บรูซ วิลลิส เดมี มัวร์ ความรักแท้ที่เกิดขึ้นแล้ว แม้จะจดจำไม่ได้ก็ตาม
ในโลกฮอลลีวูดที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงฉับพลัน เส้นทางความรักของ บรูซ วิลลิส และ เดมี มัวร์ คือหนึ่งในเรื่องราวที่ทั้งโรแมนติก อ่อนหวาน และเติบโตไปพร้อมกับผู้คนสองคนที่เคยรักกันสุดหัวใจ และยังคงผูกพันกันอย่างลึกซึ้งจนถึงวันนี้ แม้สถานะ “สามีภรรยา” จะเป็นเพียงบทหนึ่งที่จบลงไปแล้วก็ตาม
ประกายแรกในปี ๑๙๘๗ จากมุกเล่นบนโต๊ะพนันสู่คำว่า “I DO”
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นแบบที่เดมีเคยเล่าว่า “เป็นเรื่องบังเอิญที่คาดไม่ถึง”
ทั้งคู่พบกันครั้งแรกในงานฉายภาพยนตร์ Stakeout ในปี ๑๙๘๗ ขณะนั้นเดมียังหมั้นกับเอมิลิโอ เอสเตเวซอยู่ แต่ไม่นานความสัมพันธ์นั้นก็ยุติลง
บรูซ และเดมีเริ่มต้นความสัมพันธฺด้วยบทสนทนาเรื่อย ๆ ที่เหมือนจะเล่น แต่ไม่ใช่เล่น จนคืนหนึ่งที่ลาสเวกัส บนโต๊ะพนัน บรูซพูดขึ้นลอย ๆ ว่า
“ผมว่าพวกเราควรแต่งงานกันนะ”
เดมีคิดว่าเขาล้อเล่น แต่บรูซ…ไม่ได้ล้อเล่นเลย ความรักไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสำหรับเขา
วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๑๙๘๗ หลังจากคบหากัน ๔ เดือน ทั้งคู่จับมือกันเข้าโบสถ์เล็ก ๆ ในโรงแรมโกลเด้นนักเก็ต พร้อมคำว่า “I DO” ที่เริ่มต้นเรื่องรักอันยาวไกลของพวกเขา
เดือนถัดมา ทั้งคู่จัดพิธีอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยมีตำนานอย่าง ลิตเติล ริชาร์ด เป็นผู้ประกอบพิธี โรแมนติก รวดเร็ว และเต็มไปด้วยความสดใสราวกับรักแรก
จากคนรักสู่พ่อแม่ บ้านที่มีเสียงหัวเราะดังเสมอ
เกือบหนึ่งปีต่อมา ลูกสาวคนแรก รูเมอร์ ก็ลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้ เดมีเล่าว่า… ตอนคลอด บรูซเป็นคน “รับทารกด้วยมือของตัวเอง” ด้วยความตื่นเต้นแบบเด็กหนุ่มที่เพิ่งค้นพบบทบาทใหม่ที่เขารักสุดหัวใจ
บรูซเองก็พูดเสมอว่า
“ผมเป็นแฟนตัวยงของเด็ก ๆ ผมมักจะเชียร์ว่า ทุกคนควรได้มีลูก”
ตลอดหลายปี ทั้งคู่สลับคิวงานกันอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ยังมี “พ่อหรือแม่” อยู่กับลูกเสมอ นี่คือเส้นทางรักที่ไม่ใช่แค่ของสองคน…แต่ของทั้งครอบครัว
รักที่เติบโต ไม่ใช่จางหาย
แม้งาน ความสำเร็จ และภาระชีวิตจะถาโถมแต่ทั้งคู่ยังคงทำงานร่วมกันได้ดี เช่นในภาพยนตร์ Mortal Thoughts (1991)เดมีเคยบอกว่า บรรยากาศวันทำงานร่วมกับเขานั้น “ดีมาก” เป็นจังหวะที่เหมาะเจาะ และเติมเต็มกันอย่างพอดี
