เตรียมพร้อมรับมือปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยง แต่ไม่เสียสุขภาพ
ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบนี้ หลายๆ คนคงวางแผนที่จะจัดปาร์ตี้เพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความสุขกันอยู่ใช่มั้ยล่ะครับ แต่ก็อย่ากินดื่มกันจนเพลินนะครับ เพราะหลายๆ คนอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่ตามมาหลังปาร์ตี้ก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ และความดันโลหิตสูง ยิ่งถ้าดื่มหนัก พักผ่อนน้อยด้วยแล้วล่ะก็ ตับก็อาจจะมีปัญหาได้ โดยเฉพาะคนที่มีโรคเรื้อรัง ก็ยิ่งจำเป็นที่จะต้องดูแลสุขภาพตัวเองเป็นพิเศษ
ดังนั้น วันนี้พี่หมอมีวิธีการเตรียมตัวปาร์ตี้ให้สุดเหวี่ยงได้อย่างสบายใจและไม่เสียสุขภาพมาฝากกันครับ
การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนงานปาร์ตี้
· ก่อนไปงาน ควรรับประทานอาหารรองท้องซักเล็กน้อย โดยอาจจะเลือกเป็นผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น แอปเปิ้ล หรือฝรั่ง และไม่ควรอดอาหารก่อนไปงานเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้หิวจัดจนลืมตัวรับประทานอาหารมากจนเกินไปแล้ว สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ก็อาจจะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย น้ำตาลในเลือดต่ำ หรือหน้ามืดเป็นลมได้
· ควรดื่มน้ำเปล่า น้ำสมุนไพร หรือเครื่องดื่มที่ไม่ผสมน้ำตาลซัก 1 – 2 ชั่วโมงก่อนไปงาน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ จนต้องมองหาเครื่องดื่มในงานเลี้ยงที่มักเป็นน้ำหวานและแอลกอฮอล์
· ควรเลือกสวมเสื้อผ้าให้พอดีตัว ไม่หลวมหรือคับแน่นจนเกินไป เพราะการสวมชุดที่พอดีตัวจะช่วยให้สามารถประเมินได้ว่าเรารับประทานอาหารในงานมากเกินไปหรือไม่
· ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมที่จะไปปาร์ตี้ได้ติดต่อกันในช่วงเทศกาล
· ตรวจสุขภาพเพื่อประเมินความแข็งแรงของร่างกาย สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ก็ควรพกยาติดตัวไปด้วย
ส่วนผู้ป่วยเรื้อรังก็ควรไปพบแพทย์เพื่อควบคุมโรคให้คงที่และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
การควบคุมตัวเองระหว่างปาร์ตี้
· ไม่จำเป็นต้องลองอาหารทุกอย่างในงาน เพราะแม้จะรับประทานเพียงแค่คำสองคำ แต่เมื่อรวมกันแล้วปริมาณอาจจะมากกว่าการรับประทานอาหารจานหลักเพียงหนึ่งจานก็ได้
· เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น สลัดน้ำใส ถั่วคั่วไม่ใส่เกลือ แทนไก่ทอด เฟรนช์ฟราย พิซซ่า
· ดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำสมุนไพรที่ปราศจากน้ำตาล แทนน้ำอัดลมและน้ำหวาน
· ตักอาหารในปริมาณที่พอดีกับที่ตัวเองจะรับประทาน ไม่ต้องเผื่อใคร เพราะถ้าต่างคนต่างเผื่อ อาจจะทำให้ต้องรับประทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไป
· เคี้ยวอาหารช้าๆ ให้ละเอียด จะช่วยให้อาหารย่อยง่ายขึ้น
· ก่อนไปตักอาหารเพิ่ม ให้ถามตัวเองทุกครั้งว่าอิ่มหรือยัง เพราะสมองมักจะสั่งให้อิ่มหลังจากรับประทานไปแล้วประมาณ 20 นาที
· หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป ในช่วงเทศกาลแบบนี้ พี่หมอแนะนำว่าสำหรับผู้หญิงไม่ควรดื่มมากกว่า 1 ดริงค์ ต่อวัน และ 2 ดริงค์ ต่อวันสำหรับผู้ชาย ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาดเลยนะครับ
· ส่วนผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวก็ไม่ควรอายหรือปฏิเสธที่จะบอกข้อจำกัดของโรคที่ตัวเองเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ไม่ควรรับประทานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงและโรคไต ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดและรสเค็ม และผู้ป่วยโรคไส้เลื่อนอาจไม่สามารถเต้นรำในจังหวะที่สนุกสนานได้มากนัก เป็นต้น
· หลังปาร์ตี้ ควรรอให้อาหารย่อยอย่างน้อย 2 – 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพื่อหลีกเลี่ยงกรดไหลย้อนและไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง
ปีใหม่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่เราจะได้ใช้ร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง และยังเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนสามารถ
สนุก ร่าเริงกันได้อย่างเต็มที่ แม้แต่คนที่มีโรคประจำตัว ถ้ามีการเตรียมตัวที่ดีทั้งก่อนและระหว่างปาร์ตี้ แต่ถึงจะเตรียมตัวดีแค่ไหน ก็ต้องสนุกกันอย่างมีสติด้วยนะครับ
โอกาสนี้ พี่หมอขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขและมีสุขภาพที่แข็งแรง จะไปปาร์ตี้หรือเดินทางไปเที่ยวที่ไหนก็ขอให้ปลอดภัยนะครับ แล้วพบกับเรื่องราวดีๆ กันได้ใหม่ในสัปดาห์หน้าครับ
