วันนี้รู้สึกแรงที่มีมันแทบจะหมด พลังใจที่จะสู้ และอดทน มันท้อไปหมดตั้งแต่บ่น และ ว่าแม่ไปหลายอย่างตั้งแต่เช้าจรดเย็น นับเรื่องใหญ่ก็ 5 เรื่อง เรื่องเล็กอีกสามสี่เรื่อง
แล้วเราก็ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจที่ต้องบ่นๆ บ่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ ห้ามนั่นห้ามนี่ ทั้งๆที่รู้ว่าพูดไป บ่นไป ว่าไป ทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม
ทุกครั้งที่ร้องไห้ ก็เหมือนมันจะดีขึ้นเพราะได้ระบายออกมาบ้าง แต่มันกลับท้อ และบางครั้งก็หมดแรงเหมือนอยากไปโดดน้ำแล้วละลายไปกับสายน้ำ อยากเข้าไปในป่าและหายไปกับพื้นดินบนผืนป่า พยายามสร้างความอดทน และกำลังใจให้ตัวเอง พยายามปล่อยวาง และไม่ใส่ใจอะไรให้มากเหมือนก่อน พยายามทำหูทวนลมเพื่อจะไม่ค่อยใส่ใจเวลาแม่บ่นๆด่าๆหรือพูดเล่าเรื่องเก่าๆซ้ำแล้วซ้ำอีก
ต้องขอเล่าก่อนนะคะว่า เราอยู่กับแม่สองคนที่เป็นอัลไซเมอร์ เค้าก็จะขี้ลืม ว่าอะไร ห้ามทำอะไร เค้าก็จะจำไม่ได้หรอก บ่นอะไรที่เราไม่ได้ดังใจ ก็เหมือนเราบ่นๆไปคนเดียว
แต่ก่อนเราก็ไม่ค่อยพูด ไม่เคยต้องบ่น ไม่เคยสนใจ เป็นคนเงียบๆ ค่อนข้างเก็บตัวทั้งในบ้านและนอกบ้าน เหมือนมีโลกส่วนตัวกับความเงียบ แต่หลังจากที่อะไรมันเปลี่ยนไปกับชีวิตแม่ เค้าไม่สามารถทำงานบ้านและกิจวัตรได้ในหลายๆอย่าง แต่เค้าก็จะชินกับการทำนั่นทำนี่ เราก็พยายามห้าม ไม่ให้เ้ค้าทำ เพราะทำแล้วมันก็เสียทุกอย่าง บางอย่างก็ปล่อยๆ ทุกๆวันก็จะมีแต่ละเหตุการณ์ วันไหนสงบไม่มีอะไรก็คงจะดี ทั้งเรื่องใหญ่ เรื่องจุกจิกเล็กๆ แต่วันนี้ก็มีปัญหาเดิมๆย้อนมาอีก ตั้งแต่หุงข้าว ทำกับข้าว เราก็ห้ามแม่ทำมานานแล้ว และก็จะย้ำบ่อยๆเวลาเห็นเค้าหยิบอาหาร ไม่งั้นเค้าจะลืมจนหม้อไหม้ทุกรอบ และเสียบหม้อข้าวโดยไม่ใส่หม้อ หุงข้าวใส่น้ำน้อยมากจนข้าวไม่เคยสุก เราก็ไม่ให้แม่ทำีอีก เราห้ามเราว่าเค้าก็จะด่าเราโวยวายเรา หาว่าเราไปว่าแม่ปัญญาอ่อนทำอะไรไม่เป็นหรือไง เรื่องแค่นี้แม่เค้าทำได้ เลี้ยงเรามาจนโตได้ จะหุงข้าวไม่เป็นได้ไง ถึงเค้าจะว่าเราด่าเรา เราก็ต้องห้ามเค้าอยู่ดี เราก็ทำเองแทน
แต่วันนี้ทำที่ว่ามาหมด แต่มันไม่เป็นไรถ้าไม่ใช่เรื่องฟืนไฟกลัวไฟไหม้บ้าน เราก็จะจริงจังและเครียส และว่าเสียงดัง เพราะมันอันตรายนะ นอกจากอัลไซเมอร์แล้วยังไฮเปอร์ด้วย อยู่ไม่นิ่งตลอด นิ่งเป็นหลับ ขยับต้องหาอะไรทำ บางอย่างเราก็ปล่อยให้ทำ แต่ก็นะ มันก็ผิดพลาด เราก็บ่นว่าตลอดแหละ
