วันนี้ จขกท พาทำเมนูสุขภาพค่ะ อยู่บ้านทั้งวันพอมีเวลาอยู่กับตัวเองและครอบครัวมากขึ้น เราก็มีเวลาทำกับข้าว มากขึ้น ตอนนี้เมนูไหนอยากกินต้องทำเองหมด เพราะร้านอาหารทยอยปิดกันหมดแล้ว 555 จขกท ใช้ปลาสองแบบนะคะ เพราะอยู่ต่างบ้านต่างเมืองปลาทับทิมกับปลานิลหายากค่ะ เลยเอามาทั้ง 2 ชนิดเลยจะได้รู้ว่าอันไหนอร่อย
วัตถุดิบ
- ปลาเก๋า 1 ตัว
- ปลากระพง 1 ตัว
- ตะไคร้ 4 ต้น
- กระเทียมไทย 2-3 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูด 8 ใบ
- ข่าหั่นหั่นเป็นชิ้น 4 ชิ้น
- เหลือทะเล 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
- ผักกะหล่ำ
- ผักบุ้ง
- มะเขือเปราะ
- เห็ดนางฟ้า
ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว
- มะเขือเทศ 4 ลูก
- กระเทียมไทยปลอกเปลือก 1.5 ช้อนโต๊ะ
- พริก 15-20 เม็ด
- หอมแดง 5-8 หัว
- น้ำปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือทะเล 1 ช้อนชา
- น้ำปลา 1-2 ช้อนชา
- น้ำมะขามเปียก 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 0.5-1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
เริ่มจากปลา เนื่องจาก จขกท ซื้อปลาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต เขาจะทำความสะอาดและบั้งปลาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ พอถึงบ้านปุ๊บ จขกท ก็ล้างทำความสะอาดอีกรอบจากนั้นก็หั่นตะไคร้ 2 ต้น ตำรวมกับกระเทียมให้พอหยาบๆ ตักใส่ชามสำหรับจะใช้หมักปลา ใส่ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส เกลือทะเล ชิมน้ำซอสก่อนว่าได้รสชาติที่ถูกใจไหม แล้วค่อยใส่ปลาลงไปคลุกกับน้ำซอสอีกที หลังจากนั้นให้เอาใบมะกรูดข่าและตะไคร้ที่เหลือทุบพอแตกยัดใส่ในท้องปลาเลยค่ะ ให้หมักปลาไว้สัก 1-2 ชม.
พอหมักปลาเสร็จเราก็มาเตรียมผักที่จะนึ่งทานกับปลาต่อเลย ก็จะได้ประมาณนี้ค่ะ
พอเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้วเอาหม้อนึ่งใส่น้ำตั้งไฟรอให้น้ำเดือดก่อนแล้วค่อยตั้งซึ้งนึ่งปลาลงไป อย่าลืมปิดฝาหม้อนะคะ
นึ่งปลาได้ประมาณ 5-7 นาที แล้วใส่ซึ้งที่จะนึ่งผักลงไปเลยค่ะ ปิดฝาหม้อนึ่งปลาและผักต่ออีกประมาณ 10 นาที(จริงๆควรจะเอาชั้นซึ้งที่นึ่งปลาขึ้นไว้บนซึ้งผักนะคะ ตอน จขกท ถ่ายรูป เรียงซึ้งปลากับซึ้งผักสลับกันค่ะ)
วิธีเช็คว่าปลาสุกหรือยังให้นำซ่อมจิ้มไปที่ตัวปลา เวลาแทะเนื้อปลา เนื้อปลาจะหลุดออกจากกระดูกปลาอย่างง่ายดาย แสดงว่าปลาสุกแล้วค่ะ
วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว
ให้นำพริก กระเทียม หอมแดง มาคั่วในกระทะ ใช้ไฟค่อนไปทางอ่อน
คั่วสุกประมาณนี้เป็นอันใช้ได้ค่ะ
ต่อจากนั้นคั่วมะเขือเทศต่อเลยค่ะ
มะเขือเทศเราจะคั่วให้ได้กลิ่นไหม้นิดนึง จะได้ลอกเปลือกออกได้ง่ายค่ะ
พอได้ส่วนผสมทุกอย่างแล้วนำกระเทียมพริกหอมแดงมาตำก่อนค่ะ พอตำละเอียดแล้วให้ลอกเปลือกมะเขือเทศออกแล้วตำรวมกันเลยค่ะ
หลังจากนั้นปรุงรสน้ำจิ้มแจ่วด้วย น้ำปลาร้า น้ำปลา เกลือ น้ำตาลปิ๊บ น้ำมะขามเปียก ชิมดูว่าขาดอะไรไหม สามารถเพิ่มได้ตามต้องการค่ะ
ปลานึ่งสมุนไพรของเราก็เสร็จพร้อมทานกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยก็อร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ ส่วนใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ เมนูนี้ จขกท ขอแอบเชียร์เลยนะคะ ได้ทั้งความอิ่มได้ทั้งสุขภาพด้วยค่ะ
