เริ่มด้วยเทรลแรกในชีวิต กับ ระยะทาง HALF แรกเช่นกัน
รู้สึกตื่นเต้นและมากับทีมเพื่อน AMICO อีกประมาณ 6 คน กับงานวิ่งเขาครั้งแรกจึงออกซ้อมกับเพื่อนที่เขาฉลากเป็นจำนวน 1 ครั้งถ้วนแต่แอบอยากลองของใหม่
ก่อนการเริ่มวิ่งช่วงกลางคืนจะจัดเตรียมของเพื่อเช็คความพร้อมและ
เพื่อถ่ายรูปลง FB ให้เพื่อนๆส่งใจมาเชียร์ แฮ่ๆ อุปกรณ์รอบนี้จะค่อนข้างเบาเน้นเจลที่กินเพื่อเพิ่มพลังในการวิ่งกับใจล้วนๆเลยค่ะ เพราะเค้าว่ากันว่า KPTC เป็งานวิ่งเทรลที่สบายที่สุดแล้ว

ในรูปนี้เราจะสังเกตได้ถึงเส้นทางการวิ่งที่ค่อนข้างจะต้องคิดแผนก่อนการวิ่งว่าจะพักดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำตรงไหนได้บ้าง
เอาจริงๆว่า นี่เป้นสนามวิ่งเทรลแรกที่น่าจะตื่นเต้นที่สุดแล้วแหละ แต่สุดท้ายจบด้วยเวลา 4 ชม.กว่าๆพร้อมพี่ชายที่เป็นตะคริวเลยอยากรอจบไป
พร้อมกัน เพราะตอนนั้นสัญญาว่าเราจะจบพร้อมกันทั้งทีม อั้ยย่ะ
ในระหว่างทางแอบเห็นตากล้องพยายามเก็กหน้าสวยๆอยากได้รูปสวยๆต้องเล็งมุมดีๆนะคะ
และมาจนถึงจุดที่ต้องเดินเราก็เหม่อจนหกล้มไป 1 ที
ไฮไลท์ของที่นี่คือสว จะมีจุดวิ่งช่วงนึงที่ผ่านเข้าสวนสัตว์ได้ชมสัตว์ต่างๆ ถือเป็นการพักผ่อนเล็กๆเลยละ

สำหรับงานวิ่งเทรลที่สอง งาน The nevigator รู้สึกหลงรักในการวิ่งเข้าป่า พอดีกับเพื่อนชวนไปวิ่งและซ้อมการวิ่งเทรลที่เขาฉลากก่อนไปงานอีกประมาณ 4 รอบ ครั้งแรกที่ไปซ้อมพูดเลยหอบลิ้นห้อยแต่พอได้ไปหลายครั้งแล้วรู้สึกแข็งแรงขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
กลับมาที่งานวิ่งเทรล งานนี้ที่ไม่เอาความเร็วแต่เป็นการวิ่งที่เก็บคะแนนตามสถานที่ต่างๆ
ถ้าใครได้คะแนนเยอะสุดได้ถ้วยไปครอง แถมต้องคิดเส้นทางเองตอนเช้าวันที่วิ่งนั้นทันที
ส่วนคะแนนที่ได้ทะแด้นนน 143 คะแนน ตามรูปเลย ด้วยระยะทาง 30 KM เวลา 10 ชม.

BIB 809 กับการแต่งตัวที่นัดกันมาเป็นคู่ เราชอบงานนี้ที่สุด และที่สำคัญพี่ตากล้องตามมาถ่ายรูปให้ด้วย

ส่วนรูปนี้เราต้อง Selfie เพื่อส่งงานและนับคะแนน จัดไปเบอร์ 14 น่าจะ 3 คะแนน คะแนนสูงขึ้นอยู่กับความยากง่ายล้วนๆ
บางทีต้องปีนบางทีต้องไถลลงไป

