มิว นิษฐา-ไฮโซเซนต์ ฉลองวิวาห์หวานสุดอบอุ่น เอ่ยสัญญารักต่อกันจนอดยิ้มตามไม่ได้

ได้ฤกษ์ดีของวันนี้ (10 ม.ค.) ควงแขนกันเข้าสู่พิธีฉลองมงคลสมรส สำหรับคู่บ่าวสาวป้ายแดง มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน กับหวานใจ เซนต์-ธราภุช คูหาเปรมกิจ ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทลแบงค็อก ซึ่งบรรยากาศภายในงานถูกเนรมิตให้เป็นสีขาวบริสุทธิ์ เรียบ หรู แต่ดูแพง

\

โดยก่อนพิธีฉลองมงคลสมรส มิว นิษฐา และ ไฮโซเซนต์ ได้ออกมาแถลงข่าวสุดหวานคู่กันต่อหน้าสื่อมวลชนที่ร่วมเป็นสักขีพยานรักในครั้งนี้อีกด้วยในที่สุดก็มาถึงวันนี้แล้ว ?

มิว : "หลังจากที่เราเตรียมตัวกันมาประมาณ 6 เดือน วันนี้ก็มาถึงแล้วค่ะ ก็ตื่นเต้น ลุ้นตลอดเวลา มันมีเรื่องจุกจิกมากมายเวลาเราแต่งงานทีหนึ่งค่ะ ก็วันนี้ก็รอชมว่าทุกอย่างจะราบรื่น ผ่านไปได้ด้วยดี หวังว่าแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานทุกคนจะอิ่มเอมและมีความสุขไปกับคู่เรา (หัวเราะ)"

ไฮโซเซนต์ : "ก็ดีใจและตื่นเต้นมากเหมือนกัน ยิ่งเจอพี่ๆ นักข่าวน่าจะตื่นเต้นมากกว่างานอีกครับ (หัวเราะ) ก็ดีครับ ดีใจที่มิวแฮปปี้กับงาน เราก็ตั้งใจทำออกมาให้น่ารักที่สุดเท่าที่เขาชอบครับ"

งานวันนี้คือตามความฝันของมิวเลยไหม ?

มิว : "ตามความฝันของเราทั้งคู่ค่ะ เพราะมันจะมีเรื่องบางอย่างที่ฝันคนละอย่างกัน เราต้องมาจูนกันตรงกลางเพื่อฝันของเราทั้งคู่นะคะ ส่วนธีมงานหลักๆ แล้วคือเราชอบความที่ดูคลาสสิก เลยต้องเป้าเลยว่าให้อารมณ์มันออกมาคลาสสิก อีก 10 ปีมาดู ก็ยังสวยอยู่เหมือนเดิมค่ะ ตั้งเป้าจากอันนั้นเลย"

หล้งจากพิธีวันนั้นมาเป็นอย่างไรบ้าง ?
มิว : "จริงๆ หลังจากพิธีวันนั้นมาก็รู้สึกเหมือนแต่งกันแล้วเนอะ (หัวเราะ) เราก็ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน วันนั้นเสร็จก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ทางบ้านคุณเซนต์แล้วค่ะ"

ความรู้สึกต่างไปจากเดิมไหม ?

มิว : "ตอนแรกเราก็ลุ้นๆ นะคะว่าพอไปอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เราจะมีเรื่องอะไรที่จุกจิกและต้องเปลี่ยนตัวเองเยอะหรือเปล่า ปรากฏว่าเราอยู่ด้วยกันมา 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกยังไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนเลย (หัวเราะ) คือปรับอาจจะมีบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ที่รู้สึกว่าเป็นปัญหาใหญ่ยังไม่มีเลย พี่เซนต์มีไหม (หัวเราะ) แต่สำหรับมิวไม่มี"

องค์แม่ศรีเรือนลงหรือยัง ?

