ผมมาปรึกษาปัญหาเรื่องครอบครัวใหญ่ครับ

ผมแต่งงานเข้ามาอยู่บ้านแฟนได้ประมาณ เกือบปีแล้ว ครอบครัวที่อยู่มีบ้าน 2 หลัง บริเวรเดียวกัน ไม่มีกำแพงกั้น บ้าน 2 หลัง เป็นพื้นที่เดียวกัน บ้านหลังแรก มี พ่อ แม่ น้องสาว แฟนน้องสาว และลูก น้องแฟนยังไม่ได้ทำงานเพิ่งเรียนจบ แฟนเขาก็งานลูกจ้างประจำวัน ส่วนบ้านหลังที่ 2 ผมอยู่กับแฟน และยาย ผมกับแฟนได้ทำงานราชการทั้งคู่เพิ่งบรรจุ เงินเดือนยังไม่เยอะ ต่อมายายได้ย้ายไปอยู่บ้านหลังแรก ด้วยเหตุผลว่าอยากให้ผมกับแฟนอยู่กันอย่างสะดวกสบาย เพราะหลังนี้เล็กกว่าหลังแรกแฟนได้ขอให้ยายอยู่ด้วยแล้ว แต่ยายก็บอกให้อยู่กันเลย2คน เพราะตั้งใจจะยกบ้านหลังนี้ให้อยู่แล้วอีกหลังจะยกให้น้องสาวแฟน เลยย้ายไปอยู่หลังใหญ่ ผมเข้าไปอยู่ใหม่ๆ ก็ทำตัวอ่อนน้อม พอสมควรเพื่อที่หวังว่าจะได้ความรัก ความเอ็นดูจากครอบครัวฝั่งแฟน เรื่องกับข้าวกับปลาคนพี่และน้องช่วยกันออกค่าใช้จ่าย ในแต่ละมื้อ ค่าใช้จ่ายของแฟนซึ่งบางส่วนก็ได้มาจากเงินเดือนผมที่ได้มาก็ให้แฟนเป็นคนบริหารจัดการ เงินเดือนบางส่วนหลือไว้กินกับเติมน้ำมันไปทำงานก็พอ

ผ่ามมาสักพักแฟนก็มาเล่ามาบ่นกับผมว่า คุณแม่อยากเขาช่วยจ่ายค่าน้ำค่าไฟของบ้านทั้ง 2 หลัง ปกติก็ใช้ไฟหม้อเดียวกัน ยายไม่ให้ย้ายหม้อออกบอกว่าอยู่ด้วยกันช่วยกันออกค่าใช้จ่ายให้ถือเป็นบ้านหลังเดียวกัน ก่อนหน้าแฟนและน้องสาวแฟนช่วยกันจ่ายค่าน้ำ อีกคนจ่ายค่าไฟ รวมๆแล้วก็พอๆกัน ต่อมาก็มีเรื่องจุกจิกที่แม่อยากให้พี่สาวช่วยซัพพอร์ตเรื่องค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวและส่วนของน้องสาวบางส่วนที่รับภาระกว่าครอบครัวผมเพราะน้องสาวมีลูกน้อย แม่อยากให้ช่วยน้องบ้างเพราะครอบครัวผมมั่นคงแล้ว แฟนก็ไม่ค่อยพอใจบอกว่าครอบครัวเราก็มีค่าใช้จ่ายเหมือนกันถึงแม้จะยังไม่มีลูกก็ตาม ผมก็บอกแฟนไปว่าให้ใจเย็นๆ อดทนไว้ปัญหาครอบครัวใหญ่มันก็ต้องมีเรื่องจุกจิกกว่าครอบครัวเดี่ยวอยู่แล้ว แฟนบอกอยากย้ายหนี ผมบอกให้ใจเย็นๆ ค่อยคิดค่อยๆหาทางออกผมจะเป็นคนคอยบอกแฟนแบบนี้ตลอดเวลามีเรื่องไม่สบายใจ

ทีนี้เรื่องมีอยู่ว่าพอผมเริ่มอยู่เรื่อยๆ ผมก็เริ่มรู้สึกด้วยตัวเองว่า พ่อแม่คอยเอาใจน้องมากกว่าคนพี่ ซึ่งก็คือแฟนผมเอง พูดกับน้องน้ำเสียงอีกอย่างหนึ่ง พอพูดกับแฟนผมบางครั้งน้ำเสียงก็อีกอย่างหนึ่ง จนผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความลำเอียงที่ได้สัมผัสมา เหมือนคอยแต่จะให้ผมกับแฟนซัพพอตครอบครัวอยู่ประจำ จนตอนนี้ความอดทนอดกลั่นของผมที่เก็บไว้ มันเริ่มแสดงออก ทางกิริยาที่เริ่มแข็งกร้าว ไม่ค่อยอ่อนน้อมเหมือนเดิมแล้ว ผมเริ่มพูดจาแข็งๆขึ้นกับพ่อแม่แฟน จนแฟนต้องมาเบรกให้ผมอย่าแสดงออกเยอะ จะพลอยผิดใจกัน เพราะแฟนเปลี่ยนใจจะอยู่บ้านหลังนี้ไปตลอดเพราะบ้านก็อยู่หลักปักฐานเรียนร้อยแล้ว จากที่เคยคุยกันว่าอยากให้ย้ายไปหาบ้านใหม่ อยู่กันเอง แต่ตอนนี้ผมเริ่มอดทนไม่ได้การที่ได้รับรู้รับเห็นนอะไรหลายๆอย่างขึ้นภายในครอบครัวจะทำอะไรก็คอยเกรงใจคุณพ่อคุณแม่ ยายไม่ค่อยพูดอะไรเลยไม่มีปัญหา

ผมเริ่มอยากจะย้ายออกไปอยู่เอง ผมคุยกับแฟนว่า ไม่เกิน 3 ปี ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ผมทนอยู่ไม่ได้ ผมจะพาแฟนหาบ้านอยู่เอง ถึงแม้จะเสียดายสิ่งที่ยายทิ้งบ้านหลังนี้ไว้ได้ก็เถอะ แต่แฟนมีท่าทีที่อ่อนลงเพราะสงสารยาย เคยไปบ่นกับยายว่าจะย้ายออกแล้วยายร้องไห้ ไม่อยากให้ไปไหนให้อยู่ด้วยกัน จากตอนแรกว่าจะย้ายไปอยู่ด้วยกันตอนนี้ แฟนปล่อยให้ผมคิดเรื่องย้ายบ้านคนเดียวเสียแล้ว.............ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี 
อย่างนี้จะถูกหาว่าอกตัญญูไหม เลี้ยงดูส่งเสียจนเรียนจบ ได้การได้งานทำดีๆแล้วจะหนีจาก ตัดช่องน้อยแต่พอตัวไหม 
ขอบคุณที่มาฟังผมระบายความอัดอั้นในใจครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่