💵 ทำไม “ออมเงินบาท” อาจไม่เพียงพอ — และเราควรมองหาสินทรัพย์ที่โตตามเงินเฟ้อ

ลองถามตัวเองตรง ๆ ดูครับว่า…
“เงินที่เราถืออยู่ทุกวันนี้ ยังรักษากำลังซื้อในอีก 5–10 ปีข้างหน้าได้หรือเปล่า?”
🌀 เงินบาทไม่ได้สร้างจากทองคำ — มันเกิดจาก USD
ตั้งแต่ประเทศไทยยกเลิกระบบ Gold Standard ในช่วงปี 1970 เงินบาทไม่ได้มีทองคำค้ำอีกต่อไป
แต่ถูกอิงกับสกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยการพิมพ์เงิน (Money Printing / QE) จากธนาคารกลาง
แปลว่า...
เมื่อ USD ถูกพิมพ์เพิ่มอย่างไม่จำกัด
เงินบาทก็แท้จริง ถูกสร้างขึ้นจากสิ่งที่ถูกพิมพ์เพิ่มได้นั่นเอง
---
💸 พิมพ์มาก = ทุกอย่างถูกลง
ลองนึกภาพ: ถ้าในโลกมี "ยางพารา" เยอะเกิน ราคามันต้องตก
เช่นเดียวกับเงิน ที่พิมพ์ออกมามากเกินจำเป็น
กำลังซื้อของเงิน จะลดลง
ทุกครั้งที่รัฐบาลพิมพ์เงินมากขึ้น
คนก็จะซื้อสินทรัพย์ที่ สามารถรักษามูลค่าได้ เช่น ทองคำ หุ้น หรือ Bitcoin
เพราะ:
เงินฝาก = ดอกเบี้ยต่ำ
ทองคำ = มีประวัติรักษามูลค่ามายาวนาน
Bitcoin = จำกัดจำนวน และไม่สามารถพิมพ์เพิ่มได้
---
📉 เหมือน “เสพยา” ที่เลิกไม่ได้
นโยบายพิมพ์เงินอาจดูช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
แต่เมื่อรัฐเลิกพิมพ์ทันที:
อาจเกิดการช็อกทางเศรษฐกิจ (แปลว่าอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น รัฐบาล-ธุรกิจพัง)
นักลงทุนและผู้ประกอบการพึ่งพิงการอัดฉีดเงินนี้มากไป
นี่คือสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์เปรียบว่า
“รัฐแทบไม่สามารถเลิกพิมพ์เงินได้ เพราะตลาดพึ่งพาไปแล้ว”
---
🚀 แล้วทางออกคืออะไร?
✅ กระจายความเสี่ยง (Diversification)
ไม่ควรเก็บเงินใน “บัญชีเงินบาท” ทั้งหมด
ควรมีบางส่วนใน สินทรัพย์ที่โตตามอัตราการพิมพ์เงิน เช่น:
💛 Gold (ทองคำ)
📈 Stocks (หุ้นรายใหญ่ หรือหุ้นที่จ่ายปันผล)
₿ Bitcoin (ด้วยข้อจำกัด Supply จำนวน 21 ล้านเหรียญ)
✅ ลงทุนเป็นระบบ (DCA)
ไม่ต้องซื้อครั้งเดียวเยอะ
แต่ซื้อประจำ เช่น เดือนละ 500–1,000 บาท ไปเรื่อย ๆ
✅ เรียนรู้ก่อนลงทุน
ทำความเข้าใจความเสี่ยงของแต่ละสินทรัพย์
ไม่ควรลงทุนเพราะเทรนด์ แต่ลงทุนด้วยความรู้
---
🔚 สรุปความคิด:
> เราอาจรักษารายได้ด้วยการทำงานหนัก
แต่ถ้าเราไม่รักษามูลค่าของเงินที่หามา
วันที่มี รายได้เท่าเดิม...แต่เงินซื้อได้น้อยลง
นั่นไม่ใช่ความมั่งคั่ง...แต่คือความเสื่อมค่าของเงิน
เวลาเงินเฟ้อเดินหน้า
เราจึงควรออมในสิ่งที่ “ไม่ถูกพิมพ์เพิ่ม”
— เพื่อให้ปัจจุบันที่เราเสี่ยง “เสื่อมค่า” ได้น้อยที่สุด
และให้อนาคตของเราเติบโตอย่างมีคุณค่า
---
💬 คุณคิดว่า…
"การออมในบาท" ยังเพียงพอไหม สำหรับอนาคตที่เงินบาทอาจไม่ทนต่อเงินเฟ้อ?