มิว : "องค์แม่ศรีเรือนคือตอนนี้ปอกผลไม้ได้แล้วนะ (ยิ้ม) ไหนลองเล่าสิคะ"

ไฮโซเซนต์ : "ต้องยกเครดิตให้คุณแม่ยายช่วยสอนมิวปอกผลไม้ ก็ปอกได้หลายอย่างแล้วครับ สาลี่ อะไรแบบนี้ก็ได้แล้ว (หัวเราะ) ก็ดีครับ เขาก็ตั้งใจ บางทีตอนเช้าผมต้องออกไปทำงาน เขาก็ง่วง แต่ขาก็ลุกขึ้นมาลวกไข่ให้ ปิ้งขนมปังให้"
มิว : "ก็ยังเป็นเมนูที่ง่ายๆ อยู่ เดี๋ยวเราจะค่อยๆ อัปสเต็ปขึ้นไป"

มีแพลนไปฮันนีมูนที่ไหนบ้างหรือยัง ?

ไฮโซเซนต์ : "เรายังไม่ได้แพลนเป็นเรื่องเป็นราวนะครับ เพราะมัวแต่ยุ่งกับเรื่องงานแต่ง แต่คิดว่าอีกสักพัก อีกอย่างเดี๋ยวมิวก็จะมีเปิดกล้องงานละครอีกด้วย"
มิว : "ใช่ค่ะ ก็คิดว่าฮันนีมูนน่าจะอีกสักพักเลย เป็นช่วงหลังของปีเลย เหมือนต้นปีนี้ละครมิวก็จะเปิดกล้องแล้ว ก็จะต้องรีบถ่ายละครก่อน"

พอได้ลองใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้วเป็นยังไงบ้าง ?

ไฮโซเซนต์ : "ผมว่าผมโชคดีตรงที่มิวเป็นคนค่อนข้างธรรมชาติอยู่แล้ว เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันเขาก็จะง่ายๆ ทำให้เราไม่ได้รู้สึกว่าต้องปรับอะไรเยอะ ตอนแรกก็ห่วงเหมือนกัน อย่างที่มิวบอกถ้านอนตื่นเช้ามาเจออีกคนอยู่ด้วยตลอดเวลา เราจะอึดอัดไหม แต่ก็ไม่ครับ มิวเขาน่ารักเสมอ"

มีคำมั่นสัญญาอะไรจะให้แก่กันไหม ?

ไฮโซเซนต์ : "ผมว่าชีวิตคู่มันต้องอยู่แบบปรับตัว และเข้าอกเข้าใจกันเยอะๆ ครับ คิดว่ามันก็คงไม่ได้สวยงาม หวานชื่นตลอดเวลา แต่ก็ต้องรู้จักอดทน ให้อภัยกัน และสัญญาว่าจะดูแลมิวอย่างดี"
มิว : "สำหรับมิวหลักๆ แล้วคือความอดทนและความเข้าใจกันค่ะ เพราะเรามาจากคนละพ่อแม่ และเพิ่งมารู้จักกัน 2 ปี มันมีหลายอย่างมากที่เราต้องทำความเข้าใจกัน ความเป็นตัวตนของเขา กับไลฟ์สไตล์ของเขา เราต้องเข้าใจกันมากๆ และก็อดทนค่ะ อย่างที่พี่เซนต์บอก มันคงจะไม่ได้สวยหวานฉ่ำเหมือนวันนี้ทุกวัน มันต้องมีบางวันที่ทะเลาะกัน แต่สำคัญที่สุดก็คงจะเป็นความอดทน"

อะไรในตัวของไฮโซเซนต์ ที่เรารู้สึกว่าคนนี้แหละ ที่จะเป็นคู่ชีวิตเรา ?

มิว : "มิวรู้สึกว่าเวลามีพี่เซนต์อยู่ข้างๆ แล้วมิวอุ่นใจ (หัวเราะเขิน)"

ไฮโซเซนต์ตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่วันแรกเลย เพราะอะไร ตรงไหนที่ทำให้รู้สึกว่าคนนี้แหละ แม่ของลูก ?

