ฝ่ายค้าน เคาะ 16ม.ค.ยื่นญัตติเปิดซักฟอก 'สมพงษ์' นำทีมไม่ไว้วางใจรบ.บิ๊กตู่
https://www.matichon.co.th/politics/news_1865606
“สุทิน” เผย ฝ่ายค้านจ่อยื่นญัตติซักฟอก รบ.16 ม.ค.ก่อนเปิดศึกไม่เกินกลาง ก.พ. เตรียมหารือ กมธ.งบฯ ก่อนเคาะโหวตผ่านหรือไม่ ปูดงบหลายตัวส่อขัด รธน.ต้องยื่นศาลตีความ
เมื่อวันที่ 4 มกราคม นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน กล่าวภายหลังหารือร่วมกับคณะกรรมการกิจการพิเศษ (กพศ.) ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ขณะนี้เราแบ่งวิธีการทำงานออกเป็น 2 ทีม โดยกพศ.จะเป็นทีมดูแลเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาล ส่วนคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพท.จะเป็นทีมดูแลเรื่องความล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในภาพรวม ทั้งเรื่องเรื่องความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ความล้มเหลวในการบริหารประเทศ การทุจริตเชิงนโยบายและผลประโยชน์ทับซ้อน โดยทั้ง 2 ทีมจะแยกกันซักซ้อมข้อมูลแล้วค่อยมารวมกันอีกครั้ง
นาย
สุทิน กล่าวว่า สำหรับผู้อภิปรายในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีประมาณ 15 คน โดยจะมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท.ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เป็นผู้อภิปรายเปิด และมีตนเป็นผู้อภิปรายปิด ในส่วนของการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น เนื่องจากฝ่ายค้านต้องการอภิปรายในช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน และเราได้หารือกับประธานวิปรัฐบาลในเบื้องต้นแล้ว เห็นตรงกันว่า ควรอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไม่เกินกลางเดือน กุมภาพันธ์ ดังนั้น ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจประมาณวันที่ 16 มกราคมนี้ โดยจะได้หารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ อีกครั้งในวันที่ 8 มกราคมนี้
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในวาระสองและสามช่วงวันที่ 8 – 10 มกราคมนี้นั้น ในวันที่ 6 มกราคมนี้ ตัวแทนกรรมาธิการงบประมาณฯในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะประชุมร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ โดยจะได้สรุปข้อมูลทั้งหมดว่า ทางรัฐบาลได้มีการปรับลดหรือแก้ไขงบตามที่ฝ่ายค้านเสนอแนะหรือไม่ จากนั้นจะได้หารือร่วมกับกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ในวันที่ 7 มกราคมว่า จะยกมือโหวตให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ผ่านหรือไม่
“
มือของฝ่ายค้านอาจจะแพ้มือของรัฐบาล แต่ก็มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายที่หลายคนกังวล เนื่องจากมีงบประมาณหลายตัวที่อาจทำไม่ได้ ส่อขัดกฎหมาย อาทิ รัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฯ เป็นต้น ซึ่งอาจจะต้องยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อตีความด้วย โดยเรากำลังให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคตีความอยู่ เพราะหากเราจะยกมือโหวตให้งบผ่านได้ เราต้องมั่นใจว่าไม่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญเราจะมองโอกาสของประเทศเป็นสำคัญ เพราะเม็ดเงินที่จะใช้หล่อเลี้ยงประเทศได้ มีเพียงงบประมาณแผ่นดินเท่านั้น จะพึ่งการลงทุนจากต่างประเทศก็ไม่มี ซึ่งฝ่ายค้านมีความรับผิดชอบ เราไม่ได้คิดแต่เล่นการเมือง แต่รัฐบาลก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อฝ่ายค้าน ประชาชนและประเทศด้วย ซึ่งเราจะฟังเหตุผลและความจำเป็นของรัฐบาลก่อน” นาย
สุทิน กล่าว
'เทพไท'เล็งถล่มงบ อบรมสัมมนา หลักสูตรพิเศษ'กระบวนการยุติธรรม -องค์กรอิสระ' แค่สร้างคอนเน็กชั่น