ห้ามอุ่นกับข้าวที่เตาอีกนะเพราะหม้อไหม้มาหลายรอบจนไฟจะไหม้บ้านหลายที่แล้ว ให้ใช้แต่ไมโครเวปอุ่นพอนะ (แล้วเค้าก็จำได้อยู่เป็นเดือน)
ห้ามทำนั่นนี่ ย้ำ พูด ซ้ำๆ หวังว่าแม่จะจำได้และไม่ทำมันอีก
ถึงวันนี้เราตระหนักซ้ำกับตัวเองว่า สิ่งที่เราพูดซ้ำๆ ห้ามซ้ำๆ สุดท้าย เค้าก็จำไม่ได้เลยและทำมันเสีย หลายอย่างในวันเดียว เราก็เลยต้องบ่นซ้ำๆ ว่าซ้ำๆ ไม่ให้หุงข้าวเองอีก ไม่ให้อุ่นกับข้าวเองถ้าเราไม่อยู่ (ทั้งๆที่รู้ว่าบ่นไปก็จะเหมือนเดิมแต่ก็หยุดบ่นไม่ได้) แต่ทุกครั้งที่ว่าแม่ห้ามนั่นนี่ เราก็เครียสอยู่นะ แล้วก็เสียงดังทุกทีทั้งๆที่จะคุมอารมย์ไม่ให้เสียงดัง และคอยเตือนตัวเองว่าจะไม่บ่นอีก ไม่อยากบ่นมากมายเรื่องนั้นเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะรู้ว่าบ่นว่าหรือห้ามอะไร เค้าก็ยังคงทำและจำไม่ได้ทุกที เราก็จะรู้สึกผิด รู้สึกโมโหตัวเอง ที่ทำไมต้องบ่นว่าแม่เราเสียงดัง รู้สึกบาปด้วยทุกครั้งที่จะว่าจะบ่น แต่มันก็เหมือนแม่บ่นเราตอนเราเป็นเด็กนั่นแหละเวลาไม่ได้ดังใจ แต่นี่เราบ่นแม่ซะเอง แล้วทุกครั้งเราก็จะร้องไห้เสียใจเวลาเราเสียงดังรุนแรง มันเหมือนสติแตกมานานมากแล้วล่ะเพราะก่อนหน้ามันมีเรื่องอื่นๆอีกมากมายนักที่แม่ทำไว้จนเรากลัวและเสียใจมากจนเกือบเป็นบ้าไปแล้ว แต่ก็คงเล่าให้ฟังไม่ได้ทั้งหมด เราต้องคอยระวังแม่ว่าเค้าคิดอะไรทำอะไร หรือวางแผนอะไร นอนก็ไ่ม่ค่อยหลับต้องตื่นกลางดึกตลอด เรียกว่าช่วงนั้นเราทั้งโรคจิตหวาดระแวงและซึมเศร้าไปเลย เพราะแม่เค้าแอบขโมยของในบ้านตัวเองตอนกลางดึก ชอบเอาของไปซ่อน เราก็ไม่รู้เหตุผลหรอกคิดว่าของหายเพราะเราทำหาย แค่หาของที่หายทุกวันก็เครียสแล้ว จนความจริงปรากฏ มันร้ายแรงกว่าที่เราคิดว่าแม่เราเอาไปซ่อนเพราะลืม เราต้องร้องไห้ทุกคืน และต้องคอยระวังแม่ตลอดเพราะไม่รู้ว่าเค้าจะทำอะไรแปลกๆหรืออย่างไรอีก บางครั้งเราว่าเราห้ามเค้าก็จะโวยวายแล้วบอกน่าจะยัดขี้เฒ่าให้ตายตั้งแต่เด็กว่าเราน่าจะตายๆไปเลย บางทีก็หยิบยาฆ่าหนูมาถามว่าอะไรหลังจากที่บ่นด่าเรา เราก็กลัวเค้าจะเอาใส่ให้เรากินนะนี่ เพราะเวลาเค้าโมโห ด่าว่าเรา น่ากลัวมากๆ แต่หลังๆนี้แม่ใจเย็นมากล่ะ อาจเพราะหมอให้ยาแรงขึ้นช่วยได้เยอะ แล้วเราก็ใจเย็นขึ้นด้วย คงชิน และก็ปล่อยวางล่ะ อะไรจะเกิดก็ช่างเหอะ ตายก็ตาย และขอให้ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเพื่อไม่ให้เจอปัญหาเดิมๆ กว่าจะผ่านมาได้จนจุดนี้ และปลงมันได้ มันกลายเป็นเราไม่สามารถคุมอารมย์ตัวเองได้อีกเลย ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีให้เรารู้สึกว่าเราสงบพอที่จะคุมอารมย์ตัวเองได้ดี และกลับไปเป็นคนเดิมที่นิ่ง ใจเย็น และสงบเยือกเย็นได้อีกครั้ง ไม่ต้องบ่น ไม่ต้องโวยวาย ให้เราต้องเสียใจทีหลังอีก เพราะเราคุมอารมย์ไม่ได้เลยเวลาที่ไม่ได้ดังใจ
จากคนใจเย็น พอสติแตกมาที มันกลายเป็นใจร้อนไปซะทุกเรื่องเลยก็ว่าได้
ไม่รู้จะทำอย่างไรดี นั่งสมาธิก็ไม่ได้ผล เพราะใจไม่นิ่งเลย นั่งไม่ได้นานเกินกว่าสามนาที นิ่งได้ก็คือหลับเช่นกัน
พลังใจที่จะอดทนมันหายไปหมด มันไม่แข็งแรงพอ โมโหตัวเองที่ไม่อดทนพอ
วันนี้ท้อจริงๆ น้ำตามันไหลไม่หยุด ต้องนั่งแอบร้องไห้หน้าคอมไม่ให้แม่เห็นอีก
เวลาท้อแบบนี้ เราควรคิดเรื่องอะไรให้มันกระตุ้นเตือนสติตัวเองได้้บ้างคะ
เพราะไม่งั้นคืนนี้นอน ก็ต้องเอาไปคิดไปนอนร้องไห้ต่ออีก
(จริงๆ เขียนจนมาถึงสุดท้าย ก็รู้สึกนิ่งขึ้นได้แล้วล่ะค่ะ ขอบคุณมาก
แต่ก็ยังอยากได้วิธีดีๆ ไว้เตือนสติและเสริมกำลังใจให้ตัวเอง
แนะนำมาบ้างนะคะ เพราะท้อบ่อยมากๆ กำลังใจรอบตัวไม่มี
เราก็ต้องสร้างจากภายใน จากความคิดของเราเองให้ได้น่ะคะ จะได้อยู่ได้และสู้ต่อไปในแต่ละวันได้อีก)
ใครช่วยแนะนำวิธีสร้างพลังใจให้อดทนและเข็มแข็งให้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้ได้บ้างค่ะ
แล้วเราก็ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจที่ต้องบ่นๆ บ่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ ห้ามนั่นห้ามนี่ ทั้งๆที่รู้ว่าพูดไป บ่นไป ว่าไป ทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม
ทุกครั้งที่ร้องไห้ ก็เหมือนมันจะดีขึ้นเพราะได้ระบายออกมาบ้าง แต่มันกลับท้อ และบางครั้งก็หมดแรงเหมือนอยากไปโดดน้ำแล้วละลายไปกับสายน้ำ อยากเข้าไปในป่าและหายไปกับพื้นดินบนผืนป่า พยายามสร้างความอดทน และกำลังใจให้ตัวเอง พยายามปล่อยวาง และไม่ใส่ใจอะไรให้มากเหมือนก่อน พยายามทำหูทวนลมเพื่อจะไม่ค่อยใส่ใจเวลาแม่บ่นๆด่าๆหรือพูดเล่าเรื่องเก่าๆซ้ำแล้วซ้ำอีก
ต้องขอเล่าก่อนนะคะว่า เราอยู่กับแม่สองคนที่เป็นอัลไซเมอร์ เค้าก็จะขี้ลืม ว่าอะไร ห้ามทำอะไร เค้าก็จะจำไม่ได้หรอก บ่นอะไรที่เราไม่ได้ดังใจ ก็เหมือนเราบ่นๆไปคนเดียว
