Trail Running เป็นกิจกรรมที่เล็งไว้ว่าจะต้องลงซักรายการให้ได้ในปีนี้ แล้วก็มาเจอ รายการ
Xterra Khao Mai Kaew Trail Run 2019 ซึ่งบอกตรงๆว่ารายการนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน ที่เลือกลงเพราะ สถานที่จัดงานอยู่ที่ชลบุรี ซึ่งอยู่ไม่ได้ไกลจาก กรุงเทพฯ แค่นั้นเลยจริงๆ แต่การจะวิ่งคนเดียวมันคงไม่สนุกก็เลยหาเพื่อนร่วม Trail เมื่อได้สมาชิกก็สมัครเลยทันที ในราคา Early Bird ( กลัวว่าถ้ามัวแต่ช้าบัตรจะเต็ม เพราะจากที่เคยเห็นรายการวิ่งเทรลส่วนมาก คนจะแก่งแย่งสมัครกัน บัตรเต็มอย่างเร็ว )
รายการ Trail Run นี้ มีระยะการวิ่งทั้งหมด 4 ระยะ คือ
1. Individual Fun Run 3 KM
2. Individual 10KM
3. Individual 25KM
4. Individual 50KM
เราเองปกติก็จะวิ่งในเมือง ในสนามวิ่งบ้าง เลยยังไม่รู้ว่าวิ่งเทรลจริงๆจะเป็นอย่างไร แม้ว่าจะเคย Trekking ที่ ABC มาแล้ว แต่ก็คิดว่าเลือก รายการ Individual 10 KM เพื่อลองสนามก่อนสำหรับครั้งแรกน่าจะดีที่สุด ถ้าชอบไว้รายการหน้าค่อยเพิ่มระยะ
หากคนที่สมัครวิ่ง กด Like FB Page ของรายกายวิ่งนี้ จะเห็นว่าทางเพจจะมีการ Update ข้อมูลต่างๆอยู่ตลอดเวลา ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้สมัครทุกคน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเรื่องระยะทาง เส้นทางในการวิ่ง ระดับความชันในแต่ละระยะ จุดให้น้ำ
นอกเหนือจากรายละเอียดการวิ่งแล้ว ในเพจยังมีสาระน่ารู้ที่เป็นประโยชน์กับนั่งวิ่ง และผู้ที่สนใจอีกมากมาย ซึ่งหากใครสนใจสามารถเข้าไปติตามได้ที่
https://www.facebook.com/XTERRAKMK/
การเตรียมตัวก่อนไม่วิ่ง ต้องบอกก่อนด้วยว่าตัวเองไม่ได้เป็นนักวิ่งที่ลงวิ่งทุกรายการ หรือเชี่ยวชาญการวิ่งแต่อย่างใดนะคะ แค่เป็นคนชอบออกกำลังกาย ชอบหากิจกรรมที่ท้าทาย น่าสนุก น่าตื่นเต้น มากกว่า เลยไม่ได้ตะบี้ตะบันซ้อม ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้เตรียมอะไรมาก แค่ทำใจสบายๆไม่กดดันตัวเอง มีโอกาสซ้อมวิ่งที่ไหนได้ก็ซ้อม ส่วนมากก็คือวิ่งในเมืองใกล้ๆบ้าน วิ่งในสนามวิ่งบ้าง แต่ทุกๆการวิ่งแต่ละครั้งจะคอยดู Heart Rate Zone ของตัวเองในการวิ่งว่าอยู่ใน zone ไหน แล้วควรปรับให้อยู่แค่ไหนถึงจะดีกับตัวเองที่สุด ซึ่งความรู้เหล่านี้หาจาก Google บ้าง ฟังจากนั่งวิ่งบ้าง