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1865923
“เทพไท”เล็งถล่มงบ จัดอบรม สัมมนา หลักสูตรพิเศษ ของกระบวนการยุติธรรม -องค์กรอิสระ แค่สร้างคอนเน็กชั่น ทำเสียความเป็นกลาง แต่เชื่อ งบ 63 ผ่าน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะฝ่ายค้านไม่กล้าโหวตไม่รับ วอน “บิ๊กตู่”ร่วมประชุมสภาฯฟังการอภิปรายของส.ส.ตลอดเวลา
เมื่อวันที่ 5 ม.ค.นาย
เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที 8-9 ม.ค.เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563ในวาระสอง และวาระสาม ว่า
ในฐานะส.ส.ที่ได้สงวนคำแปรญัตติได้ ขอปรับลด 10-15% ในทุกมาตรา ยกเว้นหมวดที่เกี่ยวกับงบประมาณของสำนักพระราชวัง ดังนั้นจะใช้สิทธิ์การอภิปรายในวาระสองอย่างเต็มที่ โดยจะอภิปรายเน้นหนักในงบประมาณการจัดอบรม สัมมนาและการจัดหลักสูตรพิเศษของหน่วยงาน หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม เพราะเห็นว่าการจัดหลักสูตรการฝึกอบรมสัมมนาขององค์กรอิสระ จะเป็นการสร้างระบบอุปถัมภ์ หรือสร้างคอนเนคชั่นกันระหว่างผู้เข้าเรียนหลักสูตรเหล่านั้นซึ่งจะทำให้กระบวนการยุติธรรม และการตรวจสอบขององค์กรอิสระ สูญเสียความเป็นอิสระ หรือความเป็นกลางได้ จึงไม่ควรจะมีหลักสูตรเหล่านี้ ยกเว้นหลักสูตรด้านความมั่นคงของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) หรือหลักสูตรด้านการเมืองของสถาบันพระปกเกล้า (ปปร.) ส่วนภาคเอกชน เช่น หลักสูตรวิทยาลัยตลาดทุน(วตท.)หรือหลักสูตรวิทยาลัยการพลังงาน(วพน.) ก็เป็นสิทธิ์ของภาคเอกชนที่สามารถทำได้อย่างอิสระ นอกจากนี้แล้วไม่ควรจะจัดหลักสูตรพิเศษใดๆทั้งสิ้น เพราะจะทำให้กระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เสื่อมเสีย ขาดความเชื่อมั่นจากสังคม ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร ของศาลยุติธรรม, ศาลรัฐธรรมนูญ, ศาลปกครอง, คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) หรือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)
นาย
เทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนการลงมติในวาระสาม มั่นใจว่าสามารถผ่านมติของสภาฯได้อย่างแน่นอน แม้รัฐบาลเสียงจะปริ่มน้ำก็ตาม ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุม ส.ส. ในวันอังคารที่ 7 ม.ค.นี้ เพื่อรับฟังมติวิปรัฐบาลจากวิปของพรรค และเชื่อว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกคน ต้องลงมติตามมติวิปรัฐบาลทุกคน ซึ่งการลงมติของฝ่ายค้านเชื่อว่าทำได้ก็แค่ลงมติงดออกเสียง คงไม่มี ส.ส.คนใดโหวตไม่รับร่าง พ.ร.บ.งบฯ อย่างแน่นอน จึงทำให้มั่นใจว่า พ.ร.บ.งบฯ 63 ผ่านได้100%
“
การพิจารณางบฯ 63 ครั้งนี้อยากเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เข้าร่วมการประชุมเพื่อรับฟังการอภิปรายของส.ส.ตลอดเวลาการประชุม เพื่อรับฟังเหตุผลของส.ส.ในการเสนอแนะ ตั้งข้อสังเกตการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูล ปรับปรุงแก้ไขในการบริหารประเทศต่อไป” นาย
เทพไท กล่าว
นาย
เทพไท กล่าวด้วยว่า อยากให้ พล.อ.
ประยุทธ์ ดูแบบอย่างการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในอดีต ที่ให้ความสำคัญกับการประชุมสภาฯ และให้เกียรติกับฝ่ายนิติบัญญัติมากเป็นพิเศษของนาย
สมัคร สุนทรเวช หรือนาย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ แต่ไม่ควรจะเอาแบบอย่างของนาย
ทักษิณ ชินวัตร หรือน.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ให้ความสำคัญกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรน้อยมาก ดังนั้นพล.อ.
ประยุทธ์ก็ควรจะเข้าร่วมประชุม และตอบกระทู้ถามด้วยตัวเองให้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมา พล.อ.
