เชื่อสิ "อ้วนได้ก็ผอมได้" ใครอ้วนอยู่แล้วอยากผอมฟังทางนี้จ้า

ดีจ้า...วันนี้จะมาชวนคุยเรื่อง "อ้วนได้ก็ผอมได้" ถ้าย้อนไปหลายปีก่อน เราจะไม่เชื่อคำนี้เลย เพราะเดิมทีเป็นเด็กอ้วนมาตั้งแต่เกิด โตมาวัยอนุบาลก็ยังไม่เคยเป็นเด็กผอมกับเค้าเลย พอเข้าประถมยิ่งตุ้ยนุ้ย ก็มีหลายคนเค้าก็ตุ้ยนุ้ยเหมือนเราไม่เห็นจะแปลกตรงไหน พอเริ่มม.ต้น เอ๊ะๆ ยังไงกันเพื่อนเริ่มรักษาหุ่น เริ่มรักสวยรักงาม อะๆในเมื่ออยู่กลุ่มเดียวกันก็ต้องไปแนวเดียวกันสิ เริ่มตั้งแต่พากันอดข้าวไม่กินมื้อกลางวัน พอบ่ายๆนั่งเรียนไป หิวไปชักเริ่มเรียนไม่รู้เรื่อง เลยพากันเปลี่ยนๆ จากอดข้าวเป็นไม่อดแล้วหันไปพึ่งยาลดน้ำหนักกัน โอ้โห! แรกๆพากันดีใจใหญ่เพราะขนาดกินข้าวปกติ พอกินยาลดน้ำหนักช่วย น้ำหนักยิ่งลดลงเรื่อยๆ ผ่านไปได้สองเดือน น้ำหนักที่เคยลง กลับเริ่มนิ่งๆไม่ลดลงซักขีด พวกเราพากันย้ายหมอไปเรื่อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล แถมอาการสุดท้ายยังใจสั่นหนักมากจนกลัวตายขึ้นมา เลยชวนกันเลิกกินยา พอม.ปลายก็กลับมาแนวเดิมพึ่งยาลดน้ำหนักกันอีก แต่ผลก็เหมือนเดิม น้ำหนักลงดีในช่วงแรก พอผ่านไปซักระยะก็กลับมานิ่งเหมือนเดิม ยิ่งพอเข้ามหา'ลัย ยิ่งลองหลายตัวยาเลย มีทั้ง Blog ทั้ง Burn หลากหลายสูตรมากมาย ถ้ารวมๆเงินที่เสียไปกับยาลดน้ำหนักนั้นคงจะไม่เบาเลย แต่ผลลัพธ์สุดท้ายคือเหมือนเดิม
เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยมีประสบการณ์แบบนี้เหมือนกัน

พอช่วงวัยทำงานก็หันมาใช้วิธีอดอาหาร กินแต่กาแฟวันละแก้ว มันก็ลดอยู่นะ แต่ร่างกายมันก็จะเพลียๆหน่อย ก็ใช้ชีวิตแบบนั้นมายาวนานจนวันนึงก็เลิกสนใจเรื่องหุ่นละ ทีนี้อยากกินอะไรกิน กินหนักเลย ทั้งบุฟเฟ่ต์ พิซซ่า ขนมเค้ก (กินคนเดียวเป็นปอนด์) น้ำหนักก็พุ่งมาแตะที่ 68-69 กก. ตัวใหญ่ อ้วนกลม หน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลย 555
ปล่อยมาเรื่อยจนเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 ไปหาหมอ แล้วหมอตรวจว่าเราเป็นโรคความดันสูง ความดันที่วัดได้คือ 160/109 ซึ่งหมอบอกว่ามันอันตรายมาก อาจทำให้เส้นเลือดแตกได้ อันตรายถึงขั้นตายได้เลย ได้ยินหมอพูดแบบนั้น เรานี่จุกเลย มานั่งคิดว่า เออ!ทำไมเราใช้ชีวิตแบบนี้ มันเสี่ยงมาก มันอาจทำให้เราไม่มีโอกาสดูแลพ่อแม่ได้เลยนะ เลยคุยกับหมอว่าต้องทำดูแลตัวเองยังไง หมอก็บอกให้ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ซึ่งต้องเป็นการออกกำลังต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 30นาที การทำงานบ้านไม่ถือเป็นการออกกำลังกาย 5555(ซึ่งเราเข้าใจมาตลอดว่า เราทำงานบ้านก็ถือว่าเป็นการออกกำลังแล้ว) 