ปลานึ่ง...น้ำพริกแจ่วพร้อมผักนึ่ง
วันนี้ จขกท พาทำเมนูสุขภาพค่ะ อยู่บ้านทั้งวันพอมีเวลาอยู่กับตัวเองและครอบครัวมากขึ้น เราก็มีเวลาทำกับข้าว มากขึ้น ตอนนี้เมนูไหนอยากกินต้องทำเองหมด เพราะร้านอาหารทยอยปิดกันหมดแล้ว 555 จขกท ใช้ปลาสองแบบนะคะ เพราะอยู่ต่างบ้านต่างเมืองปลาทับทิมกับปลานิลหายากค่ะ เลยเอามาทั้ง 2 ชนิดเลยจะได้รู้ว่าอันไหนอร่อย
วัตถุดิบ
- ปลาเก๋า 1 ตัว
- ปลากระพง 1 ตัว
- ตะไคร้ 4 ต้น
- กระเทียมไทย 2-3 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูด 8 ใบ
- ข่าหั่นหั่นเป็นชิ้น 4 ชิ้น
- เหลือทะเล 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
- ผักกะหล่ำ
- ผักบุ้ง
- มะเขือเปราะ
- เห็ดนางฟ้า
ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว
- มะเขือเทศ 4 ลูก
- กระเทียมไทยปลอกเปลือก 1.5 ช้อนโต๊ะ
- พริก 15-20 เม็ด
- หอมแดง 5-8 หัว
- น้ำปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือทะเล 1 ช้อนชา
- น้ำปลา 1-2 ช้อนชา
- น้ำมะขามเปียก 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 0.5-1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
เริ่มจากปลา เนื่องจาก จขกท ซื้อปลาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต เขาจะทำความสะอาดและบั้งปลาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ พอถึงบ้านปุ๊บ จขกท ก็ล้างทำความสะอาดอีกรอบจากนั้นก็หั่นตะไคร้ 2 ต้น ตำรวมกับกระเทียมให้พอหยาบๆ ตักใส่ชามสำหรับจะใช้หมักปลา ใส่ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส เกลือทะเล ชิมน้ำซอสก่อนว่าได้รสชาติที่ถูกใจไหม แล้วค่อยใส่ปลาลงไปคลุกกับน้ำซอสอีกที หลังจากนั้นให้เอาใบมะกรูดข่าและตะไคร้ที่เหลือทุบพอแตกยัดใส่ในท้องปลาเลยค่ะ ให้หมักปลาไว้สัก 1-2 ชม.
พอหมักปลาเสร็จเราก็มาเตรียมผักที่จะนึ่งทานกับปลาต่อเลย ก็จะได้ประมาณนี้ค่ะ
พอเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้วเอาหม้อนึ่งใส่น้ำตั้งไฟรอให้น้ำเดือดก่อนแล้วค่อยตั้งซึ้งนึ่งปลาลงไป อย่าลืมปิดฝาหม้อนะคะ
นึ่งปลาได้ประมาณ 5-7 นาที แล้วใส่ซึ้งที่จะนึ่งผักลงไปเลยค่ะ ปิดฝาหม้อนึ่งปลาและผักต่ออีกประมาณ 10 นาที(จริงๆควรจะเอาชั้นซึ้งที่นึ่งปลาขึ้นไว้บนซึ้งผักนะคะ ตอน จขกท ถ่ายรูป เรียงซึ้งปลากับซึ้งผักสลับกันค่ะ)
วิธีเช็คว่าปลาสุกหรือยังให้นำซ่อมจิ้มไปที่ตัวปลา เวลาแทะเนื้อปลา เนื้อปลาจะหลุดออกจากกระดูกปลาอย่างง่ายดาย แสดงว่าปลาสุกแล้วค่ะ
วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว
ให้นำพริก กระเทียม หอมแดง มาคั่วในกระทะ ใช้ไฟค่อนไปทางอ่อน
คั่วสุกประมาณนี้เป็นอันใช้ได้ค่ะ
ต่อจากนั้นคั่วมะเขือเทศต่อเลยค่ะ
มะเขือเทศเราจะคั่วให้ได้กลิ่นไหม้นิดนึง จะได้ลอกเปลือกออกได้ง่ายค่ะ
พอได้ส่วนผสมทุกอย่างแล้วนำกระเทียมพริกหอมแดงมาตำก่อนค่ะ พอตำละเอียดแล้วให้ลอกเปลือกมะเขือเทศออกแล้วตำรวมกันเลยค่ะ
หลังจากนั้นปรุงรสน้ำจิ้มแจ่วด้วย น้ำปลาร้า น้ำปลา เกลือ น้ำตาลปิ๊บ น้ำมะขามเปียก ชิมดูว่าขาดอะไรไหม สามารถเพิ่มได้ตามต้องการค่ะ
ปลานึ่งสมุนไพรของเราก็เสร็จพร้อมทานกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยก็อร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ ส่วนใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ เมนูนี้ จขกท ขอแอบเชียร์เลยนะคะ ได้ทั้งความอิ่มได้ทั้งสุขภาพด้วยค่ะ