ประยุทธ์ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการทำงานของสภาผู้แทนราษฎรเท่าที่ควร หวังว่าในปีนี้คงจะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร ที่ให้ความสำคัญกับการทำงานและการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติให้มากกว่าปีที่ผ่านมา
JJNY : เคาะ 16 ม.ค.ยื่นญัตติเปิดซักฟอก 'สมพงษ์'นำทีม/เทพไท'เล็งถล่มงบอบรมสัมมนา /ชาวสวนยางโอดมาตรการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด
https://www.matichon.co.th/politics/news_1865606
“สุทิน” เผย ฝ่ายค้านจ่อยื่นญัตติซักฟอก รบ.16 ม.ค.ก่อนเปิดศึกไม่เกินกลาง ก.พ. เตรียมหารือ กมธ.งบฯ ก่อนเคาะโหวตผ่านหรือไม่ ปูดงบหลายตัวส่อขัด รธน.ต้องยื่นศาลตีความ
เมื่อวันที่ 4 มกราคม นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน กล่าวภายหลังหารือร่วมกับคณะกรรมการกิจการพิเศษ (กพศ.) ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ขณะนี้เราแบ่งวิธีการทำงานออกเป็น 2 ทีม โดยกพศ.จะเป็นทีมดูแลเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาล ส่วนคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพท.จะเป็นทีมดูแลเรื่องความล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในภาพรวม ทั้งเรื่องเรื่องความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ความล้มเหลวในการบริหารประเทศ การทุจริตเชิงนโยบายและผลประโยชน์ทับซ้อน โดยทั้ง 2 ทีมจะแยกกันซักซ้อมข้อมูลแล้วค่อยมารวมกันอีกครั้ง
นายสุทิน กล่าวว่า สำหรับผู้อภิปรายในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีประมาณ 15 คน โดยจะมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท.ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เป็นผู้อภิปรายเปิด และมีตนเป็นผู้อภิปรายปิด ในส่วนของการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น เนื่องจากฝ่ายค้านต้องการอภิปรายในช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน และเราได้หารือกับประธานวิปรัฐบาลในเบื้องต้นแล้ว เห็นตรงกันว่า ควรอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไม่เกินกลางเดือน กุมภาพันธ์ ดังนั้น ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจประมาณวันที่ 16 มกราคมนี้ โดยจะได้หารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ อีกครั้งในวันที่ 8 มกราคมนี้
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในวาระสองและสามช่วงวันที่ 8 – 10 มกราคมนี้นั้น ในวันที่ 6 มกราคมนี้ ตัวแทนกรรมาธิการงบประมาณฯในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะประชุมร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ โดยจะได้สรุปข้อมูลทั้งหมดว่า ทางรัฐบาลได้มีการปรับลดหรือแก้ไขงบตามที่ฝ่ายค้านเสนอแนะหรือไม่ จากนั้นจะได้หารือร่วมกับกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ในวันที่ 7 มกราคมว่า จะยกมือโหวตให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ผ่านหรือไม่
“มือของฝ่ายค้านอาจจะแพ้มือของรัฐบาล แต่ก็มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายที่หลายคนกังวล เนื่องจากมีงบประมาณหลายตัวที่อาจทำไม่ได้ ส่อขัดกฎหมาย อาทิ รัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฯ เป็นต้น ซึ่งอาจจะต้องยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อตีความด้วย โดยเรากำลังให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคตีความอยู่ เพราะหากเราจะยกมือโหวตให้งบผ่านได้ เราต้องมั่นใจว่าไม่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญเราจะมองโอกาสของประเทศเป็นสำคัญ เพราะเม็ดเงินที่จะใช้หล่อเลี้ยงประเทศได้ มีเพียงงบประมาณแผ่นดินเท่านั้น จะพึ่งการลงทุนจากต่างประเทศก็ไม่มี ซึ่งฝ่ายค้านมีความรับผิดชอบ เราไม่ได้คิดแต่เล่นการเมือง แต่รัฐบาลก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อฝ่ายค้าน ประชาชนและประเทศด้วย ซึ่งเราจะฟังเหตุผลและความจำเป็นของรัฐบาลก่อน” นายสุทิน กล่าว