ส่วนการวิ่งเทรลนั้น ตามที่บอกเลยว่านี่คือครั้งแรก แต่ด้วยความที่เคยไป Trekking สุดมันส์ที่ ABC มาแล้ว ก็คิดเองเออเองไปก่อนว่า มันก็น่าจะมีฟีลที่คล้ายๆกัน ความสนุกระหว่างทางการวิ่งมากกว่าที่น่าสนใจ และน่าตื่นเต้น
สำหรับอุปกรณ์การวิ่งที่จำเป็น อย่างแรกเลยคือ รองเท้าวิ่งเทรล ซึ่งมีความแตกต่างจากรองเท้าวิ่งทั่วไป ตรงที่ รองเท้าวิ่งเทรลจะมีดอกยางที่หนา เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเกาะพื้นที่ดี ไม่ลื่น ไม่ล้มง่าย พื้นที่โดยเฉพาะที่ว่านั้นก็คือพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นราบ พื้นปูน เพราะการใช้รองเท้าวิ่งเทรลมาวิ่งพื้นปูน ดอกยางจะสึกเร็วค่ะ ส่วนเรื่องยี่ห้อ ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลได้เลย เพราะกายภาพทางเท้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน สำคัญที่ต้องใส่แล้วสบายเท้า เพราะเราจะต้องใส่วิ่งกันเป็นชั่วโมง ต้องมีการกระแทก ลงน้ำหนัก และจะต้องไม่พลิกง่ายด้วย ส่วนตัวเราเลือกใช้ Salomon เจ้าประจำ เนื่องจากประทับใจกับคู่ที่ใส่ไป Trekking เลยลองไปหาซื้อ Salomon สำหรับ Trail Running แต่ๆๆๆๆ ไม่ได้ซื้อแบบตัว Top ราคาสูงลิบลิ่วหรอกค่ะ อาศัยดูตามงานที่ Salomon ไปออกบูธตามงาน Sale เอา ก็เลยสอยมาได้ในราคาเบาๆ เพียงแค่รุ่นที่ได้มาก็อาจจะเป็นรุ่นเก่า แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เน้นว่าใส่สบาย ราคาสบายกระเป๋า และสบายใจ ส่วนอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ ทางผู้จัดไม่ได้มีกติกาบังคับ แต่จะมีเป็น Gear Checklist ให้ผู้เข้าร่วมลองพิจารณาเอาเองว่าจะเลือกใช้อะไรบ้าง

เราเองก็อาศัยหยิบยืมจากเพื่อน เพราะครั้งแรกก็ยังไม่ได้อยากลงทุนอะไรมากมาย ถ้ามันใช่ทางที่ชอบ เดี๋ยวค่อยว่ากัน ก็เลยยืมเป้น้ำ และ Trekking Pole แต่เมื่อถึงวันจริง Trekking Pole ไม่ได้เอามาใช้ เพราะแอบขี้เกียจถือตอนวิ่ง แล้วก็คิดว่าระดับความชันไม่มากเลยไม่ได้ใช้

ถึงแม้ว่าชลบุรีจะอยู่ใกล้ๆ แต่ก็จะต้องมีการไปรับ Bib ก่อนวันแข่งจริง 1 วัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาที่พัก ซึ่งทางผู้จัดงานก็มีแนะนำกันหลากหลายที่
