'7 พรรคฝ่ายค้าน' ให้ฟรีโหวต ลงมติงบฯ ส่วน 'เพื่อไทย' รอฟังชี้แจง แต่จ่อไม่ผ่านให้
https://www.matichon.co.th/politics/news_1871129
 
 
วันนี้การประชุมวิปฝ่ายค้าน แต่ละพรรคขอดูการอภิปรายงบประมาณในสภาช่วง 2 วันนี้ก่อน แล้ววันสุดท้ายซึ่งคาดว่าเป็นเย็นวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม จะมาประชุมหารือกันเพื่อหามติอีกครั้งว่าจะโหวตกันอย่างไร โดยเรามีความเห็นในที่ประชุมว่า เราไม่จำเป็นต้องยึดธรรมเนียมเดิม ว่าต้องโหวตสวนจำนวนเท่านั้นเท่านี้ แต่จะว่ากันไปตามเนื้อผ้าจริงๆ โดยจากการฟังข้อมูลที่ กมธ.ฝั่งพรรค พท.มาชี้แจงเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา พบว่า รัฐบาลยังไม่ได้มีการปรับแก้ไขในส่วนที่ฝ่ายค้านเสนอในขั้นรับหลักการ ซึ่งงบยังกระจุกอยู่ในส่วนของความมั่นคง และการจัดทำงบน่าจะขัดกับกฎหมาย เช่น การโอนงบให้องค์กรนิติบุคคล เป็นต้น เป็นเหตุให้อาจจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ หรืออาจจะต้องมีการฟ้องศาลให้ชี้ เมื่อได้รับฟังข้อมูลแล้วหลายคนเกิดความไม่สบายใจ มีแนวโน้มที่จะไม่โหวตให้งบผ่าน เนื่องจากเป็นการเอาประชาชน รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจมาเป็นตัวประกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับการอภิปรายประธานสภาจะเปิดโอกาสให้พูดคนละ 5 นาที ซึ่งเรามองว่าน้อยเกินไป จึงจะทำเรื่องขอเวลาเพิ่มประมาณ 15 นาที หรืออย่างน้อย 10 นาที เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ วันนี้ทุกพรรคพร้อมที่จะเดินหน้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ก่อนหน้านั้นคือวันที่ 18 มกราคม ฝ่ายค้านจะมีการแถลงผลงานของฝ่ายค้าน
 

---

 
“ปิยบุตร” เผย “อนค.” จ่ออภิปราย งบกลาโหม-เบี้ยประชุมผู้พิพากษา พบซ้ำซ้อน-ฟุ่มเฟือย
https://www.matichon.co.th/politics/news_1871540
 
“ปิยบุตร” เผย “อนค.” เตรียมทะลวงประเด็นงบกลาโหม-เบี้ยประชุมผู้พิพากษา ยัน ยังไม่ตัดสินใจว่าจะโหวตแบบไหน
 
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 มกราคม ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า หากจะพุ่งเป้าไปที่งบประมาณของกระทรวงกลาโหม โดย ส.ส.ที่จะอภิปรายมีหลายคน เช่น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เรื่องงบประมาณในการเกณฑ์ทหาร นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ เรื่องงบประมาณการซื้ออาวุธ นายพิจารณ์  เชาวพัฒนวงศ์ เรื่องการใช้งบซ้ำซ้อน จุกจิก การโอนงบประมาณกันไปกันมา การตั้งงบแล้วเบิกไม่ได้และการผลิตอาวุธ ขณะที่ในเรื่องการกระจายอำนาจ จะเป็นนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
 
นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า เช่นเดียวกับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ใช้งบประมาณเยอะ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน โดยเป็นหน้าที่ของน.ส.พรรณิการ์ วานิช และนายรังสิมันต์ โรม ส่วนตนเอง แม้ไม่ได้เป็น กมธ.แต่ตนได้แปรญัตติเรื่องงบของสำนักงานศาลปกครอง สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระต่างๆ ที่ใช้ไปในการจัดหลักสูตร โครงการอบรมต่างๆ ซึ่งใช้ค่อนข้างมากทั้งที่ไม่ได้เป็นภารกิจของศาล อีกทั้งยังทำให้หลักสูตรเหล่านี้เกิดความคลางแคลงใจในสังคม ว่าท้ายที่สุด เวลาสำนักงานศาลเหล่านี้เปิดหลักสูตรมาเพื่อสร้าง คอนเน็กชั่นกันใช่หรือไม่
 
“นอกจากนี้ยังมีงบประมาณของสำนักศาลรัฐธรรมนูญที่เอาไปทำ พิพิธภัณฑ์ และบ้านพญารัตนาธิเบศร์ ซึ่งใช้งบประมาณเยอะมาก นอกจากนั้น จะมีกรณีเบี้ยประชุม หากทุกท่านจำกันได้ คือ ตอนสภาเปิดใหม่ๆ มีรายของของสำนักงานศาลยุติธรรมเข้ามา แล้วผมได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ทำไม ปีงบประมาณนึง มีค่าใช้สอยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในส่วนนี้ถูกเอาไปใช้เป็นเบี้ยประชุมของผู้พิพากษา ศาลฎีกา ครั้งนี้พอดูงบ ปรากฏว่าตุลาการศาลปกครองสูงสุด เอาบ้าง เห็นว่าศาลฎีกาทำ เลยจะเอาเบี้ยประชุมบ้าง ซึ่งปีนึงใช้งบหลายร้อยล้าน ทั้งที่มีเงินเดือนประจำอยู่แล้ว นอกจากนั้นจะเป็นภาพรวม” นายปิยบุตร กล่าวและว่า หลายเรื่องเป็นเรื่องโครงการที่มันซ้ำซ้อน และฟุ่มเฟือย ที่เราเสนอให้ตัดหลายเรื่องเป็นของกระทรวงกลาโหม ตนคิดว่าเวลาประเทศมีปัญหาปากท้อง งบกลาโหมไม่ควรมากขนาดนี้ ซึ่งงบเหล่านี้ไม่ใช่งบสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจแน่นอน
 
เมื่อถามว่า จะไม่ยึดตามวาระ 1 คือ งดออกเสียงใช่หรือไม่ นายปิยบุตร บอกว่า ในส่วนนี้ยังไม่ได้คุยกันในพรรคร่วมฝ่ายค้าน และตนคอกว่าคงจะยังไม่มีมติตอนนี้ คงต้องรอดูการอภิปรายก่อน
 
เมื่อถามถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายปิยบุตร เปิดเผยว่า พูดคุยกับแกนนำฝ่ายค้านเกือบทุกพรรค ว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีคนไหน แต่ถ้าพูดไปก็คงไม่ตื่นเต้น บางทีหนังม้วนดีๆ ที่ตื่นเต้นๆ อาจต้องไปเปิดช่วงท้ายๆ แต่บอกใบ้ไว้ว่า มีรัฐมนตรี 4 ท่านที่เราจะอภิปราย ในประเด็นการบริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด การทุจริต และการบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาด และคุณสมบัติของรัฐมนตรี