'อังคณา'ชี้รธน.60ไม่เห็นหัวคนจน เอื้อคนนอกหาประโยชน์
https://www.dailynews.co.th/politics/746982
"อังคณา"มองรธน.60 ตัดตอนความเป็นชุมชนท้องถิ่น เอื้อคนนอกเข้าอาศัยผลประโยชน์ทางทรัพยากรในชุมชน พอหมดแล้วก็หายหนี แนะรัฐบาลต้องแก้รัฐธรรมนูญที่เห็นหัวคนจน เปิดรับความเห็นจากทุกส่วน
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สมัชชาคนจน ได้จัดงานมหกรรมรัฐธรรมนูญประชาชน "
สร้างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อ ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน” โดยนาง
อังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวบรรยายพิเศษตอนหนึ่งว่า สิ่งที่ชาวบ้านสู้มาตลอด ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของทรัพยากร ที่ดิน ปัญหาคือรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ในมาตราที่ว่าด้วยสิทธิชุมชน ได้มีการตัดนิยามคำว่าชุมชนท้องถิ่น คือชุมชนที่ประชาชนอยู่มานาน และชุมชนท้องถิ่นดังเดิม คือชุมชนที่ประชาชนอาศัยมายาวนานมาก ซึ่งหากย้อนไปมองรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2540 ที่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มีส่วนร่วมของประชาชนมากที่สุด รับฟังประชาชนมากที่สุด
โดยในส่วนของมาตราว่าด้วยสิทธิชุมชนได้ระบุถึงสิทธิของชุมชน ชุมชนท้องถิ่น และชุมชนท้องถิ่นดังเดิม ทั้งนี้ผลเสียของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่ตัดคำนิยามในมาตราว่าด้วยสิทธิชุมชน ให้เหลือแค่คำว่า "
ชุมชน" คือใครก็ได้สามารถย้ายเข้ามาอยู่ในชุมชน พอครบระยะเวลา 3 ปี ก็จะกลายเป็นคนในชุมชน และมีสิทธิที่จะใช้ทรัพยากรในพื้นที่ มันก็เลยกลายเป็นว่าไม่ว่าใครก็ตามสามารที่จะอพยพเข้าไปซื้อที่ดินในชุมชนไหนก็ได้ 3 ปีก็กลายเป็นคนของชุมชน ประกอบธุรกิจได้ หยิบใช้ทรัพยากรได้ แต่ถ้าคนเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในชุมชนนั้นมาก่อน หากวันหนึ่งทรัพยากรในชุมชนหมด เขาก็สามารถถอยไปได้ แต่จะทิ้งให้คนที่อยู่ในชุมชนที่แท้จริง ต้องรับกรรมจากทรัพยากรที่ถูกทำลาย เกิดมลพิษ โดยที่คนเหล่านี้ไม่สามารถหลีกหนีหรือย้ายไปยังชุมชนอื่นได้ นี้คือปัญหาสำคัญที่เกิดจากรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่ถูกคุกคามทางกฎหมาย
นาง
อังคณา กล่าวต่อว่า เพราะการร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการร่างที่มาจากเสียงประชาชน ไม่มีการรับฟังที่เปิดเผย แม้เปิดเผยแต่ก็จำกัดในกลุ่มที่ยอมรับ สิ่งต่างๆเหล่านี้ก่อให้เกิดคำถามกับทางรัฐบาลมาโดยตลอดว่าเราปกป้องแบบไหน โดยใช้กฎหมาย หรือเป็นการออกกฎหมายมาเรื่อยๆเพื่อกันการเข้าร่วมของประชาชน ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่พวกเราเรียกร้องไปสู่การให้มีรัฐธรรมนูญที่พวกเรามักเรียกกันว่า รัฐธรรมนูญที่เห็นหัวคนจน รัฐธรรมนูญที่ไม่ตั้งตนเป็นนาย และออกกฎมาเพื่อบีบบังคับให้ใครทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ แต่ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ทุกคนมีส่วนรวม ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของ
ทั้งนี้สำหรับบรรยากาศภายในงานนั้นได้มีการจัดเสวนาแบ่งย่อยออกเป็นกลุ่ม อาทิ เสวนาถึงประเด็นสิทธิแรงงานกับรัฐธรรมนูญไทย สิทธิของเกษตรกรและคนในชนบท สิทธิชุมชนกับการพัฒนาที่ยั่งยืน และสิทธิในที่อยู่อาศัย เป็นต้น ตลอดจนมีการจัดกิจกรรมนิทรรศการ ออกร้านขายของของเหล่าสมัชชาคนจนจากพื้นที่ต่างๆ โดยมีประชาชนต่างทยอยมาร่วมกิจกรรมเป็นช่วงๆ.