ไฮโซเซนต์ : "ร้องไห้หัวเราะเขิน) อย่างที่เมื่อกี้พูดไป สำหรับผมรู้สึกว่ามิวเขาเป็นคนที่น่ารัก จิตใจดีมาก กับเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ได้เจอกัน มิวเขาไม่เนกาทีฟเลย ทำให้ชีวิตเรา ถ้าจะมีคู่ชีวิตสักหนึ่งคน เราก็มีความรู้สึกว่าถ้าได้ผู้หญิงอย่างนี้ มาเป็นแม่ของลูกเรา ลูกเราก็จะเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่ต้องมีความกังวลครับ มันอยู่ในขอบเขตที่เราสบายใจ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าได้มิวเป็นภรรยาก็คงดี (ยิ้ม)"

จะมีทายาทเลยไหม ?

มิว : "ยังไม่ใช่ปีนี้ค่ะ ยังมีละคร ยังมีงานที่ต้องจัดการอยู่ค่ะ"
ไฮโซเซนต์ : "จริงๆ ผมอยากมีแล้ว แต่ว่ามิวเขายังรักในสิ่งที่เขาทำอยู่ แล้วเขายังทำในสิ่งที่เขาทำได้ดีมาก เราก็อยากให้เขาได้ทำเต็มที่ในสิ่งที่เขาอยากจะทำก่อน เรื่องมีลูกก็ค่อยว่ากันครับ"

เราห่วงอะไรในการทำงานในวงการของมิวไหม ?

ไฮโซเซนต์ : "ก็จะห่วงเรื่องเวลา เรื่องอะไรของเขานิดหน่อย แต่ว่าเขาเอ็นจอยกับมัน ผมรู้สึกได้ว่าเวลาเขาไปทำงานเขามีความสุขกับมัน ก็ไม่อยากให้การแต่งงาน หรือชีวิตส่วนตัวของเรา มันไปกระทบกับงานของเขา จนเปลี่ยนไปเยอะ"

มิวขอไว้เลยไหม ว่าอยากจะทำงานในวงการอีกสักกี่ปี ?
มิว : "ก็มีคุยกันไว้บ้างเหมือนกันค่ะ ว่าเราก็ยังคงอยากจะทำงานต่อไปนะ ถึงแม้ว่าจะแต่งงานแล้ว ก็อยากที่พี่เซนต์บอกว่าเราไม่อยากให้การแต่งงาน เป็นการหยุดงานของเราไปเลย เราก็ตั้งใจว่ายังทำต่อไป"

พอสถานะเราเปลี่ยนไป มองเรื่องงานในวงการไว้อย่างไรบ้าง ?
มิว : "ก็คงจะเป็นงานที่เติบโตขึ้น สถานะในวงการอาจจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่ก็เชื่อว่ามันยังมีช่องทางของมัน"

จะมีผลกระทบต่อบทบาทที่เรารับไหม ?
มิว : "ไม่นะ ไม่กระทบค่ะ ส่วนงานก็คือส่วนงาน พอเราเล่นละครมันก็เป็นอีกคาแรกเตอร์หนึ่งไปแล้ว คนดูเขาก็จะต้องอินกับเนื้อเรื่องตามเส้นเรื่องนั้นค่ะ"

ไฮโซเซนต์อนุญาตใช่ไหม หากมีเลิฟซีน ?
ไฮโซเซนต์ : "ร้องไห้หัวเราะ) ก็พอประมาณแล้วกันครับ (ยิ้ม)"

มิว : "คือมิวก็พอประมาณอยู่แล้วค่ะ หมายความว่าก่อนหน้านี้มิวก็ค่อนข้างจะดูแลในส่วนของตรงนี้ได้อยู่แล้ว มิวมีลิมิตให้กับตัวเองตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วค่ะ"

หลังจากนี้ต้องร่างใบขออนุญาตไหม ?
มิว : "ร้องไห้หัวเราะ) ไม่ต้องขนาดนั้นค่ะ คุณเซนต์เขาไม่ได้ดูละครหรอกค่ะ มิวว่ามิวสามารถตัดสินใจได้ว่าอันไหนมันเกินลิมิต หรืออันไหนมันอยู่ในลิมิตอยู่ อีกอย่างมิวก็มีแม่ที่ไปช่วยดูลิมิตให้อีกคนหนึ่งค่ะ เชื่อใจได้ (ยิ้ม)"