รูปนี้อึ้งมากๆเพราะต้องปีนรถแทรตเตอร์ไปถ่ายรูปมา ดีนะที่ไปฝึกปีนผามา 555

รูปนี้ตอนเจอพี่ตากล้อง มันก็จะร่าเริงประมาณนี้ หายเหนื่อยเฉยเลย
สุดท้ายคือ งานเทรลที่ 3 ชื่อว่า " CM 6 " แต่เราลงระยะ 21 K เค้าเรียกกันว่า "CM1" ซึ่งมีผู้จัดเดียวกับงานที่สอง งานนี้ไปเพราะรุ่นพี่คนนึงงมาชวนแต่สุดท้ายเค้าก็เทไม่ไป เห้ออ แต่ด้วยใจสู้เราก็ต้องไปสิเพราะมีพี่ๆคนอื่นๆไปด้วยอีก 4 คน งานนี้จบด้วยระยะเวลา 2 ชม กว่าๆ
สุดท้ายแล้วนะขอขอบคุณทีม AMICO โค้ช และเพื่อนในทีมทุกคนที่ช่วยจุดประกายการวิ่ง ที่ช่วยฝึกซ้อมวิ่งในสนามและวิ่งที่เขาฉลาก
พร้อมให้ความรู้ด้านการวิ่งมาตลอด มันทำให้การวิ่งมีความสุขมากๆจริงๆ คุณลองนึกสิการวิ่งเป็นกลุ่มดีกว่าวิ่งโดดเดี่ยวอยู่แล้ว