เรามาเลือกอาทิตย์สุดท้ายก่อนงานแข่ง ก็เลือก Pattana Golf Club & Resort เหตุผลที่เลือกเพราะที่นี่สามารถ Check out ได้ช้าสุด 6 โมงเย็น สำหรับผู้ที่วิ่งในรายการนี้โดยเฉพาะ และมีบริการรถรับ-ส่ง ที่ยังสถานที่แข่งขันด้วย แต่จะมีค่าใช่จ่ายเพิ่ม แต่เราไม่ได้เลือก Ooption รถรับส่ง สถานที่พักถือว่าปานกลาง เนื่องจากห้องพักจะอยู่ในส่วนของ Masion ไม่ใช่ โรงแรม และเอาจริงๆ ที่พักค่อนข้างไกลจากที่แข่งอยู่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีได้ แต่ทางที่พักก็มีอาหารเช้าเตรียมไว้ให้นะ เป็น Box Set ให้


การเช็คเลข Bib สามารถเช็คได้จากเพจ
https://www.facebook.com/XTERRAKMK/ ได้เลยเวลาไปรับ Bib ก้ไปรับที่ อุทยามเขาไม้แก้วได้เลยในวันที่ 12 ตุลาคม ใครไม่สะดวกสามารถฝากเพื่อนไปรับ Bib แทนได้ รายละเอียดอื่นๆมีให้เราไว้ครบถ้วนในเพจ หากใครคอยติดตามรับรองว่าไม่มีตกหล่นแน่นอน

พูดถึงการวิ่ง ในแต่ละระยะทางจะมีเวลาในการปล่อยตัว คนละเวลากันค่ะ ระยะไกลจะปล่อยตัวเช้า และเวลา Cut-Off ก็ต่างกันด้วย

เมื่อถึงวันจริง เราตื่นกันตี 5 ครึ่ง และออกเดินทางกันตอน 6 โมงนิดๆ ไปถึงอุทยานเข้าไม้แก้วก็ 6 โมง 40 ได้ คนค่อนข้างเยอะ ที่จอดรถดูแน่น แต่ก็มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ตลอดทาง ใครจอดรถไกลจะมีรถสองแถวรับมาส่งถึงหน้างานเลย งานคึกคักมาก ดูน่าสนุก สำหรับคนที่แข่งระยะ 10 Km มีกันเยอะมากประมาณ 600 คน ก่อนปล่อยตัวเราก็ต้องมียืดเส้นยืดสาย จะได้ไม่บาดเจ็บระหว่างการวิ่ง

เสียงนกหวีดปล่อยตัวดัง ทุกคนก็เริ่มออกวิ่ง แต่ด้วยความหนาแน่นของคน การจราจรในการวิ่งก็จะแน่นๆ ก็เรียกว่าวิ่งกันเหยาะๆไปก่อน ระยะแรกๆก็เหมือนวิ่งไปตามทุ่งหญ้า มีความแฉะบ้าง เนื่องจากคืนก่อนแข่งฝนตก แต่ไม่หนักมาก บางจุดในการวิ่งจะเป็นทางแคบ ซึ่งแซงกันไม่ได้ ก็เดินตามๆกันไป หรือบางคนจะเพิ่ม Line พิเศษ ก็เพิ่มได้ ถ้าจะช่วยร่นระยะทางและเวลา ขอเพียงยังอยู่ในเส้นทางที่กำหนดไว้เป็นพอ
พื้นที่ตื่นเต้นสุดน่าจะเป็นจุดที่เป็นบ่อน้ำ ที่ต้องผ่านกันให้ได้ ลงน้ำกันไปเต็มๆ ทุลักทุเลกันบ้าง แต่กลับมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ความสนุกของทุกคน ที่สำคัญเห็นถึงความมีน้ำใจของผู้ร่วมวิ่ง ที่คอยช่วยเหลือกัน เชียร์กันไปตลอดทาง ส่วนจุดความชัน ก็คือจุดที่เหนื่อย เพราะมันก็คือการวิ่งขึ้นเข้า แต่ก็นับว่าไม่ได้ชันมาก ก็ได้ความเหนื่อยดี จุดพักน้ำ ก็ดี ระยะ 10 Km มี 1 จุด มีน้ำเปล่า น้ำเกลือแร่ บริการ มีแตงโมให้กินชื่นใจ และมีฟองน้ำแช่เย็นให้เช็ดตัวเช็ดเหงื่อกัน หากใครพก Energy Gel ก็สามารถเอาออกมากินระหว่างทางได้ เราพกไว้แต่ถึงเวลาไม่ได้กิน