หลังจากที่ได้คุยกับหมอ เราก็เริ่มเอาจริงเอาจังกับตัวเองเรื่องการกินและการออกกำลัง ช่วงนั้นคนเริ่มฮิต "วิ่ง" กันมาก แต่เราไม่ได้เริ่มจากการวิ่ง เราเริ่มจาก "การเดิน" และไม่ได้ไปตามสถานที่ต่างๆที่คนอื่นนิยมไป เราเดินในซอยบ้านช่วงเย็น และตั้งเป้ากับตัวเองไว้ว่า "จะต้องเดินทุกวันต่อเนื่อง 40นาที" เดินไปกลับหัวซอยท้ายซอยนั่นแหละ เดินจนคนในซอยเริ่มทักว่า ทำไมไม่วิ่ง วิ่งได้แล้ว เหตุผลที่เราไม่บ้ายุก็เพราะเรารู้ว่าถ้าเราไปหักโหมวิ่งเลย ร่างกายมันปรับไม่ทัน เดี๋ยวอาจจะบาดเจ็บแล้วพาลจะเลิกเดินเอา เราเลยเลือกที่จะทำในสิ่งที่เราตั้งเป้าไว้ชัดเจนแล้ว เวลาผ่านไปจากวันเป็นอาทิตย์ จากอาทิตย์เป็นเดือน จากเดือนเป็นหลายเดือน เราก็ยังคงเดิน ระหว่างนั้นเราก็ไปเช็คความดันกับหมอเป็นระยะ ลืมบอกไปว่าหมอให้เรากินยาลดความดันตั้งแต่วันที่พบว่าความดันสูง กินวันละ 1เม็ด ด้วยความที่เราไม่อยากกินยา เราเลยขอหมอว่าจะไม่กิน หมอบอกหมอจะให้หยุดกินก็ต่อเมื่อเราสามารถควบคุมความดันด้วยเองได้ เรากินยามาประมาณ 3เดือน หมอก็อนุญาตให้หยุดยาได้ หลังจากหยุดยา เราก็ยังคงเดินเหมือนเดิมทุกวัน งดการกินเค็มลงไปอีก ซึ่งปกติก็เป็นคนไม่กินเค็มอยู่แล้ว กินก๋วยเตี๋ยวก็ไม่เคยเติมน้ำปลาเพิ่มเลย แต่ก็ยังไม่วายที่ความดันจะสูง เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จาก 6เดือน 8เดือน 1ปี เราสามารถควบคุมความดันได้ดีตามตัวเลขที่หมอต้องการ ระหว่างนั้นสิ่งที่เราได้แถมมาจากการเดินคือน้ำหนักตัวที่ลดลงทีละน้อยๆ 2ขีดบ้าง 4ขีดบ้าง 8ขีดบ้าง ลงมาทีละน้อย ต้องเน้นย้ำเลยว่าลงทีละน้อยๆจริงๆ แต่น้ำหนักที่ลงมีผลต่อค่าความดันด้วยเช่นกัน ตอนนี้ผ่านไป 1ปีครึ่งนับจากวันที่เริ่มต้นออกกำลังและระวังการกินอย่างจริงจัง น้ำหนักลงมาที่ 52 กก. จากความรู้สึกส่วนตัวตอนนี้ ตัวเลขของน้ำหนักไม่ได้มีผลอะไรต่อชีวิตเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือ "สุขภาพที่ดี"


เอารูปลงไว้ให้เพื่อนๆดูว่า ถ้าเราตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ในที่สุดเราก็จะทำได้ ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเอง เป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆที่กำลังมุ่งมั่นลดน้ำหนัก อยากชวนให้มาลดกันแบบถูกวิธี อย่าหวังพึ่งยาลดน้ำหนักกันนะจ๊ะ

พอเวลาผ่านไป ทำให้เราได้เรียนรู้หลายอย่าง สิ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ยาลดน้ำหนักไม่ได้ช่วยให้เราลดน้ำหนักได้จริงๆ สิ่งที่จะช่วยได้ดีคือตัวเราเองต้องควบคุมการกินอาหาร หาเวลาออกกำลังกาย แล้วเราจะได้สุขภาพที่ดี พร้อมกับรูปร่างที่เหมาะสม

เชื่อกันหรือยังจ๊ะว่า "อ้วนได้ก็ผอมได้" มาดูแลสุขภาพกันตั้งแต่ตอนนี้ไม่ต้องรอให้อายุมากค่อยมาดูแล เพราะมันอาจช้าเกินไปจ้า
ส่วนน้องๆวัยรุ่นก็หันมาผอมกันอย่างถูกวิธีนะจ๊ะ จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับยาลดน้ำหนักจ้า

ขอบคุณที่สละเวลาเข้ามาอ่านนะจ๊ะ หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างนะจ๊ะ ^___^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่