สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
แล้วถ้าจะให้ตรวจทุกคน เรามีทรัพยากรพอใหมครับ
และใครจะเป็นคนทำครับ ภาระจะอยู่กับใคร ตรวจแล้วตรวจอีก ตรวจแล้วตรวจอีกได้ใหม ตรวจแล้วไม่ติดแล้วคิดว่าจะออกไปลัลล้า ไม่ใส่หน้ากาก จะไม่ติดอีกใช่ใหม
ไม่ต้องการเมืองหรอก แต่ถามในความเป็นจริงคิดว่าตรวจทุกคน เป็นไปได้รึเปล่า? แค่นั้นแหละ
คนออกความเห็นกับคนลงมือทำ มันคิดไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
และใครจะเป็นคนทำครับ ภาระจะอยู่กับใคร ตรวจแล้วตรวจอีก ตรวจแล้วตรวจอีกได้ใหม ตรวจแล้วไม่ติดแล้วคิดว่าจะออกไปลัลล้า ไม่ใส่หน้ากาก จะไม่ติดอีกใช่ใหม
ไม่ต้องการเมืองหรอก แต่ถามในความเป็นจริงคิดว่าตรวจทุกคน เป็นไปได้รึเปล่า? แค่นั้นแหละ
คนออกความเห็นกับคนลงมือทำ มันคิดไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 3
แต่ยอดผู้เสียชีวิต น่าจะเป็นดัชนี บอกอย่างหนึ่งได้นะครับ ผมว่า
ลองดู หลายประเทศ ยอดผู้เสียชีวิต คือ หลายพันคนแล้ว
หากประเทศไทย ตรวจน้อย แต่ถ้ายอดผู้เสียชีวิต(ด้วยโควิด) เพิ่มขึ้นเป็นหลายร้อย ประเด็นนี้ ว่าตรวจน้อยก็เลยเจอน้อย ก็มีเหตุผลนะครับ
แต่นี่ ตรวจน้อย เจอน้อย แล้วก็เสียชีวิตน้อย ก็แสดงว่า คนป่วยน่าจะน้อยจริงๆ ครับผมว่า
ลองดู หลายประเทศ ยอดผู้เสียชีวิต คือ หลายพันคนแล้ว
หากประเทศไทย ตรวจน้อย แต่ถ้ายอดผู้เสียชีวิต(ด้วยโควิด) เพิ่มขึ้นเป็นหลายร้อย ประเด็นนี้ ว่าตรวจน้อยก็เลยเจอน้อย ก็มีเหตุผลนะครับ
แต่นี่ ตรวจน้อย เจอน้อย แล้วก็เสียชีวิตน้อย ก็แสดงว่า คนป่วยน่าจะน้อยจริงๆ ครับผมว่า
ความคิดเห็นที่ 24
ตามที่ คห 20 นำมาแสดง ที่จริงตัวเลขตรวจ และคัดกรองว่า PUI ของกระทรวงสาธารณสุข ประมาณ 20000 กว่าราย
แต่ยังมีสถาบันอื่นๆอีก ทำให้มีผู้ป่วย PUI ทั้งประเทศที่ได้รับการตรวจ PCR อยู่ 71840 test ณวันที่ 4
แต่พบว่ามี positive ในวันนั้นจำว่ายังไม่ถึง 2000 คน
หมายความว่าตรวจ เป็นบวก อยู่ ไม่ถีง 3% ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
แม้เราจะตรวจจะเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงก็ตาม แต่ถ้าตรวจหมดที่อยากตรวจ ตัวเลขย่อมน้อยกว่านี้
ก็ต้องมาดูแล้วว่าเหมาะสมหรือไม่ คุ้มค่าหรือไม่ ที่ต้องใช้งบประมาณ ใช้บุคลากรมหาศาลไปทำที่ได้ผลต่ำ
แทนที่จะเอางบ และบุคลากรไปดูผู้ป่วยหรือป้องกันไม่ให้เกิดการระบาด
หลายคนอาจไม่ได้คิดนะ หลายประเทศที่ตรวจมาก แน่นอนเจอผู้ป่วยมาก แต่กลับพบผู้ป่วย
ที่อาการรุนแรง และอัตราตายสูง เช่นอเมริกา อิตาลีหรือ สเปน
ดังนั้นการตรวจมาก ไม่ได้เป็นตัวชี้ว่าประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการรักษาและลดอัตราตายจะดีนะ
ขณะที่ญี่ปุ่นเองหรือไทยที่ยังตรวจมากกว่าญี่ปุ่นด้วยซ้ำ แม้ดูว่าผู้ป่วยไม่มาก และอาจมีผู้ป่วยติดเชื้อแฝงที่ไม่ได้ตรวจ
แต่ข้อเท็จจริงคือผู้ป่วยที่รุนแรงแม้มากกว่าไทย แต่ก็น้อยกว่าอเมริกา อิตาลี สเปนหรือยุโรปเยอะ