สรุปปรับลดงบปี63 รถประจำตำแหน่ง'ชวน'สุดแพง7.5ล.
https://www.dailynews.co.th/politics/746977
สรุปยอดปรับลด งบฯ ปี 63 ของคณะอนุฯ ครุภัณท์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้างฯ ปี 63 ทั้งสิ้น 10,847.2380 ล้านบาท ซื้อรถประจำตำแหน่งสุดแพงคันละ 7.5 ล้านบาทให้ประธานฯ "ชวน"
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. นาย
ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย โฆษกคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้างและรัฐวิสาหกิจ ในคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมธิการครุภัณท์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้างฯ ได้ประชุมสรุปยอดปรับลด งบฯ ปี 63 ทั้งสิ้น 10,847.2380 ล้านบาท โดยมีรายการสำคัญๆ
1. ผ่านเรือดำน้ำ 2 ลำ จำนวน 22,500 ล้านบาท (ราคาลำละ 11,250 ล้านบาท) เนื่องจากมีมติ ครม.ให้จัดซื้อต่อเนื่องจากลำที่ 1 ในปี 2560
2. ผ่านให้ กรม ปภ.จัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ (รัสเซีย) จำนวน 2 ลำ (ราคาลำละ 931 ล้านบาท เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ของเดิมมีอยู่แล้ว 2 ลำ ให้ซื้อใหม่อีก 2 ลำ เพื่อให้ครอบคลุมการให้ในภารกิจครบทั้ง ภูมิภาค
3. ให้กรมทางหลวงเร่งรัดการก่อสร้างถนนทางหลวงมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี หลังได้รับเงินค่าเวนคืนจากรัฐบาลเพิ่มอีก 12,000 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในปี 2565
และ 4. ปรับลดงบฯ ของรัฐสภาฯ 1,156.91 ล้านบาท เนื่องจากการก่อสร้างรัฐสภาใหม่-เกียกกาย ล่าช้าไปอีก 382 วัน (สิ้นสุด 31/12/63) โดยอ้างเหตุผลในการขยายสัญญาฯครั้งที่ 4 อีก 382 วัน เนื่องจากยังไม่มีที่ปรึกษาฯ ด้าน IT แต่รัฐสภาได้ซื้อระบบ IT จำนวน 3,351 ล้านบาท (จากบริษัท AIT) ด้วยวิธีพิเศษ ไปตั้งแต่เดือน ก.พ. 62
"นอกจากนี้ยังมีรายการสำคัญฯ คือ สภาผู้แทนราษฎร์ได้ของบฯ ปี 63 จัดซื้อรถประจำตำแหน่งให้แก่ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร คันละ 7.5 ล้านบาท ซึ่งกรรมาธิการได้ซักถาม นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า นายชวน หลักภัย จะใช้รถประจำตำแหน่งแพงถึงราคาคันละ 7.5 ล้านบาทเลยหรือ เพราะท่านชวนฯ เป็นคนสมถะ นายสรศักดิ์ ตอบว่า “ได้ถามท่านประธานฯ ชวน ถึง 2 ครั้ง แล้ว และท่านชวน ไม่ขัดข้อง” ถึงได้ตั้งงบจัดซื้อรถประจำตำแหน่งราคาคันละ 7.5 ล้านบาท ให้ท่านประธาน ชวน"โฆษกคณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าว.
