เเนวทางการต่อสู้ สำหรับพนักงาน ซัพคอนเเทค , จ้างเหมาค่าแรง,เอาท์ซอร์สที่ถูกเลิกจ้างช่วง COVID

เมือท่านได้รับจดหมายเลิกจ้าง 

นายจ้างจะจ่ายเงินค่าชดเชยเลิกจ้าง

           เพิ่มอัตราค่าชดเชยเลิกจ้างให้กับลูกจ้างที่ทำงานตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป จะได้ค่าชดเชยอัตราเพิ่มเป็น 400 วัน จากเดิม 300 วัน 

           ทั้งนี้ จะทำให้หลักเกณฑ์ใหม่ในการจ่ายค่าชดเชยเลิกจ้าง แบ่งออกเป็น ดังนี้ 

           1. ทำงานต่อเนื่องครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี ได้ค่าชดเชย 30 วัน 

           2. ทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ได้รับค่าชดเชย 90 วัน 

           3. ทำงานครบ 3 ปี แต่ไม่เกิน 6 ปี ได้ค่าชดเชย 180 วัน

           4. ทำงานครบ 6 ปี แต่ไม่เกิน 8 ปี ได้ค่าชดเชย 240 วัน 

           5. ทำงานครบ 10 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี ได้ค่าชดเชย 300 วัน 

           6. ทำงานครบ 20 ปี จะได้รับค่าชดเชย 400 วัน

เเต่ .............    ในกฎหมายระบุไว้ว่า พนักงานจ้างเหมาค่าแรง(เอาท์ซอร์ส) จะต้องได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการอย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติเช่นเดียวกับพนักงานประจำ ตามคำ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22326-220404/2555

ดังนั้น  เมื่อพวกท่านได้ทำงานมาเป็นระยะเวลานานหลายปี เเละไม่เคยได้รับโบนัส เเละ สวัสดิการ ใดๆ เทียบเท่าพนักงานประจำเลย  เช่น 
-ทำงานเป็นซัพมานาน 3-5 ปี   ได้รับโบนัส ปีละ 8,000- 10,000 หมื่นบาท  เเต่ พนักงานประจำ ได้โบนัสปีละ 3-5 เดือน + เงินบวก 5-6 หมื่น  เป็นเงิน 80,000-100,000 บาท/ปี
-ทำงานเป็นซัพมานาน 3-5 ปี   ไม่เคยได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลเลย  เเต่พนักงานได้รับเงินค่ารักษาพยาบาล ปีล่ะ 2หมื่นบาท  

เเนวทางการต่อสู้ คือ ให้ท่านรวมตัวกัน ระหว่างพนักงานซัพที่อายุงานเยอะๆ หรือรวมตัวกันจ้างทนาย   เเจ้งเรื่องต่อเจ้า “พนักงานตรวจแรงงาน”  ประจำจังหวัด     ว่าท่าน ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เป็นธรรมจากนายจ้าง  ตาม มาตรา 11/1 ที่ระบุไว้ว่า "พนักงานจ้างเหมาค่าแรง(เอาท์ซอร์ส) จะต้องได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการอย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติเช่นเดียวกับพนักงานประจำ"   

เมื่อเ“พนักงานตรวจแรงงาน”  ประจำจังหวัด  ได้รับเรื่อง  จะมีการเข้ามาตรวจสอบที่ทำงาน  เเละ นายจ้างที่กำลังเลิกจ้างท่าน จะไม่สามารถเลิกจ้างท่านใดตามประกาศ เพราะว่า นายจ้างทำผิดข้อกฎหมายยังค้างจ่ายเงิน สวัสดิการท่านย้อนหลัง  ต้องให้ข้อพิพาทเรื่องนี้สิ้นสุดก่อน ถึงจะเลิกจ้างได้ตามสิทธิ์ของนายจ้าง      

เมื่อท่านต่อสู้ในข้อ กฎหมาย ตาม มาตรา 11/1   นายจ้างที่ไล่ท่านออกจะไม่ยอมรับ เเละจะยื้อเอาเรื่องพิพาทขึ้นศาลเเรงงาน  พวกท่านต้องอดทนหน่อย  อาจรวมตัวกันจ้างทนายต่อสู้เเทน   ยังใงๆ พวกท่านก็ชนะ   จะได้รับเงินเลิกจ้างอย่างเป็นธรรม เเละจะได้สวัสดิการโบนัส ย้อนหลังคืนเทียบเท่าพนักงานประจำที่เคยได้    หรือบางท่านที่นายจ้างต้องจ่ายเงินคืนย้อนหลังให้เยอะๆเป็นจำนวนหลายเเสนบาท อาจถูกเรียกกลับไปทำงานดังเดิม    

หากพวกท่านไม่ต่อสู้ตาม เเนวทางข้อนี้ ท่านจะถูกเลิกจ้าง ตกงาน  เเละไม่ได้รับเงิน โบนัส + สวัสดิการ ย้อนหลัง   ตามสิทธิ์ที่ท่านควรได้อีกเลย  

ข้อกฎหมาย
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 แก้ไขเพิ่มเติมพรบ.คุ้มครองแรงงาพ.ศ.2541 มีเรื่องสำคัญ คือ การให้การคุ้มครองลูกจ้างรับเหมาค่าแรง โดยที่บริษัทผู้รับเหมาแรงงานส่งพนักงานเข้าไปทำงานร่วมกับลูกจ้างประจำของสถานประกอบการ ในข้อกฎหมาย มาตรา 11/1ได้กำหนดให้ปฏิบัติ ดังนี้ 
 
 
         “ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการมอบหมายให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นผู้จัดหาคนมาทำงานอันมิใช่การประกอบธุรกิจจัดหางาน โดยการทำงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในกระบวน การผลิต หรือธุรกิจในความรับผิดชอบของผู้ประกอบกิจการ และโดยบุคคลนั้นจะเป็นผู้ควบคุมดูแลการทำงาน หรือรับผิดชอบในการจ่ายค่าจ้างให้แก่คนที่มาทำงานนั้น หรือไม่ก็ตาม ให้ถือว่าผู้ประกอบกิจการเป็นนายจ้างของคนที่มาทำงานดังกล่าว ให้ผู้ประกอบกิจการดำเนินการให้ลูกจ้างรับเหมาค่าแรง ที่ทำงานในลักษณะเดียวกันกับลูกจ้างตามสัญญาจ้างโดยตรง ได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เป็นธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ” ทั้งนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 2551เป็นต้นมา

พนักงานจ้างเหมาค่าแรง(เอาท์ซอร์ส) จะต้องได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการอย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติเช่นเดียวกับพนักงานประจำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22326-220404/2555

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่