ยิ่งมาดูอัตราการเสียชีวิต ยิ่งชัดเจนว่าต่ำกว่ากันมากเหมือนไทย
และอยากบอกว่า การที่คนไทยตอนนี้มีความตระหนักในการป้องกันมากขึ้น
เราจะเห็นการใส่แมส การเว้นระยะห่าง การล้างมือ การกินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัวมากขึ้น
การเคลื่อนย้ายของคนน้อยลงมาก ผู้สูงอายุมีการปกป้องที่ดีขึ้น
แม้ว่ามีคนที่ยังคงไม่ตระหนัก ยังกระทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมอยู่ แต่ตอนนี้ก็เป็นส่วนน้อยแล้ว
ดังนั้นข้อสังเกตคือมีคนที่ถูกกำหนดให้เป็น PUI น้อยลง แม้ปรับเกณฑ์ให้กว้างมากขึ้นแล้วก็ตาม
เมื่อมี PUI น้อยลงก็ตรวจน้อยลงไปอีก
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่ ให้ความร่วมมือกันอย่างดี แตกต่างจากอเมริกาและยุโรป
ทำให้สถานการณ์ของไทยดูดีขึ้นครับ
แต่ยังมีสถาบันอื่นๆอีก ทำให้มีผู้ป่วย PUI ทั้งประเทศที่ได้รับการตรวจ PCR อยู่ 71840 test ณวันที่ 4
แต่พบว่ามี positive ในวันนั้นจำว่ายังไม่ถึง 2000 คน
หมายความว่าตรวจ เป็นบวก อยู่ ไม่ถีง 3% ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
แม้เราจะตรวจจะเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงก็ตาม แต่ถ้าตรวจหมดที่อยากตรวจ ตัวเลขย่อมน้อยกว่านี้
ก็ต้องมาดูแล้วว่าเหมาะสมหรือไม่ คุ้มค่าหรือไม่ ที่ต้องใช้งบประมาณ ใช้บุคลากรมหาศาลไปทำที่ได้ผลต่ำ
แทนที่จะเอางบ และบุคลากรไปดูผู้ป่วยหรือป้องกันไม่ให้เกิดการระบาด
หลายคนอาจไม่ได้คิดนะ หลายประเทศที่ตรวจมาก แน่นอนเจอผู้ป่วยมาก แต่กลับพบผู้ป่วย
ที่อาการรุนแรง และอัตราตายสูง เช่นอเมริกา อิตาลีหรือ สเปน
ดังนั้นการตรวจมาก ไม่ได้เป็นตัวชี้ว่าประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการรักษาและลดอัตราตายจะดีนะ
ขณะที่ญี่ปุ่นเองหรือไทยที่ยังตรวจมากกว่าญี่ปุ่นด้วยซ้ำ แม้ดูว่าผู้ป่วยไม่มาก และอาจมีผู้ป่วยติดเชื้อแฝงที่ไม่ได้ตรวจ
แต่ข้อเท็จจริงคือผู้ป่วยที่รุนแรงแม้มากกว่าไทย แต่ก็น้อยกว่าอเมริกา อิตาลี สเปนหรือยุโรปเยอะ
ยิ่งมาดูอัตราการเสียชีวิต ยิ่งชัดเจนว่าต่ำกว่ากันมากเหมือนไทย
และอยากบอกว่า การที่คนไทยตอนนี้มีความตระหนักในการป้องกันมากขึ้น
เราจะเห็นการใส่แมส การเว้นระยะห่าง การล้างมือ การกินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัวมากขึ้น
การเคลื่อนย้ายของคนน้อยลงมาก ผู้สูงอายุมีการปกป้องที่ดีขึ้น
แม้ว่ามีคนที่ยังคงไม่ตระหนัก ยังกระทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมอยู่ แต่ตอนนี้ก็เป็นส่วนน้อยแล้ว
ดังนั้นข้อสังเกตคือมีคนที่ถูกกำหนดให้เป็น PUI น้อยลง แม้ปรับเกณฑ์ให้กว้างมากขึ้นแล้วก็ตาม
เมื่อมี PUI น้อยลงก็ตรวจน้อยลงไปอีก
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่ ให้ความร่วมมือกันอย่างดี แตกต่างจากอเมริกาและยุโรป
ทำให้สถานการณ์ของไทยดูดีขึ้นครับ
ความคิดเห็นที่ 16
คุณว่าจำนวนผู้ติดเชื้อของอเมริกา อิตาลี เสปน อังกฤษ สะท้อนความจริงไหมล่ะ?