งานนี้ตากล้องเยอะมากๆ เจอกล้องที่ไหนก็ยิ้มสวยๆ โชว์ท่าเท่ห์ๆกันไว้ด้วยนะ รูปทั้งหมดสามารถมาหาดูได้จาก
https://photo.thai.run ได้เลย แนะนำให้ใช้ใบหน้าในการค้นหา จะเจอรูปเราได้ง่ายๆ


เมื่อใกล้เข้าสู่เส้นชัย จะมรเสียงกองเชียร์ และเมื่อเราเข้าสู่เส้นชัย เราก็จะได้รับเหรียญในทันที ส่วนเวลาอย่างไม่เป็นทางการ เราก็สามารถไปขอกับทางเจ้าหน้าที่ที่เต๊นฑ์ได้ เพียงแค่บอกเลข Bib เพราะที่ Bib ของเราจะมี ไมโครชิพติดอยู่ ส่วนเวลาอย่างเป็นทางการ ก็สามารถเช็คหลังจากวันแข่งขันได้ประมาณ 2 วัน ทางเพจได้เลย

อาหารการกินหลังวิ่ง รายการนี้จัดได้ดีงามมากกก จัดว่าอิ่มหนำสำราญกันไปเลย เพราะหลังเข้าเส้นชัยนอกจากจะแจกเหรียญให้แล้ว เจ้าหน้าที่จะแจกคูปองอาหารมูลค่า 50 บาท ให้กับทุกคน สามารถเลือกได้ว่าจะไปซื้อตาม Food Truck หรือจะใช้ตักอาหารในไลน์อาหารคล้ายๆบุฟเฟ่ต์ ทั้งอาหารคาว และผลไม้ มีหลายเมนูให้เลือก ตักได้หมดทุกอย่างเยอะแค่ไหนก็ได้แต่ตักได้ 1 รอบเท่านั้น ซึ่งก็คุ้มแล้วแหละ และอีกหนึ่งอย่างที่ถูกใจกัน น่าจะเป็นเบียร์กระป๋องเย็นๆ แต่เราก็ไม่ได้ดื่มหรอกนะ ส่วนตัวแล้วเวลาเหนื่อยก็มักจะไม่หิวซักเท่าไหร่

และนี่คือเวลาอย่างเป็นทางการ บอกเลยว่าไม่เน้นเรื่องเวลาเลย คิดแค่ว่าอยากมาวิ่ง ลุยๆ สนุกๆ เวลาจึงไม่ใช่จุดมุ่งหมาย

สรุปว่า งานวิ่งเทรลครั้งแรกนี้ สนุกและประทับใจ คิดว่าต้องมีซ้ำอย่างแน่นอน
[CR] ครั้งแรกกับ Trail Running
รายการ Trail Run นี้ มีระยะการวิ่งทั้งหมด 4 ระยะ คือ
1. Individual Fun Run 3 KM
2. Individual 10KM
3. Individual 25KM
4. Individual 50KM
เราเองปกติก็จะวิ่งในเมือง ในสนามวิ่งบ้าง เลยยังไม่รู้ว่าวิ่งเทรลจริงๆจะเป็นอย่างไร แม้ว่าจะเคย Trekking ที่ ABC มาแล้ว แต่ก็คิดว่าเลือก รายการ Individual 10 KM เพื่อลองสนามก่อนสำหรับครั้งแรกน่าจะดีที่สุด ถ้าชอบไว้รายการหน้าค่อยเพิ่มระยะ
หากคนที่สมัครวิ่ง กด Like FB Page ของรายกายวิ่งนี้ จะเห็นว่าทางเพจจะมีการ Update ข้อมูลต่างๆอยู่ตลอดเวลา ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้สมัครทุกคน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเรื่องระยะทาง เส้นทางในการวิ่ง ระดับความชันในแต่ละระยะ จุดให้น้ำ