แต่ก่อนเราก็ไม่ค่อยพูด ไม่เคยต้องบ่น ไม่เคยสนใจ เป็นคนเงียบๆ ค่อนข้างเก็บตัวทั้งในบ้านและนอกบ้าน เหมือนมีโลกส่วนตัวกับความเงียบ แต่หลังจากที่อะไรมันเปลี่ยนไปกับชีวิตแม่ เค้าไม่สามารถทำงานบ้านและกิจวัตรได้ในหลายๆอย่าง แต่เค้าก็จะชินกับการทำนั่นทำนี่ เราก็พยายามห้าม ไม่ให้เ้ค้าทำ เพราะทำแล้วมันก็เสียทุกอย่าง บางอย่างก็ปล่อยๆ ทุกๆวันก็จะมีแต่ละเหตุการณ์ วันไหนสงบไม่มีอะไรก็คงจะดี ทั้งเรื่องใหญ่ เรื่องจุกจิกเล็กๆ แต่วันนี้ก็มีปัญหาเดิมๆย้อนมาอีก ตั้งแต่หุงข้าว ทำกับข้าว เราก็ห้ามแม่ทำมานานแล้ว และก็จะย้ำบ่อยๆเวลาเห็นเค้าหยิบอาหาร ไม่งั้นเค้าจะลืมจนหม้อไหม้ทุกรอบ และเสียบหม้อข้าวโดยไม่ใส่หม้อ หุงข้าวใส่น้ำน้อยมากจนข้าวไม่เคยสุก เราก็ไม่ให้แม่ทำีอีก เราห้ามเราว่าเค้าก็จะด่าเราโวยวายเรา หาว่าเราไปว่าแม่ปัญญาอ่อนทำอะไรไม่เป็นหรือไง เรื่องแค่นี้แม่เค้าทำได้ เลี้ยงเรามาจนโตได้ จะหุงข้าวไม่เป็นได้ไง ถึงเค้าจะว่าเราด่าเรา เราก็ต้องห้ามเค้าอยู่ดี เราก็ทำเองแทน
แต่วันนี้ทำที่ว่ามาหมด แต่มันไม่เป็นไรถ้าไม่ใช่เรื่องฟืนไฟกลัวไฟไหม้บ้าน เราก็จะจริงจังและเครียส และว่าเสียงดัง เพราะมันอันตรายนะ นอกจากอัลไซเมอร์แล้วยังไฮเปอร์ด้วย อยู่ไม่นิ่งตลอด นิ่งเป็นหลับ ขยับต้องหาอะไรทำ บางอย่างเราก็ปล่อยให้ทำ แต่ก็นะ มันก็ผิดพลาด เราก็บ่นว่าตลอดแหละ
ห้ามอุ่นกับข้าวที่เตาอีกนะเพราะหม้อไหม้มาหลายรอบจนไฟจะไหม้บ้านหลายที่แล้ว ให้ใช้แต่ไมโครเวปอุ่นพอนะ (แล้วเค้าก็จำได้อยู่เป็นเดือน)
ห้ามทำนั่นนี่ ย้ำ พูด ซ้ำๆ หวังว่าแม่จะจำได้และไม่ทำมันอีก
ถึงวันนี้เราตระหนักซ้ำกับตัวเองว่า สิ่งที่เราพูดซ้ำๆ ห้ามซ้ำๆ สุดท้าย เค้าก็จำไม่ได้เลยและทำมันเสีย หลายอย่างในวันเดียว เราก็เลยต้องบ่นซ้ำๆ ว่าซ้ำๆ ไม่ให้หุงข้าวเองอีก ไม่ให้อุ่นกับข้าวเองถ้าเราไม่อยู่ (ทั้งๆที่รู้ว่าบ่นไปก็จะเหมือนเดิมแต่ก็หยุดบ่นไม่ได้) แต่ทุกครั้งที่ว่าแม่ห้ามนั่นนี่ เราก็เครียสอยู่นะ แล้วก็เสียงดังทุกทีทั้งๆที่จะคุมอารมย์ไม่ให้เสียงดัง และคอยเตือนตัวเองว่าจะไม่บ่นอีก ไม่อยากบ่นมากมายเรื่องนั้นเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะรู้ว่าบ่นว่าหรือห้ามอะไร เค้าก็ยังคงทำและจำไม่ได้ทุกที เราก็จะรู้สึกผิด รู้สึกโมโหตัวเอง ที่ทำไมต้องบ่นว่าแม่เราเสียงดัง รู้สึกบาปด้วยทุกครั้งที่จะว่าจะบ่น แต่มันก็เหมือนแม่บ่นเราตอนเราเป็นเด็กนั่นแหละเวลาไม่ได้ดังใจ แต่นี่เราบ่นแม่ซะเอง แล้วทุกครั้งเราก็จะร้องไห้เสียใจเวลาเราเสียงดังรุนแรง มันเหมือนสติแตกมานานมากแล้วล่ะเพราะก่อนหน้ามันมีเรื่องอื่นๆอีกมากมายนักที่แม่ทำไว้จนเรากลัวและเสียใจมากจนเกือบเป็นบ้าไปแล้ว