านใหญ่ดี ใกล้ที่พักเลยเลือก Ref. หน้าผมที่ต้องการ เพื่อให้เค้าเตรียมให้เรา จ่ายค่าจองไปก่อน 50 หยวน นัดเวลา 9 โมงเช้า แล้วก็เข้าที่พัก
จบวันที่ 4
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้