JJNY : อังคณาชี้รธน.60ไม่เห็นหัวคนจน/สรุปปรับลดงบปี63 รถชวนสุดแพง7.5ล./SCB ห่วงศก.ดันหนี้เสียเจ้าของกิจการเพิ่ม
https://www.dailynews.co.th/politics/746982
"อังคณา"มองรธน.60 ตัดตอนความเป็นชุมชนท้องถิ่น เอื้อคนนอกเข้าอาศัยผลประโยชน์ทางทรัพยากรในชุมชน พอหมดแล้วก็หายหนี แนะรัฐบาลต้องแก้รัฐธรรมนูญที่เห็นหัวคนจน เปิดรับความเห็นจากทุกส่วน
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สมัชชาคนจน ได้จัดงานมหกรรมรัฐธรรมนูญประชาชน "สร้างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อ ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน” โดยนางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวบรรยายพิเศษตอนหนึ่งว่า สิ่งที่ชาวบ้านสู้มาตลอด ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของทรัพยากร ที่ดิน ปัญหาคือรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ในมาตราที่ว่าด้วยสิทธิชุมชน ได้มีการตัดนิยามคำว่าชุมชนท้องถิ่น คือชุมชนที่ประชาชนอยู่มานาน และชุมชนท้องถิ่นดังเดิม คือชุมชนที่ประชาชนอาศัยมายาวนานมาก ซึ่งหากย้อนไปมองรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2540 ที่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มีส่วนร่วมของประชาชนมากที่สุด รับฟังประชาชนมากที่สุด
โดยในส่วนของมาตราว่าด้วยสิทธิชุมชนได้ระบุถึงสิทธิของชุมชน ชุมชนท้องถิ่น และชุมชนท้องถิ่นดังเดิม ทั้งนี้ผลเสียของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่ตัดคำนิยามในมาตราว่าด้วยสิทธิชุมชน ให้เหลือแค่คำว่า "ชุมชน" คือใครก็ได้สามารถย้ายเข้ามาอยู่ในชุมชน พอครบระยะเวลา 3 ปี ก็จะกลายเป็นคนในชุมชน และมีสิทธิที่จะใช้ทรัพยากรในพื้นที่ มันก็เลยกลายเป็นว่าไม่ว่าใครก็ตามสามารที่จะอพยพเข้าไปซื้อที่ดินในชุมชนไหนก็ได้ 3 ปีก็กลายเป็นคนของชุมชน ประกอบธุรกิจได้ หยิบใช้ทรัพยากรได้ แต่ถ้าคนเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในชุมชนนั้นมาก่อน หากวันหนึ่งทรัพยากรในชุมชนหมด เขาก็สามารถถอยไปได้ แต่จะทิ้งให้คนที่อยู่ในชุมชนที่แท้จริง ต้องรับกรรมจากทรัพยากรที่ถูกทำลาย เกิดมลพิษ โดยที่คนเหล่านี้ไม่สามารถหลีกหนีหรือย้ายไปยังชุมชนอื่นได้ นี้คือปัญหาสำคัญที่เกิดจากรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่ถูกคุกคามทางกฎหมาย
นางอังคณา กล่าวต่อว่า เพราะการร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการร่างที่มาจากเสียงประชาชน ไม่มีการรับฟังที่เปิดเผย แม้เปิดเผยแต่ก็จำกัดในกลุ่มที่ยอมรับ สิ่งต่างๆเหล่านี้ก่อให้เกิดคำถามกับทางรัฐบาลมาโดยตลอดว่าเราปกป้องแบบไหน โดยใช้กฎหมาย หรือเป็นการออกกฎหมายมาเรื่อยๆเพื่อกันการเข้าร่วมของประชาชน ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่พวกเราเรียกร้องไปสู่การให้มีรัฐธรรมนูญที่พวกเรามักเรียกกันว่า รัฐธรรมนูญที่เห็นหัวคนจน รัฐธรรมนูญที่ไม่ตั้งตนเป็นนาย และออกกฎมาเพื่อบีบบังคับให้ใครทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ แต่ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ทุกคนมีส่วนรวม ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของ
ทั้งนี้สำหรับบรรยากาศภายในงานนั้นได้มีการจัดเสวนาแบ่งย่อยออกเป็นกลุ่ม อาทิ เสวนาถึงประเด็นสิทธิแรงงานกับรัฐธรรมนูญไทย สิทธิของเกษตรกรและคนในชนบท สิทธิชุมชนกับการพัฒนาที่ยั่งยืน และสิทธิในที่อยู่อาศัย เป็นต้น ตลอดจนมีการจัดกิจกรรมนิทรรศการ ออกร้านขายของของเหล่าสมัชชาคนจนจากพื้นที่ต่างๆ โดยมีประชาชนต่างทยอยมาร่วมกิจกรรมเป็นช่วงๆ.