ไม่...คุณก็รู้ ใครก็รู้
เอาจริงๆ แม้ตรวจทุกคน ก็ไม่สะท้อนความจริงครับ
เพราะคนที่ตรวจแล้วไม่ได้แปลว่าจะติดเขื้อไม่ได้
ถ้าทำแบบจขกทคิดคือตรวจ 100% และตรวจทุกวัน ให้ใกล้ผลแบบ real time ซึ่งมันทำไม่ได้
ผลคือทุกประเทศ ผู้ติดเขื้อจะต่ำกว่าความจริงเสมอ ถ้าจขดทพูดในแง่นี้ทุกคนจะเข้าใจ
สำหรับไทย เรามีเกณฑ์อยู่ แต่ทีการปลดล๊อกระดับนึง จะมีการตรวจละเอียดในกลุ่มเสี่ยงมากขึ้น
มีข่าวดีคือเรากำลังผลิตชุดตรวจได้เองแล้ว
จำนวนคาดว่าเดือนละเเสนชุด
ไม่...คุณก็รู้ ใครก็รู้
เอาจริงๆ แม้ตรวจทุกคน ก็ไม่สะท้อนความจริงครับ
เพราะคนที่ตรวจแล้วไม่ได้แปลว่าจะติดเขื้อไม่ได้
ถ้าทำแบบจขกทคิดคือตรวจ 100% และตรวจทุกวัน ให้ใกล้ผลแบบ real time ซึ่งมันทำไม่ได้
ผลคือทุกประเทศ ผู้ติดเขื้อจะต่ำกว่าความจริงเสมอ ถ้าจขดทพูดในแง่นี้ทุกคนจะเข้าใจ
สำหรับไทย เรามีเกณฑ์อยู่ แต่ทีการปลดล๊อกระดับนึง จะมีการตรวจละเอียดในกลุ่มเสี่ยงมากขึ้น
มีข่าวดีคือเรากำลังผลิตชุดตรวจได้เองแล้ว
จำนวนคาดว่าเดือนละเเสนชุด
แสดงความคิดเห็น
การที่เราไม่เชื่อยอดที่แถลงออกมาว่าลดลง เพราะเราเชื่อว่าผู้ที่ได้รับการตรวจมีน้อยลง ก็หาว่าเราไม่เชื่อรัฐบาล
รู้แค่ว่าทุกวันนี้ ยอดผู้ได้ตรวจน้อยลงมาก เพราะน้ำยาที่ใช้ตรวจไม่ได้มีมาก
จึงจำกัดให้ผู้ตรวจเฉพาะคนที่เสี่ยงจริงๆ
ใครมีอาการไข้สูง ก็จับ X RAY ปอดก่อน ถ้าปอดปกติ ก็ไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อ
ดังนั้นผลที่ออกมามันจึงลดลง แต่ถ้าถามว่าถ้าทุกคนได้รับการตรวจอย่างทั่วถึง
เราจะเจอคนที่ติดเชื้อมากกว่านี้ไหม รับรองว่าเจอยอดเยอะกว่านี้แน่นอน
กลายเป็นว่า คนที่มีความคิดแบบนี้เป็นคนไม่ดี ไม่รู้จักเชื่อรัฐบาล