นอกเหนือจากรายละเอียดการวิ่งแล้ว ในเพจยังมีสาระน่ารู้ที่เป็นประโยชน์กับนั่งวิ่ง และผู้ที่สนใจอีกมากมาย ซึ่งหากใครสนใจสามารถเข้าไปติตามได้ที่ https://www.facebook.com/XTERRAKMK/
การเตรียมตัวก่อนไม่วิ่ง ต้องบอกก่อนด้วยว่าตัวเองไม่ได้เป็นนักวิ่งที่ลงวิ่งทุกรายการ หรือเชี่ยวชาญการวิ่งแต่อย่างใดนะคะ แค่เป็นคนชอบออกกำลังกาย ชอบหากิจกรรมที่ท้าทาย น่าสนุก น่าตื่นเต้น มากกว่า เลยไม่ได้ตะบี้ตะบันซ้อม ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้เตรียมอะไรมาก แค่ทำใจสบายๆไม่กดดันตัวเอง มีโอกาสซ้อมวิ่งที่ไหนได้ก็ซ้อม ส่วนมากก็คือวิ่งในเมืองใกล้ๆบ้าน วิ่งในสนามวิ่งบ้าง แต่ทุกๆการวิ่งแต่ละครั้งจะคอยดู Heart Rate Zone ของตัวเองในการวิ่งว่าอยู่ใน zone ไหน แล้วควรปรับให้อยู่แค่ไหนถึงจะดีกับตัวเองที่สุด ซึ่งความรู้เหล่านี้หาจาก Google บ้าง ฟังจากนั่งวิ่งบ้าง
ส่วนการวิ่งเทรลนั้น ตามที่บอกเลยว่านี่คือครั้งแรก แต่ด้วยความที่เคยไป Trekking สุดมันส์ที่ ABC มาแล้ว ก็คิดเองเออเองไปก่อนว่า มันก็น่าจะมีฟีลที่คล้ายๆกัน ความสนุกระหว่างทางการวิ่งมากกว่าที่น่าสนใจ และน่าตื่นเต้น
สำหรับอุปกรณ์การวิ่งที่จำเป็น อย่างแรกเลยคือ รองเท้าวิ่งเทรล ซึ่งมีความแตกต่างจากรองเท้าวิ่งทั่วไป ตรงที่ รองเท้าวิ่งเทรลจะมีดอกยางที่หนา เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเกาะพื้นที่ดี ไม่ลื่น ไม่ล้มง่าย พื้นที่โดยเฉพาะที่ว่านั้นก็คือพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นราบ พื้นปูน เพราะการใช้รองเท้าวิ่งเทรลมาวิ่งพื้นปูน ดอกยางจะสึกเร็วค่ะ ส่วนเรื่องยี่ห้อ ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลได้เลย เพราะกายภาพทางเท้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน สำคัญที่ต้องใส่แล้วสบายเท้า เพราะเราจะต้องใส่วิ่งกันเป็นชั่วโมง ต้องมีการกระแทก ลงน้ำหนัก และจะต้องไม่พลิกง่ายด้วย ส่วนตัวเราเลือกใช้ Salomon เจ้าประจำ เนื่องจากประทับใจกับคู่ที่ใส่ไป Trekking เลยลองไปหาซื้อ Salomon สำหรับ Trail Running แต่ๆๆๆๆ ไม่ได้ซื้อแบบตัว Top ราคาสูงลิบลิ่วหรอกค่ะ อาศัยดูตามงานที่ Salomon ไปออกบูธตามงาน Sale เอา ก็เลยสอยมาได้ในราคาเบาๆ เพียงแค่รุ่นที่ได้มาก็อาจจะเป็นรุ่นเก่า แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เน้นว่าใส่สบาย ราคาสบายกระเป๋า และสบายใจ ส่วนอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ ทางผู้จัดไม่ได้มีกติกาบังคับ แต่จะมีเป็น Gear Checklist ให้ผู้เข้าร่วมลองพิจารณาเอาเองว่าจะเลือกใช้อะไรบ้าง