กระทั่งปี ๑๙๙๘ ทั้งคู่จึงตัดสินใจแยกทางในแบบที่ไม่มีใครเสียใคร มีเพียงผู้ใหญ่สองคนที่เติบโตขึ้น และใน เดือนตุลาคม ๒๐๐๐ การหย่าร้างจบลงอย่างสงบภายในวันเดียว หลังจากใช้เวลาถึงสองปีในการจัดการเรื่องมรดก และจัดทริปท่องเที่ยวแบบครอบครัว
บรูซให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมยังรักเดมี เรามีลูกสามคนที่ผูกโยงเราตลอดชีวิตความเป็นสามีภรรยาอาจจบลง แต่ความเป็นครอบครัวยังอยู่”
นี่คือประโยคที่สรุปหัวใจของความสัมพันธ์คู่นี้ได้ดีที่สุด
จากรักโรแมนติกสู่ความรักแบบครอบครัวแท้จริง
แม้ชีวิตเดินไปในเส้นทางใหม่ เดมีแต่งงานกับ แอชตัน คุชเชอร์ ส่วนบรูซแต่งงานกับ เอ็มมา เฮมิง วิลลิส แต่ความผูกพันระหว่างทั้งสองไม่เพียงยังอยู่ มัน “ยิ่งลึกซึ้งขึ้น”
เดมียังไปงานพรมแดงของบรูซ บรูซยังไปร่วมเปิดตัวหนังสือของเดมี
ครอบครัวของทั้งสอง รวมถึงคู่สมรสใหม่ อยู่ร่วมในเฟรมภาพเดียวกันอย่างอบอุ่น
เดมี่ มัวร์สร้างความประหลาดใจให้กับอดีตสามีของเธอในช่วงท้ายของรายการ Comedy Central Roast of Bruce Willis ในปี ๒๐๑๘ โดยนักแสดงสาวได้ล้อเลียนทักษะการเลี้ยงลูกของวิลลิส และชีวิตคู่ของทั้งสองว่า
"สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักฉัน ฉันชื่อเดมี มัวร์ " คุณแม่ลูกสามกล่าว "ฉันแต่งงานกับบรูซตั้งแต่ Die Hard สามภาคแรก ซึ่งก็สมเหตุสมผล เพราะสองภาคหลังมันห่วยแตกมาก"
มัวร์พูดติดตลกเกี่ยวกับวิธีเลี้ยงลูกของเขาว่า "บรูซใจดีมาก ตอนที่รูเมอร์ ลูกสาวของเรายังเป็นทารก และถึงคราวที่เขาต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมกลางดึก เขาจะโน้มตัวมากระซิบกับฉันว่า 'ถ้าเธอเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ ฉันจะให้เงินเธอหนึ่งพันดอลลาร์เดี๋ยวนี้เลย'"
เขายิ้ม เธอยิ้ม
ลูก ๆ หัวเราะทั้งบ้าน
ความรักอาจเปลี่ยนรูปแบบ แต่ไม่เคยหายไป
เมื่อเวลาพาเราไปสู่บทที่ท้าทายที่สุด
เมื่อบรูซถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคอะเฟเซีย และต่อมาคือโรคสมองเสื่อมส่วนหน้า
เดมี ผู้เป็นอดีตภรรยา ยังคงยืนอยู่ในชีวิตเขาอย่างมั่นคง
เธอบอกลูก ๆ ว่า “เราต้องพบพ่อในจุดที่เขาอยู่ ไม่ใช่ในจุดที่เขาเคยเป็น”
เป็นความงดงามของผู้หญิงคนหนึ่งที่รักใครสักคน…ด้วยหัวใจที่โตกว่าอดีตทั้งหมด
ปี ๒๐๒๔ เดมีเผยว่า เวลาที่เธออยู่แอลเอ เธอจะไปเยี่ยมบรูซ “ทุกสัปดาห์”
รักที่ไม่ต้องมีชื่อเรียก
วันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๐๒๕ ขณะบรูซอายุครบ ๗๐ ปี เดมี มัวร์ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นในฐานะคนในครอบครัวของเขา ในชีวิตของลูก ๆ ของเขา และในความทรงจำทั้งหมดที่ประกอบสร้างชีวิตของชายคนหนึ่งให้เป็นบรูซ วิลลิสอย่างที่เรารู้จัก
เธอเคยเขียนไว้ในหนังสือ Inside Out ที่เล่าเรื่องราวชีวิตของเธอ
“มันตลกที่จะพูดแบบนี้ แต่ฉันภูมิใจมากกับการหย่าร้างของเรา เพราะเราเปลี่ยนหัวใจของครอบครัวให้ยังคงอยู่ เพียงแค่ในรูปแบบใหม่”
ไม่มีการพรากจาก
ไม่มีจุดจบ
มีแต่ “ความรักที่เติบโตไปพร้อมกับชีวิต”
เรื่องราวของบรูซและเดมีคือบทเรียนงดงามว่า บางครั้งรักแท้ไม่จำเป็นต้องเป็นคู่ชีวิต แต่เป็นคนที่
ยังจับมือกันผ่านเรื่องยาก ๆ
ยังแบ่งปันครอบครัวเดียวกัน
ยังห่วงใยแม้ไม่ได้เป็นคู่รัก
และยังยิ้มให้กันจากหัวใจที่แท้จริง
นี่คือความรักที่ไม่ได้ “จบ”
มันแค่ เติบโตไปเป็นอีกแบบ แบบที่งดงามกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าใครอีกคนจะไม่สามารถจดจำมันได้อีกแล้ว แต่จะเป็นอะไรเป็นล่ะ ในเมื่อมันเคยเกิดขึ้นแล้ว และจะยังคงอยู่ตลอดไป
CR
https://www.facebook.com/share/1AQrd24stg/?mibextid=wwXIfr
เธอคือ คู่แท้ คู่ชีวิต ของเค้า เดมี่มัวร์♥️บรูซ วิลลิซ
ในโลกฮอลลีวูดที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงฉับพลัน เส้นทางความรักของ บรูซ วิลลิส และ เดมี มัวร์ คือหนึ่งในเรื่องราวที่ทั้งโรแมนติก อ่อนหวาน และเติบโตไปพร้อมกับผู้คนสองคนที่เคยรักกันสุดหัวใจ และยังคงผูกพันกันอย่างลึกซึ้งจนถึงวันนี้ แม้สถานะ “สามีภรรยา” จะเป็นเพียงบทหนึ่งที่จบลงไปแล้วก็ตาม
ประกายแรกในปี ๑๙๘๗ จากมุกเล่นบนโต๊ะพนันสู่คำว่า “I DO”
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นแบบที่เดมีเคยเล่าว่า “เป็นเรื่องบังเอิญที่คาดไม่ถึง”
ทั้งคู่พบกันครั้งแรกในงานฉายภาพยนตร์ Stakeout ในปี ๑๙๘๗ ขณะนั้นเดมียังหมั้นกับเอมิลิโอ เอสเตเวซอยู่ แต่ไม่นานความสัมพันธ์นั้นก็ยุติลง
บรูซ และเดมีเริ่มต้นความสัมพันธฺด้วยบทสนทนาเรื่อย ๆ ที่เหมือนจะเล่น แต่ไม่ใช่เล่น จนคืนหนึ่งที่ลาสเวกัส บนโต๊ะพนัน บรูซพูดขึ้นลอย ๆ ว่า
“ผมว่าพวกเราควรแต่งงานกันนะ”
เดมีคิดว่าเขาล้อเล่น แต่บรูซ…ไม่ได้ล้อเล่นเลย ความรักไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสำหรับเขา
วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๑๙๘๗ หลังจากคบหากัน ๔ เดือน ทั้งคู่จับมือกันเข้าโบสถ์เล็ก ๆ ในโรงแรมโกลเด้นนักเก็ต พร้อมคำว่า “I DO” ที่เริ่มต้นเรื่องรักอันยาวไกลของพวกเขา
เดือนถัดมา ทั้งคู่จัดพิธีอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยมีตำนานอย่าง ลิตเติล ริชาร์ด เป็นผู้ประกอบพิธี โรแมนติก รวดเร็ว และเต็มไปด้วยความสดใสราวกับรักแรก
จากคนรักสู่พ่อแม่ บ้านที่มีเสียงหัวเราะดังเสมอ
เกือบหนึ่งปีต่อมา ลูกสาวคนแรก รูเมอร์ ก็ลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้ เดมีเล่าว่า… ตอนคลอด บรูซเป็นคน “รับทารกด้วยมือของตัวเอง” ด้วยความตื่นเต้นแบบเด็กหนุ่มที่เพิ่งค้นพบบทบาทใหม่ที่เขารักสุดหัวใจ
บรูซเองก็พูดเสมอว่า
“ผมเป็นแฟนตัวยงของเด็ก ๆ ผมมักจะเชียร์ว่า ทุกคนควรได้มีลูก”
ตลอดหลายปี ทั้งคู่สลับคิวงานกันอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ยังมี “พ่อหรือแม่” อยู่กับลูกเสมอ นี่คือเส้นทางรักที่ไม่ใช่แค่ของสองคน…แต่ของทั้งครอบครัว
รักที่เติบโต ไม่ใช่จางหาย
แม้งาน ความสำเร็จ และภาระชีวิตจะถาโถมแต่ทั้งคู่ยังคงทำงานร่วมกันได้ดี เช่นในภาพยนตร์ Mortal Thoughts (1991)เดมีเคยบอกว่า บรรยากาศวันทำงานร่วมกับเขานั้น “ดีมาก” เป็นจังหวะที่เหมาะเจาะ และเติมเต็มกันอย่างพอดี
กระทั่งปี ๑๙๙๘ ทั้งคู่จึงตัดสินใจแยกทางในแบบที่ไม่มีใครเสียใคร มีเพียงผู้ใหญ่สองคนที่เติบโตขึ้น และใน เดือนตุลาคม ๒๐๐๐ การหย่าร้างจบลงอย่างสงบภายในวันเดียว หลังจากใช้เวลาถึงสองปีในการจัดการเรื่องมรดก และจัดทริปท่องเที่ยวแบบครอบครัว
บรูซให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมยังรักเดมี เรามีลูกสามคนที่ผูกโยงเราตลอดชีวิตความเป็นสามีภรรยาอาจจบลง แต่ความเป็นครอบครัวยังอยู่”
นี่คือประโยคที่สรุปหัวใจของความสัมพันธ์คู่นี้ได้ดีที่สุด
จากรักโรแมนติกสู่ความรักแบบครอบครัวแท้จริง
แม้ชีวิตเดินไปในเส้นทางใหม่ เดมีแต่งงานกับ แอชตัน คุชเชอร์ ส่วนบรูซแต่งงานกับ เอ็มมา เฮมิง วิลลิส แต่ความผูกพันระหว่างทั้งสองไม่เพียงยังอยู่ มัน “ยิ่งลึกซึ้งขึ้น”
เดมียังไปงานพรมแดงของบรูซ บรูซยังไปร่วมเปิดตัวหนังสือของเดมี
ครอบครัวของทั้งสอง รวมถึงคู่สมรสใหม่ อยู่ร่วมในเฟรมภาพเดียวกันอย่างอบอุ่น
เดมี่ มัวร์สร้างความประหลาดใจให้กับอดีตสามีของเธอในช่วงท้ายของรายการ Comedy Central Roast of Bruce Willis ในปี ๒๐๑๘ โดยนักแสดงสาวได้ล้อเลียนทักษะการเลี้ยงลูกของวิลลิส และชีวิตคู่ของทั้งสองว่า
"สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักฉัน ฉันชื่อเดมี มัวร์ " คุณแม่ลูกสามกล่าว "ฉันแต่งงานกับบรูซตั้งแต่ Die Hard สามภาคแรก ซึ่งก็สมเหตุสมผล เพราะสองภาคหลังมันห่วยแตกมาก"
มัวร์พูดติดตลกเกี่ยวกับวิธีเลี้ยงลูกของเขาว่า "บรูซใจดีมาก ตอนที่รูเมอร์ ลูกสาวของเรายังเป็นทารก และถึงคราวที่เขาต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมกลางดึก เขาจะโน้มตัวมากระซิบกับฉันว่า 'ถ้าเธอเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ ฉันจะให้เงินเธอหนึ่งพันดอลลาร์เดี๋ยวนี้เลย'"
เขายิ้ม เธอยิ้ม
ลูก ๆ หัวเราะทั้งบ้าน
ความรักอาจเปลี่ยนรูปแบบ แต่ไม่เคยหายไป
เมื่อเวลาพาเราไปสู่บทที่ท้าทายที่สุด
เมื่อบรูซถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคอะเฟเซีย และต่อมาคือโรคสมองเสื่อมส่วนหน้า
เดมี ผู้เป็นอดีตภรรยา ยังคงยืนอยู่ในชีวิตเขาอย่างมั่นคง
เธอบอกลูก ๆ ว่า “เราต้องพบพ่อในจุดที่เขาอยู่ ไม่ใช่ในจุดที่เขาเคยเป็น”
เป็นความงดงามของผู้หญิงคนหนึ่งที่รักใครสักคน…ด้วยหัวใจที่โตกว่าอดีตทั้งหมด
ปี ๒๐๒๔ เดมีเผยว่า เวลาที่เธออยู่แอลเอ เธอจะไปเยี่ยมบรูซ “ทุกสัปดาห์”
รักที่ไม่ต้องมีชื่อเรียก
วันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๐๒๕ ขณะบรูซอายุครบ ๗๐ ปี เดมี มัวร์ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นในฐานะคนในครอบครัวของเขา ในชีวิตของลูก ๆ ของเขา และในความทรงจำทั้งหมดที่ประกอบสร้างชีวิตของชายคนหนึ่งให้เป็นบรูซ วิลลิสอย่างที่เรารู้จัก
เธอเคยเขียนไว้ในหนังสือ Inside Out ที่เล่าเรื่องราวชีวิตของเธอ
“มันตลกที่จะพูดแบบนี้ แต่ฉันภูมิใจมากกับการหย่าร้างของเรา เพราะเราเปลี่ยนหัวใจของครอบครัวให้ยังคงอยู่ เพียงแค่ในรูปแบบใหม่”
ไม่มีการพรากจาก
ไม่มีจุดจบ
มีแต่ “ความรักที่เติบโตไปพร้อมกับชีวิต”
เรื่องราวของบรูซและเดมีคือบทเรียนงดงามว่า บางครั้งรักแท้ไม่จำเป็นต้องเป็นคู่ชีวิต แต่เป็นคนที่
ยังจับมือกันผ่านเรื่องยาก ๆ
ยังแบ่งปันครอบครัวเดียวกัน
ยังห่วงใยแม้ไม่ได้เป็นคู่รัก
และยังยิ้มให้กันจากหัวใจที่แท้จริง
นี่คือความรักที่ไม่ได้ “จบ”
มันแค่ เติบโตไปเป็นอีกแบบ แบบที่งดงามกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าใครอีกคนจะไม่สามารถจดจำมันได้อีกแล้ว แต่จะเป็นอะไรเป็นล่ะ ในเมื่อมันเคยเกิดขึ้นแล้ว และจะยังคงอยู่ตลอดไป
CR https://www.facebook.com/share/1AQrd24stg/?mibextid=wwXIfr