แต่ก็คงเล่าให้ฟังไม่ได้ทั้งหมด เราต้องคอยระวังแม่ว่าเค้าคิดอะไรทำอะไร หรือวางแผนอะไร นอนก็ไ่ม่ค่อยหลับต้องตื่นกลางดึกตลอด เรียกว่าช่วงนั้นเราทั้งโรคจิตหวาดระแวงและซึมเศร้าไปเลย เพราะแม่เค้าแอบขโมยของในบ้านตัวเองตอนกลางดึก ชอบเอาของไปซ่อน เราก็ไม่รู้เหตุผลหรอกคิดว่าของหายเพราะเราทำหาย แค่หาของที่หายทุกวันก็เครียสแล้ว จนความจริงปรากฏ มันร้ายแรงกว่าที่เราคิดว่าแม่เราเอาไปซ่อนเพราะลืม เราต้องร้องไห้ทุกคืน และต้องคอยระวังแม่ตลอดเพราะไม่รู้ว่าเค้าจะทำอะไรแปลกๆหรืออย่างไรอีก บางครั้งเราว่าเราห้ามเค้าก็จะโวยวายแล้วบอกน่าจะยัดขี้เฒ่าให้ตายตั้งแต่เด็กว่าเราน่าจะตายๆไปเลย บางทีก็หยิบยาฆ่าหนูมาถามว่าอะไรหลังจากที่บ่นด่าเรา เราก็กลัวเค้าจะเอาใส่ให้เรากินนะนี่ เพราะเวลาเค้าโมโห ด่าว่าเรา น่ากลัวมากๆ แต่หลังๆนี้แม่ใจเย็นมากล่ะ อาจเพราะหมอให้ยาแรงขึ้นช่วยได้เยอะ แล้วเราก็ใจเย็นขึ้นด้วย คงชิน และก็ปล่อยวางล่ะ อะไรจะเกิดก็ช่างเหอะ ตายก็ตาย และขอให้ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเพื่อไม่ให้เจอปัญหาเดิมๆ กว่าจะผ่านมาได้จนจุดนี้ และปลงมันได้ มันกลายเป็นเราไม่สามารถคุมอารมย์ตัวเองได้อีกเลย ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีให้เรารู้สึกว่าเราสงบพอที่จะคุมอารมย์ตัวเองได้ดี และกลับไปเป็นคนเดิมที่นิ่ง ใจเย็น และสงบเยือกเย็นได้อีกครั้ง ไม่ต้องบ่น ไม่ต้องโวยวาย ให้เราต้องเสียใจทีหลังอีก เพราะเราคุมอารมย์ไม่ได้เลยเวลาที่ไม่ได้ดังใจ
จากคนใจเย็น พอสติแตกมาที มันกลายเป็นใจร้อนไปซะทุกเรื่องเลยก็ว่าได้
ไม่รู้จะทำอย่างไรดี นั่งสมาธิก็ไม่ได้ผล เพราะใจไม่นิ่งเลย นั่งไม่ได้นานเกินกว่าสามนาที นิ่งได้ก็คือหลับเช่นกัน
พลังใจที่จะอดทนมันหายไปหมด มันไม่แข็งแรงพอ โมโหตัวเองที่ไม่อดทนพอ
วันนี้ท้อจริงๆ น้ำตามันไหลไม่หยุด ต้องนั่งแอบร้องไห้หน้าคอมไม่ให้แม่เห็นอีก
เวลาท้อแบบนี้ เราควรคิดเรื่องอะไรให้มันกระตุ้นเตือนสติตัวเองได้้บ้างคะ
เพราะไม่งั้นคืนนี้นอน ก็ต้องเอาไปคิดไปนอนร้องไห้ต่ออีก
(จริงๆ เขียนจนมาถึงสุดท้าย ก็รู้สึกนิ่งขึ้นได้แล้วล่ะค่ะ ขอบคุณมาก
แต่ก็ยังอยากได้วิธีดีๆ ไว้เตือนสติและเสริมกำลังใจให้ตัวเอง
แนะนำมาบ้างนะคะ เพราะท้อบ่อยมากๆ กำลังใจรอบตัวไม่มี
เราก็ต้องสร้างจากภายใน จากความคิดของเราเองให้ได้น่ะคะ จะได้อยู่ได้และสู้ต่อไปในแต่ละวันได้อีก)