'เทพไท'เล็งถล่มงบ อบรมสัมมนา หลักสูตรพิเศษ'กระบวนการยุติธรรม -องค์กรอิสระ' แค่สร้างคอนเน็กชั่น
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1865923
“เทพไท”เล็งถล่มงบ จัดอบรม สัมมนา หลักสูตรพิเศษ ของกระบวนการยุติธรรม -องค์กรอิสระ แค่สร้างคอนเน็กชั่น ทำเสียความเป็นกลาง แต่เชื่อ งบ 63 ผ่าน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะฝ่ายค้านไม่กล้าโหวตไม่รับ วอน “บิ๊กตู่”ร่วมประชุมสภาฯฟังการอภิปรายของส.ส.ตลอดเวลา
เมื่อวันที่ 5 ม.ค.นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที 8-9 ม.ค.เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563ในวาระสอง และวาระสาม ว่า
ในฐานะส.ส.ที่ได้สงวนคำแปรญัตติได้ ขอปรับลด 10-15% ในทุกมาตรา ยกเว้นหมวดที่เกี่ยวกับงบประมาณของสำนักพระราชวัง ดังนั้นจะใช้สิทธิ์การอภิปรายในวาระสองอย่างเต็มที่ โดยจะอภิปรายเน้นหนักในงบประมาณการจัดอบรม สัมมนาและการจัดหลักสูตรพิเศษของหน่วยงาน หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม เพราะเห็นว่าการจัดหลักสูตรการฝึกอบรมสัมมนาขององค์กรอิสระ จะเป็นการสร้างระบบอุปถัมภ์ หรือสร้างคอนเนคชั่นกันระหว่างผู้เข้าเรียนหลักสูตรเหล่านั้นซึ่งจะทำให้กระบวนการยุติธรรม และการตรวจสอบขององค์กรอิสระ สูญเสียความเป็นอิสระ หรือความเป็นกลางได้ จึงไม่ควรจะมีหลักสูตรเหล่านี้ ยกเว้นหลักสูตรด้านความมั่นคงของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) หรือหลักสูตรด้านการเมืองของสถาบันพระปกเกล้า (ปปร.) ส่วนภาคเอกชน เช่น หลักสูตรวิทยาลัยตลาดทุน(วตท.)หรือหลักสูตรวิทยาลัยการพลังงาน(วพน.) ก็เป็นสิทธิ์ของภาคเอกชนที่สามารถทำได้อย่างอิสระ นอกจากนี้แล้วไม่ควรจะจัดหลักสูตรพิเศษใดๆทั้งสิ้น เพราะจะทำให้กระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เสื่อมเสีย ขาดความเชื่อมั่นจากสังคม ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร ของศาลยุติธรรม, ศาลรัฐธรรมนูญ, ศาลปกครอง, คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) หรือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนการลงมติในวาระสาม มั่นใจว่าสามารถผ่านมติของสภาฯได้อย่างแน่นอน แม้รัฐบาลเสียงจะปริ่มน้ำก็ตาม ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุม ส.ส. ในวันอังคารที่ 7 ม.ค.นี้ เพื่อรับฟังมติวิปรัฐบาลจากวิปของพรรค และเชื่อว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกคน ต้องลงมติตามมติวิปรัฐบาลทุกคน ซึ่งการลงมติของฝ่ายค้านเชื่อว่าทำได้ก็แค่ลงมติงดออกเสียง คงไม่มี ส.ส.คนใดโหวตไม่รับร่าง พ.ร.บ.งบฯ อย่างแน่นอน จึงทำให้มั่นใจว่า พ.ร.บ.งบฯ 63 ผ่านได้100%
“การพิจารณางบฯ 63 ครั้งนี้อยากเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เข้าร่วมการประชุมเพื่อรับฟังการอภิปรายของส.ส.ตลอดเวลาการประชุม เพื่อรับฟังเหตุผลของส.ส.ในการเสนอแนะ ตั้งข้อสังเกตการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูล ปรับปรุงแก้ไขในการบริหารประเทศต่อไป” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ดูแบบอย่างการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในอดีต ที่ให้ความสำคัญกับการประชุมสภาฯ และให้เกียรติกับฝ่ายนิติบัญญัติมากเป็นพิเศษของนายสมัคร สุนทรเวช หรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ แต่ไม่ควรจะเอาแบบอย่างของนายทักษิณ ชินวัตร หรือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ให้ความสำคัญกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรน้อยมาก ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ก็ควรจะเข้าร่วมประชุม และตอบกระทู้ถามด้วยตัวเองให้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการทำงานของสภาผู้แทนราษฎรเท่าที่ควร หวังว่าในปีนี้คงจะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร ที่ให้ความสำคัญกับการทำงานและการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติให้มากกว่าปีที่ผ่านมา