มิวต้องรับงานน้อยลงไหม ?
มิว : "คงไม่ได้จำกัดให้งานน้อยลง เพียงแต่เราน่าจะเลือกงานที่ตื่นเต้นน่าจะทำมากขึ้น ถ้าเป็นงานที่เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะทำ เราก็ยังคงทำเหมือนเดิม ถึงแหมว่างานจะเยอะหรือจะน้อย แต่ถ้างานไหนที่เราไม่ได้ตื่นเต้นกับมัน เราอาจจะไม่ได้รับ"

ไฮโซเซนต์ต้องลดงานน้อยลงเพื่อหาเวลาดูแลกันไหม ?
ไฮโซเซนต์ : "มิวเขาไม่ต้องดูแลมาก เขาเป็นคนที่อยู่ง่ายกินง่าย จะไม่ได้กังวลตรงนี้เท่าไหร่ แต่เราพยายามหาเวลาอยู่ด้วยกัน ช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะเขาก็มีคิวถ่ายละครวันเสาร์ อาทิตย์ ผมทำงานวันธรรมดา ต้องหาเวลาจูนเรื่องเวลาตรงไหนพอจะมีเวลาคู่กันเยอะ"

มิว : "ใช่ค่ะ เวลาเป็นอีกหนึ่งอย่าง ที่เราต้องจัดมากขึ้นในการทำงาน พี่เซนต์จะว่างเสาร์ อาทิตย์ แล้วมิวถ่ายละคร พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ อาจจะขอเขา อาจจะเว้นช่วงวันเสาร์"

แหวนแต่งกี่กะรัต ?
มิว : "ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ"
ไฮโซเซนต์ : "ไม่ทราบเหมือนกันครับ เป็นแหวนคุณแม่ ที่คุณแม่เก็บไว้นานแล้ว ไม่ถึงขั้นแหวนปีะจำตระกูล แต่คุณแม่เขาเก็บไว้นานแล้ว ท่านอยากให้มิว"
มิว : "คุณแม่ใจดีค่ะ (ยิ้ม)"

อย่างชุดวันนี้มีกี่ชุด ?
มิว : "มีชุดแถลงข่าว ชุดตอนฉลอง และอาฟเตอร์ปาร์ตี้เท่านั้นค่ะ"

จดทะเบียนแล้วใช่ไหม ?
ไฮโซเซนต์ : "เรายังชุลมุนเรื่องงานอยู่ แต่ดูฤกษ์ไว้เหมือนกันครับ"
จะเปลี่ยนนามสกุลไหม ?
มิว : "จะเปลี่ยนนามสกุลค่ะ แต่อาจจะใช้นางสาว (หัวเราะ) ยังไม่ได้คุยเรื่องรายละเอียดพวกนี้เลย มิวว่ามิวอยากเป็นนางสาวอยู่นะ"

อยากจะบอกความในใจอะไรกันไหม ?
มิว : "ช่วงที่เราแต่งงานเหมือนเป็นช่วงที่เราเพิ่งได้เริ่มต้นที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจริงๆ แล้ว วันนี้เป็นยังไง วันข้างหน้าเราก็จะยิ้ม จะมีความสุขให้ได้ หรือให้มากกว่าวันนี้ ชีวิตคู่เราก็จะมีความเข้าใจ ความอดทน และให้อภัยให้มากที่สุด"

ไฮโซเซนต์ : "ดีใจ ผมว่าสำหรับเขา มันจะมีผลกระทบกับการงานของเขา จะมีการเปลี่ยนแปลงในจังหวะของมัน เขายอมที่จะมาเริ่มต้นชีวิตกับเรา รู้สึกขอบคุณที่มิวเข้าใจ และปล่อยให้เป็นธรรมชาติ และขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของมิว ที่ปล่อยให้ความสัมพันธ์ของคนสองคนเป็นธรรมชาติที่สุด ก็รับปากกับคุณพ่อคุณแม่ และครอบครัว 'จิรยั่งยืน' ว่าจะตั้งใจดูแลมิว และสร้างครอบครัวที่อบอุ่นแข็งแรง ให้ดีที่สุด อย่างที่มิวบอกจะเข้าใจอดทน และให้อภัยกันเยอะๆ"



 

ที่มา : https://www.sanook.com/news/8006418/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่