เราเองก็อาศัยหยิบยืมจากเพื่อน เพราะครั้งแรกก็ยังไม่ได้อยากลงทุนอะไรมากมาย ถ้ามันใช่ทางที่ชอบ เดี๋ยวค่อยว่ากัน ก็เลยยืมเป้น้ำ และ Trekking Pole แต่เมื่อถึงวันจริง Trekking Pole ไม่ได้เอามาใช้ เพราะแอบขี้เกียจถือตอนวิ่ง แล้วก็คิดว่าระดับความชันไม่มากเลยไม่ได้ใช้
ถึงแม้ว่าชลบุรีจะอยู่ใกล้ๆ แต่ก็จะต้องมีการไปรับ Bib ก่อนวันแข่งจริง 1 วัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาที่พัก ซึ่งทางผู้จัดงานก็มีแนะนำกันหลากหลายที่
เรามาเลือกอาทิตย์สุดท้ายก่อนงานแข่ง ก็เลือก Pattana Golf Club & Resort เหตุผลที่เลือกเพราะที่นี่สามารถ Check out ได้ช้าสุด 6 โมงเย็น สำหรับผู้ที่วิ่งในรายการนี้โดยเฉพาะ และมีบริการรถรับ-ส่ง ที่ยังสถานที่แข่งขันด้วย แต่จะมีค่าใช่จ่ายเพิ่ม แต่เราไม่ได้เลือก Ooption รถรับส่ง สถานที่พักถือว่าปานกลาง เนื่องจากห้องพักจะอยู่ในส่วนของ Masion ไม่ใช่ โรงแรม และเอาจริงๆ ที่พักค่อนข้างไกลจากที่แข่งอยู่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีได้ แต่ทางที่พักก็มีอาหารเช้าเตรียมไว้ให้นะ เป็น Box Set ให้
การเช็คเลข Bib สามารถเช็คได้จากเพจ https://www.facebook.com/XTERRAKMK/ ได้เลยเวลาไปรับ Bib ก้ไปรับที่ อุทยามเขาไม้แก้วได้เลยในวันที่ 12 ตุลาคม ใครไม่สะดวกสามารถฝากเพื่อนไปรับ Bib แทนได้ รายละเอียดอื่นๆมีให้เราไว้ครบถ้วนในเพจ หากใครคอยติดตามรับรองว่าไม่มีตกหล่นแน่นอน
พูดถึงการวิ่ง ในแต่ละระยะทางจะมีเวลาในการปล่อยตัว คนละเวลากันค่ะ ระยะไกลจะปล่อยตัวเช้า และเวลา Cut-Off ก็ต่างกันด้วย
เมื่อถึงวันจริง เราตื่นกันตี 5 ครึ่ง และออกเดินทางกันตอน 6 โมงนิดๆ ไปถึงอุทยานเข้าไม้แก้วก็ 6 โมง 40 ได้ คนค่อนข้างเยอะ ที่จอดรถดูแน่น แต่ก็มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ตลอดทาง ใครจอดรถไกลจะมีรถสองแถวรับมาส่งถึงหน้างานเลย งานคึกคักมาก ดูน่าสนุก สำหรับคนที่แข่งระยะ 10 Km มีกันเยอะมากประมาณ 600 คน ก่อนปล่อยตัวเราก็ต้องมียืดเส้นยืดสาย จะได้ไม่บาดเจ็บระหว่างการวิ่ง