เตรียมพร้อมรับมือปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยง แต่ไม่เสียสุขภาพ
ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบนี้ หลายๆ คนคงวางแผนที่จะจัดปาร์ตี้เพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความสุขกันอยู่ใช่มั้ยล่ะครับ แต่ก็อย่ากินดื่มกันจนเพลินนะครับ เพราะหลายๆ คนอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่ตามมาหลังปาร์ตี้ก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ และความดันโลหิตสูง ยิ่งถ้าดื่มหนัก พักผ่อนน้อยด้วยแล้วล่ะก็ ตับก็อาจจะมีปัญหาได้ โดยเฉพาะคนที่มีโรคเรื้อรัง ก็ยิ่งจำเป็นที่จะต้องดูแลสุขภาพตัวเองเป็นพิเศษ
ดังนั้น วันนี้พี่หมอมีวิธีการเตรียมตัวปาร์ตี้ให้สุดเหวี่ยงได้อย่างสบายใจและไม่เสียสุขภาพมาฝากกันครับ
การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนงานปาร์ตี้
· ก่อนไปงาน ควรรับประทานอาหารรองท้องซักเล็กน้อย โดยอาจจะเลือกเป็นผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น แอปเปิ้ล หรือฝรั่ง และไม่ควรอดอาหารก่อนไปงานเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้หิวจัดจนลืมตัวรับประทานอาหารมากจนเกินไปแล้ว สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ก็อาจจะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย น้ำตาลในเลือดต่ำ หรือหน้ามืดเป็นลมได้
· ควรดื่มน้ำเปล่า น้ำสมุนไพร หรือเครื่องดื่มที่ไม่ผสมน้ำตาลซัก 1 – 2 ชั่วโมงก่อนไปงาน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ จนต้องมองหาเครื่องดื่มในงานเลี้ยงที่มักเป็นน้ำหวานและแอลกอฮอล์
· ควรเลือกสวมเสื้อผ้าให้พอดีตัว ไม่หลวมหรือคับแน่นจนเกินไป เพราะการสวมชุดที่พอดีตัวจะช่วยให้สามารถประเมินได้ว่าเรารับประทานอาหารในงานมากเกินไปหรือไม่
· ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมที่จะไปปาร์ตี้ได้ติดต่อกันในช่วงเทศกาล
· ตรวจสุขภาพเพื่อประเมินความแข็งแรงของร่างกาย สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ก็ควรพกยาติดตัวไปด้วย
ส่วนผู้ป่วยเรื้อรังก็ควรไปพบแพทย์เพื่อควบคุมโรคให้คงที่และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
การควบคุมตัวเองระหว่างปาร์ตี้
· ไม่จำเป็นต้องลองอาหารทุกอย่างในงาน เพราะแม้จะรับประทานเพียงแค่คำสองคำ แต่เมื่อรวมกันแล้วปริมาณอาจจะมากกว่าการรับประทานอาหารจานหลักเพียงหนึ่งจานก็ได้
· เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น สลัดน้ำใส ถั่วคั่วไม่ใส่เกลือ แทนไก่ทอด เฟรนช์ฟราย พิซซ่า
· ดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำสมุนไพรที่ปราศจากน้ำตาล แทนน้ำอัดลมและน้ำหวาน
· ตักอาหารในปริมาณที่พอดีกับที่ตัวเองจะรับประทาน ไม่ต้องเผื่อใคร เพราะถ้าต่างคนต่างเผื่อ อาจจะทำให้ต้องรับประทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไป
· เคี้ยวอาหารช้าๆ ให้ละเอียด จะช่วยให้อาหารย่อยง่ายขึ้น
· ก่อนไปตักอาหารเพิ่ม ให้ถามตัวเองทุกครั้งว่าอิ่มหรือยัง เพราะสมองมักจะสั่งให้อิ่มหลังจากรับประทานไปแล้วประมาณ 20 นาที
· หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป ในช่วงเทศกาลแบบนี้ พี่หมอแนะนำว่าสำหรับผู้หญิงไม่ควรดื่มมากกว่า 1 ดริงค์ ต่อวัน และ 2 ดริงค์ ต่อวันสำหรับผู้ชาย ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาดเลยนะครับ
· ส่วนผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวก็ไม่ควรอายหรือปฏิเสธที่จะบอกข้อจำกัดของโรคที่ตัวเองเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ไม่ควรรับประทานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงและโรคไต ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดและรสเค็ม และผู้ป่วยโรคไส้เลื่อนอาจไม่สามารถเต้นรำในจังหวะที่สนุกสนานได้มากนัก เป็นต้น
· หลังปาร์ตี้ ควรรอให้อาหารย่อยอย่างน้อย 2 – 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพื่อหลีกเลี่ยงกรดไหลย้อนและไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง
ปีใหม่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่เราจะได้ใช้ร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง และยังเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนสามารถ
สนุก ร่าเริงกันได้อย่างเต็มที่ แม้แต่คนที่มีโรคประจำตัว ถ้ามีการเตรียมตัวที่ดีทั้งก่อนและระหว่างปาร์ตี้ แต่ถึงจะเตรียมตัวดีแค่ไหน ก็ต้องสนุกกันอย่างมีสติด้วยนะครับ
โอกาสนี้ พี่หมอขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขและมีสุขภาพที่แข็งแรง จะไปปาร์ตี้หรือเดินทางไปเที่ยวที่ไหนก็ขอให้ปลอดภัยนะครับ แล้วพบกับเรื่องราวดีๆ กันได้ใหม่ในสัปดาห์หน้าครับ