ประสบการณ์การใช้ชีวิตในประเทศรวันดา ภาค 2 (รีวิวทะเลสาป Kivu)

**มาต่อกันค่ะ

2-3 วันที่ผ่านมางานแปลสุมหัวมาก เลยไม่ได้เข้ามาเขียนสักที ^^" มาวันนี้ได้ฤกษ์ดีแล้ว มาค่ะ เราจะพาไปเที่ยวทะเลสาป Kivu ในเมือง Gisenyi กัน

Gisenyi เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบ Kivu ในเขต Rubavu ของรวันดาทางตะวันตกเฉียงเหนือ อย่างที่บอกไปตอนต้นว่ารวันดาเป็นประเทศที่ไม่มีพื้นที่ติดทะเลเลย หรือที่เราเรียกกันว่า landlock แต่ก็ใช่ว่าจะไปเที่ยวชายหาดไม่ได้เนอะ เพราะยังมีทะเลสาปขนาดใหญ่มากๆ ชื่อว่า Lake Kivu ซึ่งมองเผินๆ จะเหมือนชายหาดเลยค่ะ 

เมื่อวันก่อนวันคริสต์มาสที่ผ่านมา เราและครอบครัวได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวพักผ่อน ด้วยความที่เพิ่งมาถึงไม่นานและยังไม่ได้ซื้อรถ เลยใช้วิธีเช่ารถเอาค่ะ การเช่ารถที่นี่ไม่ยุ่งยาก เช่าเป็นรายวัน วันละ 30,000 frw คิดเป็นประมาณ 1,000 กว่าบาทไทย (อาจจะมีเรทแพงกว่านี้บ้างนะคะ ต้องหาเช่าดูหลายๆ ที่เพื่อเทียบราคา) ระยะทางขับรถจากเมืองกิกาลีไปเมืองกิเซนยีประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นทางวนขึ้นเขาลูกใหญ่ไปเรื่อยๆ ซึ่งวิวลดหลั่นมองเห็นพื้นที่ด้านล่างสวยดีค่ะ (แต่เราแอบมึนหัว ปวดหัวแทบตลอดทางเหมือนจะเมารถ เพราะทางคดเคี้ยวอยู่ค่ะ)

แถมระหว่างทางได้ผ่านพื้นที่ที่มีชาวพื้นบ้านอาศัยอยู่เป็นช่วงๆ เปิดโอกาสให้เราได้เห็นบ้านเรือน วิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบบ้านๆ ของเขา ซึ่งแปลกตาและน่าสนใจค่ะ
บ่อยครั้งเราเห็นผู้หญิงม้วนผ้าเป็นขดวางบนหัว (เพื่อรอง) แล้ววางของหนักๆ อย่างผัก ผลไม้ถุงใหญ่ๆ และอื่นๆ ไว้บนหัว แล้วเดินไปตามทางชิวๆ โดยไม่ต้องคอยใช้มือประคอง เป็นการยกของหนักแทนการใช้มือหิ้ว (คือเก่งมากค่ะ เป็นเราคงร่วงหมดแล้ว) และบางคนที่มีลูกเล็กจะใช้ผ้าผืนใหญ่ ผูกลูกไว้ด้านหลังแล้วเดินแบบไม่ต้องใช้มือประคองเหมือนกัน (เราคิดว่าเป็นเพราะพวกเขาต้องเดินกันไกล จะอุ้มไปตลอดทางก็หนัก) น้องน้อยก็ติดอยู่กับหลังเลย ไม่เห็นร้อง บางคนหลับปุ๋ย เป็นการมัดผ้าที่แน่นมากๆ เด็กน้อยไม่มีทางตกหล่นแน่นอน ถือเป็นวิถีชีวิตและภูมิปัญญาชาวบ้านที่น่าสนใจค่ะ

ชาวพื้นเมืองที่นี่อยู่กับธรรมชาติจริงๆ บางพื้นที่ห่างไกล เขาจะสร้างบ้านด้วยโคลน ก่อไฟทำอาหาร ปิ้งมันเทศกันหน้าบ้าน เด็กน้อยตัวเล็กๆ น่ารัก เสื้อผ้าขาดๆ แหว่งๆ ก็วิ่งเล่นบ้าง นอนกลิ้งบนสนามหญ้าหน้าบ้านบ้างตามประสา เห็นแล้วรู้สึกสงบใจบอกไม่ถูก มันทำให้เรานึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เราอยู่ห่างไกลจากบ้านเกิดเมืองนอนเรามากแค่ไหน พูดแล้วก็รู้สึกเหงาๆ บอกไม่ถูก ^^"

คนแถวนี้เป็นชาวสวนเสียส่วนมาก ปลูกมัน ข้าวโพด กล้วยและอื่นๆ ข้างถนนมักจะมีคนใช้จักรยานเพื่อขนส่งพืชผลทางการเกษตร บ้างก็ขนขึ้นเขา บ้างก็ขนลงเขา เราขับรถก็ต้องคอยระวังค่ะ เพราะของหนักมาก ถุงโตๆ เลย คนขี่จะขี่ก็ไม่ไหว เลยต้องลงจากจักรยาน เปลี่ยนจากคนขี่มาเป็นคนเข็นแทน เป็นการเข็นที่กินพื้นที่เข้ามาในถนน ขับรถก็ต้องคอยหลบกันไปค่ะ

บรรยากาศตลอดเส้นทางจะออกแนววิถีชาวบ้านตัดกับภาพทิวทัศน์หุบเขาเป็นฉากหลัง เป็นแบบนี้ไปตลอด 3 ชั่วโมงกันเลยค่ะ 

**มากันครึ่งทางแล้วค่ะ อีกสักครู่จะมารีวิวที่พักที่เข้าพักคืนนั้นพร้อมวิวทะเลสาป Kivu สวยๆ นะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่