เสียงนกหวีดปล่อยตัวดัง ทุกคนก็เริ่มออกวิ่ง แต่ด้วยความหนาแน่นของคน การจราจรในการวิ่งก็จะแน่นๆ ก็เรียกว่าวิ่งกันเหยาะๆไปก่อน ระยะแรกๆก็เหมือนวิ่งไปตามทุ่งหญ้า มีความแฉะบ้าง เนื่องจากคืนก่อนแข่งฝนตก แต่ไม่หนักมาก บางจุดในการวิ่งจะเป็นทางแคบ ซึ่งแซงกันไม่ได้ ก็เดินตามๆกันไป หรือบางคนจะเพิ่ม Line พิเศษ ก็เพิ่มได้ ถ้าจะช่วยร่นระยะทางและเวลา ขอเพียงยังอยู่ในเส้นทางที่กำหนดไว้เป็นพอ
พื้นที่ตื่นเต้นสุดน่าจะเป็นจุดที่เป็นบ่อน้ำ ที่ต้องผ่านกันให้ได้ ลงน้ำกันไปเต็มๆ ทุลักทุเลกันบ้าง แต่กลับมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ความสนุกของทุกคน ที่สำคัญเห็นถึงความมีน้ำใจของผู้ร่วมวิ่ง ที่คอยช่วยเหลือกัน เชียร์กันไปตลอดทาง ส่วนจุดความชัน ก็คือจุดที่เหนื่อย เพราะมันก็คือการวิ่งขึ้นเข้า แต่ก็นับว่าไม่ได้ชันมาก ก็ได้ความเหนื่อยดี จุดพักน้ำ ก็ดี ระยะ 10 Km มี 1 จุด มีน้ำเปล่า น้ำเกลือแร่ บริการ มีแตงโมให้กินชื่นใจ และมีฟองน้ำแช่เย็นให้เช็ดตัวเช็ดเหงื่อกัน หากใครพก Energy Gel ก็สามารถเอาออกมากินระหว่างทางได้ เราพกไว้แต่ถึงเวลาไม่ได้กิน
งานนี้ตากล้องเยอะมากๆ เจอกล้องที่ไหนก็ยิ้มสวยๆ โชว์ท่าเท่ห์ๆกันไว้ด้วยนะ รูปทั้งหมดสามารถมาหาดูได้จาก https://photo.thai.run ได้เลย แนะนำให้ใช้ใบหน้าในการค้นหา จะเจอรูปเราได้ง่ายๆ
เมื่อใกล้เข้าสู่เส้นชัย จะมรเสียงกองเชียร์ และเมื่อเราเข้าสู่เส้นชัย เราก็จะได้รับเหรียญในทันที ส่วนเวลาอย่างไม่เป็นทางการ เราก็สามารถไปขอกับทางเจ้าหน้าที่ที่เต๊นฑ์ได้ เพียงแค่บอกเลข Bib เพราะที่ Bib ของเราจะมี ไมโครชิพติดอยู่ ส่วนเวลาอย่างเป็นทางการ ก็สามารถเช็คหลังจากวันแข่งขันได้ประมาณ 2 วัน ทางเพจได้เลย
อาหารการกินหลังวิ่ง รายการนี้จัดได้ดีงามมากกก จัดว่าอิ่มหนำสำราญกันไปเลย เพราะหลังเข้าเส้นชัยนอกจากจะแจกเหรียญให้แล้ว เจ้าหน้าที่จะแจกคูปองอาหารมูลค่า 50 บาท ให้กับทุกคน สามารถเลือกได้ว่าจะไปซื้อตาม Food Truck หรือจะใช้ตักอาหารในไลน์อาหารคล้ายๆบุฟเฟ่ต์ ทั้งอาหารคาว และผลไม้ มีหลายเมนูให้เลือก ตักได้หมดทุกอย่างเยอะแค่ไหนก็ได้แต่ตักได้ 1 รอบเท่านั้น ซึ่งก็คุ้มแล้วแหละ และอีกหนึ่งอย่างที่ถูกใจกัน น่าจะเป็นเบียร์กระป๋องเย็นๆ แต่เราก็ไม่ได้ดื่มหรอกนะ ส่วนตัวแล้วเวลาเหนื่อยก็มักจะไม่หิวซักเท่าไหร่
และนี่คือเวลาอย่างเป็นทางการ บอกเลยว่าไม่เน้นเรื่องเวลาเลย คิดแค่ว่าอยากมาวิ่ง ลุยๆ สนุกๆ เวลาจึงไม่ใช่จุดมุ่งหมาย
สรุปว่า งานวิ่งเทรลครั้งแรกนี้ สนุกและประทับใจ คิดว่าต้องมีซ้ำอย่างแน่นอน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้