ท่ากายบริหารเบาๆ
สำหรับบทสรุปี่ว่า วิ่งเทรลยังไงให้มีความสุข มันคือ ตามที่ได้เล่ามาเรามีความสุขที่ได้ออกวิ่ง วิ่งในแบบของเรา การมีเพื่อนที่มาร่วมวิ่งด้วย การที่ได้ความสัมพันธ์ที่ดี ได้มิตรภาพที่ดี ที่สำคัญ สุขภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้ การวิ่งไม่ได้มีแค่ความสุขแต่ได้ความธรรมชาติ และสิ่งที่เราพบเจอต่างๆนานา ในระหว่างวิ่งเทรล ถ้าได้ออกวิ่งแล้วจะรู้ว่าหยุดไม่ได้แล้ว
สิ่งสำคัญคือ "ใจของเรา" อย่าให้อะไรมาขวางความสุขที่เรามีอยู่นะคะ
Mui Amicoxruning
[CR] วิ่งเทรลอย่างไรให้มีความสุข
รู้สึกตื่นเต้นและมากับทีมเพื่อน AMICO อีกประมาณ 6 คน กับงานวิ่งเขาครั้งแรกจึงออกซ้อมกับเพื่อนที่เขาฉลากเป็นจำนวน 1 ครั้งถ้วนแต่แอบอยากลองของใหม่
ก่อนการเริ่มวิ่งช่วงกลางคืนจะจัดเตรียมของเพื่อเช็คความพร้อมและ
เพื่อถ่ายรูปลง FB ให้เพื่อนๆส่งใจมาเชียร์ แฮ่ๆ อุปกรณ์รอบนี้จะค่อนข้างเบาเน้นเจลที่กินเพื่อเพิ่มพลังในการวิ่งกับใจล้วนๆเลยค่ะ เพราะเค้าว่ากันว่า KPTC เป็งานวิ่งเทรลที่สบายที่สุดแล้ว
ในรูปนี้เราจะสังเกตได้ถึงเส้นทางการวิ่งที่ค่อนข้างจะต้องคิดแผนก่อนการวิ่งว่าจะพักดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำตรงไหนได้บ้าง
เอาจริงๆว่า นี่เป้นสนามวิ่งเทรลแรกที่น่าจะตื่นเต้นที่สุดแล้วแหละ แต่สุดท้ายจบด้วยเวลา 4 ชม.กว่าๆพร้อมพี่ชายที่เป็นตะคริวเลยอยากรอจบไป
พร้อมกัน เพราะตอนนั้นสัญญาว่าเราจะจบพร้อมกันทั้งทีม อั้ยย่ะ
ในระหว่างทางแอบเห็นตากล้องพยายามเก็กหน้าสวยๆอยากได้รูปสวยๆต้องเล็งมุมดีๆนะคะ
และมาจนถึงจุดที่ต้องเดินเราก็เหม่อจนหกล้มไป 1 ที
ไฮไลท์ของที่นี่คือสว จะมีจุดวิ่งช่วงนึงที่ผ่านเข้าสวนสัตว์ได้ชมสัตว์ต่างๆ ถือเป็นการพักผ่อนเล็กๆเลยละ
สำหรับงานวิ่งเทรลที่สอง งาน The nevigator รู้สึกหลงรักในการวิ่งเข้าป่า พอดีกับเพื่อนชวนไปวิ่งและซ้อมการวิ่งเทรลที่เขาฉลากก่อนไปงานอีกประมาณ 4 รอบ ครั้งแรกที่ไปซ้อมพูดเลยหอบลิ้นห้อยแต่พอได้ไปหลายครั้งแล้วรู้สึกแข็งแรงขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
กลับมาที่งานวิ่งเทรล งานนี้ที่ไม่เอาความเร็วแต่เป็นการวิ่งที่เก็บคะแนนตามสถานที่ต่างๆ
ถ้าใครได้คะแนนเยอะสุดได้ถ้วยไปครอง แถมต้องคิดเส้นทางเองตอนเช้าวันที่วิ่งนั้นทันที
ส่วนคะแนนที่ได้ทะแด้นนน 143 คะแนน ตามรูปเลย ด้วยระยะทาง 30 KM เวลา 10 ชม.
BIB 809 กับการแต่งตัวที่นัดกันมาเป็นคู่ เราชอบงานนี้ที่สุด และที่สำคัญพี่ตากล้องตามมาถ่ายรูปให้ด้วย
ส่วนรูปนี้เราต้อง Selfie เพื่อส่งงานและนับคะแนน จัดไปเบอร์ 14 น่าจะ 3 คะแนน คะแนนสูงขึ้นอยู่กับความยากง่ายล้วนๆ
บางทีต้องปีนบางทีต้องไถลลงไป
รูปนี้อึ้งมากๆเพราะต้องปีนรถแทรตเตอร์ไปถ่ายรูปมา ดีนะที่ไปฝึกปีนผามา 555
รูปนี้ตอนเจอพี่ตากล้อง มันก็จะร่าเริงประมาณนี้ หายเหนื่อยเฉยเลย
สุดท้ายคือ งานเทรลที่ 3 ชื่อว่า " CM 6 " แต่เราลงระยะ 21 K เค้าเรียกกันว่า "CM1" ซึ่งมีผู้จัดเดียวกับงานที่สอง งานนี้ไปเพราะรุ่นพี่คนนึงงมาชวนแต่สุดท้ายเค้าก็เทไม่ไป เห้ออ แต่ด้วยใจสู้เราก็ต้องไปสิเพราะมีพี่ๆคนอื่นๆไปด้วยอีก 4 คน งานนี้จบด้วยระยะเวลา 2 ชม กว่าๆ
สุดท้ายแล้วนะขอขอบคุณทีม AMICO โค้ช และเพื่อนในทีมทุกคนที่ช่วยจุดประกายการวิ่ง ที่ช่วยฝึกซ้อมวิ่งในสนามและวิ่งที่เขาฉลาก
พร้อมให้ความรู้ด้านการวิ่งมาตลอด มันทำให้การวิ่งมีความสุขมากๆจริงๆ คุณลองนึกสิการวิ่งเป็นกลุ่มดีกว่าวิ่งโดดเดี่ยวอยู่แล้ว
ท่ากายบริหารเบาๆ
สำหรับบทสรุปี่ว่า วิ่งเทรลยังไงให้มีความสุข มันคือ ตามที่ได้เล่ามาเรามีความสุขที่ได้ออกวิ่ง วิ่งในแบบของเรา การมีเพื่อนที่มาร่วมวิ่งด้วย การที่ได้ความสัมพันธ์ที่ดี ได้มิตรภาพที่ดี ที่สำคัญ สุขภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้ การวิ่งไม่ได้มีแค่ความสุขแต่ได้ความธรรมชาติ และสิ่งที่เราพบเจอต่างๆนานา ในระหว่างวิ่งเทรล ถ้าได้ออกวิ่งแล้วจะรู้ว่าหยุดไม่ได้แล้ว
สิ่งสำคัญคือ "ใจของเรา" อย่าให้อะไรมาขวางความสุขที่เรามีอยู่นะคะ
Mui Amicoxruning
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้