สรุปปรับลดงบปี63 รถประจำตำแหน่ง'ชวน'สุดแพง7.5ล.
https://www.dailynews.co.th/politics/746977
สรุปยอดปรับลด งบฯ ปี 63 ของคณะอนุฯ ครุภัณท์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้างฯ ปี 63 ทั้งสิ้น 10,847.2380 ล้านบาท ซื้อรถประจำตำแหน่งสุดแพงคันละ 7.5 ล้านบาทให้ประธานฯ "ชวน"
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย โฆษกคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้างและรัฐวิสาหกิจ ในคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมธิการครุภัณท์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้างฯ ได้ประชุมสรุปยอดปรับลด งบฯ ปี 63 ทั้งสิ้น 10,847.2380 ล้านบาท โดยมีรายการสำคัญๆ
1. ผ่านเรือดำน้ำ 2 ลำ จำนวน 22,500 ล้านบาท (ราคาลำละ 11,250 ล้านบาท) เนื่องจากมีมติ ครม.ให้จัดซื้อต่อเนื่องจากลำที่ 1 ในปี 2560
2. ผ่านให้ กรม ปภ.จัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ (รัสเซีย) จำนวน 2 ลำ (ราคาลำละ 931 ล้านบาท เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ของเดิมมีอยู่แล้ว 2 ลำ ให้ซื้อใหม่อีก 2 ลำ เพื่อให้ครอบคลุมการให้ในภารกิจครบทั้ง ภูมิภาค
3. ให้กรมทางหลวงเร่งรัดการก่อสร้างถนนทางหลวงมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี หลังได้รับเงินค่าเวนคืนจากรัฐบาลเพิ่มอีก 12,000 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในปี 2565
และ 4. ปรับลดงบฯ ของรัฐสภาฯ 1,156.91 ล้านบาท เนื่องจากการก่อสร้างรัฐสภาใหม่-เกียกกาย ล่าช้าไปอีก 382 วัน (สิ้นสุด 31/12/63) โดยอ้างเหตุผลในการขยายสัญญาฯครั้งที่ 4 อีก 382 วัน เนื่องจากยังไม่มีที่ปรึกษาฯ ด้าน IT แต่รัฐสภาได้ซื้อระบบ IT จำนวน 3,351 ล้านบาท (จากบริษัท AIT) ด้วยวิธีพิเศษ ไปตั้งแต่เดือน ก.พ. 62
"นอกจากนี้ยังมีรายการสำคัญฯ คือ สภาผู้แทนราษฎร์ได้ของบฯ ปี 63 จัดซื้อรถประจำตำแหน่งให้แก่ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร คันละ 7.5 ล้านบาท ซึ่งกรรมาธิการได้ซักถาม นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า นายชวน หลักภัย จะใช้รถประจำตำแหน่งแพงถึงราคาคันละ 7.5 ล้านบาทเลยหรือ เพราะท่านชวนฯ เป็นคนสมถะ นายสรศักดิ์ ตอบว่า “ได้ถามท่านประธานฯ ชวน ถึง 2 ครั้ง แล้ว และท่านชวน ไม่ขัดข้อง” ถึงได้ตั้งงบจัดซื้อรถประจำตำแหน่งราคาคันละ 7.5 ล้านบาท ให้ท่านประธาน ชวน"โฆษกคณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าว.