ซากของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ 40 ชนิดที่ถูกเก็บไว้ในอำพันชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่ง



อำพัน (Amber) หรือที่คนเล่นแร่บางคนเรียกว่า Succinite นั้น เป็นหนึ่งในสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นฟอสซิลชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเกิดมาจากยางของต้นสนที่เกิดการ Polymerize ผ่านกาลเวลานับหมื่นๆถึงหลายล้านปีจนเกิดเป็นก้อนฟอสซิลกึ่งอัญมณีอันสวยงามที่เป็นที่ชื่นชมและต้องการโดยนักสะสมทั่วโลก
อำพันที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ข้างใน (Inclusion)  เหมือนเป็นการแช่แข็งเหตุการณ์ในยุคดึกดำบรรพ์เอาไว้  โดยในอำพันนั้นเราสามารถเห็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆในสภาพที่มีความสมบูรณ์ในเชิงชีวภาพในอิริยาบถต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการล่าเหยื่อของแมลง, การผสมพันธ์ุ หรือ การพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดของสิ่งมีชีวิตในวาระสุดท้าย เป็นต้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นในแบบที่ฟอสซิลที่เป็นโครงกระดูกหรือแผ่นพิมพ์ที่มีรอยของสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถทำได้

ฟอสซิลของยางไม้ที่บางครั้งมักจะพบซากสิ่งมีชีวิตถูกฝังอยู่ภายใน ซึ่งซากที่มักจะค้นพบภายในอำพันเกือบทั้งหมดมักจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนบก บริเวณรอบๆต้นไม้นั้น อย่างไรก็ตามเคยมีการค้นพบซากของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยในทะเลปะปนอยู่ภายในอำพันบ้างในบางครั้ง ซึ่งในกรณีนี้สามารถค้นพบได้ยากมากๆ

ในภาพความละเอียดสูงมากพบว่ามี กิ้งกือ-ตัวไร ยี่สิบสองตัว แมลงตัวต่อ แมลงสาบและด้วงสองตัว และแมงมุม
(continua su: https://scienze.fanpage.it/scoperto-incredibile-blocco-dambra-del-cretaceo-con-decine-di-creature-marine-e-terrestri/
https://scienze.fanpage.it/)

ปกติแล้วซากดึกดำบรรพ์ หรือฟอสซิล (fossil) สิ่งมีชีวิตที่ติดอยู่ในก้อนอำพัน จะเป็นซากสัตว์ประจำถิ่นหลายชนิด โดยมักจะพบตัวไรมากที่สุด หรือพวกแมงมุม, กิ้งกือ, แมลงสาบ, แมลงปีกแข็ง, แมลงวัน และตัวต่อ ซึ่งส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในพื้นป่า แต่สำหรับซากฟอสซิลสัตว์ทะเลที่ฝังติดในก้อนอำพันนับว่าเป็นสิ่งที่หายากมาก ทว่าในที่สุดก็มีการค้นพบก้อนอำพันที่หาได้ยากยิ่งดังกล่าว

ในภาพ เป็นอำพันที่มีขนาดเล็ก  แต่มันมีซากของสิ่งมีชีวิตโบราณ  ซึ่งนอกจากซาก ฟอสซิลแอมโมไนต์แล้ว ภายในอำพันยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ หลากหลายชนิดติดอยู่ด้วยภายใน โดยนักวิจัยระบุว่าเป็นชนิดของสัตว์ที่ปัจจุบันนี้อาศัยอยู่บนบกหรือในทะเลอย่างน้อย 40 ชนิดเช่น แมงมุม, ตะขาบ, แมลงสาบ แมลงวันเห็บและตัวต่อ ที่อยู่รวมกัน  นอกจากนั้นยังมี หอยทากและปลาหมึกที่เรียกว่าแอมโมไนต์ด้วย  สร้างความประหลาดใจให้แก่นักวิจัยเป็นอย่างมาก 




จากการใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ระดับไมโครเมตร กลุ่มวิจัยนานาชาตินำโดยสถาบันธรณีวิทยาและบรรพชีวินวิทยานานกิง ในประเทศจีน (Nanjing Institute of Geology and Palaeontology of the Chinese Academy of Sciences-NIGPAS) รายงานว่าเป็นครั้งแรกที่พบซากฟอสซิลสัตว์ประเภทแอมโมไนต์ (Ammonite) อย่างแอมโมไนต์ หอยแกสโตพอด (หอยฝาเดียว) และไอโซพอด (สัตว์มีเปลือกหุ้มลำตัวขนาดเล็กที่อาศัยในเขตน้ำขึ้นน้ำลง) ติดอยู่ในอำพันอายุ 99 ล้านปี พบทางตอนเหนือของเมียนมา  อำพันก้อนนี้ยาว 33 มิลลิเมตร กว้าง 9.5 มิลลิเมตร และสูง 29 มิลลิเมตร มีน้ำหนัก 6.08 กรัม

ทั้งนี้แอมโมไนต์และหอยฝาเดียวที่ค้นพบไม่ปรากฏส่วนของอวัยวะส่วนนุ่มหรือเนื้อเยื่ออ่อนหลงเหลืออยู่บ่งบอกว่าพวกมันได้ตายลงนานพอสมควร และผ่านการเสียดสีขัดถูจากสภาวะแวดล้อมในบริเวณชายฝั่งทำให้คงเหลือไว้แต่ส่วนที่แข็ง ก่อนที่จะมาถูกฝังอยู่ในอำพัน

 ทีมวิจัยได้สันนิษฐานว่ายางไม้นี้มาจากต้นไม้ที่เกิดขึ้นในบริเวณชายฝั่ง ในขณะที่ยางไม้นี้ไหลลงมานั้น มีสัตว์บกหรือแมลงต่างๆ ได้เข้าไปติดกับดักนี้ และยางไม้นี้ได้ตกลงสู่โค้นต้นไม้หรือบริเวณพื้นในที่สุด (ภายในอำพันมีเม็ดทรายปน) ทำให้มันหุ้มเอาซากแอมโมไนต์ที่อยู่ในบริเวณริมชายหาด และสัตว์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นตัวอื่นๆ เข้าไปด้วยพอดี ต่อจากนั้นมาด้วยความโชคดี (ซึ่งมีโอกาสน้อยมาก) อำพันเหล่านี้สามารถรอดพ้นจากสภาพแวดล้อมริมชายฝั่งที่มีพลังงานสูง (คลื่นและลม) 

โชคดีที่อำพันได้เก็บรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้เป็นอย่างดี  ทำให้นักวิจัยสามารถจำแนกสิ่งมีชีวิตต่างๆที่อยู่ในมันได้   พวกเขาศึกษาโครงสร้างของเปลือกหอยที่ติดอยู่โดยใช้เอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ และประกาศว่าพวกมันเป็นแอมโมไนต์ที่เรียกว่า Puzosia Bhimaites  มีอายุอยู่ในยุคครีเตเชียสตอนกลาง ช่วงปลายยุคของชาวแอลเบเนีย   แต่น่าเสียดายที่ไม่มีเนื้อเยื่ออ่อนหลงเหลืออยู่ในฟอสซิลแอมโมไนต์นี้
 
ฟอสซิลแอมโมไนต์ที่เก็บรักษาไว้นั้นพบในภาคเหนือของพม่าซึ่งมีชื่อเสียงในด้านตัวอย่างอำพันที่มีความหลากหลายสูง ฟอสซิลนี้ทำให้นักวิจัยได้ศึกษาในส่วนไม่เคยมีมาก่อน 




Isopods สี่ชนิดที่เห็นนี้ เป็นสัตว์จำพวกครัสเตเชียน   สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นที่รู้จักว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมทางทะเลน้ำกร่อย  น่าเสียดายที่นักวิจัยไม่สามารถระบุถึงลายละเอียดซากฟอสซิลเหล่านี้ได้ เพราะพวกมันเสียหายมากเกินกว่าจะแน่ใจว่าเป็นรูปแบบใด





ซากหอยทะเลสองตัวนี้ถูกระบุว่าเป็นสกุล Mathilda หอยทากทะเลชนิดนี้เป็นที่รู้จักจากมหาสมุทรเทธิสตะวันตก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่หอยทากทะเลชนิดนี้ได้รับการบันทึกว่ามาจากเทธิสตะวันออก จากร่องรอยการแตกหักของหอยทะเล ระบุว่าพวกมันตายก่อนจะถูกซัดขึ้นมาบนชายฝั่งก่อนที่จะฝังในยางต้นไม้



ที่มา 
ที่มา independent, allthatsinteresting, dailymail

Cr.https://www.catdumb.com/ammonite-in-amber-378/  By เหมียวศรัทธา


(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่