#soundmoneyzap #siamstr #bitcoin
ทำไม “ออมเงินบาท” อาจไม่เพียงพอ — และเราควรมองหาสินทรัพย์ที่โตตามเงินเฟ้อ
ลองถามตัวเองตรง ๆ ดูครับว่า…
“เงินที่เราถืออยู่ทุกวันนี้ ยังรักษากำลังซื้อในอีก 5–10 ปีข้างหน้าได้หรือเปล่า?”
🌀 เงินบาทไม่ได้สร้างจากทองคำ — มันเกิดจาก USD
ตั้งแต่ประเทศไทยยกเลิกระบบ Gold Standard ในช่วงปี 1970 เงินบาทไม่ได้มีทองคำค้ำอีกต่อไป
แต่ถูกอิงกับสกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยการพิมพ์เงิน (Money Printing / QE) จากธนาคารกลาง
แปลว่า...
เมื่อ USD ถูกพิมพ์เพิ่มอย่างไม่จำกัด
เงินบาทก็แท้จริง ถูกสร้างขึ้นจากสิ่งที่ถูกพิมพ์เพิ่มได้นั่นเอง
---
💸 พิมพ์มาก = ทุกอย่างถูกลง
ลองนึกภาพ: ถ้าในโลกมี "ยางพารา" เยอะเกิน ราคามันต้องตก
เช่นเดียวกับเงิน ที่พิมพ์ออกมามากเกินจำเป็น
กำลังซื้อของเงิน จะลดลง
ทุกครั้งที่รัฐบาลพิมพ์เงินมากขึ้น
คนก็จะซื้อสินทรัพย์ที่ สามารถรักษามูลค่าได้ เช่น ทองคำ หุ้น หรือ Bitcoin
เพราะ:
เงินฝาก = ดอกเบี้ยต่ำ
ทองคำ = มีประวัติรักษามูลค่ามายาวนาน
Bitcoin = จำกัดจำนวน และไม่สามารถพิมพ์เพิ่มได้
---
📉 เหมือน “เสพยา” ที่เลิกไม่ได้
นโยบายพิมพ์เงินอาจดูช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
แต่เมื่อรัฐเลิกพิมพ์ทันที:
อาจเกิดการช็อกทางเศรษฐกิจ (แปลว่าอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น รัฐบาล-ธุรกิจพัง)
นักลงทุนและผู้ประกอบการพึ่งพิงการอัดฉีดเงินนี้มากไป
นี่คือสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์เปรียบว่า
“รัฐแทบไม่สามารถเลิกพิมพ์เงินได้ เพราะตลาดพึ่งพาไปแล้ว”
---
🚀 แล้วทางออกคืออะไร?
✅ กระจายความเสี่ยง (Diversification)
ไม่ควรเก็บเงินใน “บัญชีเงินบาท” ทั้งหมด
ควรมีบางส่วนใน สินทรัพย์ที่โตตามอัตราการพิมพ์เงิน เช่น:
💛 Gold (ทองคำ)
📈 Stocks (หุ้นรายใหญ่ หรือหุ้นที่จ่ายปันผล)
₿ Bitcoin (ด้วยข้อจำกัด Supply จำนวน 21 ล้านเหรียญ)
✅ ลงทุนเป็นระบบ (DCA)
ไม่ต้องซื้อครั้งเดียวเยอะ
แต่ซื้อประจำ เช่น เดือนละ 500–1,000 บาท ไปเรื่อย ๆ
✅ เรียนรู้ก่อนลงทุน
ทำความเข้าใจความเสี่ยงของแต่ละสินทรัพย์
ไม่ควรลงทุนเพราะเทรนด์ แต่ลงทุนด้วยความรู้
---
🔚 สรุปความคิด:
> เราอาจรักษารายได้ด้วยการทำงานหนัก
แต่ถ้าเราไม่รักษามูลค่าของเงินที่หามา
วันที่มี รายได้เท่าเดิม...แต่เงินซื้อได้น้อยลง
นั่นไม่ใช่ความมั่งคั่ง...แต่คือความเสื่อมค่าของเงิน
เวลาเงินเฟ้อเดินหน้า
เราจึงควรออมในสิ่งที่ “ไม่ถูกพิมพ์เพิ่ม”
— เพื่อให้ปัจจุบันที่เราเสี่ยง “เสื่อมค่า” ได้น้อยที่สุด
และให้อนาคตของเราเติบโตอย่างมีคุณค่า
---
💬 คุณคิดว่า…
"การออมในบาท" ยังเพียงพอไหม สำหรับอนาคตที่เงินบาทอาจไม่ทนต่อเงินเฟ้อ?
#soundmoneyzap #siamstr #bitcoin